ผมเห็นเด็กหนุ่มคนนี้ครั้งแรกที่สนามกอลฟ์ เพราะได้ไปร่วมงานหาเงินสมทบทุนสมาคมนิสิตเก่าสถาปัตย์ จฬาฯ
ตอนนั้นเด็กหนุ่มคนนี้ยังเรียนอยู่ประมาณปีสองหรือปีสามนี่แหละ
เขามากับรุ่นพี่คนหนึ่งเล่นกีต้าร์แล้วก็ร้องเพลงประสานเสียงกันอยู่ตามซุ้มขายน้ำ ...สองคนเล่นเพลงดังๆในยุคนั้น ร้องไปทักพี่ๆไปเพื่อสร้างบรรยากาศ รุ่นพี่คนไหนอยากทิปสมทบทุนเพิ่มก็โยนเหรียญหรือแบงค์ให้
ผมจำได้ว่าผมถามชื่อรุ่นน้องสองคนนี้เพราะเห็นประสานเสียงกันกลมดี
คนหนึ่งชื่อเม้ง อีกคนหนึ่งชื่อ แสตมป์
...
แล้วผมก็เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ตามงานต่างๆของคณะ ผมว่าผมชอบเด็กหนุ่มคนนี้นะ
รวมไปถึงเพิ่งมารู้ว่าเขาเป็นอดีตหนึ่งในสมาชิกวงเซเว่นซีน เล่นเพลงร็อคแนวๆ ไม่ถึงกับหนักมาก แต่น่าสนใจ
วงเซเว่นซีนเคยมานั่งคุยกับผม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นกันทีหนึ่งในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง ชัท หนึ่งในสมาชิกเซเว่นซีนเป็นคนแต่งเพลงเอก"ดั่งนิยาย" ให้กับละครเวทีชายกลาง เพลงในฉากที่คนดูอาจร้องไห้อย่างไม่รู้ตัว
...
เมื่อตอนคณะสถาปัตย์ครบรอบ72ปี สมาคมฯได้จัดการแสดงหาทุนชื่อครบเด็กสร้างบ้าน งานนั้นเป็นการรวบรวมศิษย์เก่ากันอย่างคึกคัก ซูโม่มาครบ ลูกทุ่งสถาปัตย์ก็มา เฉลียงก็มา ผมแต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึกของการกลับมาคณะ ครั้งแรกผมตามแสตมป์ให้มาอัดเสียงเพื่อลงในซีดีที่จะขายและเป็นไกด์ให้พี่ๆได้ร้องในฉากฟินาเล่ แสตมป์ออกตัวว่ายังไม่กล้าร้องเพราะตัวเขาเองยังเรียนไม่จบ คนที่ร้องเพลงนี้ควรเป็นศิษย์เก่า เพราะเนื้อเพลงมันพูดถึงการกลับมาสถาบันที่เรารัก ผมยังแซวว่าสงสัยกลัวเป็นเคล็ดที่ทำให้เรียนไม่จบ ในครั้งนั้นเลยได้น้องโถ รุ่นน้องที่คุ้นเคยกันมาบันทึกเสียงให้
...
แต่ถึงแสตมป์จะไม่ร้องเพลงนี้ ผมก็ยังหาเรื่องอยากได้เสียงแสตมป์มาอัดเสียง เลยชวนเขามาอัดเสียงประสานให้เสียงพี่เกี๊ยงในเพลงจามจุรีศรีจุฬา
วันอัดเสียงผมยังจำได้ว่า อัดกันที่ห้องอัดที่เมืองทอง เสร็จตอนค่ำๆ แสตมป์ยังติดรถผมออกมาลงที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกแท็กซี่ ไม่รู้สิ ตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ หลังจากรถผมเลยมาแล้วผมได้มองกลับไป ผมว่าผมเห็นศิลปินคนสำคัญในอนาคตยืนอยู่ริมฟุตบาธนะ
...
แต่หลังจากที่แสตมป์เรียนจบแล้ว ก็ให้สบโอกาสตามแสตมป์มาบันทึกเสียงเพลง"มีบางสิ่งบางอย่างนำทางให้เรากลับมา"อีกทีตามที่ผมตั้งใจไว้ เพลงนี้อยู่ในชุดเปลี่ยนฉาก ถึงตอนนั้นแสตมป์เริ่มมีเพลงของตัวเองที่เป็นที่รู้จักกันบ้างแล้วหลายเพลง ผมชอบเพลงของเขา
...
แล้ววันที่ผมได้ร่วมงานกับแสตมป์อย่างเต็มฝีมือของเขาก็คือ วันที่ผมทำ"ยักษ์" ผมบอกกับทีมงานเลยว่าอยากได้เด็กหนุ่มคนนี้มาแต่งเพลงเอกให้ หลายคนในทีมรวมทั้งแสตมป์ถามผมว่าทำไมพี่จิกไม่แต่งเอง
ผมตอบไปสนุกๆว่า ไม่อยากทำเองทั้งหมดเดี๋ยวเครดิตขึ้นชื่อเยอะไป
แต่เหตุผลจริงๆและลึกๆแล้ว ผมอยากได้ลายมือของเด็กคนนี้ในหนังเรื่องนี้ ผมชอบลายมือเขา แล้วผมก็ได้เพลงเกิดมาเป็นเพื่อนเธอประกอบหนังเรื่องนี้อย่างสมใจ แถมในหนังแสตมป์ยังมาช่วยร้องเพลงประกอบที่ผมแต่งอีกเกือบทั้งเรื่อง
...
แสตมป์เป็นเด็กน่ารัก มีน้ำใจ มองโลกงดงาม และเสมอต้นเสมอปลาย มุมมองเขาในเพลงน่าทึ่ง
ใครเห็นเขาได้คุยกับเขาจะรักเขา ยิ่งมาเป็นโค้ชในเดอะว๊อยซ์ยิ่งมีแต่คนรัก และมีชื่อเสียงออกไปในวงกว้างกว่าเดิม
ในความเห็นผม ในยุคนี้นักร้องที่เป็นนักแต่งเพลงเองคงหาใครเทียบเขายาก
...
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเห็นว่านักร้องนักแต่งเพลงดังแห่งยุคนี้คนนี้กับเด็กหนุ่มที่ยืนรอแท๊กซี่อยู่ริมถนน เป็นคนๆเดียวกัน
จาก FB ของพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์
Tuesday, February 5, 2013 at 12.25pm