All Blog
กรรมเก่า by ดอกไม้สด
ที่จริงได้เรื่อง "กรรมเก่า" มานานพอสมควรแต่ยังไม่ได้หยิบมาอ่านเลย หนิงเพิ่งได้อ่านจริงๆ เมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ

ช่วงนี้เป็นช่วงโหยหาหนังสือดีๆ ไว้จรรโลงใจเพราะเริ่มเบื่อกับหนังสือหลั่นล้าแบบไร้แก่นสารเต็มที (มันโอเคในบางอารมณ์แต่ไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้นเอง) มองไปตามแผงหนังสือปัจจุบันแล้วรู้สึกถอดใจ คือ ไม่ใช่ว่าหนังสือปัจจุบันไม่ดี แต่หนังสือเดี๋ยวนี้มันซับซ้อนมาก ออกมาเยอะ ดูลายตาไปหมด ไม่รู้เล่มไหนเป็นยังไง ไม่อยากตัดสินหนังสือจากปกแต่บางทีเห็นปกก็ไม่ไหวจริงๆ นะ ^^"

สุดท้ายก็เลยไปเลือกหยิบหนังสือเก่าสมัยเมื่อ 60 ปีก่อนมาอ่านแทน

"กรรมเก่า" เป็นหนึ่งในนวนิยายของดอกไม้สดผู้มีงานเขียนเป็นอมตะของแวดวงวรรณกรรมไทย

เนื้อเรื่องโดยย่อก็คือ เปิดตัวด้วย พงศ์ มาเยี่ยมพี่สาวต่างบิดา (หรือมารดา จำไม่ได้) ที่เพิ่งกลับมาเมืองไทย คุณหญิงเป็นภริยาทูตที่อาศัยอยู่ในต่างแดน มีลูกสาว 2 คน คนโตคือ อัมพร และคนเล็กคือ นุช

พอเห็นพงศ์มา นุชก็กระโดดกอดทันทีด้วยกิริยาค่อนไปทางตะวันตกเพราะนุชเติบโตที่นั่น ไม่เคยเหยียบเมืองไทยเลยแต่ยังดีที่พอพูดภาษาไทยได้ถึงจะสลับกับภาษาอังกฤษอยู่บ้าง นุชได้เจอพงศ์ตั้งแต่เด็กตั้งแต่พงศ์เป็นนักเรียนกฏหมายอังกฤษ และฝรั่งเศสจนเพิ่งกลับมาเมืองไทย นุชเลยสนิทกับพงศ์มากเป็นพิเศษ แต่การตอบรับของพงศ์คือ อาการอึกอัก หน้าแดง แต่นุชไม่สังเกต

พงศ์มาถึงก็ทักทายคุณหญิงและอัมพร แต่อัมพรแตกต่างกับนุชอย่างสิ้นเชิง อัมพรค่อนข้างไว้ตัว ไม่ต้องการสุงสิงสมาคมกับใคร ต่างฝ่ายต่างถามสารทุกข์สุกดิบกัน ที่บ้านนั้นพงศ์ได้พบผู้ชายอีกสองคน หนึ่งในนั้นมองออกไม่ยากว่าชอบพอนุชมาก และนุชเองก็ชอบเขามากเหมือนกัน

วันหนึ่งพงศ์เห็นนุชนอนอยู่ มีคราบน้ำตาหลงเหลือ เมื่อนุชตื่นขึ้นพงศ์จึงถามไถ่ถึงสาเหตุ นุชจึงเล่าให้ฟังว่า จู่ๆ ชายคนที่พบในคืนนั้นก็ขอตีจากนุชทั้งที่ก็ชอบพอกันมาตลอดตั้งแต่สมัยที่อยู่ลอนดอน นุชไม่เข้าใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอร้องไห้ด้วยเรื่องผู้ชาย คนก่อนหน้านี้ก็เคยทิ้งเธอไปเช่นกัน นุชคร่ำครวญว่าจะไม่ชอบใครง่ายๆ อีกแล้ว พงศ์จึงได้แต่ปลอบใจ

นุชไม่รู้และไม่เข้าใจเหตุผล แต่พงศ์เข้าใจดีแต่ไม่สามารถบอกเธอได้

นุชซึมเซาอยู่หลายวัน จนเมื่อมีจดหมายมา อัมพรผู้นิ่งเฉยพอเห็นเข้าก็ตาเป็นประกายรีบคะยั้นคะยอให้คุณหญิงอ่านทันที แล้วบทสรุปจากจดหมายนั่นทำให้ทั้งคุณหญิง อัมพร และนุชได้เดินทางไปนครศรีธรรมราช ซึ่งสมัยนั้นนับได้ว่าเป็นหัวเมืองหนึ่ง ค่อนข้างเป็นบ้านป่าจริงๆ

นุชได้พบหลายคนที่อาศัยอยู่บ้านหลังนี้ซึ่งคุณหญิงแนะนำว่าเป็นญาติฝ่ายพ่อ แต่ละคนก็มองนุชด้วยสายตาแปลกๆ แต่อัมพรก็เข้ากับทุกคนได้อย่างน่าแปลกใจ นุชต้องเข้าไปหาคุณลุงคนหนึ่งที่นอนอยู่ในห้อง ผู้ชายคนนั้นดีใจที่ได้เห็นนุช อัมพรก็ขอร้องให้นุชมาคอยดูแลซึ่งนุชก็ยอมแต่ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร ทุกอย่างรอบตัวดูจะประหลาดไปหมด

เมื่อนุชสนิทกับหลานที่ของเจ้าของบ้านซึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ทำให้นุชทราบว่าคุณลุงคนนั้นเคยติดคุกมาก่อน และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวไม่นาน นุชก็เลยรู้สึกสังเวชใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เล็กน้อย เธอเริ่มเบื่อกับบ้านป่านี้เข้าไปทุกที จนเมื่อได้เวลากลับ อัมพรขออยู่ต่อแต่นุชขอกลับกับคุณหญิงทันที ซึ่งอัมพรพยายามมากที่จะรั้งนุชเอาไว้ ซึ่งนุชไม่เข้าใจจนอัมพรตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่าง

คุณลุงขี้คุกที่นอนอยู่ในห้องแท้จริงคือ พ่อแท้ๆ ของนุช และแม่ที่แท้จริงของนุชสิ้นไปแล้ว วันที่เกิดเหตุเป็นวันที่พ่อเมาสุรา เมื่อกลับถึงบ้านก็เห็นพ่อของแม่จะพาแม่กลับด้วยท่าทางดุดัน (แม่หนีตามพ่อมา) พ่อลืมตัวชักปืนยิงใส่จนอีกฝ่ายแน่นิ่ง แม่ตกใจจนผวาช็อคสิ้นลมหายใจไปพร้อมกัน หลังจากนั้นก็เลยติดตะราง แต่ก็ยังพยายามหาทางรอดให้ลูกโดยการขอร้องเพื่อนให้รับลูกสาว 2 คนไปเลี้ยงดู ขอให้ใช้นามสกุลและห้ามบอกความจริงเด็ดขาด

นุชช็อคไข้ขึ้นทันที เธอคิดกลับไปกลับมาถึงชะตาโหดร้ายของตัวเอง ต้องเลือกเอาระหว่างความกตัญญูกับวิถีชีวิตที่แตกต่างดยสิ้นเชิง นุชเติบโตที่ลอนดอน ถึงกลับกรุงเทพแต่ก็ยังได้พบปัญญาชนที่คุยรู้เรื่อง แต่ไม่ใช่ที่นี่เลย นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับนุช

แต่สุดท้ายนุชก็ยอมอยู่ ในระหว่างนั้นก็เขียนจดหมายหาพงศ์ เล่าถึงความทุกข์เพราะนุชคิดว่าพงศ์น่าจะรู้ว่าชาติกำเนิดของเธอเป็นยังไง รู้เหตุผลด้วยว่าทำไมชายอื่นถึงตีจาก เพราะคุณหญิงได้บอกความจริงกับเขาเหล่านั้นเพื่อไม่ให้มีคำครหาหากเกิดมีการแต่งงานไปแล้วทราบความจริงขึ้นจะมีคำติฉินเกิดขึ้นทันที

แล้วพงศ์ก็มาจริงๆ เขามาเยี่ยมนุชแล้วก็เข้าไปกราบเจ้าของบ้าน นุชเล่าให้พงศ์ฟังถึงปัญหาที่เธอไม่รู้จะทำอย่างไรกับภาวะคาราคาซังนี้ กลับกรุงเทพก็กลัวคนหัวเราะเยาะ แต่จะให้อยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่สำหรับตัวเอง พงศ์จึงขอแต่งงานกับนุช สารภาพว่าความรักที่เขามีต่อหลานเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนที่ทราบว่านุชไม่ใช่หลานที่แท้จริงของตัวเอง นุชเองก็รู้สึกไม่ต่างจากเขานับตั้งแต่วันที่ต้องห่างจากเขามาทำให้เธอรู้ใจตัวเองเช่นกัน

นุชนำเรื่องนี้ไปปรึกษาพี่สาวซึ่งอัมพรก็รู้ความรู้สึกของพงศ์มาตลอด และสนับสนุนให้นุชแต่งงานกับพงศ์ ทุกฝ่ายจะได้สบายใจ

---------------------------------------------------------

เรื่องนี้ต้องเรียกว่าเป็น Novela มากกว่าล่ะมั้ง ไม่ยาวเลย การดำเนินเรื่องค่อยๆ ดึงคนอ่านให้อยากรู้อยากเห็นตามไปด้วยว่าความลับที่ซ่อนอยู่คืออะไร ค่อยๆ เผยอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครและเหตุการณ์ออกมาทีละน้อย ล่อหลอกให้คนอ่านสนใจในทุกๆ รายละเอียดที่เกิดขึ้นได้ดีค่ะ นับว่าคนเขียนหนังสือใหม่ๆ ควรอ่านเอาไว้บ้างเป็นความรู้ติดตัวค่ะ

กลวิธีการเขียนเช่นนี้ทำให้พล็อตของเรื่องค่อนข้างประสบความสำเร็จนะ ดอกไม้สดหาทางออกให้กับตัวละครได้ค่อนข้างดีทั้งที่นางเอกต้องเจอกับชะตากรรมที่ชวนกระอักกระอ่วน จะไปทางพ่อแท้ๆ ก็ไม่ได้จะมาทางพ่อบุญธรรมก็ไม่ได้อีก ลงท้ายให้แต่งงานไปกับพระเอกเสียเลย หาทางรอดให้ตัวละครเสร็จสรรพ ซึ่งหนิงมองว่าเรื่องที่หาทางรอดให้ตัวละครในภาวะ Dilemma ได้ หนิงจะชอบเป็นพิเศษ

งานของดอกไม้สดส่วนมากมักจะโยงเข้ากับคุณงามความดีของคน ในที่นี้เรื่องนี้คนเขียนพยายามจะบอก แต่คนอ่านอย่างหนิงไม่ค่อยรับสารค่ะ เพิ่งจะมารับก็ตอนที่เหตุการณ์ผ่านไปได้ค่อนเรื่องจนเกือบจบ เรื่องของเรื่องก็คือ คนเขียนพยายามจะบอกว่านางเอกเป็นคนใฝ่ดี มีธรรมะเป็นที่ตั้ง ซึ่งไม่เห็นจะรู้สึกเลย เพราะยังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่บอกเขาว่าเป็นเช่นนั้น จะมีก็แค่ตอนท้ายๆ ที่นางเอกตัดสินใจ ทำให้ค่อยรู้สึกสมเหตุสมผลขึ้นมาบ้าง

ที่ไม่ค่อยชอบอีกเรื่องหนึ่งก็คงเป็นเรื่องที่ 'พงศ์' แบนแต๊ดแต๋เลย แบ๊นแบนจนรู้สึกว่าเขาลอยลงมาจากที่ไหนสักแห่งเป็นแบ็คอัพให้นางเอก แสนดีอย่างกับพระรองหนังเกาหลี ไม่มีหน้าที่อะไรนอกจากปลอบใจนางเอก และมีไว้ให้นางเอกแต่งงานด้วย ประหนึ่งว่ามีบทสำคัญก็ตอนท้ายนี่แหละ

ดังนั้นหนิงเลยคิดว่าเรื่อง "กรรมเก่า" อาจยังนับเป็นนิยายยุคต้นถึงกลางของดอกไม้สดเท่านั้นเอง เป็นช่วงที่เริ่มมองเห็นสังคมและต้องการจะหยิบยกมาเพื่อบอกต่อโดยใช้กลวิธีการเขียนขึ้นมาเป็นแม่งาน โดยส่วนตัวหนิงแล้ว หนิงชอบความลุ่มลึกของตัวละครของดอกไม้สดมากกว่าความหวือหวาในการถ่ายทอดนะคะ (หนิงถึงชอบ "หนึ่งในร้อย" มาก) ดังนั้นหนิงจึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังไม่นับว่าเป็นผลงาน 'ขั้นเทพ' ของดอกไม้สด แต่ก็นับว่า 'ไม่เบา' อยู่เหมือนกัน

ถ้าเป็นไปได้ ลองหามาอ่านดูจะได้อะไรพอสมควรจากเรื่องนี้ค่ะ



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2553 17:11:25 น.
Counter : 8189 Pageviews.

2 comments
  
ผมอ่านแล้ว และลืมไปแล้วครับ

ขอบคุณที่ช่วยวิเคราะห์ให้เห็นเนื้อหาครับ.
โดย: เจียวต้าย วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:19:28 น.
  
โอย น่าอ่านแฮะ

แต่จะหาจากไหนมาอ่านได้หละนี่
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:04:51 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peiNing
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]



เป็นเด็กกรุงเทพแท้ๆ แต่อยู่บ้านนอกของกรุงเทพน่ะนะ ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษนอกจากแกล้งสัตว์เลี้ยงที่บ้าน นั่นคือนกฮู้ผู้มีอายุ 10 ปีได้ (นกแก่มีหนวด) (แต่ตอนนี้ในที่สุดนกฮู้ก็จากไปอย่างสงบ ไม่รู้อายุรวมเท่าไรแต่มาอยู่ที่บ้านได้ 11 ปี ขอไว้อาลัยปู่ฮู้ ขอให้ไปสู่สุขคตินะ T^T)

ขอชี้แจงอีกอย่าง ชื่อ peiNing นี้ เป็นชื่อที่พี่กะน้องใช้ร่วมกันสองคน ดังนั้นอย่างงว่าเดี๋ยวก็แทนตัวว่ารุ้งบ้างหนิงบ้าง ก็มันคนละคนนิ (รุ้งน่ะคนพี่ หนิงน่ะคนน้อง)

FB สำหรับคนชอบงานเขียน peiNing ค่ะ

FB สำหรับคนชอบบทความสอนห้องเรียนนิยายค่ะ

  •  Bloggang.com