Group Blog
 
All blogs
 
Equilibrium ในโลกปัจจุบัน

มีความเชื่ออย่างหนึ่ง ที่เชื่อมานานแล้ว คือการที่เราทำอะไรมากไปในด้านหนึ่ง มันจะต้องเกิดผลตรงกันข้ามอย่างเท่าๆ กัน เป็นกฏธรรมชาติที่พยายามจะรักษาระดับสมดุลย์ไว้ ความคิดนี้มีในรูปทฤษฎีเยอะแยะ เช่นทฤษฎีความโกลาหล ที่บอกว่าระบบเมื่อถูกรบกวนจะพยายามสร้างสมดุลย์ใหม่ทุกครั้ง ฯลฯ คงจะไม่พูดถึงทฤษฎี

ลองนึกอย่างง่ายๆ คือถ้ามีขาวก็จะมีดำ ถ้ามีสูงก็ต้องมีเตี้ย มีคนที่ผิวดำมากๆ อย่างชาวอาฟริกัน ก็ต้องมีคนขาวมากๆ อย่างชาวยูโรเปี้ยน หรือนางแบบญี่ปุ่น

ลองนึกถึงเรื่องแรง ถ้าเราดึงเชือกแรง เชือกก็จะไปตึงอีกด้าน ยิ่งดึงมากมันก็ตึงมาก และพอขาดมันก็เด้งกลับมาตามแรงที่เราใส่ลงไปตามกฎฟิสิกส์ หรือของที่มีน้ำหนักมาก เราก็ต้องออกแรงต้านมากขึ้นเพื่อยกมัน

ผมคิดไปเรื่อยเปื่อย ถึงเรื่องความคิดหรือแนวคิดต่างๆ คือยกตัวอย่างถ้าเรามีคนดีมากๆ ประเสริฐมากๆ เป็นไปได้ไหมว่าในสังคมนั้นจะต้องมีฆาตรกรโหดโจคจิตอยู่มากเหมือนกัน เพื่อทำให้ระบบสมดุลย์ หรือถ้ามีคนรวยมากๆ อยู่ในสังคม ในสังคมนั้นก็จะต้องมีคนจนมากยิ่งขึ้นๆ ยิ่งคนรวยรวยโคตรแค่ไหน คนจนก็จะจนสุดโต่งอะไรทำนองนั้น ซึ่งหากความคิดผมเป็นจริง การทำลายช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ก็จำเป็นต้องสกัดกั้นความรวยของเศรษฐีต่างๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยในระบอบประชาธิปไตย

เรื่องความรักก็เช่นกัน หากเรารักแฟนมาก เวลาเลิกรากันไปก็จะรู้สึกเสียใจมาก หรือเกลียดมาก หากเรารู้สึกเรื่อยๆ เชื่อยๆ กับความรัก พอเลิกรากันไป กลับรู้สึกสบายและยังอาจจะกลับมาเป็นเพื่อนได้อีก

ความคิดเกี่ยวกับความสมดุลย์อันนี้ไม่รู้ว่าจะพิสูจน์ยังไง แต่ในทางวิชาการ บางเรื่องก็พิสูจน์ได้ไม่ยาก เช่นการต้มน้ำ ระบบมีความร้อนเกิดขึ้น น้ำถูกรบกวน จึงต้องหาทางออกโดยการระเหยออกไปเป้นไอ โดยพาความร้อนออกไปด้วยเพื่อปรับระบบให้สมดุลย์ แบบนี้โอเคเข้าใจ แต่อย่างความรักอะไรแบบนั้นคงลำบากหน่อย

แต่มาสะดุดตรงที่ความคิดเรื่องการปรับตัวตามธรรมชาติ มันคล้ายๆ กับคำสอนของศาสนาพุทธเรื่องทางสายกลางพอดี การเดินสายกลางเป็นวิธีการดำเนินชีวิตที่ดีที่สุด การมีมากไป น้อยไป อิ่มไป หิวไป อะไรแบบนี้เป็นการสร้างความไม่สมดุลย์ทั้งนั้น เพราะงั้นผมว่า ระบบโลกทั้งระบบเองก็คงพยายามเดินสายกลางรักษาสมดุลย์ของมันเหมือนกัน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็คงเป็นปรับตัวของสังคมมนุษย์ ที่ผมเองก็ไม่รู้จะเอามาโยงกันได้ยังไง

แต่พอดีนึกขึ้นมาเลยอยากจะมาแปะไว้ให้อ่านครับ



Create Date : 04 พฤษภาคม 2548
Last Update : 4 พฤษภาคม 2548 14:55:16 น. 7 comments
Counter : 411 Pageviews.

 
อะนะ

เห็นด้วยนะพี่

ถ้าไม่มีคนดี มันก็ไม่มีคนเลว

ไม่มีผู้แพ้ก็ไม่มีคนชนะ T_T

มันต้องมีสิ่งเปรียบเทียบกันเสมออะ


โดย: palermo วันที่: 4 พฤษภาคม 2548 เวลา:14:41:05 น.  

 
อืมมม เห็นด้วย....แกเขียนได้ดีนะแนล แต่ ชั้นติดใจ ตรง ไมต้อง นางแบบญี่ปุ่น ฟระ 5 5 5 ไม่มีหลุดคอนเซ็บเลยนะแก


โดย: fan_man_u วันที่: 4 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:57:32 น.  

 
อืมมม


โดย: maezono_no7 วันที่: 4 พฤษภาคม 2548 เวลา:17:05:20 น.  

 
สาธุ........

ติดใจตรงนี้

>>> หากเรารู้สึกเรื่อยๆ เชื่อยๆ กับความรัก พอเลิกรากันไป กลับรู้สึกสบายและยังอาจจะกลับมาเป็นเพื่อนได้อีก <<< จริงเหรอ...


โดย: man u girl วันที่: 4 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:52:25 น.  

 
หยังงี้จะเป็น zero sum game ป่าวครับ แหะๆ ก็เล่นหักล้างไปซะทุกอย่างหยังงี้
อืม แต่ถ้าธรรมชาติต้องปรับตัวให้สมดุลตามที่คุณบอก งี้อีกไม่นานโลกคงต้องรีเซทตัวใหม่หมด เพราะมนุษย์ได้กระทำกับโลกไว้ซะขนาดนี้ ทสึนามิเป็นแค่การเตือนละมั้งครับ


โดย: ข้าวตู วันที่: 4 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:58:47 น.  

 
palermo: ในเวลานี้คงเข้าใจสัจธรรมดี เมื่อเชลซีพบกับความสำเร็จสุดยอดในขณะเดียวกัน ต้องมีความผิดหวังเกิดขึ้น และเผอิญแข่ง UCL พอดี 55 แย่หน่อย

fan_man_u: 55555

maezono no.7: ใช่มั๊ย

man u girl: จริงครับ ตึงมากๆ เหตุที่จะแยกจากกันได้คือการขาด เมื่อขาดก็จะเกิดความเสียหาย มากกว่าการสัมพันธ์ที่หย่อยยาน และถูกตัดออกด้วยความตั้งใจ

ข้าวตู: ถ้าจะพิจารณาดีๆ แล้วหากคนกลุ่มหนึ่งยังตะบี้ตะบันทำลายโลกอย่างสุดโต่ง ก็จะมีมนุษย์อีกพวกที่พยายามรักษาธรรมชาติอย่างสุดโต่งเข่นกัน ดังนั้นโลกคงจะไม่รีเซทตัวเองหรอกครับ แต่คงเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของคน 2 กลุ่มนี้


โดย: blogmaster (nsk ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2548 เวลา:3:19:11 น.  

 
ทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลน่ะคะ

... แต่บางครั้งผลก็ไม่แต่แปรผันตามเหตุเสมอไป ...

ทางที่ดีที่ทางสายกลางคะ ... แต่ทำได้หรือเปล่าอีกเรื่อง โดยเฉพาะความรัก ยากลึกหยั่งถึง ... ทำดีเท่าไหร่เหมือนยิ่งถีบตัวเองต่ำลง - -'

มาบ่นอะไรบอร์ดคนอื่นล่ะอิฉัน ^^'


โดย: KoPoK วันที่: 8 พฤษภาคม 2548 เวลา:17:06:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nsk
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีชาวโลก...

Bangkok


Los Angeles


-/ -
id=objMediaPlayer1 width=150 viewastext>




















width="150" height="64" bgcolor="ffffff" autoplay="true" cache="true" enablejavascript="true" controller="true">


sniper/ หนึ่งในล้าน
id=objMediaPlayer1 width=150 viewastext>




















width="150" height="64" bgcolor="ffffff" autoplay="true" cache="true" enablejavascript="true" controller="true">


เจย์ โชว/ Cloudess Day
id=objMediaPlayer1 width=150 viewastext>




















width="150" height="64" bgcolor="ffffff" autoplay="true" cache="true" enablejavascript="true" controller="true">


Friends' blogs
[Add nsk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.