|
ใบอนุญาติข่มขืน
สุภัตรา ภูมิประภาส และเพ็ญนภา หงษ์ทอง. (ผู้แปล). (พิมพ์ครั้งที่ 3). (2545). ใบอนุญาตข่มขืน: บันทึกการทารุณกรรมทางเพศในรัฐฉาน (Licence to Rape The Burmese Military Regimes Use of Sexual Violence in the Ongoing War in Shan State. กรุงเทพฯ: สภาเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งเอเชีย. 232 หน้า เป็นที่ทราบและยอมรับโดยทั่วไปในสังคมเมืองเชียงใหม่ปัจจุบันนี้ว่าชนชั้นแรงงานที่ทำงานตามสถานที่ต่างๆในจังหวัดมีชนกลุ่มน้อยชาวไทใหญ่ และชนชายขอบกลุ่มอื่นๆ จากประเทศพม่าจำนวนมากอพยพเข้ามาขายแรงงานทั้งที่ถูกกฎหมาย และผิดกฎหมายในบ้านเรา หนังสือใบอนุญาตข่มขืน ซึ่งจัดทำโดยสภาเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งเอเชีย ได้รายงานความจริงจากรัฐฉานให้เราได้เข้าใจว่าเหตุใดหญิงสาวชาวไทใหญ่จำนวนมากตัดสินใจอพยพเข้ามาทำงานในประเทศไทย หนังสือใบอนุญาตข่มขืนบอกกล่าวให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึงสถานการณ์การก่ออาชญากรรมทางเพศที่เกิดขึ้นในรัฐฉานซึ่งเป็นรัฐของชนกลุ่มน้อยชาวไทใหญ่ รายงานฉบับนี้บันทึกชะตากรรมของสตรีและเด็ก 625 คนผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อของการข่มขืนและทารุณกรรมทางเพศในรูปแบบอื่นๆ ที่กระทำโดยสมาชิกของกองกำลังทหารพม่าที่ถูกส่งเข้ามาประจำการในรัฐฉาน เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นระหว่างปีพ.ศ. 2539 - 2545 โดยรายงานฉบับนี้ให้หลักฐานที่ชัดเจนว่า การข่มขืน ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการและกว้างขวางในหมู่นายทหารของฝ่ายพม่า การข่มขืนผู้หญิงและเด็ก เปรียบเสมือนอาวุธสงครามชนิดหนึ่งที่ฝ่ายกองกำลังพม่าเลือกปฏิบัติกับชนกลุ่มน้อยชาวไทยใหญ่ และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันมิให้ประชาชนชาวไทใหญ่เข้าไปสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติของชาวไทใหญ่ในรัฐฉาน ในช่วง 10 ปี หลังมานี้รัฐบาลทหารพม่าได้เพิ่มจำนวนกองพันทหารเข้าไปปฏิบัติการควบคุมและปราบปรามกองกำลังกู้ชาติในรัฐฉานเป็นจำนวนมาก กล่าวกันว่าเป็นจำนวนถึง 1 ใน 4 ของกองทัพทหารพม่าทั้งประเทศ และนี่ก็เป็นประเด็นที่สำคัญว่าสถิติของการข่มขืนผู้หญิงและเด็กในรัฐฉานนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนในรัฐฉานเข้าไปร่วมสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติไทใหญ่ รัฐบาลทหารพม่าได้ออกมาตรการอพยพผู้คนรอบนอกประมาณ 300,000 คนให้มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณตอนกลางของรัฐฉานซึ่งเป็นทำเลใกล้กับที่ตั้งค่ายทหารพม่า และหากประชาชนหลบหนีออกไปนอกอาณาเขตที่กองทัพได้บอกล่าวไว้ให้ถือว่าพื้นที่นั้นเป็นเขตยิงเสรี ทหารมีสิทธิ์ยิงประชาชนได้ทันที แต่ถึงอย่างไรก็ตามปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ปฏิบัติการท้าทายอำนาจทหารพม่าเป็นจำนวนกว่า 150,000 คน พวกที่โชคดีก็สามารถหลบหนีเข้ามาทำมาหากินเป็นแรงงานเถื่อนในประเทศไทยได้ ส่วนคนที่โชคร้ายถูกพบเจอระหว่างทางก็ต้องเสียชีวิตจากการฆาตรกรรมอันทารุณจากกองกำลังทหารพม่า เช่น จับผู้ชายทุบและเผาทั้งเป็น ในขณะที่ผู้หญิงจะถูกนำมาข่มขืน บางกรณีอาจโดนรุมโทรมและในที่สุดก็ถูกฆ่าทิ้งด้วยวิธีการอันป่าเถื่อนและไม่เกรงกลัวต่อความผิด เช่น การเฉือนหน้าอก อวัยวะเพศฉีกขาดจากการข่มขืน และถูกทุบตีจนตาย แม้กระทั่งเด็ก คนแก่ หรือสตรีตั้งครรภ์ก็ไม่ได้รับการยกเว้น ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ การทิ้งศพเพื่อประจาน ความเจ็บปวดที่เกิดทางร่ายกายไม่เจ็บปวดเท่าจิตใจที่บอบช้ำของชาวบ้านที่บริสุทธิ์ สังคมชาวไทใหญ่ยกย่องเพศชายให้เป็นใหญ่ในสังคมและครอบครัว ทำให้เรื่องราวการถูกข่มขืนของสตรีในครอบครัวเป็นเสมือนดั่งความผิดที่เธอเหล่านั้นเป็นผู้เลือกกระทำด้วยความยินยอม ผลที่ตามมาคือ บรรดาหญิงสาวที่ถูกข่มขืนจะถูกสังคมประณามและถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน พร้อมทั้งถูกด่าว่าเป็นของเหลือเดนจากพวกทหารพม่า ดังเช่นกรณีของนางนาเล ที่ถูกทหารพม่าข่มขืน และเธอได้บันทึกให้ปากคำไว้ดังนี้ ฉันอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆกับสามีและลูก 2 คน กับวัวและควายที่เราเลี้ยงไว้ วันเกิดเหตุสามีพาลูกเข้าไปในป่าเพื่อล่านก ปล่อยให้ฉันอยู่บ้านคนเดียว ทหารเอสพีดีซีคนหนึ่งจากกองพันทหารราบเคลื่อนที่เร็วที่ 333 ประจำการอยู่ที่เมิงสาดบุกรุกเข้ามาในบริเวณบ้านและขโมยกล้วยของเราไป แม้ฉันจะพูดภาษาพม่าได้ไม่ดีนัก แต่ก็พยายามที่จะขอกล้วยคืนมา ฉันตะโกนเรียกสามี แต่เขาอยู่ไกลเกินกว่าที่จะได้ยิน ทหารคนนั้นเข้ามาฉุดและเตะขาจนฉันล้มลงไปที่พื้นแล้วคว้าขาฉันไว้ ฉันพยายามจะหนีแต่มันแข็งแรงกว่า มันข่มขืนฉันถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง พอสามีกลับมาบ้าน ฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง เขาโกรธมากและทุบตีฉัน การที่ฉันถูกข่มขืนกลายเป็นความผิดฉัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างฉันกับสามีและลูกๆแย่ลงมาก ทุกวันสามีกับลูกๆจะพูดว่า นังโสเภณีถ้าอยากจะขายตัวนักเราจะไปสร้างกระท่อมเล็กๆให้กลางป่าแกจะได้ขายตัวที่นั่นได้ ฉันเจ็บปวดมากกับคำพูดเหล่านี้ สุดท้ายฉันไม่สามารถทนอยู่ได้ต่อไป ฉันหย่ากับสามี แต่เมื่อฉันกลับไปเยี่ยมลูก พวกเขาพูดกับฉันว่า อีกะหรี่ แกไม่ใช่แม่ของพวกเราไม่ต้องมาเยี่ยม แล้วพวกเขาก็ไล่ฉันออกมา ฝ่ายสามีก็ดูถูกว่า แกมันร่าน ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง อยากนอนกับผู้ชายอื่น แกไม่ใช่เมียฉันอีกต่อไป ออกไปให้พ้นบ้านสุดท้ายฉันจึงตัดสินใจมาอยู่ประเทศไทย ในตอนท้ายของหนังสือได้มีการเสนอแนวทางแก้ปัญหาของสภาเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาแห่งเอเชียว่าต้องการแก้ไขปัญหานี้โดยทางใดบ้าง เพราะการที่ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้อพยพเข้ามาในไทยนั้นยังไม่ใช่บทสรุปของปัญหา หากแต่เป็นการเริ่มต้นของปัญหาใหม่ ชาวไทใหญ่จำนวนมากที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมายถูกตำรวจไทยจับได้และส่งกลับไปพม่า มันเหมือนกับว่าเราได้ส่งพวกเขากลับเข้าไปอยู่ในนรกอีกครั้ง มีรายงานว่าตำรวจไทยจับสตรีชาวไทใหญ่ 2 คน อายุ 17 และ 18 ปี ที่ลักลอบเข้ามาในไทยได้และส่งกลับไปพม่า วันรุ่งขึ้นที่ตลาดชายแดนไทยพม่า แม่ค้าร้านอาหารคนหนึ่งบอกว่า มีทหารพม่ามาพูดกันว่าผู้หญิงไทใหญ่ที่ถูกส่งกลับพม่า 2 คนนั้น ถูกนำไปขังไว้ และถูกข่มขืนเป็นเวลา 4 วันก่อนที่จะถูกฆ่าตาย หนังสือเล่มนี้สะท้อนให้เราได้เห็นปัญหาของชนกลุ่มน้อยในรัฐฉาน ประเทศพม่าว่าสถานการณ์ภายในเป็นอย่างไร และในฐานะที่เป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกับไทยเราจะสามารถช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบผู้อ่านได้ข้อสรุปทันทีว่า โชคดีแค่ไหนที่เราได้เกิดมาบนแผ่นดินไทย
Free TextEditor
Create Date : 07 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 7 มิถุนายน 2552 14:59:34 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1151 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 8 มิถุนายน 2552 เวลา:7:31:29 น. |
|
|
|
โดย: PPP IP: 210.203.179.130 วันที่: 3 สิงหาคม 2552 เวลา:23:32:45 น. |
|
|
|
โดย: โอปอล IP: 182.232.91.222 วันที่: 24 กันยายน 2553 เวลา:18:58:13 น. |
|
|
|
| |
|
|