โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

"Dek-D.com" ธุรกิจพลพรรค "คอซอง"

จีราวัฒน์ คงแก้ว cheerawat @ nationgroup.com

ระยะเวลาเพียง 7 ปี "Dek-D.com" สร้างฐานสมาชิกเวบไซต?สูงถึง กว่า 84,000 คน มีผู้เข้าชมเฉลี่ยวันละ 70,000 คน และอีกกว่า 1,200,000 เพจวิวต่อวัน ติดอันดับ Top 10 เวบไซต์ที่มีผู้เข้าชมสูงสุดของประเทศ ยาวนานกว่า 5 ปีเต็ม โฆษณา 5-6 ชิ้นต่อเดือน ทำกำไรทุกปียกเว้นปีแรก มีงานเขียนกว่าแสนเรื่อง และได้รับการตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 200 เล่ม ในระยะเวลาไม่กี่ปี



...ผลงานเด็กขาสั้น คอซอง ฝีมือระดับ "พระกาฬ"

รับทราบความสำเร็จของเวบไซต์ "เด็ก-เด็ก" เวบนี้แล้ว คงไม่มีใครกล้าปรามาสพวกเขา หรือทิ้งให้เป็นม้านอกสายตาอย่างแน่นอน

ถึงชื่อจะละอ่อน ผู้บริหารก็ล้วนแต่ทิ้งคอซองมาได้ไม่นาน แต่วิสัยทัศน์และประสบการณ์บนเวทีออนไลน์ ทำให้ม้าที่เคยอยู่นอกสายตาตัวนี้แข็งแกร่ง และพร้อมจะก้าวขึ้นแท่นผู้นำได้ตลอดเวลา

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณต้นปี 2542 กลุ่มเพื่อนซี้ชั้นม.5 จากรั้วสวนกุหลาบวิทยาลัย นำโดย "โน้ต" วโรรส โรจนะ "ปอนด์" ปกรณ์ สันติสุนทรกุล "เต้" สรวงศ์ ดาราราช และ "แชร์" สุปิติ บูรณวัฒนโชค ที่กำลังนึกสนุก อยากทำเวบไซต์เพื่อเด็กอย่างพวกเขาขึ้นมา เพื่ออุดช่องว่างเวบส่วนใหญ่ที่เน้นสนองผู้ใหญ่เป็นสำคัญ แน่นอนว่าโลกของเด็ก เด็กเท่านั้นย่อมรู้ดีว่าพวกเขาต้องการอะไร

"ในตอนที่คิดคอนเซปต์กัน พวกเราก็ตั้งคำถามขึ้นมาว่า วัยรุ่นสนใจเรื่องอะไร ซึ่งก็คงไม่พ้น การพูดคุยกัน เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก และเพศตรงข้าม รวมถึง การเรียน การสอน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย และความบันเทิงต่างๆ เราจึงมองที่จะเป็นเวบซึ่งนำเสนอทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็กวัยรุ่น และที่สำคัญต้องเป็นประเด็นที่มีแต่เวบเราเท่านั้น" ปอนด์-ปกรณ์ เป็นตัวแทนของเพื่อนๆ บอกกับเรา

กรอบที่วางไว้ นำมาสู่จุดยืนสำคัญของเวบไซต์ตั้งแต่แรกเริ่ม อย่างการสร้างสังคมออนไลน์ (Online Community) สำหรับกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน ในลักษณะ Edutainment (Education + Entertainment) ที่โดดเด่นทั้งเรื่องการศึกษาและความบันเทิง โดยใช้ชื่อ "เด็กดี" มาตั้งแต่นั้น พวกเขาบอกว่า "เด็ก" คือเน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก และ "ดี" คือสิ่งที่นำเสนอต้องเป็นในเชิงสร้างสรรค์ด้วย

ความสนุกเริ่มเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา เมื่อแต่ละคนกระจายกำลังกันออกไปศึกษาการทำเวบไซต์เพิ่มเติม แบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ ทั้งเรื่องการดีไซน์หน้าตา การเขียนเวบไซต์ รวมถึงการวางคอนเซปต์ต่างๆ เรียกว่า ค่อยๆ ก่อประกอบขึ้นมา จนได้ //www.dek-d.com (เด็กดีดอทคอม) ในที่สุด

เพราะยังเป็นเด็กม.ปลาย พวกเขาไม่สามารถทุ่มงบโฆษณาหนักหน่วงได้ จึงใช้วิธีบอกเล่าแบบปากต่อปาก เริ่มจากแนะนำเพื่อนๆ โรงเรียนเดียวกัน ให้มาพูดคุยในเวบไซต์ของพวกเขา เมื่อความสนุกโดนใจและได้สาระอย่างที่ต้องการ การแนะนำเริ่มจากปากต่อปาก จากปีแรกมีเพื่อนคลิกเข้ามากว่า 100 คน ก็เพิ่มเป็นหลักพัน จนปัจจุบันมียอดฮิตเกือบแสนคนต่อวัน

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับเว็บเด็กดี ส่วนหนึ่งมาจาก การวางคอนเซปต์ที่ตอบโจทย์วัยรุ่นได้สนิท พวกเขาพัฒนาหน้าตาของคอลัมน์ ให้ตอบสนองความสนใจ และความสะดวกในการใช้งาน บนพื้นฐานของ Edutainment Online Community Website ที่สมบูรณ์แบบ

โดยแบ่งเป็นทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ สาระความรู้ที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน ข้อมูลที่เกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย เคล็ดลับที่น่าสนใจต่างๆ พร้อมแนะนำคณะที่เรียน และโอกาสในชีวิตงาน

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของเวบเด็กดีคือการสร้างสังคมออนไลน์ขึ้นมา โดยพวกเขาเปิดเวทีให้เด็กๆ ได้มาแนะนำตัวเองบนเวบไซต์ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของตนเอง มีเวทีให้ Chat พูดคุยกัน และ MSG Zone สําหรับสมาชิกที่ต้องการหาเพื่อนคุย

ฐานสาวกเวบไซต์กลุ่มนี้ ได้สร้างกระแสบอกต่อ และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเวบเด็กดีมาตั้งแต่ต้นแล้ว

ความสำเร็จหนึ่งของสังคมที่สร้างขึ้น คือการเป็นช่องทางสำคัญของนักเขียนหน้าใหม่ที่จะได้นำเสนอผลงานของตนเองสู่สาธารณชน ด้วยการเปิดคอลัมน์ Writer สำหรับนักเขียนออนไลน์ โดยมุ่งให้เป็นสังคมสำหรับผู้รักการเขียน และการอ่าน เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้มาใช้เวทีนี้แต่งบทความ เรื่องสั้น นวนิยาย รวมไปถึงสาระความรู้ต่างๆ พร้อมเปิดโอกาสให้คนอ่านได้ติชมผลงาน และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ด้วย

และกระแสของคอลัมน์นี้จุดปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อ "เดอะไวท์โรด" นวนิยายแฟนตาซีเรื่องหนึ่งของเวบที่เคยติดชาร์ทอันดับ 1 จากฝีมือของ "ดร.ป๊อป" เด็กชายวัยเพียง 14 ปี ในขณะนั้น ได้รับการตีพิมพ์ และทำให้เด็กคนดังกล่าวมีชื่อเสียงขึ้นมาในชั่วข้ามคืน หลังจากนั้นก็ทำให้เด็กที่ฝันอยากเป็นนักเขียน และสำนักพิมพ์ต่างๆ หันกลับมาสนใจโลกของพวกเขามากขึ้น

จนอาจเรียกได้ว่า เวบไซต์เด็กดี มีส่วนสำคัญในการจุดกระแสวรรณกรรมเยาวชนในปัจจุบันเลยก็ว่าได้

"โน้ต" วโรรส บอกกับเราว่า จุดเด่นสำคัญที่ทำให้เด็กๆ เลือกเขียนเรื่องที่เว็บนี้ คือความอิสระ สามารถแก้ไขเรื่องเมื่อไรก็ได้ โดยออกแบบการใช้งานเวบไซต์ ให้เด็กๆ สามารถอัพเดทเรื่อง ได้เอง และจะแก้ไขเรื่องเมื่อไรก็ได้ รวมถึงใส่จินตนาการได้กว้างไกลเพราะสามารถแต่งหน้าตาเวบได้ด้วยตัวเอง หรือใส่ตัวแสดงอารมณ์

นอกจากนี้เนื้อเรื่องที่ถูกใจคลับในเวบก็ช่วยส่งผลงานให้เข้าตาสำนักพิมพ์ ที่สำคัญ เด็กที่เขียนจะมีแฟนหนังสืออยู่กลุ่มหนึ่ง เมื่อได้รับการตีพิมพ์เรียกว่าสำนักพิมพ์ไม่ต้องทำตลาดมากนัก ก็มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน

สำหรับเวทีเสรีอย่างสื่ออินเทอร์เน็ต ที่เกรงจะมีเรื่องไม่เหมาะสมออกมา พวกเขาก็มีระบบกลั่นกรองเรื่องไว้แล้ว

"เรามีระบบกลั่นกรองเรื่องจาก ทั้งโปรแกรมเมอร์ และคนอ่าน โดยเพิ่มความยากสำหรับคนที่จะเข้ามาโพสต์เรื่อง ด้วยการที่ให้ต้องสมัครเป็นสมาชิก และมีข้อมูลที่พิสูจน์ได้เบื้องต้น จากนั้นก็จะมีทีมงานเข้าไปอ่าน ช่วยกลั่นกรองงาน ที่สำคัญคือจากคนอ่านนี่แหล่ะ เขาจะมีส่วนร่วมในการบอกว่าอะไรดีไม่ดี เราก็ดู เด็กก็ดู หลายๆ ทาง ช่วยๆ กัน"

ซึ่งตลอดที่ผ่านมา มีงานเขียนของเด็กๆ สูงถึงกว่าแสนเรื่อง สามารถผลิตผลงานตีพิมพ์ไปแล้วกว่า 200 เรื่อง โดยเฉพาะปีที่ผ่านมามีผลงานตีพิมพ์สูงถึงกว่า 100 เล่ม ในปีเดียว

แม้จะมีนักเขียนในเวบไซต์จำนวนมาก แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเองขึ้นมา โดยให้เหตุผลว่า อยากทำในสิ่งที่ถนัด และอยากเป็นเพียงคนกลางที่เชื่อมระหว่างนักเขียนและสำนักพิมพ์ โดยผลประโยชน์จะเป็นของเด็กและสำนักพิมพ์ไม่มีพวกเขาไปมีส่วนร่วมใดๆ ทั้งสิ้น

กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม จนติดอันดับ Top 10 ในฐานะเวบไซต์ที่มีผู้เข้าชมสูงสุดของประเทศ ยาวนานกว่า 5 ปีเต็ม ทำให้เด็กดีถูกจับตามอง อย่างกระชั้นชิด ผลพลอยได้สำคัญที่หล่อเลี้ยงพวกเขาในปัจจุบัน ก็คือรายได้ที่มาจากการโฆษณาของสินค้าต่างๆ

"หลังจากเวบไซต์เริ่มได้รับความนิยม โฆษณาก็เริ่มมีเข้ามา มีทั้งที่ลงแบบระยะยาว และสั้น มาแล้วไปก็มี หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกัน ซึ่งเราก็เลือกสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กเป็นหลัก อย่างพวกขนมขบเคี้ยว โทรศัพท์ มหาวิทยาลัย ซึ่งบางอย่าง เราก็บอกลูกค้าไปตรงๆ ว่าอะไรที่ไม่ได้ผลในการโฆษณาผ่านเวบของเรา และอย่างพวกหางานในเน็ต ยาลดความอ้วนพวกนี้เราไม่เอาเลย เพราะเด็กยังไม่รู้เท่าทันผู้ใหญ่ และเราก็อยากโตในระยะยาวจึงต้องระวัง เรื่องพวกนี้ให้มาก ซึ่งเวบเด็กดีมีโฆษณาเข้ามาตั้งแต่ปีที่ 2 ปัจจุบันเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 5-6 ตัว "

แม้จะสวมชุดครุยรับปริญญาไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ทั้งสองคนก็เลือกเวทีผู้ประกอบการใหม่สานฝันของตัวเองทันที ประเดิมเริ่มต้นกับการจดทะเบียน Dek-D Interactive ในรูปบริษัท พวกเขาบอกเราว่า ธุรกิจนี้เป็นสิ่งที่พวกเขารัก และเริ่มมันมาตั้งแต่ต้น ที่สำคัญ มันมีความเป็นไปได้ และมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ

"ที่ผ่านมาเราอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทำกำไรได้ทุกปี ยกเว้นปีแรก และ สินค้าต่างๆ เริ่มเห็นศักยภาพของสื่ออินเทอร์เน็ต ที่แตกต่างจากสื่อแบบเก่า จึงเข้ามามากขึ้น ที่สำคัญ เทรนด์ของฐานผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย เราจึงมองว่าตลาดนี้โตขึ้นแน่นอน และทุกธุรกิจจะมามองที่เทคโนโลยีใหม่กันหมด เราเองก็ต้องติดตามข่าวสาร ดูว่าเขามีอะไรใหม่ๆ พัฒนาไปถึงไหน เทคโนโลยีใดที่จะเข้ามาแทนที่เรา และอนาคตถ้ามีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาเราจะมีการปรับตัวอย่างไร ซึ่งปีนี้เราก็ลงทุนไปเยอะ เพื่อรองรับการเติบโตของเราต่อไป"

เมื่อก้าวสู่สังคมผู้ประกอบการ เวบเด็กดีที่โตมาจากการสนอง Need ในวัยเด็ก ก็เริ่มมองทิศทางการขับเคลื่อนของพวกเขา โดยเป้าหมายระยะสั้น ก็ต้องการเป็นเวบที่ได้รับการตอบรับจากเด็กวัยรุ่น ตอบโจทย์เด็กเจเนอเรชั่นวายได้ครบถ้วน พัฒนาการใช้งานให้สะดวก รวมถึงพัฒนาในเชิงลึกมากขึ้น และพยายามจะนำเสนอสินค้าหรือการโฆษณาให้สอดคล้องกับเด็กต่อไป

ส่วนเป้าหมายระยะยาว ก็มองที่จะต่อยอดธุรกิจนี้

"เรามีฐานสมาชิกของเด็กเยอะมาก มันสามารถไปต่อยอดธุรกิจได้ โดยมองที่จะหาพาร์ทเนอร์ เช่น จัดกิจกรรมขึ้นมา หรือทำสินค้าที่ตอบโจทย์เด็กได้ อย่าง การติว จัดอบรม พวกนี้เป็นต้น โดยเราก็ยังมองผู้ร่วมทุน ไม่ได้ปิดโอกาสตัวเอง แต่ต้องดูที่เงื่อนไขของแต่ละรายที่จะเข้ามาด้วย โดยมีข้อแม้ว่าเราจะต้องไม่เสียแบรนด์เด็กดีไป ยังคงความเป็นเด็กดีต่อไปอย่างนี้"

---------------------


ที่ผ่านมาเราอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทำกำไรได้ทุกปี ยกเว้นปีแรก และ สินค้าต่างๆ เริ่มเห็นศักยภาพของสื่ออินเทอร์เน็ต ที่แตกต่างจากสื่อแบบเก่า จึงเข้ามามากขึ้น

ที่มา : //www.bangkokbizweek.com / Small Biz - 03-11-2549


Create Date : 27 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2549 16:29:07 น. 0 comments
Counter : 542 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]