อยากให้เพลงฮิต อย่าคิดถึงทางลัด
... "ผมเชื่อว่าคนเราแต่งเพลงหรือทำงานสร้างสรรค์ได้เฉพาะช่วงอายุหนึ่ง เท่านั้นน่ะครับ เพราะหลังจากนี้ไปเราก็อาจจะไม่เข้าใจคนสมัยนั้นแล้วหรือว่าคนสมัยนั้นอาจ ไม่เข้าใจเราแล้ว ผมรู้สึกว่าเรายังมีแรงอยู่ก็ต้องรีบทำ" ... "ถ้าเป็นเรื่องของคอนเซปมันมักจะมาด้วยความบังเอิญเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น ไปคุยกับเพื่อนคนนี้ แล้วเขาบ่นเรื่องนี้ให้เราฟัง หรือคุยกับแฟนแล้วเขาก็พูดคำคมออกมาสักคำ ซึ่งเราก็ เฮ้ย อะไรวะเนี่ย เราก็เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ในใจ แล้วพอมีเมโลดี้ที่เราทำออกมาแล้วรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นเรื่องนี้ เราก็เอามาผูกกัน มันเป็นความบังเอิญซะส่วนใหญ่ ผมเชื่อว่าเรื่องที่เด็ดจริงมันต้องจำได้ แต่ก็มีบางครั้งที่จดเอาไว้แต่ไม่ค่อยได้ใช้น่ะครับ อันที่ใช้คืออันที่จำได้" ... "ผมว่าด้วยความที่เราอายุพอๆ กับคนฟังอยู่ ทำให้เราเสพอะไรมาเหมือนๆ กัน เราพูดคล้ายๆ กัน เราใช้ชีวิตเหมือนกัน เวลาเราทำอะไร เมโลดี้อะไรก็จะไปคล้ายเขา แค่นี้เองครับ ผมว่าเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าผมจะทำได้หรือเปล่า เพราะคนเปลี่ยนไป ผมก็เปลี่ยนไป" ... "ผมเชื่อว่าเรื่องความฮิตเป็นเรื่องที่กะเก็งกันไม่ได้ ถ้าถามว่าสูตรสำเร็จมีไหม มันก็มี แต่ว่าก็ใช้ได้ไม่มาก สมมุติว่าเรากะว่าเพลงนี้ต้องฮิต โอเค ถ้าเราทำแบบนี้แล้วฮิตแน่นอน ผมเชื่อว่าไอ้แบบนี้เป็นการฮิตแบบตรรกะน่ะ มันฮิตไม่จริง ฮิตแบบวางแผน คนฟังก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเข้าไปอยู่ในหัวใจเขา เพราะว่ามันถูกวางแผนมาหมดแล้ว ก็แค่การตลาดอย่างหนึ่ง ถ้าวางให้ฮิตมันก็ฮิต แต่ผมเชื่อว่ามันจะฮิตได้ไม่ยั่งยืน ผมก็คิดว่าโลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จ สูตรสำเร็จก็คือคุณต้องทำให้เจ๋งจริงๆ คุณต้องฝึกหนักจริงๆ น่ะ ร้อยเพลงอาจจะออกมาสักเพลงก็ได้ทำหนักเข้าไว้ครับ" ... "มันก็ทำให้เราเป๋เหมือนกันนะครับ บางทีที่พอมีคน Press เรามากๆ เนี่ย สิ่งที่อันตรายที่สุดคือเราหลงทางจากสิ่งที่เราทำจริงๆ สมมุติว่าตอนแรกเราอยากจะทำดนตรีเพื่อที่จะทำให้เพลงเจ๋งที่สุดเท่าที่เราจะ ทำได้ใช่ไหมครับ เมื่อมีคน Press เยอะๆ เราก็ชอบ เราก็ไปติดใจ มันก็เลยเป๋ไปว่าเราอยากจะทำเพลงเพื่อให้คนชมเยอะที่สุด ซึ่งก็ต้อง Balanceกันพอสมควร" ... "พอเราเริ่มที่จะทำเพลงเพื่อที่จะให้คนชม เพื่อให้คนชอบ เพื่อให้คนคิดยังไงกัน แต่ว่าไอ้ความตั้งใจเดิมของเราก็ยังอยู่ในตัวอยู่นะ ความตั้งใจที่ว่าเราอยากจะทำเพลงให้เจ๋งที่สุด มันก็เลยขัดแย้งในตัวเองอย่างสุดยอดเลยล่ะ อะไรดีวะเนี่ยแล้วก็เครียด ผมว่าวิธีรับมือก็คือต้องกลับสู่รากเหง้าว่าเรามาถึงจุดนี้ได้เพราะว่าความ ตั้งใจไหน แค่นั้นเอง" ... "ซึ่งความตั้งใจดั้งเดิมของผมคือความตั้งใจที่จะทำเพลงมากกว่าที่จะ ทำให้คนชอบ คือเราทำเพลงแล้วมีคนมาชอบ ไม่ใช่คนมาชอบเรา แล้วเราค่อยทำเพลง ซึ่งตอนนี้ก็พยายาม Balance อยู่ครับ มีคนชมอีกก็ดีนะ ก็ต้องรู้สึกดีอยู่แล้วล่ะคนเรา แต่ก็ต้องกลับมาดูว่าอะไรสำคัญกว่า คนชมหรือว่าใจเรา สมมุติว่าเราทำเพลงแล้วคนชอบ อย่างเพลงทฤษฎีสีชมพูเป็นเพลงที่คนชอบ แต่ผมไม่ชอบเลย มันฮิตไปก็เท่านั้นน่ะ ผมรู้สึกอย่างนั้นไง แต่ว่าถ้าทำให้เราชอบด้วยแล้วเขาชอบด้วย ก็ยากนะ แต่ถ้าทำได้เราก็จะมีความสุขทีเดียวครับ" ... "ผมไม่ได้ตลกนะครับ แต่ผมเป็นคนกวนตีนมากกว่า อย่าเรียกว่าตลกเลยครับ ผมว่าเอาเข้าจริง 'บอย โกสิยพงษ์' ก็ไม่ใช่คนโรแมนติกนะ(หัวเราะร่วน) ผมว่าเพลงไม่ได้บอกอะไรว่าเขาเป็นคนยังไงนะ ผมไปเจอวงเดธเมทัลเขาก็เป็นคนตัวหอมๆ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน น่ารัก ไม่ได้ฆ่าแมว บูชายัญอะไรแบบนั้น ผมว่าเพลงมันเป็นเหมือน Outer Ego ของเราน่ะ คือเราอาจจะไม่ใช่คนที่ชีวิตแบบนี้ แต่ว่าเราก็มีอักด้านนึงที่เป็นแบบนี้ ชีวิตจริงเราก็ไม่ได้ใช้แบบนั้น แต่เราเอาออกมาในงานของเรา" ... "ถ้าฟังเพลงจริงๆ เพลงของผมก็จะมีความกวนตีนอยู่พอสมควร จะมีแอบกวนตีนอยู่ทุกเพลงครับ ลืมไปก่อน คนที่คุณก็รู้ว่าใคร หรือเพลงความคิดก็แอบกวนตีนนะ(หัวเราะ) จะมีความเกรียนอยู่เสมอนะครับ ถ้าลองจับดีๆ" ... "สิ่งที่เราทำไปทั้งหมดในวันนี้ มันไม่ใช่แค่การทำเพลงแล้วในยุคนี้น่ะครับ มันคือการ Branding แล้ว ผมคิดว่าทุกเพลงที่พวกเราทำ มันไม่ใช่สินค้าของเราแล้ว สินค้าของเรามันคือเรา ส่วนเพลงมันคือ Advertising ของเรา ผมก็คงจะต้อง Branding ตัวเองให้แข็งแรงด้วย (หัวเราะ) แล้วก็ต้อง Balance ตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าการที่พยายามทำเพลงรัก ทำเพลงอกหัก แล้วมันได้เป็นเพลงฮิต มันไม่พอสำหรับการ Branding อีกแล้ว" ... " เพราะว่าคนยุคนี้คนไมได้ซื้ออัลบั้ม โอเค คนล้านคนรู้จักเราด้วยเพลงเพลงเดียวหรือสองเพลงที่ฮิต แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่มันจะอยู่ต่ออย่างยั่งยืนมันคือคนที่อาจจะแค่หมื่นสองหมื่นคนที่เป็นแฟนเราจริงๆ ซึ่งเขาอาจจะต้องการมากกว่าแค่เพลงที่ฮิตน่ะ ผมคิดว่าเราอาจจะต้อง Serveคนกลุ่มนี้ด้วยการทำเพลงที่ไม่ใช่แค่เพลงอิตแล้ว มีเพลงที่มันทรงคุณค่าขึ้น อาจจะมีเพลงที่ปล่อยไปแล้วตั้งใจไม่ฮิต แต่ตั้งใจสร้างแบรนด์" ... "นักแต่งเพลงสไตล์กวนตีนแบบไม่รู้ตัว คือคนฟังไม่รู้ตัวว่าโดนกวนตีนอยู่ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร กวนเงียบน่ะครับ" ... "อยากให้เพลงฮิต อย่าคิดถึงทางลัด" 'แสตมป์ อภิวัชร์' เขาบอกมา... โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ตัดมาบางส่วน ^^ ถ้าจะอ่านต่อแบบเต็มๆเชิญได้ที่นี่ ค่ะ
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2556 | | |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2556 15:02:50 น. |
Counter : 1839 Pageviews. |
| |
|
|
|