เมื่อมาถึงสนามบินเชียงใหม่ ออกจากเกท ผมเลี้ยวซ้ายไปที่ประตูแรก เพื่อขึ้นรถแท็กซี่ไปที่อาเขต
มารอบนี้ใช้ของ บ.สหกรณ์รถยนต์บริการ เห็นรถว่าใหม่ดี เป็นฟอร์จูนเนอร์
สนนราคา สนามบินเชียงใหม่-อาเขต 180 บาทครับ
บอกคนขับให้ไปส่งที่ช่อง 47 เลยครับ เป็นของบ.เปรมประชาขนส่ง รอบที่ผมไปเป็นรถตู้
เชียงใหม่ - ปาย ราคาคนละ 150 บาท รอบนี้มีทั้งหมด 4 คัน ขอติหน่อยนะครับ
การจัดการค่อนข้างแย่ จะถึงเวลารถออกแล้ว ผู้โดยสารหรือแม้แต่คนขับ ยังไม่รู้เลยว่า
รถของตัวเองเบอร์อะไร? เบอร์ที่ข้างรถไม่ได้ช่วยอะไรนะครับ เพราะมันไม่ตรงกับในตั๋ว
ดังนั้น แนะนำว่าซื้อตั๋วแล้วอย่าไปไหนไกลครับ เดี๋ยวจะตกรถ
น่าจะมีการเปิดโอกาสให้มีคู่แข่งบ้าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาในด้านบริการครับ
ใช้เวลา 3 ช.ม.เราก็เดินทางมาถึงเมืองปาย ชุมชนเล็กๆของชาวต่างชาติ
ผมเป็นคนที่ชอบเที่ยววันธรรมดา ดังนั้นผมจึงชินกับการเป็นคนไทยส่วนน้อยให้หมู่ฝรั่ง
รู้สึกตัวเองเป็นดั่ง ฮัมมิ่งเบิร์ดน้อยในฝูงห่าน
จากท่ารถ ผมเลี้ยวซ้าย(อีกแล้ว) เพื่อไปยังที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกล ที่พักของผมคือ เฮือนสราญเกสเฮ้าท์
พบโดยบังเอิญขณะที่ผมเข้าไปเซอร์เวย์ในกูเกิ้ลแม็พ ตั้งใจว่าจะไปดูริมปายคอทเทจ
แต่ไปสะดุดตากับที่นี่ ซึ่งเป็นแนวที่ผมชอบเลย ฮี่ๆๆๆๆ
เอาละครับมาชมห้องพักของ เฮือนสราญเกสเฮ้าท์ กันบ้าง
ตกแต่งแบบวินเทจหน่อยๆ ประมาณเพลินวานที่หัวหิน
อารมณ์แบบนี้ มันใช่เลย!
ห้องที่ผมพักคือห้องเบอร์ 1 ซึ่งอยู่ติดถนน ที่เลือกเพราะห้องนี้มีระเบียงให้นั่งเล่นส่องสาวๆ
เฮือนสราญ ตั้งอยู่ตรงจุดเริ่มของถนนคนเดินด้านตะวันออก
ผมวอร์กอินเข้ามาในราคาคืนละ 800 บาทครับ
**ราคาในริวิวอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา โปรดสอบถามก่อนเข้าพัก
เตียงแบบวนิดา
ห้องเล็กๆไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่อึดอัดนะครับ มีเก้าอี้ให้นั่ง แต่ส่วนใหญ่คงเอาไว้วางกระเป๋ากัน
ห้องน้ำแอบเก๋กู๊ด ถ้าเรามาช่วงหนาวจัดๆ เรื่องห้องน้ำสำคัญมากนะครับ
โรงแรมที่เราพักต้องมีเครื่องทำน้ำร้อน เพราะถ้าเป็นเครื่องทำน้ำอุ่นตามบ้านทั่วๆไป
เอาไม่อยู่แน่นอนครับ
ล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อย ออกไปเดินเล่นดีกว่าครับ เป็นเมืองที่ชิวดีจริงๆ
ระหว่างเดินเล่น ก็เลือกหาซื้อทัวร์ซะหน่อย เนื่องจากผมไม่ได้เช่ารถมา จึงหาซื้อทัวร์
เพื่อความสะดวกในการเดินทางครับ ทริปนี้ผมใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน
โดยวันรุ่งขึ้นผมวางไว้ว่าจะไปปางอุ๋ง หมู่บ้านจีนรักไทยฯลฯ ซึ่งเป็นทัวร์แบบเต็มวัน
แล้ววันสุดท้ายจะขึ้นไปห้วยน้ำดัง ซึ่งเป็นทัวร์ช่วงเช้า จบประมาณ 10-11โมง
ซึ่งก็ทันที่ผมจะนั่งตู้รถกลับเชียงใหม่ เพื่อขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯในตอนเย็น
***
ทัวร์เต็มวันปางอุ๋ง ราคาคนละ 700 บาท
ทัวร์ห้วยน้ำดัง ราคาคนละ 300 บาท
ทั้งสองทัวร์ผมใช้บริการของลุงเต็งในถนนคนเดินนี่แหละครับ
ผมไม่ได้เช่าแมงกาไซด์ขี่เที่ยวรอบเมืองครับ เก็บแรงเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้ต้องออกทัวร์ตั้งแต่ตี 4
วันแรกจึงปิดท้ายกันที่ถนนคนเดิน ในช่วงไฮแบบนี้ ผู้คนก็ยังคึกคักถึงแม้จะเป็นวันธรรมดาก็ตาม
เที่ยวเมืองไทยไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินครับ บ้านเราอุดมสมบูรณ์
แวะมาปายอย่าลืมทานเต้าหู้ย่างนะครับ ทานตอนหนาวๆอร่อยมาก
เพราะทุกคนร่วมสร้างสีสัน ปาย จึงมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร
ขอเชิดชูเกียรติของข้าหลวงไทยจิตอาสา 2 ท่านนี้ครับ
ท่านหนึ่งเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ อีกท่านเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไปเที่ยวปายอย่าลืมร่วมกันทำบุญด้วยนะครับ
เริ่มต้นวันที่ 2 ทัวร์มารับตั้งแต่ตี 4 เพื่อออกเดินทางไปยังปางอุ๋ง
โดยใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ช.ม.ครับ
ความสวยงามของปางอุ๋งเกิดขึ้นด้วยสายหมอกที่ล่อยลอยอยู่เหนือผิวน้ำ
ผมทึ่งในการทำหน้าที่ของหงส์พระราชทานจากพระราชินี ซึ่งออกมาอวดโฉมทันที
ที่นักท่องเที่ยวมาถึง มันคงภูมิใจมากที่ได้ถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท
เรือไม้ไผ่ลำน้อย ล่องลอยท่ามกลางสายหมอก
หากเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน คงจะโรแมนติกมิใช่น้อย
ไปเที่ยวกันต่อครับ จากปางอุ๋ง เราลงมาทานอาหารเช้ากันที่บ้านรักไทย
ค่าอาหารไม่รวมอยู่ในทัวร์นะครับ แต่มีชารสชาติดีให้ชิมฟรีหนึ่งจอก
โปรแกรมต่อมาคือ น้ำตกผาเสือ ซึ่งช่วงนี้ไม่ค่อยมีน้ำสักเท่าไหร่
ส่วนภูโคลน ก็ปล่อยเป็นเรื่องของสาวๆไป ผมจึงถ่ายรูปแมวรอ
โปรแกรมต่อมาคือ ชุมชนคนกะยัน ณ บ้านห้วยเสือเฒ่า
ผมไม่อยากใช้คำว่า กะเหรี่ยงคอยาว
เพราะตอนเด็กๆเคยถูกปลูกฝังให้เรียกชาวเขาตามชื่อชนเผ่าของเขา
และคิดว่าคำๆนี้ถ้ามีใครมาเรียกเรา ก็คงไม่ชอบใจเท่าไหร่
ผมจึงขอเรียกว่า กะยัน (Kayan) ตามปกซีดีของศิลปินคนนี้ครับ
หากโลกนี้ไม่มีสี ความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ก็คงลดลง
จากนั้นเราไปทำบุญกันที่วัดพระธาตุดอยกองมูครับ
ต่อไปเป็นถ้ำปลาครับ ซึ่งเป็นลักษณะของปากถ้ำเล็กๆที่มีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
โปรแกรมทัวร์วันนี้ค่อนข้างเยอะครับ และบางที่ก็ไม่มีอะไรมาก
แต่คิดว่ามันคงเป็นการกระจายรายได้ ให้ชาวแม่ฮ่องสอนโดยทั่วถึง
ปิดท้ายทัวร์วันนี้ กับเบื้องหลังการถ่ายทำของภาพเปิดบล็อคที่จุดชมวิวกิวลมครับ
ใครเคยไปอาจจะพบเห็นน้องๆแต่งเป็นชาวเขามาถามว่า จะถ่ายรูปกับเค้ามั้ย
เวลาเจอสถานการณ์ ผมมักจะมีความคิดที่ขัดแย้งกันระหว่างกระแสสังคม
กับความสงสาร และความสงสารมักจะชนะเสมอ แต่เชื่อว่าวันนี้น้องเค้ามีความสุข
จากสิ่งที่เราได้ทำร่วมกันในวันนี้ กระโดดทีนึงน้องๆก็จะวิ่งเข้ามารุมดูภาพที่กล้องทีนึง
เด็กๆหัวเราะกันสนุกสนานมากครับ
ลากันด้วยภาพทะเลหมอกยามเช้าที่ห้วยน้ำดัง ซึ่งเป็นสุดท้ายที่ผมไปช่วงเช้าของวันที่ 3
ก่อนที่จะเดินทางกลับมาขึ้นเครื่องที่เชียงใหม่ครับ
ช่วงหน้าหนาวนี้ขอให้ทุกคนเที่ยวอย่างมีความสุข และเดินทางปลอดภัยทุกท่านนะครับ
สุดท้ายนี้..ขอฝากเพจท่องเที่ยวน้อยๆ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ
คลิ๊ก จุดพักนักเที่ยว