เพลงใต้ดิน ทางเลือกที่ใกล้แค่เอื้อม
เมื่อพูดถึงเพลงใต้ดินหลายคนก็คิดไปถึงเพลงที่มีจังหวะรุนแรง มีถ้อยคำหยาบกระด้าง ป่าเถื่อน สามหาว หรือบางครั้งก็ไม่รู้ว่าแม่งร้องภาษาอะไร ซึ่งคนในสังคมส่วนใหญ่ มักจะคิดว่าเพลงพวกนี้เป็นเพลงที่บ่อนทำลาย ไม่จรรโลงโลก หรือไม่ควรที่จะเปิดให้บุตรหลานบังเกิดเกล้าฟัง ซึ่งมันก็จริงอยู่
แต่อันที่จริงเพลงใต้ดินมันก็มีหลายแบบ บางทีเพลงไหนไม่ได้สังกัดค่ายบนดิน ไม่ได้สังกัดแกรมมี่ อาร์เอส ก็จัดให้ลงไปอยู่ในดิน ซึ่งถ้าจะนิยามเพลงใต้ดินว่าเป็นเพลงที่รุนแรงชั่วร้าย เพลงหลายเพลงก็ไม่ได้จะกระหน่ำดนตรียัดรูหูของเราซะเมื่อไหร่ เพลงเมโลดี้สวยๆ เนื้อหากินใจก็มีเยอะแยะมากมาย
ตั้งแต่เด็กๆ เพลงใต้ดินหาฟังโคตรยาก ผมจำความได้เทปม้วนแรกที่ซื้อก็คือมาช่า สาบาน! มาช่าจริงๆ ในช่วงวัยที่วิสัยทัศน์ถูกจำกัด อิทธิพลของสื่อทำให้ผมรู้จักแต่ศิลปินจากค่ายดัง เช่น แกรมมี่ เอสพีศุภมิตร คีตา หรือนิธิทัศน์เป็นต้น ซึ่งองค์กรธุรกิจเหล่านี้ก็ทำดนตรีในรูปแบบ เพื่อมหาชน ละเพื่อปากท้องของตนเอง คือคนหมู่มากเขาฟังดนตรีแบบไหน ก็จะทำแบบนั้น เพลงต่างประเทศไหนดังๆ ก็จะขอหยิบยืมโน้ตมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างเนื้อร้องภาษาไทยให้คนเสพกัน จะเรียกว่าทำนองเดียวสองภาษาก็ไม่ผิดนัก ผมจึงได้ยินเพลงที่เรียกว่าเพลงป็อปมาตั้งแต่เด็ก เพราะ... ไม่ใช่ไม่เพราะ แต่เพลงป็อปในส่วนตัวผม คือเพลงที่มันโผล่ขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วก็มุดหายไปในกาลเวลา (ถ้าจะพูดถึงเพลงเก่าๆ ที่เราฟังกี่ทีๆ ก็เพราะนั้น มันเนื่องมาจากเพลงๆ นั้นได้เข้ามาผูกพันกับชีวิตในวัยเด็กของเรา จึงทำให้เรานึกถึงความทรงจำที่ดี ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกเพลงจะเพราะด้วยตัวของมันเองเสมอไป) ตั้งแต่เกิดมาผมได้ฟังเพลงมาเป็นหมื่นเป็นแสนเพลง บางเพลงก็ลืมไปเลยจนพอบังเอิญได้ยินขึ้นมาก็ถึงจะจำได้ อะไรทำนองนั้น นั่นคือเพลงป็อป วิสัยทัศน์ทางดนตรีในช่วงเจริญวัยจึงค่อนข้างจำกัดอย่างที่ว่า
ถึงตรงนี้ผมพยายามจะแยกคำว่า เพลงที่เพราะ กับเพลงที่ชอบออกจากกัน
เพลงที่เพราะคือเพลงที่ฟังแล้วเพราะ อาจจะเป็นเพลงที่มีเนื้อหากินใจ อาจจะเป็นเพลงที่มีจังหวะทำนองสนุกสนาน แต่เมื่อเราฟังเพลงที่ชอบ มันอาจจะไม่ใช่เพลงที่เพราะ มันอาจจะเป็นเพลงที่ร้องไปสบถไป อาจจะมีเสียงโวยวายเกรี้ยวกราด ด่าทอ แต่เราชอบ นี่เป็นสิ่งที่ผมค้นพบเมื่อได้มีโอกาสเอาวิสัยทัศน์มุดลงดิน ในสมัยมัธยมผมได้ร่วมกลุ่มกิจกรรมกับชมรมสาระบันเทิง ซึ่งมีพี่ๆ ที่มีใจรักในดนตรีและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างขวาง ได้แนะนำดนตรีประเภทที่คนทั่วๆ ไปในประเทศนี้เขาไม่ฟังกัน ซึ่งแน่นอนก็ต้องเริ่มจากแนวดนตรีเฮฟวี่ ผลิตผลจากแรงบันดาลใจของคนนอกสังกัดค่ายยักษ์ ที่ได้สัมผัสดนตรีมันๆ ของต่างประเทศ อย่าง Pink Floyd, Led Zeppelin, Black Sabbath, Metallica, Iron Maiden, Megadeth และอื่นๆ ...ทำให้ผมคิดว่า เพลงไทยที่ฟังๆ อยู่นั้นมันเหมือนละอองอะไรซักอย่างในจักรวาลดนตรีจริงๆ ....ด้วยความเคารพ เพลงไทยค่ายดัง ไม่ใช่ไม่เพราะหรือไร้คุณภาพ ผมยอมรับการทำงานและการสร้างสรรค์ ผลงานของพวกเขา อัสนีย์ วสันต์, ธเนศ วรากูลนุเคราะห์, เรื่อยไปจนถึง คุณรณชัย ถมยาปริวัตร คือยอดฝีมือของวงการดนตรีบนดิน แต่ผมมักคิดว่าอะไรที่มันหาได้ยากมันมักจะน่าสนใจกว่าเท่านั้นเอง
โชคดีที่แผงเทปแถวบ้านนำเพลงอันเดอร์กราวมาวางกันบนแผงให้ได้ลองเลือกไปเสพกัน แล้วในที่สุดก็พบความแตกต่างที่ถูกนำเสนอผ่านจังหวะร้อนๆ โดยวงดนตรีที่ผมตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินชื่อ อย่าง เฮฟวี่มด ดีเซมเบอร์ ดอน ผีบิน ผมรู้สึกว่าวงการนี้มันน่าสนใจ ผมจึงติดตามเพลงอันเดอร์กราวควบคู่ไปกับ นันทิดา, ใหม่ เจริญปุระ, แร็พเตอร์ และเต๋า สมชาย
ตั้งแต่เริ่มยุคของดนตรีทางเลือก (อัลเตอร์) ในยุคกลางทศวรรษที่ 90 ที่ได้รับอิทธิพลมาจากแนวดนตรีที่แสบหูด้วยเสียงกีตาร์ที่เกรี้ยวกราดอย่าง Radiohead, Shed7, Manic Street Preachers, Oasis, Suede หรือพวกพังค์อย่าง Greenday, Smashing Pumpkins เรื่อยไปถึง ซีแอทเทิล ซาวน์อย่าง Nirvana, Soundgarden จนทำให้เกิดวงไทยสายพันธุ์นี้ออกมามากมาย ซึ่งดนตรีชนิดนี้ทำให้มาตรฐานดนตรีป็อปของไทยดูดุดันขึ้น เป็นเหตุให้ความเบาๆ ของดนตรีป็อปมาพบกันความหนักหน่วงของดนตรีอันเดอร์กราวได้สะดวก โดยนักศึกษาที่สานฝันตัวเองด้วยการหยิบยกสไตล์ดนตรีอัลเตอร์มาเป็นแนวทาง จนเกิดกลุ่มแนวดนตรีในบ้านเราที่เรียกว่า college sound อย่างพวก บาร์บี้, ซิกชายน์, เนอสเซอรี่ ซาวน์, พาราดอกซ์, สี่เต่าเธอ ฯลฯ ซึ่งในส่วนตัวผมผมคิดว่าช่วงเวลานั้นมันเป็นเวลาที่ต้นไม้ดนตรีในบ้านเรามันได้ออกดอก ออกผลอย่างสมบูรณ์ มีเพลงชื่อประหลาดๆ ใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน เพลงตามวิทยุก็หลากหลายขึ้น คงเพราะเป็นเวลาเดียวกับที่ผมเรียนอยู่พอดี เลยมีอารมณ์ร่วม (ซึ่งนี่อาจจะทำให้คุณอ้างอิงที่ผมพูดช่วงต้นๆ แล้วเถียงว่าเพลงมันไม่ได้เพราะจริงหรอก 55) แต่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการมาบรรจบกันของอันเดอร์กราว กับออนเดอะกราวน์ เพลงของ ซีเปีย, โมเดิร์นด็อก, แบล็คเฮด, ซิลลี่ ฟูลส์ คือความสำเร็จของดนตรีกลายพันธ์ที่ทำให้ทุกวันนี้เราได้มีทางเลือกในการเสพดนตรีมากขึ้น วันนี้เราจึงได้เห็นวง Bikini, Clone, Growing Pain, Ebola, Mad Pack It หรืออัลบั้มรวมงานอย่าง Military ออกมาวางคู่กับเบิร์ด ธงชัย ได้อย่างไม่ขัดเขิน
ไม่ได้บอกให้คุณมาฟังเพลงใต้ดินหรืออินดี้ เพื่อยกระดับชีวิตของคุณ คนที่เสพดนตรีที่ตนชอบ และส่งเสริมงานดีๆ ของคนที่เขาตั้งใจทำงาน ไม่ว่าจะเป็นดนตรีไทยเดิม ดนตรีตลาด หรือดนตรีใต้ดิน เหล่านั้นคือคนที่มีคุณค่าต่อโลกแห่งเสียงเพลงอย่างแท้จริง สำหรับเพลงใต้ดินในวัยเด็ก หรือเพลงอินดี้ในปัจจุบันก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่สนใจ และก็น่ายินดีที่ปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงได้ในทุกๆ ซอกของวงการดนตรีบ้านเรา
Love your Music, Respect others.
Create Date : 31 มีนาคม 2548 | | |
Last Update : 8 พฤษภาคม 2548 0:45:58 น. |
Counter : 965 Pageviews. |
| |
|
|
|