|
2553 เมษายน
------------------------------------------------------------------------------------------
1 เมษายน 2553


** เริ่มต้นทำภาพประกอบขายในเว็บโฟโตเลีย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรุ่งหรือร่วง เท่าที่ดูภาพขายของคนอื่นๆ เขาขายกันเป็นร้อยเป็นพันภาพ ของเราเพิ่งจะมีแค่ประมาณยี่สิบรูป คงต้องใช้เวลากันอีกนาน ขุดเอารูปที่วาดเล่นมาปัดฝุ่น โยนข้ามไปข้ามมาระหว่างโปรแกรมเพื่อใส่สี แล้วก็ส่งเข้าเว็บไมโครสต็อค ส่งไปสามเว็บ ผ่านสองเว็บ อีกเว็บนึงไม่รับ ตอนนี้ก็ทยอยทำภาพขึ้นใหม่เพื่อขายต่อไปเรื่อยๆ
** ทำงานเรียลพาเร็นติ้ง สีน้ำ 5 หน้า โหดเหมือนกันในเวลาหนึ่งวัน สงสัยต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงานใหม่ แต่ท้ายสุดงานก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี
------------------------------------------------------------------------------------------
2 เมษายน 2553

** ออกไปเที่ยวเล่นแถวสยาม ไปทดสอบราเม็งร้านใหม่ น่าจะเปิดมาได้ประมาณเดือนนึงแล้ว เห็นตั้งแต่ตอนตบแต่งร้านอยู่ ราคาค่อนข้างสูง สมกับค่าเช่าแสนแพงแถวนั้น แต่รสชาติโอเค ละเมียด นิ่ง อร่อย ถูกใจเรา
------------------------------------------------------------------------------------------
3 เมษายน 2553

** ทำงานให้คอลัมน์ smart kids ในนิตยสารเรียลพาเร็นติ้ง สี่รูป ใช้เวลาราวๆ แปดชั่วโมง ออกไปไหนไม่ได้ และไม่อยากออกไป ข้างนอกวุ่นวายเหลือเกิน ก็ดี ได้นั่งทำงานให้เสร็จไป แล้วก็รอรับทรัพย์ อิอิ
------------------------------------------------------------------------------------------
4 เมษายน 2553


** ทำหน้าเกมหน้าสุดท้ายของเล่มเดือนพฤษภาคม ของนิตยสารเรียลพาเร็นติ้ง ของเดือนพฤษภา เสร็จครบหมด 10 รูปแล้ว ของเดือนอื่นน้องที่กองบรรณาธิการส่งบางส่วนมาให้แล้ว ทำได้เลย แต่ขอหยุดพักแป๊บนึง แล้วเดี๋ยวจะกลับมาจัดการอีกที ช่วงนี้อยากอ่านหนังสือมากๆ มีหนังสือที่ซื้อแล้วไม่ได้อ่าน พอกพูนสูงหนาขึ้นเรื่อยๆ อยากอ่านให้จบๆไป ไม่อยากให้มีค้าง แต่งานก็ไม่เอื้อให้เอ้อระเหยนั่งอ่านหนังสือชิลด์ๆเฉยๆได้เรื่อยเปื่อย
** ดูหนังเรื่อง "days of being wild" ของหว่องกาไว เป็นหนังเมื่อยี่สิบปีก่อน เคยดูไปหนนึงเมื่อนานแล้วแต่หนนั้นไม่ค่อยเข้าใจ หนนี้หลังจากผ่านประสบการณ์ดูหนังมามากมายพอควร ก็พบว่าหนังเรื่องนี้มีดีอยู่เยอะทีเดียว หนังยังทันสมัยมากๆ หนังว่าด้วยความเจ็บปวด เปลี่ยวเหงา และชีวิตอันไร้จุดหมาย ของชายหนุ่มผู้ถูกแม่ทิ้งไปตั้งแต่ยังแบะเบาะ เขาอาศัยอยู่กับแม่บุญธรรม ใช้ชีวิตเสเพล เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยๆ เขาทำให้ผู้หญิงตกหลุมรัก แล้วก็ทิ้งพวกเธอไป ทำเยี่ยงเดียวกับที่แม่ทิ้งเขาไป และเดินทางตามหาแม่ผู้ให้กำเนิดในท้ายที่สุด เพื่อที่จะพบความจริงที่เจ็บปวดไม่น้อยกว่าที่เป็นอยู่ หนังเนิบเนือย บรรยากาศย้อนยุคไปเมื่อห้าสิบปีก่อน หนังไม่เน้นให้ใครเป็นพระเอกนางเอก แต่เน้นทุกชีวิตที่เข้ามาพัวพันกัน แม้แต่ชีวิตของคนอื่นๆที่เราไม่รู้จักและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครก็มีในตอนท้ายเรื่อง หนังพยายามบอกเราว่า ชีวิตคนบางคนก็เหมือนนก นกไร้ขา นกที่บินไปเรื่อยๆ ไม่หยุดพัก ไม่ลงนอนที่กิ่งไม้กิ่งไหน จะลงสู่พื้นดินก็เพียงวันตายเท่านั้น ชื่อหนังทำให้เราเข้าใจว่า ความเจ็บปวดในชีวิตคน โดยเฉพาะความเจ็บปวดในหัวใจของมนุษย์มันช่างยาวนานไร้จุดสิ้นสุด แต่พอคนเราตาย สิ่งเหล่านั้นก็สูญสลายไปในชั่วพริบตา มีหนังไทยหลายเรื่องที่ได้รับอิทธิพลจากหนังของหว่องกาไว เท่าที่นึกออกก็คือ "เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล" "ณ ขณะรัก-a moment in june" และ "รักที่รอคอย-october sonata" อันนี้เป็นความคิดเห็นของเรา คนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วยก็ได้ หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกง ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม ดารานำชายยอดเยี่ยม
------------------------------------------------------------------------------------------
5-6 เมษายน 2553


** เหมือนจะว่างแต่ไม่ว่าง และยังไม่ยอมเริ่มทำงาน เลยใช้เวลาที่มีไปกับการทำภาพขายในอินเตอร์เน็ต ทำไปอีกสี่ภาพ ทำภาพใกล้ๆตัวนี่แหละ เป็นภาพเด็กกับต้นไม้ เด็กกับช้าง เด็กกับสิงโต น่าจะขายยากอยู่ คงต้องศึกษาดูว่า เนื้อหาภาพแบบไหนถึงจะขายดี และขายง่าย
------------------------------------------------------------------------------------------
8 เมษายน 2553


** ดอกไม้รอบบ้านกำลังเบ่งบาน แม้อากาศจะร้อนสุดๆ แต่ดอกไม้ก็ยังบานให้ได้เห็น บ้างก็ร่วง บ้างก็บาน ส่วนใจบ้างก็ดี บ้างก็หดหู่ เพราะสถานการณ์การเมืองที่เป็นอยู่ ชวนให้หดหู่ เหนื่อยหน่าย สถานการณ์จะจบยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าเรารักในหลวง
------------------------------------------------------------------------------------------
9 เมษายน 2553

** วันนี้รูปที่แปะขายในไมโครสต็อคในอินเตอร์เน็ต ขายไปได้แล้วหนึ่งรูป ได้เงินมา 2.5 เครดิต ไม่แน่ใจว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ยังใหม่กับการขายภาพในเน็ตมากๆ ราคาภาพขึ้นอยู่กับขนาด ที่คนเข้ามาดาวน์โหลดไป ภาพนี้มาโหลดไปในขนาด xxl เป็นภาพเด็กถือต้นไม้กับถือกระถางต้นไม้ เนื้อหาตลาดจ๋ามากๆ ไม่แปลกที่ขายออกเป็นภาพแรก ภาพต้นฉบับเป็นลิขสิทธิ์ของเรา ใครจะเข้ามาดาวน์โหลดก็ได้ จะโหลดกี่ครั้ง ทุกครั้งเราก็ได้ตังค์เพิ่ม และเราก็ยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เหมือนเดิม ดีก็ตรงนี้แหละ
------------------------------------------------------------------------------------------
10 เมษายน 2553


** วันนี้ไปงานแต่งงานมา งานสวย น่ารัก บรรยากาศดี อาหารอร่อยสุดยอด โชคดีที่เจ้าภาพไม่ได้จัดงานที่กรุงเทพฯ เพราะมีการสลายการชุมนุม เป็นบุญของเจ้าภาพ เรากินซะจนล้นพุง ทั้งกุ้งเผา กั้งย่าง หอยนางรมฝาเท่าฝ่ามือ หมูหัน หมี่ซั่ว ลาบ สปาเก็ตตี้ ไส้กรอกลูกวัว(อันนี้ไม่ได้กิน) ขนมหวาน ขนมเค้ก ไอติม ผลไม้นานา มีอีกหลายอย่างที่ไม่ได้ลอง เห็นเจ้าภาพว่าค่าอาหารหัวละพันห้า เราลองคิดๆดูแล้ว เราคงกินไปห้าพันแหง๋ๆ ตอนเย็นเห็นภาพข่าวสลายการชุมนุม แล้วเกิดมีการบาดเจ็บและตายของทั้งสองฝ่าย น่าเศร้าใจมากๆ ยังไงๆก็ขอพูดเหมือนเดิม "เรารักพระเจ้าอยู่หัว"
------------------------------------------------------------------------------------------
12-15 เมษายน 2553



** ทำงานของเรียลพาเร็นติ้งอีกสามภาพ เป็นงานในคอมสองภาพ วาดมือ(สีน้ำ)หนึ่งภาพ เป็นอะไรไม่รู้วันที่คนอื่นเขาหยุดชอบนั่งทำงาน เวลาเขาทำงานกัน ชอบออกเที่ยว ช่วงนี้เที่ยวแถวสยามก็ไม่ได้อีก เซ็ง เห็นสภาพการเมืองแล้วไม่รู้ว่าประเทศไทยจะไปทางไหนดี ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักคุ้มครอง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ด้วยเทอญ พักหลังๆเวลาไปไหว้พระจะอธิษฐานแบบนี้ตลอด คนดีขอให้มีสุข คนคิดไม่ดี คิดชั่วขอให้แพ้ภัยพินาศหมดสิ้นกันไป เครียดๆๆๆๆ พักนี้ดูข่าวแล้ว เครียดๆๆๆๆๆๆ น่าเบื่อ น่าโมโห น่าเจ็บใจที่สุด
------------------------------------------------------------------------------------------
16 เมษายน 2553

** อากาศร้อน การเมืองแรง พยายามบอกตัวเองให้เครียดได้ แต่เมื่อเครียดแล้วต้องรู้ตัวว่าเครียด ต้องหาทางระบาย ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ ไม่มีอะไรดีเกินหาของชอบๆกิน อย่างขนม กาแฟ ถ้าให้ดีกินหวานเย็นถ้วยใหญ่ๆใส่น้ำเขียว ไม่เอาน้ำแดง กินให้ชื่นใจ แล้วนอนแผ่แช่พัดลม กดเบอร์สาม
------------------------------------------------------------------------------------------
18 เมษายน 2553


** ใช้ธรรมชาติบำบัด ปิดทีวี เลิกรับรู้ข่าวสารบ้าง เดินเท้าเปล่าไปดูต้นไม้ ให้ดินกรวดนวดเท้า ขยับเนื้อขยับตัว เงยหน้ามองนก มองไม้ เปิดน้ำล้างหน้า นั่งนิ่งๆ สบายๆใต้ต้นไม้ เฮ้อ สบายใจขึ้นเยอะเลย
------------------------------------------------------------------------------------------
19 เมษายน 2553


** สิ้นสุดวันหยุดยาว ชีวิตการงานกลับสู่ภาวะปกติ ยกเว้นแถวราชประสงค์ คนทำงานแถวนั้นจะทำยังไงหนา บางแห่งปิดนานๆพี่น้องที่มาจากทุกภาคของไทย เพื่อมาทำงานที่นั่น ทั้งเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ตะวันออก ตะวันตก จะถูกเลิกจ้างหรือเปล่า ธุรกิจแถวนั้นทำอะไรผิด ไปปิดเขา ใครรับผิดชอบ เห็นก็แต่พูดกันปาวๆว่าไม่เกี่ยว ไม่ใช่พวก ไม่รับผิดชอบ ไล่อำมาตย์กัน แล้วคิดเหรอว่าอำมาตย์เก่าไปจะไม่ได้อำมาตย์ใหม่ที่น่าเกลียดน่ากลัวมาแทน เห็นข่าวอันนึงเขาไปถามยายแก่ๆว่ามาทำอะไรที่ราชประสงค์ ยายตอบว่ามาไล่ไอ้ "ประสิทธิ์" คนดูถึงกับเหวงกันไป มีอีกอัน ไปถามคนมาชุมนุมว่ามาทำไม "มาเรียกร้องประชาธิปไตยแล้วก็ไล่อำมาตย์" นักข่าวถามต่อ อำมาตย์คืออะไร ผู้มาชุมนุมตอบว่า "... (หมายถึงเงียบเพราะไม่รู้)"
ไม่แปลกใจเลยทำไมโลกร้อน ถ้าไม่ใช่เพราะกิเลสในใจคน
------------------------------------------------------------------------------------------
20 เมษายน 2553

** หาหนังสืออ่าน ซื้อ "จะคอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น" มาอ่าน ตอนนี้ยังอ่านไปครึ่งๆกลางๆ ไม่ถึงกับชอบและไม่ถึงกับเกลียด ความดีความงามของหนังสืออาจไปขมวดรวมอยู่ตอนท้าย (หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น) นอกนั้นก็เป็นนิตยสารต่างๆนานา ซื้อไว้อ่านช่วงวันหยุดยาว ทั้ง room, living etc, digital camera แล้วก็ computer arts projects เล่ม4 พ่วงท้ายด้วยซื้อหนังสือเกี่ยวกับโปรแกรม illustrator มาอ่านเพิ่มพูนความรู้
** ขอให้สติอยู่คู่คุณ การรู้มากไม่ได้หมายถึงว่าฉลาด ความฉลาดไม่ได้การันตีว่าเป็นคนดี คนดีไม่จำเป็นต้องสามัคคีกับคนอับปรีย์ อยู่ให้ห่างคนผีเป็นดีที่สุด (เข้าเรื่องอีกแล้วเรา)
------------------------------------------------------------------------------------------
23 เมษายน 2553


** ในข่าวร้ายยังมีข่าวดีให้เราได้ชื่นใจ เป็นข่าวดีส่วนตัวไม่เกี่ยวกับสถานการณ์อันน่าเจ็บปวดของบ้านเมือง นิทานรางวัลชมเชยรางวัลนานมีบุ๊คส์ของเรา เรื่อง "ขอบคุณครับจากหมีน้อย" ตีพิมพ์ครั้งที่ 4 แล้ว ดีใจมากๆ แม้ว่าจะเป็นรางวัลชมเชยแต่มันก็ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 4
------------------------------------------------------------------------------------------
26 เมษายน 2553

** ช่วงนี้ขี้เกียจอย่างแรง อยากดูหนังมากกกกกก เช่าหนังมาดูหลายเรื่อง เรื่องที่ติดค้างอยู่ในความคิด คือเรื่อง "The fourth kind" เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงในเมืองโนม อลาสก้า หนังใช้การแสดงรวมเข้ากับ การตัดให้ดูกับภาพเหตุการณ์จริงที่ถูกบันทึกวีดีโอไว้ เรื่องเริ่มเมื่อสามีของจิตแพทย์หญิงท่านหนึ่ง ถูกฆาตกรรมในห้องนอนกลางดึก แต่ไม่สามารถหาตัวฆาตกรได้ จากนั้นจิตแพทย์หญิงท่านนี้ก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แล้วเรื่องแปลกๆก็เริ่มต้นขึ้น เธอพบคนไข้หลายรายพูดเล่าเรื่องเหมือนๆกัน ทุกรายจะตื่นขึ้นราวตีสามถึงตีสี่ และเหมือนถูกนกเค้าแมวจ้องมอง เมื่อสืบไปเรื่อยๆเธอจึงเริ่มสะกดจิตคนไข้หลายราย และบันทึกวีดีโอไว้ ความจริงที่น่าสะพรึงกลัวจึงค่อยๆเปิดเผยขึ้น นกเค้าแมวที่ว่าแท้จริงแล้วคือ มนุษย์ต่างดาว ระหว่างการบันทึกเทปทุกรายจะตัวเกร็ง อ้าปากค้าง และพูดด้วยภาษาแปลกๆ เมื่อลองให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาโบราณพิจารณาแล้วพบว่า เป็นภาษาสุเมเรี่ยน ซึ่งเป็นภาษาแรกของโลก !!! แถมยังพูดด้วยว่า "เราคือพระเจ้า" ขนหัวลุก (มีทั้งภาพและเสียงจากเหตุการณ์จริงให้ดู) คนไข้รายนี้หลังสงบลงพบว่ากระดูกสันหลังหักสามท่อน และตายคาที่ บางรายหลังถูกสะกดจิตและกลับบ้านไป จับลูกเมียเป็นตัวประกันและเรียกให้จิตแพทย์หญิงคนนี้ไปพบ ในที่เกิดเหตุมีทั้งตำรวจ จิตแพทย์หญิง และถูกบันทึกวีดีโอไว้ แต่ไม่เป็นผล เขายิงเมีย ลูก และตัวเองตายในที่สุด (มีภาพจริงให้ดูด้วย น่ากลัวมากกก) ในท้ายที่สุดจิตแพทย์หญิงท่านนี้ก็พบว่ามนุษย์ต่างดาวเคยมาหาเธอและสามี แท้จริงแล้วสามีของเธอไม่ได้ถูกฆาตกรรมแต่เขาฆ่าตัวตาย ลูกสาวของเธอถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไป และไม่พบตัวอีกเลยจนทุกวันนี้
ชื่อหนังหมายถึงประสบการณ์สี่แบบในการเจอกับมนุษย์ต่างดาว แบบแรกคือ พบเห็นยูเอฟโอ แบบสองคือ พบเจอหลักฐานแปลกๆที่หลงเหลือจากมนุษย์ต่างดาว แบบสามคือ การพบเจอสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว แบบสี่คือ การถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว
หนังเรื่องนี้มีบทสรุปไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่า คุณดูหนังเรื่องนี้จบ คุณเชื่ออย่างไร ความจริงก็เป็นเช่นนั้น เราเชื่อเป็นพื้นเดิมอยู่แล้วว่ามีมนุษย์ต่างดาวอยู่จริง เหมือนที่เราใช้อธิบายง่ายๆว่า มนุษย์เอง ก็คือมนุษย์ต่างดาวของมนุษย์ดาวอื่นๆในจักรวาล ถ้าเสียงและภาพที่ใช้ในหนังเป็นภาพจากเหตุการณ์จริง ไม่มีการเม้คขึ้น ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นของจริงแท้และแน่นอนสุดๆ บอกได้เลยว่า มนุษย์ต่างดาวน่ากลัวที่สุดในจักรวาล
** อ่านบล็อกตัวเองอันนี้แล้ว รู้สึกว่า ทำไมไม่เปิดกรุ๊ปบล๊อกใหม่เกี่ยวกับหนังไปซะเลยนะ เขียนยืดยาวขนาดนี้
------------------------------------------------------------------------------------------
28 เมษายน 2553

** ซื้อ บลูเบอร์รี่ ครัมเบิ้ล มัฟฟิ่นมากิน ไม่กล้าพิมพ์เป็นภาษาปะกิตเพราะกลัวจะพิมพ์ผิด จำชื่อได้ก็บุญแล้ว รสชาติอร่อยดี สมราคา และคุณภาพที่ลูกค้าอย่างเราควรได้รับ
** ดอกคูน หรือต้นราชพฤกษ์ กำลังออกดอกเหลืองเต็มต้น พื้นรอบๆต้น มีดอกร่วงเต็มไปหมด ระหว่างนั่งเรือกลับมาจากตลาด เห็นมีดอกคูนลอยให้เห็นเป็นระยะ ไม่รู้ร่วงและลอยมาจากบ้านเราหรือเปล่า
------------------------------------------------------------------------------------------
29 เมษายน 2553

** ไปสรรพากรเขตพื้นที่มา เนื่องจากปีภาษี ปี 2551 เราใส่จำนวนเงินขาดไปหนึ่งยอด เป็นเงินรางวัลจากการประกวดนิทาน แต่เราไม่รู้ว่าในแบบที่ยื่นไป ต้องเอายอดนี้ไปกรอกในช่องไหน แล้วก็มั่วๆส่งไปทางเน็ต ปรากฎว่าทางสรรพากรไม่มั่วด้วยกับเรา เราเลยต้องไปจัดการคืนเงินให้ราชการอีกเกือบสองร้อยบาท มีการสอบถามเพิ่มเติมว่าบ้านที่เราอยู่มีพื้นที่เท่าไหร่ ปีๆนึงจ่ายค่าอุปกรณ์วาดภาพเท่าไหร่ ลิขสิทธิ์เป็นอย่างไร ที่กรุงเทพที่พักจ่ายเดือนละเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้สรรพากรมาถ่ายรูปบ้านไว้ด้วย แต่เราไม่อยู่บ้าน แม่โทรมาบอกเรา ทั้งเราและแม่ต่างตกใจว่าทำไมต้องถ่ายรูปบ้านด้วย โทรไปที่สรรพากร เขาบอกว่าไม่ต้องตกใจหรอก เพราะถ่ายบ้านไว้เป็นหลักฐานว่าเขามาทำงานจริงๆ ไม่ใช่ออกจากออฟฟิศแล้วหนีไปทำอย่างอื่น แต่ที่ตลกก็คือ ก่อนไปที่นั่น คนที่ติดต่อเรา บอกว่ามีคนรู้จักเราด้วย เห็นชื่อเราบ่อยๆจากหนังสือ อยากเจอตัว เราก็บอกไปว่า เจอไปก็เท่านั้นแหละ ไม่ใช่ดารา แล้วก็หัวเราะ พอไปอยู่ที่นั่นจริงๆ เจอตัวคนติดต่อเราแล้ว มีคนพูดนำขึ้นมาว่า คนเนี้ยเหรอใช่ไหมที่ชื่อชาญศิลป์ คนอื่นๆเลยหันมามอง (เกือบสิบชีวิต) มีคนนึงถามว่าเขียนนิยายเหรอ มีคนถามต่อว่า เรื่องอะไร เราก็ได้แต่บอกว่า วาดรูปครับ มีการซักถามเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยว่าเป็นยังไง จนเราต้องพูดแซวกลับไปว่า เหมือนมาสัมภาษณ์งานเลย 555
** มีเรือตังเกมาจอดที่ข้างบ้าน เหลื่อมๆมาทางหน้าบ้านเรานิดๆ เป็นเรือของข้างบ้านเรานี่แหละ เอาเรือมาจอดซ่อม ทำสี ทำเครื่อง อุดรูรั่ว ล้างอวน เอาลังพลาสติกมาล้างทำความสะอาด มาจอดเป็นเดือนแล้ว เวลาออกเรือเรือทั้งสองลำจะหายไปเลยร่วมๆปี เห็นแล้วนึกถึงบรรยากาศสมัยก่อน จะมีเรือมาส่งปลาทูที่บ้านหลายลำ คนแถวนี้ที่ไม่ได้รับเชิญที่เห็นๆหน้ากันอยู่ จะมาที่บ้าน พร้อมจานชาม กาละมัง ถัง แล้วก็โกยปลาไปหน้าตาเฉย ย้ำว่าไม่ได้เชิญ แล้วคนเหล่านี้ก็ไม่ได้พูดขอเลยซักคำ เป็นเรื่องตลกแบบขำไม่ออกเมื่อตอนเราเป็นเด็กๆ
------------------------------------------------------------------------------------------
30 เมษายน 2553


** วันนี้หลานเตยแวะมาที่บ้าน เลยได้เล่นกันพักใหญ่ หลานเตยลงมาข้างล่างไม่ได้ เพราะโดนเจ้าเป๊ปซี่กัดไปหลายหน ต้องอยู่บนบ้านเพื่อความปลอดภัย เราอยู่ตรงชานบ้าน เดินไปเดินมาเพื่อถ่ายรูปเล่น แล้วก็ถ่ายรูปเจ้าเตยเก็บไว้ด้วย เจ้าเตยไม่รู้จะเล่นอะไร เลยเด็ดดอกไม้ ใบไม้ใกล้ๆตัว เอามาปาใส่หัวเรา บางครั้งก็ฝากเราปาใส่หัวเจ้าเป๊ปซี่ เล่นไปเล่นมาเลยปาใส่หัวเราซะเป็นส่วนใหญ่ ฮาดี ขำขำ เจ้าเตยโพสท่าประหลาดๆเพียบ มีท่าซาลังเฮโยโคเรียด้วย สงสัยจะเป็นยุคเกาหลีบุกจริงๆ เด็กตัวเล็กตัวน้อยยังทำเป็น อยู่ใกล้เด็กๆก็ดีอย่างนี้ เหมือนเด็กๆมีพลังงานชั้นดีเอามาแจกผู้ใหญ่ ทำให้เราหัวเราะแล้วหัวเราะอีกจนลืมความร้อนรอบๆตัวไปเลย
------------------------------------------------------------------------------------------
Create Date : 05 เมษายน 2553 |
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 13:41:22 น. |
|
24 comments
|
Counter : 3628 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Neilnuch_T วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:23:30:11 น. |
|
|
|
โดย: nanida วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:14:39:02 น. |
|
|
|
โดย: Neilnuch_T วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:13:28:49 น. |
|
|
|
โดย: cd2lucky วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:19:32:09 น. |
|
|
|
โดย: oanotai วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:10:28:42 น. |
|
|
|
โดย: Neilnuch_T วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:13:58:59 น. |
|
|
|
โดย: Neilnuch_T วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:10:05 น. |
|
|
|
โดย: nanida วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:07:29 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
สมุทรสงคราม Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]

|
///////////////////////////////////////////////
© ถ่านหินจำศีล ผันตัวจากอาชีพอาร์ตไดเร็คเตอร์ มาเป็นนักเขียนและนักวาดภาพประกอบนิทาน เมื่อราวๆเดือนมีนาคม 2545 ทำงานและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่แม่กลอง
บล็อกแห่งนี้ถือกำเนิดเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2550 มี 11 กรุ๊ปบล็อก รวมบล็อกได้ 354 บล็อก มีอายุบล็อกนับถึง 16 ก.พ. 2557 ครบ 7 ปีแล้ว ------------------------------------------------------- https://www.trytobeillustrator.bloggang.com ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายลิขสิทธิ์ปี 2537 © ถ่านหินจำศีล -------------------------------------------------------
|
|
|
|
|
|
|