.
#StampApiwat in #สีสัน ปีที่ 22 ฉบับที่ 1 - 2553
.
"ผมว่าคนเรามันต้องลองไปเรื่อยๆนะ" - แสตมป์ อภิวัชร์ กล่าวไว้ ...
.
"...มันเป็นความกดดันในใจเราเองที่เราอยากจะได้เหมือนที่เคยได้ อยากจะสำเร็จอย่างที่เราเคยสำเร็จ อันนี้ก็เป็นข้อกดดันข้อเดียวที่บีบเรามาตลอด ซึ่งเราพยายามมากเท่าไหร่มันก็ไม่สำเร็จ ก็เลยปลงได้ว่า เราแต่งเพลงแบบ'ความคิด'ไม่ได้อีกแล้ว การแต่งให้มันเป็นที่สุดคงมีได้แค่เพลงเดียว..."
"ถ้าอ่านเนื้อในชุดนี้จะรู้ว่ามันเขียนขึ้นมาด้วยความที่ปลงแล้ว ด้วยความที่มันได้ผ่านความกดดันมา มันเลยกลายเป็นคิดน้อยลงกลายเป็นแบบช่างมันเถอะ แล้วมันทำให้เราได้ใช้พลังแฝงจริงๆ ด้วยความที่เหมือนมันมีความคิดหนึ่งที่โผล่ขึ้นมา เขาบอกว่ามันไม่มีทางที่จะทำเพลงได้ดังกว่าเพลง 'ความคิด' อีกแล้วน่ะ ก็ไม่ต้องทำแล้วกัน ไม่ต้องพยายาม เพราะตอนที่แต่งเพลงนี้ มันมาโดยไม่ได้มีความคาดหวังอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งมันออกไปแล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันจะดังด้วย เพราะรู้สึกว่ามันยาก"
เออ ชั้นก็เคยคิดงี้นะ ว่าแตมไม่มีทางทำเพลงได้ดีกว่านี้อีกแล้ว //แต่ไม่ใช่กับ "ความคิด" นะ ^^ ชั้นคิดงี้กับ "แอนิเมชั่น" ว่าคงไม่มีแบบนี้อีกแล้ว //เหะๆ
"การที่จะทำให้เพลงอยู่ไปนานๆผมมองว่ามันควรจะต้องเป็นเพลงที่ลึกซึ้ง เราฟังแล้วรู้สึกกับมันจริงๆ คือเป็นเพลงที่เอาเรื่องมาเขียนแล้วมันมี fact ในนั้น มี fact ที่ฟังเมื่อไหร่ก็ดี อย่าง 'Season Change' มันเป็นเพลงที่ฟังเมื่อไหร่ก็จริงน่ะ เพราะว่ามันจริงใจ มันไม่ได้ถูกเสแสร้ง ผมว่าเพลงที่จริงใจสุดๆน่ะมันจะอยู่นาน"
"ทุกครั้งที่ผมขึ้นคอนเสิร์ท ผมจะเป็นคนที่อ่อนแอพอสมควร คือถ้าคนบางคน ขึ้นไปบน stage แล้วคนไม่สนใจหรือคนฟังแต่ไม่ตบมือดังน่ะ ผมรู้สึกว่ามันจะเป็นความรับผิดชอบของผมที่จะต้องทำให้เขาสนใจตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้มันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมโคตรเหนื่อยในการออกมายืนข้างหน้าก็ได้ เพราะผมต้องรับผิดชอบความรู้สึกของคนดูมาไว้ที่ผมแล้วผมต้องตอบแทนเขาให้ได้ เพราะถ้าคืนนี้ผมเอาคนดูไม่อยู่ผมต้องกลับไป fail ผมก็จะซัดมุขไปทุก 5 นาที ซึ่งสมองผมก็ต้องคิดตามอยู่ตลอด 'เอายังไงดีวะ' (หัวเราะ) มันทำงานหนักเลยครับ แต่พอเวลาเพลงมามันก็จะปล่อยนะ แต่พอหยุดปั๊บ 'จะยังไงดีวะ' จะเข้าเพลงต่อไปยังไง"
เออ นางซีเรียสจริงแฮะ 555
วันนี้มีไปรษณีย์มาส่ง CD มาส่งหนังสือ ... เลยรู้สึกเหมือนได้ของขวัญคริสต์มาสเรย >_<
ป.ล. นี่เขียนไว้คืนอีฟ ^^ แต่เพิ่งเอามาแปะ