Group Blog
 
All Blogs
 
Book Fair วันหลัง (30 ต.ค.49)

บินข้ามฟ้า
สหัทยา

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

คำนำ

ไม่อยากจะเชื่อว่า "บินข้ามฟ้า" กลายมาเป็นรูปเล่มได้เพราะเหตุบังเอิญ
จากการได้รับเชิญให้ไปบรรยายที่วิทยาลัยการทัพอากาศ

ก่อนวันบรรยาย เจ้าหน้าที่ได้ขอให้ส่งประวัติย่อความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษเพื่อแนะนำผู้บรรยายแก่นายทหารนักศึกษา จึงนั่งเขียนประวัติของตนเอง ปรากฎว่าเขียนมาได้ 5 หน้าในทันทีทันใด

หลังจากวันนั้น จึงลองขยายประวัติของตนเองตั้งแต่เกิดมา เขียนไปก็ยังแปลกใจตนเองว่า เอาความจำที่ไหนมาบรรจุอดีตทุกบททุกตอนไว้มากมายแจ่มชัดเสียเหลือเกิน

ซ้ำยังใจร้อนเขียนไม่ยอมหยุด

บางครั้งอดีตวิ่งเข้ามาจนมือเขียนไม่ทัน ช่วงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าหายใจเป็นการเขียน ทั้งเวลาตื่น เวลาหลับ เวลากิน เวลานอน ฯลฯ โดยไม่ยอมหยุดยั้ง จนกระทั่งเขียนจบ

นับเป็นปรากฏการณ์ที่ตัวเองยังแปลกใจไม่หายอยู่จนทุกวันนี้ และคิดว่าหากจะให้เขียนเรื่องนี้ขึ้นใหม่ ก็คงจะเขียนไม่ออกเป็นแน่

มีผู้อ่านหลายคนสงสัยว่า คงจดบันทึกประจำวันประเภท "สมุดจ๋า...วันนี้สอบเข้าจุฬาฯ ได้ ดีใจจังเลย"...มาตั้งแต่เด็กหรือไร

เปล่าเลย ไม่ได้เป็นคนที่มีระเบียบกับชีวิตถึงปานนั้น ขอให้ถือว่า "บินข้ามฟ้า" เป็นประสบการณ์ประเภทแปลกแต่จริงก็แล้วกัน

เมื่อเขียนจบ ก็ได้คุณชาลี-ชุลิตานี่แหละ ที่กล้าเสี่ยงให้โอกาสแก่นักเขียนหน้าใหม่ประเภทไร้ชื่อไร้แซ่ (no name, no surname)

แล้วก็ได้คุณ 'กฤษณา อโศกสิน' ผู้กรุณาตั้งชื่อที่เหมาะใจให้

ได้ 'รศ.ประทุมพร วัชรเสถียร' เพื่อนรัก ผู้ให้ความมั่นใจ ให้กำลังใจ และยังช่วยแตะ-แต่ง-ตะไบ เกลาเนื้องานดิบให้สมบูรณ์ขึ้น

ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เอ่ยนามมา รวมไปถึงทุกๆ ท่านที่ฉันได้ (แอบ) ถือสิทธิ์นำท่านมาเรียงถ้อยร้อยรัก จนกลายมาเป็น 'บินข้ามฟ้า' ในมือท่านเล่มนี้

สหัทยา



รวมเรียงความของ ศศิวิมล ปฐมบรรพ ลำดับแรก
ศศิวิมล

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

สารบัญ

เงาบาป/รักข้างรั้ว/อ้อยหวาน/เครื่องเซ่น/เหลือไว้แต่รอยอาลัย/รักลูกให้ตี/อยู่ง่าย กินง่าย/แดนมธุรส/อิทธิพลของรามเกียรติ์ที่มีต่อนักวิชาการไทย ปริเฉท 1/อิทธิพลของรามเกียรติ์ที่มีต่อนักวิชาการไทย ปริเฉท 2/จักรวาลทีปนี หิโต/ฝันวันวิสาข์/รักนัก มักหน่าย/สืบสานสมบัติอสูร/จิตใต้สำนึกของอาว์/มหรสพสมโภช 1/มหรสพสมโภช 2/ราชวงศ์/อาโปเนี้ย/พี่ๆ ที่รัก/ลักษณะไทย/เรื่องรักๆ/โกลเดิ้น เมานท์ เฟสติวัล

คำนำ

'ศรีสารา' มีดำริที่จะรวบรวมข้อเขียนข้าพเจ้า ที่ได้เขียนติดต่อกันให้นิตยสาร 'พลอยแกมเพชร' ตั้งแต่ฉบับที่ 1 (เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2535) ถึงฉบับที่ 23 (เดือนมกราคม พ.ศ.2536) ออกเป็นหนังสือขนาดย่อม เป็นเล่มแรกของบริษัทฯ นับแต่ได้ก่อตั้งมา

จึงตั้งชื่อตอนว่า 'ปฐมบรรพลำดับแรก' อันถือว่าเป็นลำดับแรก สำหรับนามปากกานี้ ณ เวทีนี้ อีกประการหนึ่งด้วย

หวังใจว่า รวมเรียงความของ 'ศศิวิมล' คงจะให้ความรู้อันน้อย เลยต้องพลอยรำคาญ แก่ท่านผู้ที่ได้อ่านทุกท่าน

เพราะรู้มาก ก็ยากนาน น่าหมั่นไส้ไปเปล่าๆ ไม่เข้าการ

ศศิวิมล
3 มิถุนายน 2537



รวมเรียงความของ ศศิวิมล ทุติยบรรพ ลำดับสอง
ศศิวิมล

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

สารบัญ

วิมานนี้สีชมพู 1/วิมานนี้สีชมพู 2/วิมานนี้สีชมพู 3/คำตัดสิน วันสิ้นพิภพ/อยู่ฟ้าเดียวกันพระจันทร์ดวงหนึ่ง/เอาเมี่ยงเขามาอม/วิหารธรรม/ทางต่างระดับ/บันเทิงคดีศึกษา/ประวัติศาสตร์ชาติช้างไทย/แปรสยุมพร/คนเหล็กภาคสาม/วันสุนทรภู่/สมบัติแผ่นดิน/เกร็ดความรู้เรื่อง 'วรรณคดีกับศิลปะ' จากการสัมมนาทางวิชาการฯ/คุรุกรรมประการที่ห้า/มาดอนหลัง/ตุ๊กตาชาววัง/ความสะเทือนใจ/ความรักของยายแม่/ละครแห่งชีวิต/พระไวยยก/ขบวนการงูกลืนหาง/ธาตุกตัญญู

คำนำ

ทุติยบรรพลำดับสอง ชื่อก็บอกอยู่แจ่มแจ้งแล้วว่า ถัดจากปฐมบรรพ ซึ่งเป็นลำดับแรก

จึงไม่ต้องนำท่านเข้าสู่รายการให้ยากเย็น ด้วยคำนำอันยืดยาวไปเปล่าปลี้
ทำท้ายเพลงวา แล้วลงโรงออกตัวไปเลยดีกว่า ไม่ต้องพิโยกพิเกนหลายโอดหลายลา
หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะได้รับความสำราญใจ นึกสิ่งใดขอให้สมอารมณ์หมาย นึกเงินให้ไหลมาก่ายกอง นึกทองเนืองนองอยู่แน่นไห เล่นหุ้นเล่นที่ขอให้มีกำไร เล่นหวยเล่นไพ่ขอให้ได้เงินงอก ถ้าปล่อยกู้กินดอก อย่าได้ถูกหลอกถูกโกง ถกผ้าถุงนุ่งโสร่ง ให้ปลอดโปร่ง....ตลอดไป

ศศิวิมล
30 พฤศจิกายน 2538




รวมเรียงความของ ศศิวิมล ตติยบรรพ ลำดับสาม
ศศิวิมล

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

สารบัญ

ตติยวาร บานเบิก ฤกษ์ดี/ครูไหวใจร้าย/คืนหนึ่งยังจำได้/โลกนี้คือละคร/วันนี้ก็สายเสียแล้ว/วรรณศิลป์ล่วงสมัย/โองการแช่งชัก/กลิ่นตบะชวนดม/ไทยควรคำนึง/ขอฐอล์คด้วยคน/สวาสดิ์รักโรมิโอ/อดข้าวดอกนะเจ้าชีวิตวาย/หญิงสามารถ/อยู่คนละโลก/ถึงเวลาแล้วหรือยัง/ปรากฏการณ์ธรรมชาติ/คิดถึงตาย/ข่าวสั้นดันโลก/ความว่างในช่องโหว่ ร่องโบ๋ในรอยไทย/ความลับไม่มีในโลก/สามก๊ก ฉบับเปาฯ/เพลงหวานวันวาน

คำนำ

ในที่สุด ตติยบรรพลำดับสาม ก็ก้าวออกมาสู่บรรณพิภพ หรือความจริงก็คือแผงหนังสือตามครรลอง
นี่คือคำนำสั้นๆ และคงจะสั้นไปเรื่อยๆ เพราะต้องมีต่อๆ ไปอีกหลายบรรพ จนไม่ทราบว่าจะนำไปอีท่าไหนดี
หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะได้รับความสำราญเป็นกำไรตามควร ด้วยไหนๆ ก็เสียสตางค์ซื้อหนังสือเล่มนี้มาแล้ว
ถ้าอ่านแล้วหงุดหงิดจิตตก ถือว่าขาดทุน

ศศิวิมล




ฟรีด้า
สุรพงษ์ บุนนาค

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

คำแนะ

เมื่อไปอเมริกา ค.ศ.1991 ได้เห็นหนังสือหลายๆ เล่มของ 'ฟรีด้า คาฮ์โล' จึงซื้อมาหลายเล่ม
ได้นำกลับมาให้คุณสุรพงษ์ บุนนาค แปลตั้งแต่ ค.ศ.1992
มาปีนี้ ค.ศ.2003 ภาพยนตร์เรื่อง 'ฟรีด้า' มาฉายในบ้านเรา จึงได้รวบรวมมาเป็นหนังสือเล่มเล็กเล่มนี้
น่าเสียดายที่คุณสุรพงษ์ บุนนาค ได้เสียชีวิตไปแล้ว
แต่ก็ยังมีงานแปลชิ้นนี้ให้คุณได้อ่านอย่างรื่นรมย์
หวังว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นหนังสือที่คุณรักเล่มหนึ่ง

ชุลิตา อารีย์พิพัฒน์กุล




ซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์ ศรีสารา แล้วได้สมุดบันทึกเล่มนี้ค่ะ

Photobucket - Video and Image Hosting

กับที่คั่นหนังสือแบบนี้

Photobucket - Video and Image Hosting




ชีวิตเกอิชา
Geisha, A Life
มิเนโกะ อิวาซากิ และ แรนดี บราวน์
เฉิดฉวี แสงจันทร์

เรื่องจริงของลูกผู้หญิงที่ขายศิลปะมิใช่เรือนร่าง
จากปลายปากกาเกอิชาผู้โด่งดังที่สุด

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

เรื่องราวจากชีวิตจริงของมิเนโกะ อิวาซากิ เกอิชาที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค ผู้เป็นที่มาของ "Memoirs of a Geisha" นวนิยายขายดีติดอันดับของอาร์เธอร์ โกลเด้น แต่ด้วยเนื้อหาที่ถูกบิดเบือนไปจากความจริงในหนังสือเล่มนั้น มิเนโกะจึงตัดสินใจเขียนอัตชีวประวัติ เพื่อประกาศความจริงให้โลกได้รู้ซึ้งถึงข้อเท็จจริงภายใน "โลกของดอกไม้และต้นหลิว" ที่ถูกเข้าใจผิดมานานหลายศตวรรษว่าแท้จริงแล้ว เกอิชาคือศิลปินผู้ให้ความบันเทิงแก่แขกผู้มีรสนิยมอันเปี่ยมสุนทรียภาพ มิใช่โสเภณีผู้ขายเรือนร่างดังที่คิดกันทั่วไป

พบกับประสบการณ์แสนลำเค็ญกว่าจะเป็นเกอิชาอันดับหนึ่ง ชีวิตรักแสนรันทดกว่าจะพานพบรักแท้แห่งชีวิต และบุคคลสำคัญของโลกที่ผู้เขียนมีโอกาสได้ให้ความบันเทิงในฐานะเกอิชา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์แห่งอังกฤษ ประธานาธิบดีเจอรัลด์ ฟอร์ด และนายเฮนรี่ คิสซิงเจอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เอเลีย คาซาน ผู้กำกับภาพยนตร์ซึ่งเป็นตำนานบทหนึ่งแห่งฮอลลีวู้ด และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่สองแห่งอังกฤษกับพระราชสวามี ที่ผู้เขียนเป็นต้นเหตุความหึงหวงจนถึงขั้นแยกห้องบรรทม !!!




ญี่ปุ่นหลากมุม
โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

สารบัญ

หอบผ้าหอบผ่อนไปนอนนิปปง/ภาษาญี่ปุ่นแผลงฤทธิ์/รู้เรียนรู้คิดชีวิตนักศึกษา/หูดีมี(ภัย?)ชัย/เชื่อว่าเป็นเห็นว่าดี/จิ้มให้ถูกทาง/ชาติญี่ปุ่น/ภูมิปัญญาสู่สากล/คนญี่ปุ่นกับภาษาอังกฤษ/เปลื้องผ้าเพื่อสุขภาพ/ธรณีสะเทือน/มากับฤดูร้อน/ตรึงตาลีลาคะบุกิ/บอกลาขัปปะที่ฮอกไกโด/เศรษฐกิจนำพา/สวัสดิภาพเสื่อมสภาพ/ย้อมสีตีแป้งแต่งตัว/รถเอ๋ยรถไฟ/ของดีที่เอ็นเอชเค/หลากรสฤาลืมลง

สาระจากชีวิตนักเรียนไทยในแดนปลาดิบ
เป็นมุมหนึ่งซึ่งสะท้อนออกมาผ่านสายตาของผม
เท่าที่โอกาสและเวลาจะอำนวย
ผมยังคงเป็นคนรู้น้อยที่ต้องคอยใส่ใจเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ
หวังแต่เพียงว่า เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้
จะเป็นสะพานช่วยเสริมให้คนไทยรู้จักญี่ปุ่นมากขึ้น
นอกเหนือจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่ทำให้ผมรู้จักญี่ปุ่นเมื่อครั้งยังเด็ก
เพียงแค่นี้ ผมก็ดีใจแล้วที่ประสบการณ์ของผมในญี่ปุ่น
ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่คนอีกหลายคน
ซึ่งในจำนวนนี้อาจจะมีเพื่อนร่วมความฝัน
ผู้มุ่งมั่นอยากไปญี่ปุ่นเหมือนที่ผมเคยฝันก็เป็นได้
ขอให้หนังสือเล่มนี้เป็นสัญลักษณ์ของใจดีๆ ที่ทุกคน...
ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น...มอบให้แก่ผม

โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์



พระอาทิตย์ขึ้นที่ถนนสีลม
ประทุมพร

สารคดีชีวิตอิงประวัติศาสตร์ชุมชน ชุด ฉันรักกรุงเทพฯ

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

"ประทุมพร" ผู้เขียน พาผู้อ่านย้อนยุคไปยังถนนสีลม
ไปเยี่ยมเยือนคฤหาสน์-เรือนอดีตของเจ้าขุนมูลนาย
ที่ก่อร่างสร้างประวัติศาสตร์ถนนสีลมให้คึกคัก ครึกครื้น
ไปฟื้นความหลังเมื่อครั้งจ่ายตลาด ช็อปห้างร้าน ชมร้านรวง
ไปเดินถนนหลากหลายสายซึ่งเชื่อมต่อถนนสีลม
ไปรู้จักโรงเรียนคอนแวนต์
และอดีตเด็กคอนแวนต์กับอดีตเด็กตรอกเวท
ที่ปัจจุบันกลายเป็นคนเด่นดังในวงสังคม
เรื่องเล่า หรือสารคดีชีวิตอิงประวัติศาสตร์ชุมชนเล่มนี้
อ่านง่ายและสนุก ได้สาระ ได้ความเพลิดเพลิน
ด้วยผู้เขียนเขียนเล่าด้วยสำนวนเป็นกันเองกับผู้อ่าน
และเป็นผลงานเขียนที่ลงพิมพ์ต่อเนื่องยาวนานใน "ขวัญเรือน"




ฟัดจี้กำลังสอง
Double Fudge
จูดี บลูม
ธารพายุ

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

ตอนใหม่ล่าสุด

แม้จะยัง(เกือบ) 6 ขวบเหมือนเดิม
ฟัดจี้เล่มนี้ก็มีบางอย่างเปลี่ยนไป
ฟัดจี้ในโลกทุนนิยมกลายเป็นเด็ก "บ้าเงิน" อย่างช่วยไม่ได้
ที่สำคัญ คนอย่างฟัดจี้ ใครๆ ก็รู้ว่าเมื่อเขาจะทำอะไร
ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด อาการบ้าเงินของเขาจึงเป็นเอาหนักขนาดที่
ใครๆ ก็ต้องกุมขมับ เขาไม่ได้อยากเป็นแค่เจ้าของร้านขายของเล่น
ยักษ์ใหญ่ แต่ยังวางแผนถึงขนาดจะฮุบทำเนียบขาวเอาเลยทีเดียว!

ฟัดจี้ซะอย่าง ไม่มีทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ อยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอ จู่ๆ ก็เกิดมีฟัดจี้โผล่ขึ้นมาอีกคน
เป็น "มินิ" ฟัดจ์ที่ถอดแบบฟัดจี้ตัวจริงมาได้อย่างไม่มีที่ติ
แล้วเด็กเกรดเจ็ดอย่างพีเตอร์จะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ให้ดี ก่อนที่สองฟัดจี้
จะพาคุณหัวหมุนไปด้วย




ฉันหลงรักฤดูกาล
Plants in Garden
สกุณี ณัฐพูลวัฒน์

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

สารบัญ

ต่อภาพ...ต่อจินตนาการ-ตาลปัตรฤาษี/หวานและเหงาในเงาหม่น-กุหลาบหิน/เส้นทางสีน้ำ-กล้วยไม้หวายสีขาว/ดอกหญ้ากระดุม-ดอกหญ้ากระดุม/ดวงดาวดอกไม้-ดอนสวรรค์หรือรกฟ้า/พื้นที่แห่งความสุข-ตาเหินหรือมหาหงส์/เดซี่กับเจ้าแต้ม-เดซี่/วันดี...ดี-บัวหลวง/แล้วแม่ก็ยิ้ม-เอื้องแปรงสีฟัน/ดอกไม้ของเรา-พุทธรักษา/ดอกไม้สีฟ้า-ดอกผักปราบ(นา)/ไม่มีอะไรเหมือนกัน...ฉันเชื่อเช่นนั้น-ทรงบาดาล/หัวใจเล็กๆ และแดนสวรรค์อันไกลโพ้น-หางนกยูงไทย/เรื่องเล่า...เข้าพรรษา-ดอกเข้าพรรษา/เดอะ...กางปีกโบยบิน-ผีเสื้อราตรี/ฤดูร้อนแสนหวาน-ว่านนางคุ้ม/พระราชาสีน้ำเงิน-บัว-King of the Blue/ทุ่งกว้างและความเบิกบานสีส้ม-ว่านมหาลาภ/แสงอาทิตย์แสนเส้นสาย-ดอกพฤกษาหรือว่านแสงอาทิตย์/กาหลา...ความทรงจำอันอบอุ่น-กาหลา/สาวน้อยเริงระบำ-อัลสโตรมีเรีย/หัวใจในพวงชมพู-พวงชมพู/อีกวันว่างในสวนของเธอ-เหงือกปลาหมอ/สวนฉันสรรปลูกแต่มะลิ-มะลิ/เส้นสีของโกสน-โกสน/เคยฟังไหม...เสียงพูดคุยของดอกไม้-ประทัดจีน/กับใครคนหนึ่งบนถนนชงโค-ชงโค/บัวดินกลางฟื้นฟ้า-บัวดิน/ลูกปัดสีส้มกับดอกไม้สีม่วง-เทียนหยด/เริ่มต้นที่ลมหนาว-พวงคราม


มีสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่ง ที่เชื่อมให้เรามีหัวใจใกล้ชิดกัน คือ ความสนใจและชื่นชอบในต้นไม้ ดอกไม้ ซึ่งดิฉันมองเห็นว่าตัวเองนั้นมีความสนใจและชื่นชอบต้นไม้ ดอกไม้ ก็เพราะเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้ หากแต่เธอนั้นเติบโตจากธรรมชาติภายในแท้ๆ ของเธอจริงๆ 'เธอหลงรักฤดูกาล' และหลงรักดอกไม้โดยธรรมชาติแท้ๆ ยามที่พบเห็นดอกไม้ เธอจะชี้ชวนให้ฉันพินิจพิจารณา หรือไม่ก็เก็บมาฝากพร้อมทั้งอธิบายตามความรู้ที่เธอมี หรือไม่ก็จากการสังเกต ด้วยท่วงทำนองเป็นธรรมชาติ มิได้อวดรู้ หากแต่สัมผัสด้วยหัวใจ

บุษกร พิชยาทิตย์

ครั้งหนึ่ง ผมได้อ่านบทความในนิตยสารฉบับหนึ่ง เป็นเรื่องราวของต้นไม้ดอกไม้ เป็นการเดินเรื่องในแบบที่แปลกออกไปจากที่เคยพบเจอ อ่านง่าย สนุก ละเมียดละไม หยิบจับเอาเรื่องดอกไม้มาปะปนกับจินตนาการของการเดินทางในชีวิตมนุษย์...ช่างเล่าเรื่องได้เหมือนกับนิทาน เผลอแป๊บเดียว บทความต่างๆ เหล่านั้นถูกรวบรวมมาเป็นหนังสือเล่มที่อยู่ในมือของคุณนี้ ไม่ต้องแปลกใจถ้าจะอ่านอย่างมีความสุข

พชร สมุทวณิช




ชีวิตพืชบนดาวเคราะห์โลก
Plant's Life of the Planet Earth
รองศาสตราจารย์ ม.ล.จารุพันธุ์ ทองแถม

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

สารบัญ

ความนำ/บรรพบทแห่งชีวิตพืช/ชีวิตที่เกิดใหม่/บทสืบพันธุ์แห่งพฤกษชาติ/สู่การเดินทาง/ต่อสู้เพื่ออยู่รอด/ร่วมชีวิตสันติสุขและเบียดเบียน/สืบทอดเผ่าพันธุ์

คำนำผู้เขียน

หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นโดยตั้งใจจะให้ความรู้เกี่ยวกับชีวิตและความเป็นมาเป็นไปของพืช ตลอดจนความสัมพันธ์กับสัตว์บางชนิดภายใต้สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ หนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบทั้งภาพเขียนสีน้ำ ภาพลายเส้นขาว-ดำ และภาพสไลด์สี ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เขียนถ่ายจากสภาพธรรมชาติของหลายประเทศ รวมทั้งในประเทศไทย

สำหรับเนื้อหาในเรื่องหลังจากความนำ ผู้เขียนกล่าวถึงบรรพบทแห่งชีวิตพืช เป็นเรื่องราวของการกำเนิดพืชบนโลก พืชโบราณยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งมีการพัฒนาตัวสู่การกำเนิดของไม้ดอก บางชนิดยังคงสืบทอดวิวัฒนาการมาในรูปพืชโบราณ พบในเขตต่างๆ ของโลกรวมทั้งในประเทศไทย บทที่สองกล่าวถึงชีวิตที่เกิดใหม่ เป็นเรื่องราวการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืชในรูปแบบต่างๆ ระบบการป้องกันตนเองจากสัตว์ต่างๆ ในสภาพแวดล้อมซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลาย บทที่สามเป็นเรื่องการสืบพันธุ์ของพืชบางชนิดที่น่าสนใจจากหลายแหล่งของโลก บทที่สี่เป็นเรื่องราวของพืชนักเดินทางเพื่อเผยแพร่วงศ์วานว่านเครือของมันออกไป สำหรับบทที่ห้า ผู้เขียนบรรยายถึงการต่อสู้ภายในสังคมพืชเพื่อความอยู่รอดของพวกมันเอง ในบทที่หกเป็นชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งในเรื่องการพึ่งพาอาศัยอยู่รวมกันอย่างสันติสุขและชีวิตพืชที่เบียดเบียนกันไม่แพ้ชีวิตของมนุษย์และสัตว์ร่วมโลกเลยทีเดียว บทสุดท้ายเป็นเรื่องการดิ้นรนต่อสู้กับสภาพธรรมชาติเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์พืชให้ดำรงอยู่ในดาวเคราะห์โลก

แม้เรื่องราวที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้บางบทจะดูเป็นวิชาการอยู่บ้าง แต่นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเยาวชนคนไทยในยุคที่คุณภาพการศึกษาลดด้อยถอยลงอย่างน่าเป็นห่วง ทุกสิ่งที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในโลกแห่งธรรมชาติโดยแท้ และหากจะมีบางเรื่องบางตอนเกิดความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงหรือเกิดความผิดพลาดทางด้านวิชาการ ผู้เขียนขออภัยผู้อ่านไว้ด้วยความเคารพ




บันทายฉมาร์ เดียงพลาโต และหลวงพระบาง
นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว

วรรณกรรมแห่งการเดินทาง ท่องดินแดนวัฒนธรรมแห่งอุษาคเนย์

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

จากผู้เขียน

เมื่อข้าพเจ้าย้ายบ้านในปี พ.ศ.2516 ตอนอายุประมาณ 5-6 ขวบ สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ บางแห่งหนเมื่อเราจากไปแล้วแทบไม่มีโอกาสหรือไม่มีโอกาสอีกเลยที่จะได้หวนกลับไป ในวันนั้นข้าพเจ้ายังกระโดดโลดเต้น ลุยน้ำจับลูกอ๊อด เอาไม้ไปแหย่รูบึ้ง และบุกป่าจับแมลงปอเข็มสีสวยอยู่เหมือนเดิม ความอาลัยไม่ได้มีสักกระผีก แต่เมื่อข้าวของ ตู้ โต๊ะ หายไปเกลี้ยงบ้าน เหลือแต่กระท่อมปุปะใต้ร่มฝรั่งคู่ของพวกเราพี่น้องที่ไม่มีใครไปแตะต้อง ข้าพเจ้าก็เริ่มใจเสีย เป็นความใจเสียและเศร้าสร้อยที่ไม่เคยรู้จัก จนเมื่อ 2-3 วันสุดท้าย ข้าพเจ้าจึงเริ่มเก็บสมบัติสมบ้าที่เคยเล่นทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดี คือก้านธูปกำใหญ่ กระปุกตังฉ่ายแก้วสีขาวขุ่นหน้าตาแป้นๆ แบนๆ ที่เคยใช้ใส่ลูกอ๊อดกับสาหร่าย หินฝาแฝดสีเขียวเข้ม ก้อนหนึ่งใหญ่เท่ากำปั้น พ่อเก็บมันมาจากแม่น้ำโขง อีกก้อนเล็กเท่าปลายนิ้วชี้ ข้าพเจ้าคุ้ยเจอมาจากกองกรวดหน้าบ้าน ทั้งสองก้อนนี้หน้าตาสีสันเหมือนกันดิก ต่างกันแต่เพียงขนาดเท่านั้น และสาบานได้ว่า ในวัยหกขวบของวันวาน ข้าพเจ้าเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยเลยว่า มันเป็นแม่ลูกกัน

ของรักส่วนตัวนี้ ข้าพเจ้าแอบจับใส่กล่องกระดาษมัดเชือกฟางด้วยตนเอง เป็นของหักๆ พังๆ ที่หากใครมาเปิดกล่องเห็นคงหัวเราะดิ้นและไม่รีรอที่จะจับโยนทิ้งเสียในทันที เพราะมันไม่ใช่ของมีค่าอะไร ไม่ใช่กระทั่งข้าวของที่จะห่อรวมไปกับของเล่นกล่องโตของพวกเราพี่น้องเสียด้วยซ้ำ แต่ในสมัยนั้นข้าพเจ้ากลับทะนุถนอมมัน ใส่กล่องกระดาษ ผูกเชือกฟางวางไว้บนตักทั้งวัน ตลอดเส้นทางจากมหาสารคามจนถึงเพชรบุรี เมืองที่พ่อแม่บอกว่าเป็นบ้านเกิด แล้วยังเล่าอีกว่า มีต้นตาลมากมายจนนับจำนวนไม่ถ้วน

มันเป็นกองทัพต้นตาลจริงๆ ในยามโพล้เพล้ ท้องฟ้าเป็นสีหมากสุกของแดดผีตากผ้าอ้อม ต้นตาลแน่นครืดผุดขึ้นประจันหน้า ยืนทะมืดทะมึนอยู่สองฟากถนน ข้าพเจ้าผู้ไม่เคยเห็นต้นไม่ชนิดนี้มาก่อนถึงกับพิศวงงงงวย จำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นไทรงามพิมายแผ่กิ่งเงาสาขาร่มครึ้มเป็นบริเวณกว้าง ข้าพเจ้าได้เคยสะดุ้งอ้ำอึ้งมาแล้ว ขณะค่อยๆ เอื้อมมือสั่นๆ ไปจับรากไทรให้แน่ใจว่า เส้นสายสีน้ำตาลระโยงระยางนั้น มันเป็นรากไม้-ไม่ใช่ผมนางพรายที่จะตวัดรัดคอจับเราไปกินเสียเมื่อไหร่ก็ได้ !

แล้วตอนนี้มาเห็นต้นตาลวิ่งอยู่ฉิวๆ ตลอดสองฟากถนนยามใกล้ค่ำ ลำต้นมันผอมสูงลิบลิ่ว มีใบแผ่กว้างเป็นกระจุกกลมเท่ากระด้ง มองเผินๆ เหมือนหน้าคนที่หัวยุ่งกระเซอะกระเซิงกำลังเพ่งสายตาลอดหน้าต่างรถเข้ามาจ้องเขม็ง เมื่อเหลียวไปเจอ ข้าพเจ้าถึงกับตัวสั่นงันงก ให้ตายเถิด นั่นมันกองทัพผีเปรตกำลังวิ่งเทิ่งๆ อยู่ชัดๆ !!

ก็ฤทธิ์ของนิทานผีโขมด ผีปอบ ผีโป่ง เสือสมิง ผีกองกอย กับอีกสารพัดผีพื้นบ้านที่พี่เลี้ยงชาวอีสานขยันเล่ากรอกหูขู่ให้กลัวอยู่ทุกวันนั่นแหละ ทำให้เห็นอะไร ข้าพเจ้าก็มีปัญญาจินตนาการวนเวียนอยู่ได้แค่ในหมู่ผีไทยเท่านั้น

ขณะนั่งกลัวจนตัวสั่น หันไปข้างๆ พี่สาวน้องสาวพากันหลับโงกเงก ข้าพเจ้าจึงมีแต่กล่องปุปะบนตักให้กอดแน่น อุ่นใจว่ายังมีเยื่อใยแห่งความคุ้นเคยบางอย่างอยู่กับเรา ณ ที่ตรงนี้ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ใจหายเหลือเกินว่า บางที...ข้าพเจ้าอาจจะไม่มีวันได้กลับไปบ้านหลังเก่าที่จังหวัดมหาสารคามอีกแล้ว

ยามนั่งอยู่บนหลังคาเรือโคลงเคลงกลางสายฝนพรำ รอบตัวมีแต่เกลียวคลื่นกระชากกระชั้น ระหว่างทางจากภูเขาไฟกรากาตัวกลางทะเลลึกถึงริมฝั่งหมู่บ้านชาวประมง เรือแล่นฝ่าสายฝนดังแท้ดๆๆๆ ช้าเหมือนจะขาดใจ ต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย ในตอนนั้นข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่จะนึกถึงการเดินทางแสนไกลครั้งแรกของชีวิต มันยาวนานและผ่านภูมิประเทศแปลกตา เป็นความตื่นเต้นจนใจสั่นตึ้กๆ เหมือนเวลานี้ไม่มีผิด ตรงหน้าข้าพเจ้า พระอาทิตย์ใกล้ค่ำสีหมากสุกฉาบย้อมภูเขาไฟสวยสุดประมาณ จากนั้นเมฆ คลื่น สายฟ้าและลมฝน ต่างผลัดกันสำแพงอานุภาพอย่างเต็มสามารถ เป็นภาพ เป็นเสียงสะท้านกึกก้อง เป็นสีสัน เป็นแสงแปลบปลาบ ที่สวยกระทั่งสะกดข้าพเจ้าให้ตื่นตะลึงในวาระแรก และรู้สึกร้าวรอนในลำดับถัดมา เป็นความร้าวรอนที่ดิ่งลึก และเป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่เด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบ ในสมัยก่อนโน้นได้เคยรู้จัก ยามที่เธอพยายามกวาดเก็บกระเบื้องถ้วยกะลาแตกริมรั้วบ้าน ด้วยความรู้สึกว่าเธอได้เอาบ้านทั้งหลังกับโลกทั้งใบของเธอใส่กล่องกระดาษผูกเชือกวางบนตักย้ายตามมาด้วย และด้วยความเชื่อมั่นว่า ถึงบ้านใหม่ตื่นนอนพรุ่งนี้เช้าทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม

แต่ความจริงมันไม่เป็นเช่นนั้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด บางสถานที่ที่เราจากมาแล้ว แม้ชั่วชีวิตก็ไม่มีวันได้กลับไปที่นั่นอีก

กระเบื้องถ้วยกะลาแตกที่หอบหิ้วมาจึงกลายเป็นสิ่งประดักประเดิด บ้านใหม่ไม่มีลูกอ๊อดให้จับใส่กระปุกตังฉ่าย มีแต่แมลงทับเป็นร้อยตัว ขยับปีกบินหวือๆ อยู่ในดงมะขามเทศ บ้านใหม่ไม่มีนกเป็ดน้ำ ไม่มีอะไรอีกหลายอย่างที่เคยคุ้น ที่แน่ๆ ก็คือ ไม่มีลูกเห็บตกให้วิ่งหลบและหัวเราะงอหายเวลามันส่งเสียงป๊งเป๊งยามตกกระทบฝาตุ่มสังกะสี แต่บ้านใหม่ก็มีอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ให้จินตนาการกว้างไกลสุดคณานับและให้รากลึกของชีวิต ข้าวของทั้งกล่องที่ทะนุถนอมหิ้วมาจากวันวานจึงถูกประคับประคองอย่างดี เมื่อตัดใจหย่อนลงสระบัวลึก มันลอยตุ๊บป่องอยู่ชั่วครู่แล้วจึงจมหายไป เหลือแต่พรายน้ำกระเพื่อมไหวที่ค่อยๆ ขยายวงห่างไปสุดตา

เหมือนยามที่ข้าพเจ้าเพ่งมองภูเขาไฟรางเลือนกลางลมฝนตรงหน้า เรากำลังถอยห่างกันไปไกลนัก รวมถึงอีกหลายๆ ครั้งถัดจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นศาสนสถานรกร้างวังเวงกลางป่าดิบอย่างบันทายฉมาร์ หมู่เทวาลัยนิ่งสงบที่เดียงพลาโต บนเส้นทางทุรกันดารระหกระเหินสู่กลุ่มปราสาทเมืองพระนคร ฯลฯ และในยามไหว้ลาลุงสิงห์คำ สิริวัฒนา ปราชญ์พื้นบ้านเมืองหลวงพระบาง ข้าพเจ้าก็ถึงกับแอบใช้ปลายนิ้วกรีดน้ำตา

ความเศร้าบางอย่างรินไหลอยู่ในอก เป็นความเศร้าชนิดเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้เคยรู้จักมาแล้วในการเดินทางเพื่อย้าย "บ้าน" ครั้งแรกของชีวิต

และทุกครั้งที่เก็บของแพ็คลงเป้หลัง ข้าพเจ้าก็ตื่นเต้นปีติที่จะได้พบโลกใหม่ ได้ชื่นชมผู้คนจิตใจงามอีกหลายๆ คนที่มีโอกาสพานพบ ได้แจ่มใสรื่นรมย์และสุขสุขุมกับข้อมูลความรู้ ภูมิปัญญาลึกซึ้งหลากหลายของผู้คนแต่ละพื้นที่ บางครั้งเป็นการสืบถามด้วยใจรักในความรู้แท้ๆ แต่ในอีกหลายๆ ครั้งก็เพื่อเก็บเป็นข้อมูลมาถ่ายทอดสู่งานเขียนสารคดี ที่ให้ชีวิตชีวากับข้าพเจ้าเหมือนได้ออกเดินทางครั้งใหม่ ขณะจรดปลายปากกาค่อยๆ เรียบเรียงความทรงจำทั้งมวลออกมา

ข้าพเจ้ารักการเดินทาง และข้าพเจ้าก็รักทุกอารมณ์ความรู้สึก ทุกมิติความรู้ที่เก็บเกี่ยวไว้ระหว่างเดินทาง แม้จะรู้ว่าในที่สุด ยามลาจากนั้น บางสถานที่มันให้ความหนักหน่วงในใจอยู่มากเพียงใด

แต่บางทีความเศร้าของการลาจากที่ไม่มีวันหวนคืน อาจหมายถึงสัมผัสอันละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นในการเดินทางครั้งหน้า เป็นสีสันอีกด้านหนึ่งที่แต่งเติมให้การเดินทางทรงคุณค่าและมีความหมายสมบูรณ์ยิ่งนักสำหรับชีวิต

นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว
สิงหาคม 2544




ลอดลายกำแพง
ดร.เพ็ญสุภา สุขคตะ

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

รวมผลงานจากคอลัมน์ 'อาณาจักรสถาปัตย์' ในนิตยสาร ไฮ-คลาส

"...เมื่อต้องการศึกษาถึงเรื่องราวของสถาปัตยกรรมสาธารณะ (ซึ่งผู้สถาปนาคือ ราช-รัฐ) เราจำต้องตระหนักชัดถึง "อำนาจ" ที่แฝงเร้นนั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยๆ ชะเง้อชะแง้คอมอง "ลอด" ลวดลายของกำแพงเข้าไป

บางทีอาจเป็นเพียงการลอดผ่านรูโหว่เล็กๆ ตามช่องแสง ช่องหน้าต่าง หลืบประตู หรืออย่างน้อยที่สุด เราอาจทำแม้กระทั่งยืนพิง-นั่งพักบนกำแพงผืนนั้น

ทัศนคติที่มีต่อโลกและชีวิต เราสามารถถอดรหัสได้จาก "ลวดลาย" ของสรรพสิ่ง ซึ่งต่างก็ตกแต่งพรางตาไว้บนผิวเปลือก

ลวดลาย จึงเป็นภาษา และเป็นรหัสที่ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเปลือก-แก่นของวัตถุ..."

พร้อมภาคผนวก
พลิกปูมหลัง 32 สถาปัตยกรรม
ค้นหาความหมายที่ซุกซ่อนหลังกำแพง




สองเงาในเกาหลี
ทรงกลด บางยี่ขัน

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

ฝีมือทางภาษาของทรงกลดถึงขั้นซึมลึกลื่นไหลแต่ขณะเดียวกันก็สะดุดตาสะดุดใจดังเช่นบทหนึ่ง ที่ตั้งหัวเรื่องไว้เก๋ไก๋ว่า 'ความสุขชั่วเวียนธูป ความทุกข์ชั่ววูบเทียน' แค่การประดิษฐ์ถ้อยคำก็น่าจับมือมาเขียนกวีแล้ว เมื่อได้อ่านเนื้อหาที่สื่อออกมา ก็พบว่ามันไม่ใช่แค่การเล่นสำนวนโวหาร เพื่อความเท่ สิ่งที่เขากำลังครุ่นคิดและค้นพบมีความหมายอย่างนั้นจริง

จิระนันท์ พิตรปรีชา

ก้องทำให้คนที่ไม่เคยแยแสหนังเกาหลี(ที่เพื่อนรอบตัวติดกันงอมงึม) นิยายเกาหลี(ข่าวว่าวัยรุ่นชอบ) ไม่ได้เป็นแฟน แดจังกึม อย่างฉัน อ่านหนังสือเล่มนี้ (ขอเรียกว่าเป็นหนังสือนำเที่ยวแนว 'Travel Literature') ปรี๊ดเดียวจบ ทำให้ฉันได้รู้จักเกาหลีอย่างดื่มด่ำ คงเพราะมุมมองคมแต่เนียนของก้อง ทัศนคต ตัวตน ความรู้รายทาง อารมณ์ความรู้สึก หลายสิ่งหลายอย่างสอดประสานกันออกมาอย่างลงตัว แถมด้วยเงาสลัวแห่งความโรแมนติกที่ดูเหมือนจะค่อยก่อตัวขึ้น สนุกอีกอย่างตรงตอนอ่านเพลินจินตนาการภาพก้องกับพิณออกมาเป็นฉาก ยังกับดูหนังแน่

พลอย จริยะเวช

ทรงกลด บางยี่ขัน กัลลิเวอร์ผู้เป็นเจ้าของตัวอักษรอันแสนโรแมนติกในเล่มที่คุณกำลังถืออยู่นี้ ได้พาเราเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ที่แอบซ่อนอยู่ของเกาหลี มุมเล็กๆ ที่อาจจะไม่ได้น่าตื่นเต้นหวือหวา แต่กลับทำให้เราต้องแอบยิ้มไปกับเขา อย่างที่เขาบอกไว้ว่าการเดินทางครั้งนี้ของเขาบางครั้งก็ไม่ได้บันทึกความทรงจำด้วยกล้อง แต่บันทึกด้วยความรู้สึก

ตรัย ภูมิรัตน

"โชอึมบุนซุนกัน ซารังเฮโซ"
ฉันอาจไม่ได้รักคุณตั้งแต่แรกเห็น แต่ฉันรักคุณตั้งแต่เริ่มอ่าน

มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล




เล่มนี้ได้แถมจากการซื้อหนังสือของสำนักพิมพ์ a book ค่ะ

ฉันโอบไหล่เธออุ่น
(หลายคนเขียน)

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting




อนุสาร อสท.
ฉบับเดือนกรกฎาคม 2548

Photobucket - Video and Image Hosting




Create Date : 27 มกราคม 2550
Last Update : 27 มกราคม 2550 23:55:33 น. 0 comments
Counter : 1515 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อุบลวัลย์
Location :
Thailand เกษียณ

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add อุบลวัลย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.