เมื่อ "เจ้านาย" ถูกตัดสินประหารชีวิตในสมัยประชาธิไตย ตอนจบ
ณ เรือนจำกลางบางขวาง เช้าวันที่ 28 กันยายน 2486

เจ้าหน้าที่เรือนจำ นับแต่ชั้นอธิบดีกรมราชทัณฑ์จนถึงชั้นผู้คุม และเจ้าหน้าที่ผู้ใหญฝ่ายตำรวจได้เข้ามาในแดนหก กราบทูลเชิญเสด็จในกรมฯ ให้พ้นจากการคุมขัง กลับเป็นอิสรภาพแต่บัดนั้น

เสด็จในกรมทรงฉลองพระองค์แบบสากล...สีครีมอ่อน ไทดำ รองพระบาทสีน้ำตาล พระองค์ได้เสด็จมาหน้าห้องพวกเราทุกคน รับสั่งอำลาและประทานพระหัตถ์ลอดช่องกรงมาให้พวกเราทุกคนจับ ดวงพระเนตรและพระพักตร์กอร์ปด้วยความอาลัย และมีพระทัยสงสารพวกเรามาก แก่พวเด้กๆ บางคน -- เสด็จในกรมฯรับสั่งเบาๆ "จงอดทนต่อไป...คงไม่ช้านัก..." และแก่ห้องนายโชติ คุ้มพันธ์ กับห้องม.ร.ว นิมิตรมงคล ซึ่งว่างอยู่โดยที่เจ้าของห้องทั้งสองถูกเนรเทศไปไว้เกาะ -- เสด็จในกรมฯได้ทอดพระเนตรมองอยู่ครู่หนึ่ง และโบกพระหัตถ์พร้อมด้วยอุทานว่า "ลาก่อน --นิมิตร ลาก่อนโชติ--" และพระองคืก็ลงจากตึกขังไป ทิ้งพวกเราไว้ในความโสมนัส และเศร้าวังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก

ข้อความนี้ขุนโรจนวิชัย (พายัพ โรจนวิภาต) 1 ในนักโทษการเมืองครังนั้น เขียนไว้ในหน้งสือเรื่อง "ทมิฬ"


หลังจากที่ทรงคืนสู่ฐานะ "พระบรมวงศ์" สมเด็จกรมพระยาชัยนาทฯ ก็ได้ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย

ปีพุทธศักราช 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งบรมพิมาน สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นเถลิงราชย์สมบัติ ด้วยเหตุที่ทรงยังไม่บรรลุพระราชนิติภาวะ และต้องเสด็จกลับไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร เป็นประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

ปีพุทธศักราช 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานอภิรัฐมนตรีที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน พระราชทานยศพลเอกนายทหารพิเศษประจำกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหากเล็กรักษาพระองค์ และเลื่อนพระอิสริยยศเป็น "พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระชัยนาทนเรนทร" และยังคงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับไปรักษาพระอาการประชวรยังต่างประเทศ

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2494 กรมพระชัยนาทฯ ได้สิ้นพระชนม์โดยปัจจุบันที่วังถนนวิทยุ ด้วยพระโรคหืดและโรคพระหทัยวาย ถือว่าเป็นราชโอรสองค์สุดท้ายในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ที่มีพระชนม์ยืนที่สุด สิริพระชนมายุได้ 65 ปี 4 เดือน

วันที่ 28 มกราคม พ.ศ.2495 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ประกาศสถาปนาพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร"

วันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2495 พระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม





Create Date : 02 ธันวาคม 2548
Last Update : 2 ธันวาคม 2548 15:29:26 น.
Counter : 5422 Pageviews.

10 comments
  
สำนึกใพระกรุณาธิคุณครับ

ผ่านไปแล้ว ๑๒ ทศวรรษแห่งปรพสูติกาลกรมพระยาชัยนาทนเรนทร

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=donyawatn&group=5
โดย: ดนย์ วันที่: 2 ธันวาคม 2548 เวลา:20:35:01 น.
  
มาเยี่ยม

โดย: Mr.Vop วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:13:37:52 น.
  
โดย: ศิษย์มารบูรพา IP: 203.172.175.229 วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:15:07:59 น.
  
โดย: jingsija วันที่: 16 มกราคม 2549 เวลา:18:30:10 น.
  
เพิ่งเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับที่รวบรวมไว้
โดย: arinj2006 (arinj2006 ) วันที่: 23 มิถุนายน 2549 เวลา:16:00:13 น.
  
gikiyd.os];'
โดย: winner IP: 124.157.161.216 วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:15:25:08 น.
  
ได้ความรู้มากมายคะ ขอบคุณคุณรอยใบลานที่รวบรวมข้อมูลดีๆมาให้อ่านคะ
โดย: เทียนธารา IP: 58.8.139.69 วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:19:34:15 น.
  
รักจังรักในหลวงมากๆเลยค่ะ
โดย: รักจัง IP: 125.26.142.56 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:47:01 น.
  
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน เคยได้อ่านเรื่องนี้ จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ หลายแห่งหลายที่ ต่างกาลเวลา แต่ที่แห่งนี้น่าจะนำมารวบรวมไว้มากที่สุด

เมื่อสมเด็จกรมพระยาชัยนาทฯ ทรงถูกรังแกจ้องทำลายจากเผด็จการแกนนำคณะราษฎร์ผู้ที่เสวยอำนาจอย่างละโมภโลภโมโทสัน เสวยสุขอย่างลืมตัวลืมตนบนอำนาจที่แย่งชิงจากผู้อื่นมา อำนาจที่ได้มานั้น กลุ่มคนเหล่านี้ใช้ทำความดีเพียงเล็กน้อย แต่ใช้ทำชั่วอย่างมหันต์ต่อชาติและประชาชน จนมีผลสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

และด้วยความขี้ขลาดตาขาว ไร้มนุษยธรรม กลัวจะต้องถูกล้มล้างเหมือนที่ตนเองทำกับผู้อื่น จึงเที่ยวกำจัดคนที่ตนและบริวาร(คงเกือบทั้งหมดที่ไร้มนุษยธรรม ขาดหิริและโอตัปปะ ไร้ความรับผิดชอบ มักง่าย)คิดว่าจะทำให้ตนเองสูญเสียอำนาจและยศฐาบรรดาศักดิ์ ตามที่กลุ่มคนเหล่านี้มโน และประจบสอพลอกันไป อย่างโหดเหี้ยมทารุณไร้ความเป็นมนุษย์ผู้มีความเจริญทางจิตใจแล้ว
โดย: ดอกพุด IP: 27.55.47.50 วันที่: 6 ตุลาคม 2557 เวลา:5:23:31 น.
  
ตามมาอ่านจาก pantip ขอบคุณมากค่ะสำหรับผู้ให้ข้อมูล ทั้งหมด ในทุกแหล่งข้อมูล ขอบคุณอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ ด้วยแหล่งข้อมูลอื่นๆ ไม่สามารถ post ขอบคุณได้ ด้วยไม่ได้เป็นสมาชิกจึงไม่สามารถ post ได้

และ ณ เวปนี้ทำให้ข้าพเจ้าผู้อ่านได้ทำความเข้าใจได้ จากที่ไม่เข้าใจได้ว่า สองตระกูลในแกนนำคณะราษฎร์ที่ล้างผลาญกันถึงตายเพื่อแย่งชิงอำนาจกัน จนฝ่ายแพ้ต้องหนีตายหัวซุกหัวซุน และออกนอกประเทศไป ทิ้งให้บริวารมากมายถูกฆ่าถูกจับขังคุก ตระกูล สองตระกูลนี้กลับมาดีกันได้อย่างไร เพราะเพื่อกลับมารักษาอำนาจ และเพื่อปกป้องรักษาชื่อเสียงของตระกูลนี่เอง นี่แหละกิเลสคน

แต่ไม่อำนาจใด ๆ ในสามแดนโลกธาตุยิ่งใหญเกินกฏแห่งกรรมไปได้อย่างเที่ยงแท้แน่นอน
โดย: ดอกพุด IP: 27.55.47.50 วันที่: 6 ตุลาคม 2557 เวลา:5:42:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รอยใบลาน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]



สโมสรของอัศวินแห่งอินทรนคร
All Blog