All Blog
รีวิวหนังสือ "สวัสดีครับ คุณภรรยา!" โดย เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ๋ง
น้านนานทีจะหยิบหนังสือแปลจีนมาเขียนในบล็อก ปกติจะเขียนในอีกเพจหนึ่ง รีวิวทั่วไป แต่เล่มนี้อดไม่ได้ที่จะมาใส่ไว้ในบล็อกนี้ เพราะเห็นว่า Message ของเรื่องนี้น่าสนใจค่ะ

มันคือเรื่องนี้แล

เรื่อง: สวัสดีครับ คุณภรรยา!
เขียนโดย: เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง
ผู้แปล อี้หนิง
สำนักพิมพ์ อรุณ
 

คำโปรย

หนึ่งในดราม่าของชีวิตผู้หญิงคือ...เราไม่ใช่เจ้าสาวในวันแต่งงานคืนเดียวกับที่ถูกเพื่อนที่ทำงานขโมยผลงาน ซูเล่อ กลับมาบ้านก็เจอผู้หญิงอีกคนอยู่บนตักว่าที่สามีเธอน้ำเน่าได้กว่านี้อีกมั้ย! คิดไว้ไม่ผิด ผู้ชายทั้งหล่อ ทั้งรวย มันโคตรเฮงซวยเลย! ต่อไปนี้เป้าหมายหลักของคนอย่างซูเล่อคือ หาแฟนหน้าตาธรรมดาที่ซื่อสัตย์จริงใจเท่านั้น

แต่แล้วเธอก็ถูกตามจีบโดย เว่ยฉู่ ท่านประธานหนุ่มหล่อบริษัทยักษ์ใหญ่เข้า... "ผมมีรถ มีบ้าน แถมหน้าตาก็หล่อ มีตรงไหนไม่ดี" "พวกนี้เป็นจุดเด่นของผู้ชายที่ดึงดูดมือที่สามเข้ามาทั้งนั้น มีตรงไหนดี"  "ผมรักเดียวใจเดียว ออกหน้าออกตาก็ได้ เข้าครัวก็เป็น ขับรถ ทำงานบ้านได้คุณอยากไปไหนผมก็ตามไปเทคแคร์" "งั้นฉันก็คงลำบากใจมาก ผู้ชายดีๆ แบบคุณ ไม่รู้ว่ามีสาวๆ มาชอบตั้งเท่าไหร่"

ถ้าเขาไม่ได้รวยและหล่อเกินไป ฉันคงทำทุกวิถีทางที่จะผูกมัดผู้ชายคนนี้แน่ผู้ชายคนนี้ต่อให้ดีเลิศแค่ไหน ใส่ใจแค่ไหน ยังไงก็ไม่เหมาะกับฉัน แต่มีหรือที่ท่านประธานงานดีเกรดซูเปอร์พรีเมียมจะยอมแพ้...ปฎิบัติการตามจีบว่าที่ภรรยา START!


===============================

เนื้อเรื่องก็แบบคำโปรยน่ะค่ะ นางเอกออกแนวเลิกกับแฟนเก่า แล้วก็เลยมีกำแพงกับผู้ชายที่หน้าตาดีดูมีกะตังค์ พระเอกผู้ซึ่งมีพวกนั้นครบถ้วนเลยต้องใช้ความพยายามในการเข้าหาหน่อย เรื่องไม่ได้มีจุดตื่นเต้นอะไรมากมาย จุดดราม่าก็ไม่ได้ชัดเจนนัก

เรื่องคือ นางเอกถูกสร้างมาให้ไม่โง่ แล้วก็มีวุฒิภาวะในการจัดการอารมณ์ตัวเอง จัดการสถานการณ์ได้ดี เลยสามารถพาตัวเองออกจากสิ่งเร้าภายนอกที่มายั่วโทสะได้ แทนที่จะได้เจอฉากตบอลังการ นางก็แค่ปรายตามอง ถ้ามันมากไปนักก็ขบเบาๆ แบบยิ้มๆ สวยๆ แล้วควงพระเอกเชิดจากไป

พูดง่ายๆ ว่าเนื้อหาไม่ได้มีอะไรที่ชวนบาดใจอะไรมากมาย อ่านเรื่อยๆ เพลินๆ แล้วก็ดูความสวยของนางเอกกับการจัดการเหล่าผู้คนที่มาวอแว โดยที่บางครั้งพระเอกก็มีบทบาทออกโรงบ้าง เดี๋ยวไม่งั้นไม่มีบท ก็นับว่าสนุกดีค่ะ

จากนี้คือสปอยล์นะคะ

ทีนี้ตามที่เกริ่นไปแล้วว่า Message ของเรื่องนี้น่าสนใจดี (ที่จริงก็ก็ไม่ค่อยเหมือนสปอยล์เท่าไหร่เพราะเนื้อเรื่องมันเรียบง่ายมาก เดาทางได้อยู่แล้ว สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจคือ สิ่งละอันพันละน้อยที่แทรกอยู่ในเรื่องนี่แหละที่ทำให้มันสนุก)

เรื่องนี้เน้นย้ำว่านางเอกเรื่องนี้หงุดหงิดกับนิยายจำพวกผู้หญิงอ่อนแอ ฟูมฟาย ไม่เป็นตัวของตัวเอง หรือพระเอกมันเลวบัดซบ ทำไมยังจะไปวอแวให้ตัวเองเจ็บช้ำน้ำใจ เลยเขียนนิยายเองเสียเลย สร้างนางเอกที่เก่งกาจ เป็นตัวของตัวเอง แล้วสุดท้ายเมื่อผู้หญิงเห็นคุณค่าของตัวเอง ก็จะมีคนเห็นคุณค่า ได้คู่กับผู้ชายที่ดี (แต่ก็มีมุมที่นักเขียนหญิงคนอื่นๆ ช่วยกันวิพากษ์ นั่นคือ เรื่องแบบนี้ผู้ชายมาอ่าน ผู้ชายคงขยาดผู้หญิงแบบนี้เพราะพวกเขาอยากจะสามารถควบคุมผู้หญิงได้ ผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเองเกินไปคุมไม่อยู่)

แล้วชีวิตนางเอกก้ทำแบบนั้นจริงๆ คือ หลังจากที่เลิกกับแฟนเก่าที่ไปมีคนอื่น ก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ  ยังกินอิ่ม ดูแลตัวเอง (นางเอกไม่ได้พูดอะไร แต่เมื่อมองผ่านสายตาเพื่อน เพื่อนบอกว่า รู้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากของนางเอกแหละ ไม่ใช่ว่านางเอกไม่รู้สึกอะไร) ซึ่งพระเอกผู้ช่างดีแสนดีที่เคยชอบนางเอกมาแต่ไหนแต่ไร แต่นกเพราะนางเอกไปมีแฟนเสียก่อนก็สบโอกาสเสียบตามจีบเสียเลย

ในเรื่องนี้มีตัวอย่างที่น่าสนใจหลายคู่ที่กล่าวถึงชีวิตรัก และชีวิตคู่

คู่แรกคือ พ่อกับแม่ของนางเอก

ม่ของนางเอกเอง ซึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อไปมีคนอื่นแล้วไม่ดูดำดูดีครอบครัว แม่เข้มแข็งมาก ยืนหยัดเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เป็นผู้หญิงเก่งที่ทำธุรกิจ และดีขึ้นเรื่อยๆ ใช้ชีวิตอย่างที่ใจปรารถนา เป็นอิสระ

ส่วนพ่อของนางเอกที่เลือกผู้หญิงอีกคน เป็นผู้หญิงที่ครอบครัวมีธุรกิจ แต่พออายุมากขึ้น ฝ่ายหญิงทั้งเอาแต่ใจ ร้ายกาจ ไร้มารยาท ลำเลิกบุญคุณอยู่ได้ ทำให้พ่อมีชีวิตแต่งงานที่ขมขื่น

คู่ที่สอง คู่แฟนเก่า

แฟนเก่าไปมีผู้หญิงคนอื่น แต่ผู้หญิงคนนั้นออกแนวดูละครเยอะอยู่สักหน่อย มีความเชื่อที่ว่าผู้ชายภูมิใจถ้าผู้หญิงจะตบตีแย่งชิงตัวเอง ผู้หญิงคนนี้เลยพร้อมจะไฝว้กับนางเอก (คือไม่ใช่แค่เพื่อเอาใจผู้ชายหรอก อารมณ์หมั่นไส้ส่วนตัวด้วยแหละ ซึ่งนางเอกก็ตอบกลับไปแบบสวยๆ ว่าทำไมต้องลดตัวไปทำเพื่อให้ผู้ชายแฮปปี้ด้วย) แล้วในที่สุด ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นของเล่นชิ้นหนึ่ง ถูกทิ้งในที่สุด และมีชีวิตที่ค่อนข้างตกต่ำลง และดูจะสงบเสงี่ยมกว่าเดิม

ส่วนแฟนเก่าก็ไปเจอผู้หญิงที่แต่งเพื่อธุรกิจ เป็นผู้หญิงเก่งที่ไม่สนใจจะเอาใจผู้ชายทั้งสิ้น ว่ากันด้วยผลประโยชน์ แล้วก็ค่อนข้างดูแคลนตัวแฟนเก่าคนนี้พอสมควร มีพลังทำลายล้างความภูมิใจของผู้ชายได้เป็นอย่างดี

ทีนี้มาที่คู่ของนางเอกบ้าง อย่างที่บอกไปแล้วว่า หลังจากที่นางเอกเลิกกับแฟนเก่า ก็ยึดหม่ามี้เป็นไอดอล ใช้ชีวิตให้ดีด้วยตัวเอง จนเมื่อพระเอกก้าวเข้ามาในชีวิต ที่จริงจะบอกว่าเจ้าตัวตั้งป้อมกับผู้ชายหน้าตาดีมีกะตังค์ขนาดนั้นไหม อย่างที่บอก นางไม่โง่ ในเมื่อฝ่ายชายพิสูจน์ตัวเองในระดับหนึ่ง จะเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาหนีก็ไม่ใช่ ก็ให้โอกาสแหละ

ทุกอย่างเป็น Message ที่ดูโอเคมาก การที่ผู้หญิงไม่ต้องเอาตัวเองไปเกาะกับผู้ชายคนหนึ่ง ไม่มีเขาเราก็อยู่ได้ ให้คุณค่ากับตัวเอง รักตัวเอง เป็นเรื่องที่ถูกใจแนวเฟมินิสต์อย่างมาก

แต่!

อะไรคือการที่เขียนให้พระเอกออกแนวเป็นบุรุษแสนดีที่วันๆ ทำกับข้าวให้นาง กวาดบ้าน จัดห้อง ดูแลความเป็นอยู่ ส่วนนางเอกนั่งกระดิกเท้าเล่นอินเตอร์เน็ตแล้วปล่อยพระเอกทำงานงกๆ ไป แล้วก็อวดเพื่อนว่า ผู้ชายของฉันแสนดี

WTH!?

คือ ในเชิงของเฟมินิสต์น่ะ เขาเรียกร้องให้มีความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์คนหนึ่งป่ะ ไม่ใช่เรียกร้องเพื่อให้ตัวเองอยู่เหนือกว่าใครแบบนั้น คือ ถ้าบอกว่าใช้ชีวิตที่ดี รักตัวเอง แต่การทำตัวแบบนี้มันไม่ใช่รักตัวเอง มันคือ ความเห็นแก่ตัวต่างหาก

ทีนี้ขอให้ย้อนกลับไปดูตัวอย่างคู่รักและบทลงเอยที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ภาพที่ว่านี้มันซ้อนทับกับพ่อนางเอกที่ไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนที่มีอำนาจเหนือกว่า แล้วก็โขกสับสามี เราผู้เป็นคนอ่านก็เห็นได้เลยว่า ชีวิตของพระเอกจะเป็นแบบนั้น ยิ่งเขาเขียนให้เมียใหม่พ่อน่ารังเกียจเท่าไหร่ เราก็เห็นนางเอกดำเนินสู่แนวทางนั้นเหมือนกัน (เพียงแต่ว่านางเอกอาจจะไม่ได้กักขฬะขั้นนั้น แต่มันมีแนวโน้มไปเป็นแบบนั้น)

หนิงไม่รู้ว่านี่เป็นความตั้งใจของคนเขียนหรือเปล่า ส่วนตัวหนิงเองก็เคยเขียนบางอย่างที่ตัดเรื่องให้มันสวยหรูในตอนจบให้คนอ่านแฮปปี้กับบทสรุป แต่ After paty ขอเป็นสิ่งที่อยู่ในใจนักเขียนเอกง ถ้ามีคนอ่านจะสังเกตเห็นก็โอเค แต่ในขณะเดียวกัน สารที่คนอ่านซึ่งเห็นเฉพาะตอนจบที่หนิงตัดก็ยังได้รับสารอย่างที่หนิงตั้งใจ ต่อให้รู้ After Party มันก็ไม่ได้ทำให้สารเปลี่ยน

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ สมมุติถ้ามี After Party ที่คนเขียนตั้งใจให้คิดต่อ สารมันจะพลิกไปในทันทีว่าการกระทำของนางเอกมันไม่โอเคสักนิด มันจะกลายเป็นแบบเมียใหม่พ่ออย่างที่หนิงบอก แต่พอเขาตัดจบที่ความสวยงาม สารมันบิดเบี้ยวไปว่า ถ้าฉันรักตัวเองมากพอ ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตก็จะเป็นพวกรองมือรองเท้าฉันเอง มีชีวิตเพื่อเอาใจฉัน ฉันไม่ต้องทำอะไร กระดิกเท้านั่งสวยๆ เดี๋ยวก็มีคนหาอะไรมาประเคน

ไม่รู้ในตอนท้าย คนเขียนก็ดูจะรู้ตัวหรือเปล่าว่านางเอกน่ารังเกียจเกินไป เลยใส่บางอย่างให้มันดูดีขึ้น เช่น ให้นางเอกฝึกทำอาหารขึ้นมาอีกสักอย่างสองอย่าง เวลาไปซื้อของก็ช่วยกันเลือก แต่มันไม่พอกับความไม่น่ารักที่นางเอกทำต่อพระเอกน่ะค่ะ (แม้พระเอกจะมองว่านางเอกเป็นตัวของตัวเองและเขารักนางเอกที่เป็นตัวของตัวเอง)

นี่เป็นสิ่งที่อันตรายมากในเชิงของการสื่อสารแบบที่ตรรกะเพี้ยนขั้นนี้ คือ ถ้าเป็นนิยายที่เขียนปุ๊บดูก็รู้ว่าขายฝัน คนอ่านมันก็รู้ว่ามันขายฝัน ไม่จริงจังกับมัน อ่านเอาเพลิน แต่พอดีเรื่องนี้คนเขียนเขียนเก่ง ยอมรับค่ะ แล้วความเก่งทีว่านี้ทำให้สามารถป้อนโปรแกรมความคิดนี้ได้เก่งกว่าเรื่องพาฝันพวกนั้นเสียอีก เพราะฉากหน้าของมันคือ Message ที่สวยหรู แต่กลับปลูกฝังความคิดแบบนี้นี่ มันไม่ใช่แล้วล่ะ

แต่ต้องบอกก่อนว่า หนิงตัดสินเรื่องนี้ในบริบทที่เป็นคนไทยนะคะ แต่บริบทในเมืองจีนนั้นต่างกัน ผู้หญิงจีนสมัยนี้อยู่ในบริบทที่ผู้ชายจะต้องเอาใจ ไม่สวยก็ยังเลือกได้ จะทำตัวไม่น่ารักแค่ไหน ผู้ชายก็จะต้องก้มหน้าก้มตาเอาใจฉัน เพราะผู้หญิงน้อย และคนจีนซึ่งเป็นพ่อเป็นแม่ต่างคาดหวังในเรื่องให้ลูกหลานแต่งงาน มีทายาท มีครอบครัวที่สมบูรณ์ (ก็เหมือนคนจีนในไทยแหละ) ความกดดันหลายอย่างจึงไปตกกับผู้ชายที่ยังโสด โดยเฉพาะ ถ้าเป็นผู้ชายที่ธรรมดา คือ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นที่ผู้หญิงจะเข้าหา เป็นเพียงคนธรรมดาที่มีฐานะธรรมดาจะยิ่งกดดันเป็นพิเศษ แล้วหลายครั้งมันจะไปอยู่ในบทสรุปที่ว่า ต้องเอาใจผู้หญิงยิ่งชีพเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่โสด

ดังนั้น หนิงไม่แน่ใจ บางทีสิ่งที่คนเขียนคนนี้ต้องการบอกกับผู้หญิงจีน สิ่งนี้คือสิ่งที่ดีงาม และผู้หญิงจีนก็ควรจะเป็นแบบนั้นด้วย

ถ้าอย่างนั้น อย่าอ้างเรื่องแนวความคิดเพื่อผู้หญิงที่ตรรกะบิดเบี้ยวแบบนั้นดีกว่า ไม่ใช่เรื่องเข้าข้างไม่เข้าข้างผู้หญิงแต่อย่างใด แต่เพื่อความแฟร์ในฐานะมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน อย่ามาใช้สิ่งนี้อ้างเพื่อให้ตัวเองเหนือกว่าอีกฝั่ง (แน่นอนว่าคำพูดพวกนี้นางเอกไม่ได้พูด แต่อยู่ในรูปแบบคนรอบตัวนางเอกที่กล่าวถึงนางเอกและแนวความคิดเฟมินิสต์)

แทนที่สารที่สวยงามอย่าง "จงเป็นผู้หญิง่ที่รักตัวเอง" มันเลยบิดเบี้ยวกลายเป็น "จงเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัว" ไปน่ะค่ะ

เรื่องนี้เลยจบแบบจุกๆ พูดไม่ออก ไปไม่เป็น และออกจะน่าเสียดายกับฝีมือการเขียนของคนเขียนคนนี้ไปโดยปริยาย



Create Date : 10 พฤษภาคม 2563
Last Update : 10 พฤษภาคม 2563 14:07:19 น.
Counter : 3053 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peiNing
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]



เป็นเด็กกรุงเทพแท้ๆ แต่อยู่บ้านนอกของกรุงเทพน่ะนะ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษนอกจากแกล้งสัตว์เลี้ยงที่บ้าน นั่นคือนกฮู้ผู้มีอายุ 10 ปีได้ (นกแก่มีหนวด) (แต่ตอนนี้ในที่สุดนกฮู้ก็จากไปอย่างสงบ ไม่รู้อายุรวมเท่าไรแต่มาอยู่ที่บ้านได้ 11 ปี ขอไว้อาลัยปู่ฮู้ ขอให้ไปสู่สุขคตินะ T^T)

ขอชี้แจงอีกอย่าง ชื่อ peiNing นี้ เป็นชื่อที่พี่กะน้องใช้ร่วมกันสองคน ดังนั้นอย่างงว่าเดี๋ยวก็แทนตัวว่ารุ้งบ้างหนิงบ้าง ก็มันคนละคนนิ (รุ้งน่ะคนพี่ หนิงน่ะคนน้อง)

FB สำหรับคนชอบงานเขียน peiNing ค่ะ

FB สำหรับคนชอบบทความสอนห้องเรียนนิยายค่ะ

  •  Bloggang.com