ไก่ทอดซีอิ้ว (ส่งการบ้าน พี่บ่งบ๊ง ) ไก่ทอดซีอิ้ว (ส่งการบ้าน พี่บ่งบ๊ง ) เมื่อเช้าไปตลาดสด หนองบัว ที่อุบลมาค่ะ จำเป็นจะต้องออกไปแต่ เจ็ดโมง กลัวกับข้าวเปียก กับแม่ครัวเปียก ของที่ซื้อก็มีเนื้อหมู ปลานิล (กิโล หกขีด 110 บาท ดูแล้วไม่น่าถึง กิโลสี่ขีดก็ดีใจจะแย่แล้ว แม่ค้าที่นี่ ตาชั่งอ่อนมาก ) หมูเอามาหมักใส่เหล้ากับน้ำผึ้งทำเสต็ก มาถึงการบ้านที่จะส่ง พี่บ่งบ๊งดีกว่า ไก่ทอดซีอิ้ว //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jazzy-bong&group=6 ปีกไก่ประมาณ 300 กรัม น้ำมันประมาณ 1 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ สูตรนี้เราเคยลองทำทีนึงแล้ว แต่ใช้เป็นเนื้อปลานิล หั่นเป็นชิ้น คลุกแป้งข้าวโพดทอด แล้วเอามาคลุกน้ำซีอิ้ว จืดไปหน่อยเพราะไม่ได้ปรุงรสปลาตอนทอด มาคราวนี้ เราได้ไก่ทอดมา ทำตามสูตร พี่บ่งบ๊งเลย แอบเพิ่มซอสภูเขาสองช้อนไปหน่อย น้ำตาล เป็น ช้อนครึ่ง ที่บ้านมีหอมเจียว กับหอมใหญ่ เอามาเคล้าด้วย รอให้น้ำแห้ง แบบขลุกขลิก ค่อยยกขึ้น ราดข้าวร้อน ๆ อร่อยมาก แก้เซ็งวันสงกรานต์ ออกไปไหนไม่รอด บ่นให้คนที่ไปราชบุรีฟังว่า กินข้าวไม่อร่อยมาหลายวันแล้ว วันนี้เพิ่งกินอร่อย ขอบคุณพี่บ่งบ๊งมากเลยค่ะ จะเก็บสูตรไว้โชว์ฝีมือต่อไป แบ่งให้เจ้าก๋อย กับเจ้า บัสเกต ด้วย ท่าทางอร่อยมาก (ของหมาไม่ได้เอามาคลุน้ำซีอิ้วนะคะ ) อร่อยที่สุดเลยแม่ เดือนนึงจะได้กินทีนึง น้ำตาแทบหล่น ขอบคุณคุณครูมากนะคะ มอบดอกไม้ให้เป็นกำลังใจในการลงสูตรต่อไป ดอกกล้วยไม้ที่บ้านอุบล เดือนที่แล้วออกดอกค่ะ สูตรปลานึงซีอิ้วก็อร่อยมากค่ะ ดีที่บ้านมีบรั่นดี พี่ชมเปาะเลยค่ะ ว่าเนื้อปลาหวานมาก เราก็กินตามร้านแล้วมาหัดทำตั้งนานไม่เหมือนสักที มาโป๊ะเชะตรงที่ บรั่นดี นี่ล่ะค่ะ   Create Date : 14 เมษายน 2555     Last Update : 14 เมษายน 2555 13:45:21 น. Counter : 1373 Pageviews.   2 comment Share Tweet

>>เครปบางๆ<< ฉบับบ้านๆ หนักเครื่อง (ส่งการบ้านแม่ปูขาเก) เครปแบบบาง บางที่ก็เรียกแพนเค้กแบบบาง หอมอร่อย เนื้อเนียนๆ ปาดแยมส้ม  เคล็ดของความนุ่มของแป้งคือ ต้องผสมแล้วทิ้งไว้ในตู้เย็น สักสาม ชม .อย่างต่ำ ข้ามคืนยิ่งดี จริงๆเตรียมซื้อของมาทำก่อนหลายวันแล้วที่แมคโคร แต่ไม่ได้ผสมแป้งทิ้งไว้ก่อนน่ะสิ แป้งเลยไม่เข้าเนื้อ หนาๆชอบกล    กะส่วนผสมเอาคร่าวๆค่ะ แป้งเลยข้นไป พอลองทอดแล้วถึงรู้ก็ค่อยๆเติมน้ำลงไปให้แป้งบางลง   ตอนทำ เอาโน้ตบุคไปตั้งไว้ในโต๊ะห้องครัวของบ้านพี่ชายเลย ดีนะที่เปิดไวเลส รีบทำรีบ จัดวางค่ะ กลัวพี่ชายไปทำงานสาย   เสิรฟเป็นอาหารเช้าร้อนๆ กินกับของคาว หรือกินเป็นของหวานก็ได้ค่ะ แกล้มกาแฟ หรือน้ำผลไม้ก็ดีทั้งนั้น ขอบคุณแม่ปูสำหรับสูตรด้วยนะคะ (ของแม่ปูทำแล้วน่าหม่ำก่าเยอะเลย ) ตามไปดูส่วนผสมกับสูตรของแม่ปูได้เลยค่ะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=pookhakae&month=21-09-2005&group=20&gblog=39   (ทำไว้ตั้งแต่ตอนปีใหม่ เพิ่งจะเอามาส่งการบ้านตอนนี้ แย่จริง )   ปั่นส่วนผสมแป้งเสร็จ เอาแรพหุ้มแล้วเข้าตู้เย็นเลย ทอดแป้งล่ะนะ โอมๆ จงบาง ห้ามขาด ที่บ้านพี่ชายชอบกินไส้กรอกกระเทียม ส่วนตัวแม่ครัวชอบกินเต้าหู้ปลา บางบ้านก็ทานกับแฮมแผ่นเหลี่ยม หรือโบโลน่า ป้ายน้ำพริกเผาบางๆ ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวไปทำงานสายกัน   Create Date : 03 มีนาคม 2553     Last Update : 3 มีนาคม 2553 12:00:41 น. Counter : 754 Pageviews.   2 comment Share Tweet

LOVE AT SEcond bite (เค้กและเบเกอรรี่) กว่าจะมาประทับใจนั้นก็เป็นครั้งที่สองพอดี กับร้านเค้กขึ้นชื่อของตัวเมืองเชียงใหม่ ครั้งแรกบอกไป จะเชื่อไหม ว่าประทับใจ คนโบกรถตรงที่จอดรถ เพราะบริการดี สุภาพ และดูออกว่าเขาเต็มใจและรักในงานบริการจริงๆ ก็กลายเป็น ความประทับใจไป บรรยากาศในร้านครึ่งนึงถูกปล่อยให้เป็นพื้นที่สีเขียว เหมือนจะรู้ว่า การแบ่งช่องว่าง ให้คนที่มาเสพ ขนมหวานและกาแฟ ได้หายใจและผ่อนคลายกับพื้นที่สีเขียว อย่างละมุนละไม ก่อนจะหันมาสนใจเค้กและพายที่วางเรียงราย ในตู้กระจก เค้กขึ้นชื่อที่นี่มีหลายอย่าง เสียดายที่ยังไม่ได้ลองสักอย่างเลย เพราะที่กรุงเทพ เห็นเค้กราวๆนี้เยอะอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือ พายและพัสตรีต่างๆ ที่อยู่บนชั้น ตรงข้ามตู้แช่เค้กต่างหาก ** ทางร้านห้ามถ่ายรูปนะคะ (แอบถ่ายมา ) ร้านนี้มีพายและพัสตรีเยอะมาก ดูน่าลิ้มลองไปหมด สีของแป้งพายที่ผ่านการอบนั้น และหน้าตาของพายส่วนใหญ่ มีเอกลักษณ์และลักษณ์เฉพาะตัว ที่มองปราดเดียวก็รู้ว่า นี่คืองาน Homemade และสไตล์ส่วนใหญ่หนักไปทาง tea time แบบอังกฤษ นี่คือภายนอกที่สังเกตเห็น เรามาดูภายในกัน ที่ได้ทานอย่างแรกคือ เป็นพายครีมซุปไก่ ครีมมี่มากก เหมือนทานครีมซุปไก่ข้นๆๆ แต่ไม่ใช่แบบเทออกจากกระป๋อง แล้วเอา แป้งพายโป๊ะด้านบนปากชาม เอาเข้าเตาอบ ให้กรอบร่วน นุ่มด้านในจากไอน้ำของซุปนิดหน่อย ใครชอบของคาว และครีมมี่ ทานได้เรื่อยๆ ไม่เลี่ยนมาก แนะนำค่ะ แต่ขอติ ชื้นไก่ในครีม ใหญ่มากเกินเหมือนจะประชดเลย ว่าฉันน่ะ ใจกว้างนะยะใส่เต็มที่ แต่ว่ามันไม่เข้ากันอย่างแรงค่ะ คราวหน้าช่วยแบ่งให้เล็กกว่านี้นะคะเพราะทั้งมันฝรั่ง แครอท มันเล็กน่ารักพอดีคำอยู่ ชิ้นไก่กระโดดมาแทบจะเตะปาก ที่ชอบมากจริงๆ ของที่นี่ก็คือ พายมะพร้าว อร่อยมากมาย หวานนุ่มปาก หอม และ มันมะพร้าว อร่อยแบบเบาๆ ติดอยู่อย่างเดียวค่ะ ไปทานสองครั้ง ทั้งที่ร้าน ทั้งซื้อกลับบ้าน ในส่วนของพายที่เป็นของหวานนั้น เหมือนตัวแป้งพาย ยังไม่สุก ยังมีกลิ่นแป้งที่ยังไม่สุก (ได้กลิ่นชัดเจนเลย) ล่าสุดที่ไป ได้แจ้งให้ทางร้านรับทราบแล้ว ขอบคุณทางร้านที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ และรับไปปรับปรุง แต่เราก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปทานอีก ใครไปทานมาเล่าให้ฟังบ้างเน้อ   Create Date : 08 ตุลาคม 2551     Last Update : 1 มกราคม 2552 19:50:16 น. Counter : 664 Pageviews.   0 comment Share Tweet

++ น้ำปั่น ผัก+ผลไม้บ้านฉัน เสริมผิวสวย ++ ตอนอยู่ประถม ครูโภชนาการเคยสอนให้ทำ รสชาติตอนแรกแหวะมากมาย เพราะยังเด็ก ไม่กินผักดะเหมือนทุกวันนี้ ส่วนผสมก็จำไม่ค่อยได้แล้ว มีคื่นช่าย ผักกาดหอม มะเขือเทศ (แต่ละอย่าง) ผลไม้มี เสาวรส แอปเปิ้ล อย่างละครึ่งลูก โน น้ำเชื่อม น้ำผลไม้ ใส่น้ำผึ้งอย่างเดียว แค่ 2 ช้อนโต๊ะ นึกภาพตามนะคะ....5555 กลิ่นคื่นช่ายลอยมาก่อนเลย เหม็นเขียวมาก แต่เนื่องจากครูทำให้เด็กๆชิม เลยใส่แอปเปิ้ลเยอะหน่อย น้ำผึ้งมาก ถึงกระนั้นก็ยัง...อยู่ดี แต่ดื่มแล้วดีมากนะคะ สำหรับคนที่ไม่ค่อยถ่าย ถ่ายยาก และอยากจะปรับระบบในร่างกาย เดิมเป็นคนท้องผูก พอจำใจกินไป 3 วัน ถ่ายง่ายสบายคล่อง555 แล้วก็สดชื่นมากด้วย มาวันนี้เลยหันเข้าครัว .... มาทำน้ำปั่นสูตรบ้านฉัน กะเอาของที่มีและพอหาได้ ในตู้เย็นและตลาด โชคดีที่บ้านอยู่ในตลาด 11 โมงวันนี้ยังพอหาของได้ แต่คื่นช่ายหมดแล้ว T-T อดเหม็นเขียวเลย วัตถุดิบมีดังนี้ 1.แอปเปิ้ลขนาด กลาง ๆ รสหวานเปรี้ยว 1 ลูก 2.แครอทขนาดกลาง ครึ่งผล 3.มะเขือเทศครึ่งลูก 4.สตอเบอร์รี่ 2 ขีด 5.องุ่น (อันนี้ที่บ้านซื้อมาไหว้เจ้า ) เห็นอยู่ในตู้หนึ่งพวง เลยเด็ดมาใส่ 5 ลูก 555 ไม่มีไม่ใส่ก็ได้ 6.น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ (สูตรนี้ไม่โหดร้าย ) 7.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ (เพราะเราจะกินกับน้ำแข็ง ) 8.เกลือนิดนึง 9.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ หั่นทุกอย่างเป็นชิ้นเล็ก ๆ เครื่องปั่นจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก ใส่ลงในเครื่อง รวมกับส่วนผสมอื่น ๆ เติมน้ำ 1 แก้ว ปั่นให้ละเอียดจ้า ยังไม่ต้องใส่น้ำแข็งนะ เดี๋ยวเราเอามาราดน้ำแข็ง กินเย็น ๆ จะได้ไม่อิ่มน้ำแข็งปั่นเสียก่อน ปั่นเสร็จชิม...เติมน้ำผึ้งได้นิดหน่อย นิดเดียวนะ ยกมาราดน้ำแข็งที่ใส่ในแก้ว ( สูตรนี้ได้แก้วใหญ่นะ ) ของข้าพเจ้าได้ 1 กระติก ครึ่ง (ในรูปนี่ ครึ่งกระติกสุดท้ายแล้ว ) ฟองเยอะจัง...นึกว่าน้ำอัดลม ปิดกระติก ใส่หลอดดูด หิ้วขึ้นห้อง อ่านหนังสือไปดูดไป แป๊บเดียวหมด คนที่ไม่ค่อยได้กินผัก-ผลไม้ลองดู อร่อยกว่า น้ำผักผลไม้รวม 100 % บางยี่ห้ออีกน้า หอมสตอเบอร์รี่ด้วย.... ดูดไปเล่นเกม ไป....เป็นพี่เลี้ยงเด็กซะแล้ว   Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2551     Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2551 14:13:19 น. Counter : 661 Pageviews.   2 comment Share Tweet

++เมนูประทังชีวิต...มาม่าจ้า++ เข้าไปดูหลายๆกระทู้เกี่ยวกับ มาม่าอ่ะค่ะ สนใจก็เลยลองทำดู ไหนๆก็ต้องเฝ้ากรุงเทพฯ แล้ว -ใช้ไมโครเวฟล้วนๆเลย ตั้งแต่ซื้อมาเพิ่งจะได้เอาไปต้มมาม่าก็ครั้งนี้แหละ เป็นฉบับย่อนะคะ พอดีมีคน ก็เลยเอามาแปะแบ่งกันดู ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาดูค่ะ รายละเอียดสูตรมีดังนี้ -มาม่า 1 ซองค่ะ เลือกเอาที่เส้นนุ่มๆนะคะ จะใช้ไวไวสูตรดั้งเดิมก็ได้ ( วันนี้ใช้มาม่า 4 รส อินโด ทำไมมันเปลี่ยนแพคเกจซองปรุงรสข้างในหว่า ) -ปลากระป๋อง ยี่ห้ออร่อย เราว่า อะยัม ที่นำเข้าจากสิงโปร์ กับ อินโด อร่อยอ่ะ แต่ วันนี้ใช้ทูน่าสเต๊ก ของโรซ่า - ไข่ไก่สด ๆ ( ไม่สดไม่เป็นไร เห็นใจวันสงกรานต์ ) -ถ้าชอบเปรี้ยว มะนาว 1 ซีก สำหรับทุกท่านนะคะ ถ้าชอบอะไรแบบไหน ก็เพิ่มเติมตามใจชอบได้นะคะ หน้าตา ทูน่าสเต๊ก เป็นงี้ค่ะ ข้างในมีถั่วกับแครอทด้วย เดี๋ยวนี้เค้าทำออกมาขาย หลากหลายรสชาติแล้วนา - เอามาม่าแกะจากซอง ล้างน้ำสะอาด 1 รอบ ( แบบผ่านๆ ) ใส่ชามใบใหญ่หน่อย เติมน้ำให้ท่วมเส้น ใส่ไมโครเวฟไฟปานกลาง สักประมาณ 4 นาที **ลืมบอกไปงวดนี้เราใส่เห็ดฟางด้วยค่ะ (แบบว่าชอบกินเห็ดง่ะ ) แยกเห็ดเข้าเวฟต่างหากเน้อ มันสุกยากกว่า นั่งรอกินน้ำตาลสดไปก่อน ถึงตาไข่มั่งค่ะ ตอกไข่ใส่ชามปากกว้าง เข้าเวฟ ไฟปานกลาง สัก นาทีนิดๆ หน้าตาออกมาเป็นงี้ค่ะ ( แต่เราเข้าต่ออีกสัก ครึ่ง นาที ) มาม่า เทน้ำออกเหลือน้ำขลุกขลิกนิดหน่อยนะคะ ใส่เครื่องปรุง ครึ่งซองพอ ( เดี๋ยวเค็ม ) คนๆให้เข้ากัน ใส่ไข่ลงไปคลุกๆ ( ถ้าไข่ไม่ได้สุกมากนะคะ ถ้าสุกมาก เก็บไว้โป๊ะหน้า ) ตักเนื้อปลากระป๋อง ใส่ จบพิธี ( อิฉันเท หมดเลย สะใจตอนเทนี่แหละ อย่าให้หกเน้อ ) ออกมาเป็นงี้ค่ะ ส่วนนี่ ไข่ ที่เอาไปเวฟต่อนะคะ เนื่องจาก ไม่ทราบว่า แต่ละท่าน ใช้อุปกรณ์อะไรสำหรับทานกัน เลยขอส่ง การตักป้อน 2 เวอร์ชั่นค่ะ 1. ช้อน 2. ตะเกียบ ----------------------- ขอจบการทำเมนูมาม่าเพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณชาว bloggang ทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาดูค่ะ   Create Date : 29 เมษายน 2550     Last Update : 29 เมษายน 2550 1:03:50 น. Counter : 844 Pageviews.   4 comment Share Tweet