ดรีมโฮเทล แบงค็อก ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 15 ใกล้กับสถานีทั้ง BTS และ MRT
รวมไปถึง Terminal 21 เพียง 400 ม. เรียกว่าเดินไม่เหนื่อย หรือถ้าใครรักสบาย
มากกว่าสุขภาพก็สามารถใช้บริการรถรับส่งของทางโรงแรมได้ครับ
นอกจากนี้ ดรีมโฮเทล ยังมีบริการรถลีมูซีน ให้กับลูกค้า เพื่อความสะดวก
ในการเดินทางไปยังที่ต่างๆอีกด้วยครับ
ตอนนี้ เราไปชมบรรยากาศของดรีมโฮเทล กันเลยดีกว่าครับ ก้าวแรกที่มาถึง
ผมนึกว่าหลงเข้ามาอยู่ใน Sector 7 กลัวว่าเจ้า The Cube ที่เห็นอยู่ตรงหน้า
จะยิงลำแสงมาใส่โนเกีย 3310 ของผมให้กลายเป็นเครื่องจักรสังหาร
ว่าไปนั่น...
ที่ดรีมโฮเทล แบงค็อก จะมีอยู่ทั้งหมด 2 ตึก สามารถเช็คอินที่ตึกไหนก็ได้
เรามาดูล็อบบี้ของตึก 1 กันก่อนนะครับ
ตึก 1 มีการตกแต่งโดยใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่หลายหลาย
ผสมกับการวางแสงสี และประติมากรรมที่สวยงาม
สิ่งที่สะดุดสายตาที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้น ผลงานประติมากรรม
"ด่านเจดีย์ 3 องค์ ที่ตั้งเด่นสง่า"
หากฝ่าจุดนี้ไป เราก็จะเหยียบแผ่นดินพม่ารามัญ เพื่อตีหงสาให้แตกพ่าย..
อิอิ นอกเรื่องได้อีก ผมตั้งชื่อเองนะครับ ไม่ได้ถามมาว่า ชื่องานจริงๆชื่ออะไร
ส่วนล็อบปี้ของตึก 2 จะเน้นไปที่งานจิตรกรรมฝีมือของ Justin Love
ศิลปินจาก New York
Concrete jungle where dreams are made of,
There's nothing you can't do...
ไปนั่น พูดถึง New York ทีไร ต้องร้องเพลงนี้ทุกที
เนื่องจากผมจบศิลปะมาจากสถาบันลอริเอะ ปารีส บวกกับความชื่อชอบงาน
ในของ Picasso ซึ่งเป็นงานแนวเซอร์เรียลิสต์ เช่นเดียวกับ Justin Love
ผมจึงใช้เวลาถ่ายภาพที่นี่ค่อนข้างนาน ประหนึ่งเด็กน้อยได้เจอของเล่นถูกใจ
ต่อไปเราจะขึ้นไปชมห้องพักกันนะครับ ระบบรักษาควาปลอดภัยที่นี่ดีมาก
เพราะเราจะต้องใช้การ์ดตอนขึ้นลิฟท์ คุณจะไม่สามารถไปชั้นอื่นได้
นอกจากชั้นตัวเอง แต่ยกเว้นชั้นที่เป็นส่วนกลางอย่าง ล็อบบี้ ห้องอาหาร
สปา และสระว่ายน้ำครับ
วันนี้ผมพักที่ห้อง Dream Executive Suite เป็นห้อง Suite ที่กว้างมากครับ
สำหรับโรงแรมใจกลางเมืองแบบนี้ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่น
แพนทรี่เตรียมอาหาร ที่ใหญ่ขนาดจะเป็นห้องครัวได้เลยทีเดียว
ซึ่ง ณ จุดๆนี้ผมขอเรียกมันว่า ครัว
มองไปสุดห้องจะเห็นทางเข้าห้องนอน แต่เดี๋ยวก่อน! ภายใน 30 นาทีนี้
ถ้าคุณยังไม่ง่วง เราพาไปชมส่วนอื่นกันก่อน
ส่วนของห้องนั่งเล่นกว้างมากครับ มีโซฟาให้เรานอกเอกเขนก
ดูหนัง AV (audio/video) ได้ทั้งคืน หุหุ
ผมเป็นโรคคลั่งบานเฟี้ยมอย่างรุนแรงครับ เห็นแล้วอยากจะหาไขควง
มาถอดกลับบ้านทุกที
อยากจะกรี๊ดซ!!เป็นภาษาสเปน ที่โต๊ะอาหาร มีเวลคัมฟรุ๊ตสีสันบาดตาต้อนรับอยู่
เห็นแล้วต่อมมนุษย์โซเชียลขนาด 12 ล้านพิกเซลเริ่มทำงานทันที
ซัดเวลคัมฟรุ๊ตหมด แบบไม่เหลือสภาพเค้าโครงความงาม หนังตาก็เริ่มหย่อนครับ
ยิ่งมาเจอแสงสีในห้องนอนแบบนี้ยิ่งชวนฝัน
ดรีมโฮเทล เก่งเรื่องการจัดไฟมากครับ สังเกตตั้งแต่ล็อบบี้แล้ว คือไม่ต้องใช้
วัตต์มาก แต่อาศัยการวางตำแหน่งแสงและสี ที่ช่วยเน้นส่วนต่างๆให้ดูสวยงาม
ห้องนอนมีพื้นที่กว้างขว้าง จึงวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้ไม่จำกัด ชุดเครื่องนอน
และวัสดุเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นก็มีคุณภาพครับ โดยเฉพาะโต๊ะทำงาน
เห็นแล้วอยากเอากลับบ้านอีกครั้ง
และเมื่อมองเลยโต๊ะทำงานไป เราจะมองเห็นภาพติดวิญญาณอิป้า
อยู่ใน Dressing room
Dressing room จะมีกระจกบานใหญ่ พร้อมตู้เสื้อผ้า 2 ตู้
ภายในมีเครื่องใช้เก็บไว้เป็นสัดส่วน
มาชมห้องน้ำกันบ้างครับ กว้างมาก มีให้เลือกทั้ง อ่างอาบน้ำ และเรนชาวเวอร์
ตามแต่อารมณ์จะพาไป
ถูกใจข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำครับ ใช้แต่ของดีๆมีแบรนด์ทั้งนั้น
ด้านนอก ตรงห้องนั่งเล่น ก็จะมีห้องสุขาอีกห้องนะครับ ตกแต่งคล้ายๆกัน
มีโอกาสได้ไปถ่าย(รูป) ห้อง type เริ่มต้นราคาเบาๆของที่นี่ ซึ่งต่างกันที่ขนาด
แต่การตกแต่งเหมือนกัน คือ การจัดแสงสีให้ชวนฝัน สมชื่อ ดรีมโฮเทล
แต่ห้องน้ำจะไม่มีอ่างอาบน้ำให้นะครับ เป็นชาวเวอร์อย่างเดียว
ออกมาชมสระว่ายน้ำกันบ้างครับ แสงสีเย้ายวนชวนว่ายมาก แต่เดี๋ยวก่อน!
วันนี้ว่ายไม่ได้ เมนส์มา "....."
บริเวณสระว่ายน้ำจะมี Flavors Lite เป็นบาร์ค็อกเทลและอาหารว่าง
ให้ได้สั่งทานกันริมสระครับ
น่าทานมั้ยครับ? Beef or Chicken Sharma in Pita Bread with French fries
American Hot dog with French fries
นอกจากนี้ บริเวณชั้น 2 ของตึก 1 ยังมี Flavors Restaurant
ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของที่นี่
ภายในยังมี Lounge ไว้ให้ดื่มด่ำกับเสียงเพลง และเครื่องดื่มยามค่ำคืนอีกด้วย
พี่เสือนำชมบรรยากาศภายใน Flavors Restaurant
เดี๋ยวเราจะมาชิมอาหารแนะนำของเชฟ Chef Recommendations กันนะครับ
เป็นอาหารไทย 4 Course ราคาแค่ 800++ เท่านั้นครับ
เริ่มออกสตาร์ทน้ำย้อยกันด้วย Jumbo white prawn salad with Thai herbs
กุ้งตัวแน่นๆหอมสมุนไพรไทย รสชาติจะคล้ายๆพล่า แต่มีความเข้มข้นมากกว่า
ตามด้วยซุป Chicken and galangal with young coconut milk soup
เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวอ่อนหอมชวนทาน
มาถึงจานหลัก Mussaman curry with lamb shanks and steamed rice
ปกติผมไม่ถนัดเนื้อแกะ เนื่องจากไม่ค่อยถูกกับกลิ่น แต่จานนี้ทานได้สบายครับ
ตบท้ายด้วยของหวาน Pumpkin custard คัสตาร์ด ฟักทอง
แล้วก็ยังมีอาหารรสชาติไทย และของหวานให้ทานอีกหลายอย่างเลยครับ
นอกจากนี้ เราก็ยังมาทานอาหารเช้าที่ Flavors Restaurant อีกด้วย
มาดูไลน์อาหารกันครับ
ถือว่าครบถ้วน สำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าดีๆสักมื้อ
เห็นออมเล็ตชีสจานนี้แล้ว รู้สึกได้ถึงความใส่ใจของพนักงานที่นี่
จัดแน่น จัดเต็ม ชีสนี่ขอเพิ่มเป็นพิเศษเลยครับ
นอกจากบานเฟี้ยมกับโต๊ะทำงานแล้ว เดี๋ยวจะแอบจิ๊กชีสที่นี่กลับบ้านด้วย
จบลงไปแล้วครับ สำหรับช่วงเวลาผ่อนคลายสบายๆที่ ดรีมโฮเทล แบงค็อก
ต้องบอกว่าประทับใจในคุณภาพ ที่ทางโรงแรมใส่ไว้ในทุกส่วนของการใช้ชีวิตที่นี่
เมื่อเทียบกับสนนราคาแล้ว ถือว่าคุ้มมากมายครับ ใครที่จะเดินทางมาพัก
หรือหาที่พักให้กับเพื่อนๆญาติๆในกรุงเทพฯ ผมขอเสนอให้ ดรีมโฮเทล แบงค็อก
ช่วยสร้างความประทับใจให้กับแขกคนสำคัญของคุณ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนจบนะครับ