~ First ~ My Diary, My Business
Group Blog
 
All Blogs
 

นี่นะหรือ คือ มารยาหญิง

เมื่อวานนี้เป็นวันพุธ ที่ 25 ก.พ. เวลา 5.30 น. ซึ่งมันเป็นเวลาเลิกงานที่ ออฟฟิศพอดี (จะบอกทำไมวะ เนี่ย 5555 ) ที่จริงมันก็เป็นเวลาปรกติของทุกๆวันทำงานของผมนะครับ มาทำงานสาย แต่กลับตรงเวลานี่มันนสัยของผมเลย 555 (แต่ที่สายนิไม่ได้สายแบบน่าเกลียดนะครับ สัปดาห์ นึง สาย ซะ 2 วัน ถ้านับเป็นเวลาก็ 1-3 นาที อันนี้เรื่องไม่ดีต้องตีแผร่ 555)

กลับมาเข้าเรื่องเลยครับ หลังจากเลิกงานขับรถกลับ ประมาณ 30 นาทีก็ถึงที่ซุกหัวนอน ผมก็จอดรถเรียบร้อย แล้วก็ต้องทำหน้าที่ประจำของทุกวัน คือ เดินไปรับลูกที่ประตูน้ำ ซึ่งมันก็เป็นเวลาที่แฟนปิดร้าน แล้วก็เดินกลับบ้านพอดีเหมือนกัน ส่วนมากแล้วผมจะเดินไปทันช่วง ครึ่งทางพอดี

ผมก็เดินไปเรื่อยๆ ๆ แล้วก็เรื่อยๆ อีก (มันจะเรื่อยอะไรเยอะแยะวะ ฮา) ผ่านครึ่งทาง ก็ยังไม่เจอ แฟนกับลูกซะที ผมก็ยังเดินไปอีก คิดในใจว่า คงกำลังชอปปิ้งข้างทางไปด้วยเลยช้า เดินไปสักพักก็ยังไม่เจอ เลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มาโทรหาดีกว่า ว่าแล้วก็หยิบโท สับ มาโทร....

ผม : ฮา... โหล... อยู่ไหนนิ.....

แฟน : อยู่ร้าน... ลูกมันไม่ยอมเดิน ลูกมันบอกว่าปวดขา เดินไม่ไหว

งานเข้าแล้วครับ... ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า... ไปเล่นซนอะไร ทำไมถึงขึ้นเดินไม่ได้เลยเหรอ ผมเลยต้องรีบไปรับลูกที่ร้าน แล้วก็อุ้มลูกมาเรื่อยๆ ระหว่างที่อุ้มเดินมาเรื่อยผมก็ถามตลอดทางเลยว่า ไปเล่นอะไรมา ทำอะไรมาบ้าง ปีนโต๊ะแล้วตกหรือเปล่า ลูกก็ตอบว่าไม่

เดินมาเรื่อยๆ จนถึงบ้าน กำลังจะเดินเข้าบ้าน คุณลูกก็พูดขึ้นมาว่า ป๊า ลืมซื้อ เซเว่น หรือเปล่า... โอเค.. ในเมื่อตอนเช้าเราบอกเองว่า จะซื้อขนมให้ตอนเย็น แต่ผมก็พูดในใจว่า บร๊ะ ยังจำได้อีก 555

เลยต้องเดินเข้า เซเว่น พอประตูเซเว่นเปิดเท่านั้นล่ะครับ คุณลูกก็ลงเดินเองเลย เท่านั้นยังไม่พอ ยังวิ่งไปโซน ชอคโกแลตที่ประจำอีก พอตอนมาจ่ายตังค์ ผมก็เลยถามลูกว่า แล้วไม่เจ็บแล้วเหรอขา อ่ะ

คำตอบที่ได้ก็คือ มันหายแล้วจ่ะ ป๊า

ผมก็ได้แต่พูดว่า ฟระ มันช่างเหมือนแม่ ไม่มีผิดเลย 55555

สรุปก็คือ คุณลูก ขี้เกียจเดิน เลยแกล้งเจ็บขาซะงั้น



หลังจากกินเสร็จก็ยังวิ่งเล่นได้ตามปรกติ




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2553 11:11:19 น.
Counter : 398 Pageviews.  

Linkin Park อย่างฮา

คนทำนี่ไอเดียเจ๋งจริงๆ ทำไปได้นะ





 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2553 9:52:18 น.
Counter : 407 Pageviews.  

ทีมไทยหัวใจขี้แพ้

มาอีกแล้วครับ ทั่นผู้อ่าน มีเรื่องที่น่ายินดีกับนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยอีกแล้วครับ

คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร

เมื่อใช้กรรมการฟีฟ่าชาติเป็นกลาง ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ที่โคราชกลับมีคุณค่ากว่าเป่ากันเองแบบไทยๆ

แล้วเป็นสิ่งพิสูจน์หัวใจกองเชียร์ชาวไทย ทีมชาติไทยแพ้ได้ ขอให้แพ้อย่างสมเกียรติ นักเตะทุ่มเทเต็มที่ แฟนบอลชาวไทยทำไมจะรับไม่ได้

ผมดูทีมชาติไทยเล่นทั้ง 3 แมตช์ หลังเกมกับเดนมาร์กสรุปว่า ทีมชาติไทยอยู่ห่างคำว่าพัฒนาหลายกิโลฯ

ความคุ้นเคยกับเสียงนกหวีดของกรรมการชาวไทย เกมกับสิงคโปร์ โปแลนด์ และเดนมาร์ก นักเตะไทยเฝ้ารอเสียง (สวรรค์) นกหวีดเป่าเอื้อเจ้าภาพจากกรรมการชาวแอฟริกันที่พยายามทำให้เกมเป็นเกมและยุติธรรม

ธีรเทพ วิโนทัย (ลีซอ) กำลังจะเป็นนักเตะที่เข็นไม่ขึ้นเอาจริงๆ เพราะสื่อไม่อยากแตะหรืออะไรก็แล้วแต่ ประสบการณ์จากอังกฤษกับเบลเยี่ยมช่วยเกือบไม่ได้เลย และอีกไม่นานจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ลีซอเรียนจบดอกเตอร์ด้านภาษาอังกฤษมาหรืออย่างไร จึงมีปัญหากับเสียงนกหวีดของกรรมการบ่อยมาก นี่ไม่ใช่เกมแรกที่เขาตีหน้าเซ่อเด๋อด๋าแสดงความบริสุทธิ์ หลังจงใจเล่นฟาวล์ต่อหน้ากรรมการ การกระโดดกางแขนใส่นักเตะสิงคโปร์ ถ้าไม่เพิ่ม “จังหวะ” สองที่จงใจใช้ท่อนแขนดีดกระโดงคางคู่ต่อสู้ กรรมการคงไม่ชูเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออก ถ้าเป็นกรรมการชาวไทยจังหวะนี้คงปล่อยผ่านและการเล่นนอกเกมอย่างไม่เกิดประโยชน์จะเพิ่มมากขึ้น

โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสโมสรแชมป์ยุโรปบาร์เซโลน่ายังแนะนำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หุบปากและตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมของตัวเอง รู้จักเคารพกรรมการ ถึงแม้บางครั้งกรรมการเป็นฝ่ายผิดพลาด นักเตะต้องรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมทีมกรณีถูกไล่ออกอย่างโง่ๆ และต้องรู้จักแคร์ความรู้สึกของแฟนบอลด้วย

การฟาวล์เพื่อตัวเองกับเพื่อทีมแฟนบอลแยกแยะได้ นักเตะจะไม่ถูกตำหนิหรือกล่าวโทษเสมอไป เมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกไล่ออก เขากล่าวคำขอโทษเพื่อนนักเตะรีล มาดริดและรู้สึกเสียใจอย่างแท้จริง

นักเตะไทยเป็นพวกใจขี้แพ้ ตัวอย่างนี้แสดงชัดเจนแมตช์ที่เล่นกับโปร์แลนด์ วันนั้นถ้าทีมไทยแพ้ 3-0 ผมคงมองไม่เห็นจิตใจ “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” ของลูกทีมไบรอัน ร็อบสัน

แต่สกอร์ 3-1 ต่างหากที่จิตใจขี้แพ้กระจายเกลื่อนสนาม

ลองไปขอยืมเทปบันทึกการแข่งขันจากช่อง 7 สี มาฉายดูใหม่สัก 2-3 รอบก็ได้ โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ยิงจุดโทษเข้าไป เทิดศักดิ์เดินกลับออกมาอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครสักคนเข้ามาแสดงความดีใจ แม้แต่กัปตันทีม

เกมที่เดนมาร์กถล่มไทย 3-0 หลังทำประตูทีมไทยได้ทุกประตู นักเดนมาร์กเข้าไปแสดงความยินดี กอดบ้าง ลูบศีรษะบ้าง ตบหลังบ้าง ให้กำลังใจกันและกัน การแสดงความดีใจด้านหนึ่งคือความเคารพคู่แข่งว่าพวกเขาไม่ได้ไล่ยิงหมู อีกด้านเป็นการเสริมสร้าง “สปิริต” ของทีมให้แกร่งและทรงพลัง จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซีและทีมชาติอังกฤษ ไม่เคยละเลยที่จะชื่นชมลูกทีม

ผมทายว่า..นักเตะไทยทุกคนแม้แต่เทิดศักดิ์คิดว่าทีมแพ้อยู่แล้ว 3-1 คงไล่ไม่ทัน ยิงจุดโทษได้จึงไม่มีใครแสดงความยินดี ทุกคน “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” นี่แหละสันดานแก้ไม่หาย ทั้งๆ ที่ยังมีเวลาอีก 3-5 นาที เพียงพอที่จะเพิ่มความฮึกเหิมให้ยิงได้อีกสัก 1 ประตู แต่เมื่อสปิริตทีมไม่มี นักเตะสิ้นหวังไม่รู้ ทีมชาติไทยจะไปได้ถึงไหน

แอฟริกันเนชั่นส์ คัพ ทีมแองโกล่ายิงถล่มมาลี 4-0 เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์ดังกล่าว ทว่า ช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายเกอีต้ากองกลางจากบาร์เซโลน่ายิงประตูตีไข่แตก เพื่อนร่วมทีมมีหัวใจเป็นมืออาชีพรุมล้อมแสดงความยินดี สปิริตของทีมแข็งแกร่งและไม่ขี้แพ้ ก่อนนกหวีดหมดเวลาประตูที่ 2 ตามมา ขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นเพิ่มพูน ช่วงทดเวลามาลียิงอีก 2 ประตูจบด้วยผลเสมอ 4-4

นี่คือตัวอย่างหัวใจไม่ขี้แพ้ที่นักเตะไทยควรเรียนรู้

แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอล ตราบเสียงนกหวีดยาวยังไม่ดัง นักเตะอาชีพจะไม่สิ้นหวัง ถึงจะพ่ายแพ้พวกเขาก็ได้ใจกองเชียร์...

แฟนบอลชาวไทยรอปรบมือให้นักสู้ตลอดเวลา

ได้ที เอาใหญ่ เลย ตรู อ้ออ ลืม ที่มา : manager.co.th

ปล. บางคนอาจจะบอกว่า ถ้ามรึ..ง เก่งทำไมไม่ไปเตะเอง วะ 555
ผมขอตอบว่า ถ้าผมเก่งผมไปแล้วครับ




 

Create Date : 25 มกราคม 2553    
Last Update : 25 มกราคม 2553 21:10:25 น.
Counter : 457 Pageviews.  

ขอแรงๆ กับ การเชียร์บอลไทยสักที!

วันนี้ผมได้อ่านบทความนึงในเว็บประจำของผม แล้วรู้สึกว่ามันโดนจริงๆ ก็เลยอยากให้อ่านกันดู ไอ้ครั้นผมจะเขียนเองก็คงจะไม่โดนใจแบบนี้

สำหรับหลายๆ คน ที่เคยบอกว่า ไม่เชียร์บอลไทย=ไม่ได้เป็นคนไทย


ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า

การเชียร์ เชียร์เพื่ออะไรครับ

เชียร์ เพื่อให้ดีขึ้น ให้เจริญขึ้น

คนเชียร์จะได้ชื่นใจ จะได้มีกำลังใจเชียร์ต่อไปไม่ใช่เหรอ??


แต่ .. ทุกวันนี้ลองมาคิดกลับกันสิครับ

เชียร์ เชียร์ไปแล้วได้อะไร?

เชียร์ไปแล้วถอยลงๆ ห่วยลงๆ

แบบไม่แคร์สื่อ ไม่แคร์คนดู ไม่แคร์แฟนบอล ไม่แคร์อะไรเลย งั้นเหรอ??

แบบว่า กูจะเล่นของกูแค่นี้ กูจะวิ่งแค่นี้ กูจะทำงานแค่นี้

" แต่ต้องมาดูกันให้เต็มสนามนะ! "

" มาสนับสนุนกันเยอะๆ นะ! "

อย่างงั้นหรือ?


ถ้าเชียร์แล้ว ทำได้ดี เล่นเต็มที่ทุกนัด ไม่ติดแอ็ค ไม่ติดหล่อ

ถ้าเชียร์แล้วเห็นการเปลี่ยนแปลงในแต่ละนัดไปในทางที่ดีขึ้น

เข้าใจเกมส์มากขึ้น เล่นกันได้ดีขึ้น มีรูปเกมส์ มีแบบแผนมากขึ้น

จะมีคนด่ามั้ย?

ถามตรงๆ แค่นี้


** ส่วนเรื่องเชียร์อะ

ต่อให้ห่วยกว่านี้ ให้แย่กว่านี้แค่ไหนมันก็ต้องเชียร์อยู่แล้วครับ

แต่ .. รบกวนช่วยกรุณาลืมตา มองหา เหตและผล ด้วย

กรุณาเอาใจใส่กับกำลังใจของคนเชียร์ด้วย

กรุณาเห็นอก เห็นใจ แฟนบอลบ้าง

ไม่ใช่หลับตาเชียร์แทบตาย แหกปากคอแทบแตก

แล้วสิ่งที่ได้รับกลับมา ... แค่เนี้ย!!!???


โถ.. จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากจะอะไรมากหรอกครับ

เพราะไอ้สิ่งที่เห็นๆ ก็เห็นกันอยู่ รู้กันดี ว่ามันเป็นยังไง

แต่ดูด้วยครับ ช่วยดูกันด้วย

ไม่ใช่สักแต่ว่า จะปกป้องๆ อย่างเดียว


"ปกป้องได้ ไม่ใช่เรื่องผิด"

แต่ช่วยปกป้องแบบ "ลืมหู ลืมตา" กันหน่อย

เวลามีอะไรเข้ามาทำร้าย

อย่างน้อยๆ มันก็ได้เห็น ได้มอง ได้รู้ก่อน

จะได้หาทางแก้ไข พัฒนากันให้ดีขึ้นไป


ไม่ใช่ว่า ปกป้องแบบ "ไม่ลืมหู ลืมตา"

เพราะว่า เวลามีอะไรเข้ามาทำร้าย

มันจะมองไม่เห็น มันจะป้องกันแบบมั่วๆ

สักแต่ว่า กูจะปกป้อง กูจะป้องกัน อย่างเดียว

แต่หารู้ไม่? มันไม่เคยป้องกันได้จริงๆ เลย

แค่ทำให้ดูเหมือนว่า ได้ปกป้อง ได้ป้องกัน ไปแค่นั้นเอง

สุดท้าย .. มีแต่ทำให้เจ็บมากขึ้น เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้นเอง


เผื่อบางคนจะมาบอกว่า

ผม "มือไม่พาย ดันเอาเท้าไปราน้ำอีก"

ผมขอบอกตรงนี้ว่า

บางครั้งถ้าการที่จะเอาเท้าราน้ำบ้าง ให้เรือมันวิ่งเอื่อยๆ หยุดเลยได้ ก็ยิ่งดีครับ

เพราะบางทีคนจำนวนมาก ริม 2 ฝั่งน้ำ จะได้เห็นๆ จะได้รับรู้ กันบ้าง

ว่าภายในเรือมันเน่า มันเละ มันเฟะ แค่ไหนแล้ว?

ไม่ใช่ว่า เรือแล่นเร็วฉิว คนอื่นๆ มองว่า ไปได้ดี ไปได้สวย

แต่ช่วยดูใหม่เถอะครับ ...

ว่า คนบนเรือมันเป็นอย่างไรกันบ้าง?

มันดี มันเก่ง มันเพอร์เฟ็ค ได้อย่างที่คนรอบๆ เห็นกันหรือเปล่า?


อะไรดีๆ เราก็ควรยกย่อง ส่งเสริมกัน ใช่มั้ย?

แต่อะไรที่มันไม่ดี ไม่เหมาะ ไม่ควรละครับ

ใยเราจะปล่อยให้ มันเป็นไป ตามเรื่อง ตามราว อย่างงั้นหรือ?


>>บอลนอก เล่นไม่ดี เราด่า เราว่า เราตำหนิ เราติไป

>>ต่อให้ถูก ต่อให้จริง ต่อให้เลิศหรูแค่ไหน

>>ยังไง มันก็คงไปไม่ถึง

>>แต่บอลไทย เราคลุกคลีกับมันมาตั้งแต่สมัยไหนๆ

>>เราสามารถสัมผัสมันได้ รับรู้ รู้สึกถึงมันได้

>>เพราะมันอยู่ในสายเลือดของเราคนไทยทุกๆ คน

>>ช่วยกันเถอะครับ

>>ช่วยกันพัฒนาให้มันไปในทางที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่เหมาะสม

>>ผมเชื่อมั่นและมั่นใจนะครับ

>>ว่า ทีมชาติไทย สามารถยกระดับตัวเองได้มากกว่านี้อีกเยอะครับ


**สุดท้าย ผมไม่ค่อยได้แรงแบบนี้เลยนะ

แต่ได้เห็น ได้อ่าน ได้รับรู้อะไรต่อมิอะไรมามากมาย แล้วมันอดไม่ได้จริงๆ

... หากผมทำให้ใครหรืออะไรไม่พอใจ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ


ที่มา //www.soccersuck.com ครับ




 

Create Date : 24 มกราคม 2553    
Last Update : 24 มกราคม 2553 9:35:29 น.
Counter : 452 Pageviews.  

thanks....


" เคย รู้สึกดี ๆ กับใครซักคนบ้างมั้ยคะ ??

เคยอยู่กับใคร 2 ต่อ 2 แล้วรู้สึกอุ่นใจมั้ย ?

เคยจับมือใครซักคนแล้วรู้สึกว่า ปลอดภัย บ้างมั้ย ?

เคย กอด .. ใครซักคนแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกบ้างมั้ย ??

ช่วงเวลา ที่ผ่านมา มันอาจจะดู เร็วไปนิด .. กับการกอดใครซักคน
เรากอดกัน เพราะมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันมันไม่ผิดใช่มั้ย ?

ใช่ .. มันไม่ผิด

แต่มัน ผิดที่ฉัน ..
ที่คิดไปไกลเกินกว่า คำว่าความรู้สึก ๆ ที่เค้าคนนั้นมีให้ฉัน ..

ฉันไม่รู้สึกเสียดาย ที่ตัดสินใจ กอดเค้า เมื่อวันนั้น
แต่ฉัน รู้สึกเสียใจ ที่ฉัน .. ห้ามใจตัวเองไม่ได้

ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ เค้าจะคิดยังไง แต่ที่แน่ ๆ เค้าคงไม่ได้คิด
อะไรที่มันทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ ๆ อย่างที่ฉันคิดตอนนี้ แน่ ๆ

ฉันกำลังรู้สึกว่าเราห่างกัน .. ห่างกัน . . . . และ


ห่างกันไปเรื่อย ๆ ๆ

เหนื่อยจัง .. ท้อจัง .. ฉันล้มอีกแล้วเหรอเนี่ย
นี่ขนาดเค้าเตือนฉันแล้วนะ . . ว่าทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้
ฉันรู้ เหตุผล ทุกอย่างดี รู้ทุกอย่างดี .... T^T


แต่ฉันก็ยังจะดื้อดึง ดื้อ รั้น งมงาย
อยุ่คนเดียว คิดทุกอย่างไปคนเดียวววว

ขอบคุณเวลา ที่ทำให้เราได้เจอกัน
ขอบคุณอ้อมกอด ..
ขอบคุณมือใหญ่ ๆ ของเธอ
ขอบคุณเสื้อสีน้ำตาล
ขอบคุณยา
ขอบคุณ sms ที่อ่านทีไรมีกำลังใจทำงานทุกที
ขอบคุณความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กัน
ขอบคุณดาวเสาร์

ขอบคุณความสุข ..

และ



ขอบคุณน้ำตา ..


จากนี้ไป ฉันคง กลับมาเป็น ชาดา คนเดิม ซักที

* จากนี้ไป . . รักตัวเอง กอดตัวเอง . . ทำตามความฝันที่ตัวเอง
ต้องการ .. แม้มันจะไกล .. จะเหนื่อย ท้อแท้ หวั่นไหว ล้ม แล้ว ล้ม อีก ซักก่ครั้งก็ตาม ..



รักเธอ .. "



ขอบคุณที่อ่าน จนถึงบรรทัดนี้ครับ จะบอกว่าที่อ่านมาผมไม่ได้เขียนครับ 55 ไปก้อป มาจากที่นึง แต่ก็ขอบคุณคนเขียนเจ้าของบทความ ที่ทำให้ผมรู้ตัวเอง...




 

Create Date : 24 มกราคม 2552    
Last Update : 24 มกราคม 2552 16:51:06 น.
Counter : 412 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

jammy_2525
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Friends' blogs
[Add jammy_2525's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.