โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

หลักการอบรมแบบพุทธ

โกศล อนุสิม

ในช่วงเวลา 45 ปี ที่พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่ธรรมะเพื่อฝึกอบรมคนให้พ้นจากความทุกข์ พระองค์ทรงใช้วิธีการสอนหรือฝึกอบรมคนด้วยการวิเคราะห์คนๆ นั้น หรือคนกลุ่มนั้นๆ ก่อน โดยใช้พระญาณหยั่งรู้ ซึ่งมีเฉพาะในพระพุทธเจ้าทั้งหลายเท่านั้น เพื่อให้รู้ถึงพื้นฐานของคน ทั้งเรื่องความคิด ความเชื่อ ระดับภูมิปัญญา แล้วใช้วิธีการและหัวข้อธรรมะที่เหมาะสม อันจะทำให้ผู้ฟังได้ประโยชน์สูงสุด


คนแต่ละคนย่อมมีความคิด ความเชื่อและระดับภูมิปัญญาแตกต่างกัน กลุ่มคนก็เช่นกัน แต่ละองค์กร แต่ละเมือง แต่ละแคว้น แต่ละประเทศ ก็ย่อมมีลักษณะเฉพาะของตน ดังเช่นที่พระองค์ทรงสอนหลักกาลามสูตรซึ่งเป็นหลักของการใช้ปัญญาพิจารณาสิ่งต่างๆ ด้วยเหตุด้วยผล เป็นเสมือนหลักการทำวิจัยในเรื่องต่างๆ

เพราะทรงพิเคราะห์แล้วว่า ผู้คนกลุ่มนี้ เป็นสังคมนักปราชญ์ มีปัญญามาก จึงทรงใช้วิธีการของเหตุและผลมาสั่งสอน เมื่อผู้ฟังได้พิจารณาด้วยปัญญาแล้ว เห็นว่าสิ่งที่พระองค์ตรัสนั้นเป็นความจริงแท้ จึงเกิดความเลื่อมใส รับพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งในที่สุด

วิธีการที่พระองค์ทรงใช้ในการสอนหรือฝึกอบรมคนที่จะกล่าวในที่นี้ ครูบาอาจารย์คือ พระเทพดิลก (ระแบบ จิตญาโณ) ท่านได้อธิบายไว้ในหนังสือ อธิบายธรรมตามหมวดจากนวโกวาท ว่ามี 4 วิธี คือ

1. สันทัสสนา คือ การอธิบายเรื่องที่ทรงแสดงนั้นด้วยความชัดเจน แจ่มแจ้ง มุ่งให้ผู้ฟัง ฟังแล้วเข้าใจได้โดยทันที

2. สมาทปนา คือ การเชิญชวน ชักชวน ให้เห็นคล้อยตาม และติดตามเรื่องที่ทรงแสดงด้วยความสนใจ

3. สมุตเตชนา คือ การปลุกเร้าให้ผู้ฟังเกิดความอาจหาญ เชื่อมั่นในตนเอง มีความพร้อมที่จะศึกษาและปฏิบัติตาม

4. สัมปหังสนา คือ การทำให้ผู้ฟังมีความเพลิดเพลิน บันเทิงใจ ปลื้มใจ เมื่อฟังจบแล้วมีความประทับใจ นำไปสู่การปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายได้ในที่สุด

หากพิจารณาแล้วก็เห็นได้ว่า ทั้ง 4 ประการนี้คือหลักของการฝึกอบรม หรือการสอนที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย สำนักฝึกอบรมของกูรูทั้งหลายใช้กันเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

โดยแต่ละเรื่อง แต่ละกลุ่มคน แต่ละวัตถุประสงค์ อาจใช้วิธีหนึ่งวิธีใดใน 4 วิธีนี้ หรือใช้หลายๆ วิธีผสมผสานกันไป อาทิเช่น การฝึกอบรมเพื่อให้คนเกิดความรักความภักดีต่อองค์กร อาจต้องใช้วิธีที่ 2 และ 3 ผสมผสานกันเป็นหลัก การสอนเด็กๆ ในโรงเรียนให้เข้าใจในวิชาความรู้ อาจใช้วิธีที่ 1 และ 4 ผสมผสานกัน หรือในการฝึกอบรมนักขายทั้งหลายย่อมนิยมใช้วิธีการปลุกเร้าให้ผู้ฟังเกิดความฮึกเหิม อาจหาญ เชื่อมั่นในตนเองเป็นหลักใหญ่

แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ตาม หลักสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงทำเป็นตัวอย่างไว้ก็คือ อย่างแรก การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายเพื่อให้รู้พื้นฐานก่อน

และอย่างที่สอง การมุ่งประโยชน์ของผู้ฟังหรือผู้เข้ารับการฝึกอบรม

ถึงแม้ว่าบรรดากูรูทั้งหลายจะมาด้วยสัญญาจ้างที่มีค่าตอบแทน แต่ในขณะที่สอนย่อมจะไม่นำจำนวนค่าตอบแทนมากำหนดปริมาณความรู้ที่จะให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม นั่นย่อมหมายความว่า จะต้องให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรมอย่างเต็มที่เพื่อให้เขาได้ประโยชน์สูงสุด จึงจะเป็นกูรูแบบที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นแบบอย่างไว้แล้ว

ในโลกปัจจุบัน แม้วิทยาการทั้งหลายจะเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่มีปรากฏการณ์อีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นมาจนกลายเป็นกระแสหลักควบคู่ไปกับการพัฒนาความรู้สมัยใหม่

นั่นคือ การเรียกร้องหาศีลธรรมของมวลมนุษย์ ไม่ว่าจะในชื่อ ธรรมาภิบาล ความเป็นธรรม ความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน เสรีภาพ ความเสมอภาค ประชาธิปไตย เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยศีลธรรมจึงจะเกิดขึ้นได้ หากมนุษย์ทั้งหลายมีศีล 5 ข้อ มีธรรม 4 ข้อ คือ พรหมวิหาร 4 ที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและนำมาสั่งสอนนั้น ธรรมาภิบาล ความเป็นธรรม และ ฯลฯ ที่มนุษย์เรียกร้องและพยายามจะสร้างขึ้นมานั้น ย่อมจะเกิดขึ้นตามมา

องค์กรที่จะมีธรรมาภิบาลได้ ย่อมเป็นองค์กรที่มีศีลธรรม หากแม้นคนในองค์กรละเมิดศีลธรรม โดยการคดโกงองค์กรของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ย่อมป่วยการที่จะหาธรรมาภิบาลในองค์กรนั้น

สิ่งที่จะหาได้ก็คืออาชญากรทางเศรษฐกิจที่ต้องถูกลงโทษในที่สุด และมีหลายกรณีที่อาชญากรตัวใหญ่ๆ ที่บริหารองค์กรระดับโลก กระทำผิดโดยมีบริษัทที่ปรึกษาที่มีกูรูนอกคอกเป็นที่ปรึกษาคอยชี้แนะในการกระทำที่ไม่ชอบนั้นด้วย

ถึงแม้จะใช้วิธีทั้ง 4 ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ แต่ก็เป็นไปเพื่อสร้างความเสียหาย ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น เป็นมิจฉาทิฐิ นับว่าเป็นการละเมิดและบิดเบือนหลักการที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้โดยสิ้นเชิง

จึงขอเสนอไว้เพื่อท่านทั้งหลายพิจารณานำไปใช้ตามสติปัญญาของแต่ละท่านเทอญ

---------------------------------------


หากแม้นคนในองค์กรละเมิดศีลธรรม โดยการคดโกงองค์กรของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ย่อมป่วยการที่จะหาธรรมาภิบาลในองค์กรนั้น

ที่มา : //www.bangkokbizweek.com / 10-11-2549


Create Date : 27 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2549 16:10:24 น. 0 comments
Counter : 556 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]