Specail 2
Note: อันนี้อยู่ระหว่างตอนที่ 13-14 เป็นช่วงสอบของคนอ่านหลายๆท่านและเป็นช่วงเครียดของเรื่องด้วย เลยเขียนอะไรฮาๆมาให้อ่านเล่นกัน
########################

Ever After ตอนพิเศษรอบสอง--- เจ้าชายนิทรา

กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานแสนนาน ณ อาณาจักรอันแสนมั่งคั่งเพราะปกครองด้วยพระราชาที่แม้จะโหดเหี้ยมแต่ก็เปี่ยมด้วยเดชานุภาพ พระเจ้ามัลฟอยที่ 3 (นามเดิมอุปราชลูเซียส) กับพระนางนาร์ซิซัส ประชาการชาวเมืองจึงอยู่กันอย่างสงบสุข(แม้จะหวาดหวั่นหน่อยๆ)และตอนนี้ชาวเมืองก็กำลังมีความยินดีกันทั่วไปเมื่อได้ทราบว่าพระราชินีทรงมีประสูติกาลพระโอรสเป็นทายาทแก่อาณาจักร

เจ้าชายน้อยเดรโกจึงกำเนิดขึ้นมาท่ามกลางความชื่นใจของทุกคน พระชารามัลฟอยจัดงานฉลองยิ่งใหญ่ให้แก่เขาในงานนั้นมีเหล่าพ่อมดมาร่วมงานมากมาย ต่างก็ให้พร(หรือเสกคาถา) อันเป็นมงคล เช่น ขอให้เจ้าชายมีรูปโฉมที่งดงาม เชี่ยวชาญในศิลปะและการดนตรี เก่งกล้าสามารถ ใช้เวทมนต์ได้คล่องแคล่วและอีกนานับข้อดี

แต่ขณะที่ทั้งหมดกำลังฉลองกันอย่างรื่นเริงนั้นก็พลันมีเมฆดำทะมึนเข้ามาปกคลุมเมือง ร่างในชุดสีดำสนิทโผล่เข้ามาในงานพร้อมกับเสียงร้องอย่างเคียดแค้น
“เจ้าลูเซียสจอมโอหัง เจ้ากล้าดียังไงถึงไม่เชิญข้า”

“อ๊ะ นั่นโวลเดอร์มอร์นี่” พ่อมดคนหนึ่งอุทาน โวลเดอร์มอร์ พ่อมดฝ่ายมืดที่มีฤทธิ์มากที่สุด

“ข้า...ข้าขออภัย” ราชาลูเซียสกล่าวอึกอัก “ข้าไม่คิดว่าท่านจะสนใจงานแบบนี้”

“ไม่ต้องมาพูดดี” น้ำเสียงของโวลเดอร์มอร์ยังคงดังก้อง “แกต้องรับโทษ” ไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่เปลของเจ้าชายเดรโก

“อย่า ได้โปรด” ราชินีนาร์ซิซัสทำท่าจะวิ่งเข้ามาหาโอรส

“สายไปแล้ว” พ่อมดมืดหัวเราะก้อง “ข้าขอสาป ถึงเจ้าชายจะได้พรมากมายจากพ่อมดสวะพวกนี้
แต่เมื่อเจ้าชายอายุครบ 16 ปี เขาจะต้องกินยาพิษร้ายที่ชื่อว่า เนคตาร์ แล้วเจ้าชายก็จะตายไปในทันที ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

โวลเดอร์มอร์สาปแล้วก็หายวับไป

“โธ่ ลูกข้า” ราชาอุทาน

“ใจเย็นก่อน” เสียงสงบเสียงหนึ่งดังขึ้น พ่อมดเคราสีเงินที่สวมเสื้อคลุมสีฟ้าสดใสก้าวออกมาจากกลุ่มพ่อมด “ข้ายังไม่ได้ให้พรเจ้าชายเลย”

“ท่านดัมเบิลดอร์ โปรดช่วยลูกข้าด้วย” ราชินีนาร์วซัสขอร้องทั้งน้ำตา

ไม้กายสิทธิ์ชี้มาที่เจ้าชายน้อยซึ่งตอนนี้กำลังทำท่าหงุดหงิดราวกับจะถามว่าทำไมวันนี้มีคนเอาไม้มาชี้หน้าเขาอยู่ได้ทั้งวัน

“เจ้าชายจะดื่มยาพิษนั้น แต่จะไม่ตาย เพียงแต่จะเปลี่ยนร่างและหลับไปเท่านั้น จนเมื่อครบร้อยปีจะมีคนที่สามารถจะฝ่าพันอุปสรรคเข้ามาถึงในปราสาทและจะปลุกเจ้าชายให้ฟื้นขึ้นมาได้”

คาถาจบลง “ข้าคงทำได้เท่านี้แหละนะ” ดัมเบิลดอร์บอก

“ไม่เป็นไร เท่านี้ก็พอแล้ว” ทุกคนต่างพากันโล่งอก ยกเว้นตัวคนให้พรกับเจ้าชายน้อย

“เอ..เราลืมอะไรไปรึเปล่านะ เจ้าชายจะเปลี่ยนเป็นอะไรล่ะเนี่ย”


และแล้วกาลเวลาก็ผ่านไปไวหยั่งกับละครไทยน้ำเน่า 16 ปีต่อมาเจ้าชายเดรโกก็เติบโตขึ้นเป็นเจ้าชายรูปงาม ร่างสูงโปร่ง ผมสีทอง และดวงตาสีฟ้า แถมพกพาความสามารถรอบตัวอีกเพียบ แล้วก็รวมไปถึงนิสัยหัวแข็งอย่างร้ายกาจ ก็เค้าโดนตามใจมาตั้งแต่เด็กนี่นา

“ทำไมข้าขึ้นไปที่หอคอยตะวันตกไม่ได้”

เจ้าชายโวยวายกับเครบและกอยย์มหาดเล็กคนสนิท

“ก็เพราะท่านพ่อบอกว่านั่นเป็นเขตหวงห้ามที่ขอรับ” แครบว่าอึกอัก

กอยย์รีบเสริม “แล้ววันนี้พระคู่หมั้น เจ้าหญิงแพนซี่จะเสด็จมาเสวยน้ำชาด้วยนะขอรับ เจ้าชายไม่ควรออกไปไหน”

เจ้าชายรูปงามเบ้หน้า “นั่นแหละที่ทำให้ข้าต้องไป” เขาว่าแล้วก้าวฉับๆ ทิ้งคนสนิทเงอะงะไว้เบื้องหลัง

“เจ้าชาย เจ้าชาย”

เรื่องอะไรเราจะต้องไปกินน้ำชากับยัยเจ้าหญิงหน้ามู่ทู่นั่น เจ้าชายเดรโกคิด ยัยเด็กเลือดสีโคลนลูกครึ่งชาวป่าอย่าง เกรนเจอร์ที่เป็นนางกำนัลของเสด็จแม่ยังหน้าตาดีเสียกว่า เฮอะ แต่เราก็มาสนอยู่ดี เขาเบะปากแล้วเดินพรวดๆ ขึ้นบันไดหอคอยไปอย่างรวดเร็ว

มีอะไรกันนักกันหนานะ เสด็จพ่อถึงห้ามเราขึ้นมาบนนี้ เจ้าชายพิศวง เขาเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปในห้องนั้น

ร่างในชุดคลุมสีดำกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ ตรงหน้ามีโถใสใส่น้ำยาสีเขียวเคี่ยวอยู่บนเตาเล็กๆ

“เจ้าเป็นใคร” เจ้าชายขมวดคิ้วแถมแบบไร้มารยาทสุดๆ “กำลังทำอะไรอยู่”

เสียงแหบๆตอบกลับ “ข้าก็เป็นแค่พ่อมดธรรมดา ๆ น่ะเจ้าชายเดรโก”

“เจ้ารู้จักข้าด้วย? งั้นตอบมา น้ำยานั่นคืออะไร”

“น้ำยาที่ทำให้ข้ามีเวทมนต์มากที่สุดในพิภพนี้” เสียงนั้นตอบ

ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง “จริงเหรอ” รอยยิ้มแบบเด็กเกเรผุดขึ้น “ข้าไม่เชื่อหรอก นอกจากว่า” สาวเท้า
เข้าไปใกล้ “จะให้ข้าลองกิน”

“อ๋อ ได้แน่นอน” มือเหี่ยวย่นรินน้ำยาก่อนจะยื่นแก้วส่งให้ “ลองสิ ถ้าท่านไม่กลัว”

“เรื่องอะไรข้าจะต้องกลัว” เจ้าชายว่าแล้วยกแก้วนั้นดื่มรวดเดียวหมด

“โอ๊ะ” เขาอุทาน ร่างทั้งร่างกระตุก แก้วในมือตกแตกเปรื่องปร่าง “ข้าเป็นอะไรไป” เจ้าชายทรุดลงไปกองกับพื้น

“ฮ่า ฮ่า คำสาปของข้าสัมฤทธิ์ผลแล้ว” พ่อมดร้ายหัวเราะอย่างสาสมใจจะหายตัวไป

ร่างของเจ้าชายเดรโกที่อยู่ตรงนั้นหลับสนิทและกำลังเปลี่ยนแปลง


เมื่อพระราชาและพระราชินีมาร่างของพระโอรสอีกครั้ง ทั้งสองก็แทบช็อค

“ไอ้ลูกหัวดื้อ ไม่ยอมเชื่อข้า” พระเจ้าลูเซียสเบือนหน้าหนี ขณะที่พระราชินีร้องไห้อย่างสุดกลั้น
“ต้องมาอยู่ในสภาพนี้ ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรได้นอกจากรอเวลาให้ครบร้อยปี พระราชาด้วยความที่อับอายต่อสภาพของทายาท
พระองค์จึงทรงปิดตายหอคอยนั้น แล้วปิดข้าวทั้งหมดให้กลายเป็นว่าเจ้าชายเดรโกตายจากไปด้วยโรคร้าย
และแล้วอาณาจักรที่ไร้ทายาทสืบต่อ เมื่อราชาแก่ชราลงก็เสื่อมไปตามองค์ผู้ปกครองบ้านเมือง

จนสุดท้ายก็กลายเป็นเมืองร้างในที่สุด ทุกคนลืมเลือนเรื่องของเจ้าชายรูปงามผู้แสนเอาแต่ใจไปสิ้น
เหลือเพียงตำนานที่บิดเบือนไปจากความจริงเท่านั้น

และแล้วเวลาร้อยปีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว (ไม่รู้จะช้าทำไม)

“นี่รอน เจ้าว่าที่นี่แน่นะ” เสียงห้าวที่นั่งอยู่บนม้าสูงสีขาว “ที่มีปราสาทร้างน่ะ” คนพูดถามต่อพลางใช้มือปัดเส้นผมสีดำยุ่งเหยิงของตนให้พ้นหน้าผาก

“ขอรับ เจ้าชายแฮร์รี่” คนสนิทของเขาตอบ เจ้าตัวก็พยายามลูบผมสีเพลิงของตนให้เข้าที่เข้าทาง “ตาเฒ่าที่หมู่บ้านข้าง ๆ นี่คงไม่โกหก” ถ้าแกไม่เลอะเลือนไปเองน่ะนะ เจ้าตัวคิดโดยไม่ยอมบอกเจ้านาย
ไม่รู้ทำไมเจ้าชายของเขาถึงคลั่งไคล้เรื่องเก่า ๆ โบราณประเภทปราสาทร้างมีปีศาจสิงอยู่นัก

“อืม” ใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทพยักหน้าท่าทางสมใจ ดวงตาสีเขียวจ้องมองกลุ่มดงไม้หนาทึบที่ปกคลุมตัวอาคารปรักหักพัง “งั้นเข้าไปกันเถอะ”

“เอ่อ เจ้าชายขอรับ แต่ว่าเดี๋ยวจะถึงเวลานัดกับเจ้าหญิงโชแล้วนะขอรับ” คนสนิทพยายามเตือน

“อ้อ จริงสิ ข้าลืมสนิท” เจ้าชายแฮร์รี่ชะงักม้า สีหน้ายินดียินร้าย “งั้น เจ้าช่วยไปบอกเจ้าหญิงทีว่าข้าติดธุระ คงไปงานเลี้ยงด้วยไม่ได้แล้ว”

“จะดีหรือขอรับ ปฏิเสธพระคู่หมั้น”

“ช่างเถอะน่า” เจ้าชายว่า กระตู้นม้าให้ออกวิ่ง โดยไม่รอฟังคำทักท้วงอีกต่อไป

ความจริงพระองค์ก็ไม่ได้รังเกียจเจ้าหญิงโชหรอกนะ เคยชอบด้วยซ้ำ ก็เล่นน่ารักเสียขนาดนั้น แต่พระองค์ก็อดรำคาญท่าทางขี้แยเจ้าน้ำตา แถมขี้หึงอย่างร้ายกาจของเธอไม่ได้ ใครจะไปอยากอยู่กับ่อน้ำตาเคลื่อนที่ที่คอยตามติดเราตลอดเวลาล่ะ

แล้วเรื่องตรงหน้าก็น่าสนใจกว่าเยอะ

เจ้าชายแฮร์รี่เองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพระองค์ถึงสนใจเรื่องตำนานโบราณนี่นัก แค่เรื่องตำนานโบราณของเจ้าหญิงที่ถูกแม่มดสาปให้นอนหลับไปร้อยปีนั่น แต่พระองค์ก็เก็บไปฝันอยู่บ่อย ๆ ภาพเจ้าหญิงรูปงามที่นอนหลับอยู่ในปราสาทร้าง รอคอยจุมพิตจากเจ้าชาย

“เฮ้อ เพ้อใหญ่แล้วเรา” รัชทายาทคิดก่อนจะลงจากม้า

ดงไม้หนามนั้นหนาและทึบจนยากที่จะเข้าไปได้ แต่น่าอัศจรรย์ที่เมื่อเจ้าชายเดินไปใกล้ ดงไม้นั้นก็แยกออกเป็นทางให้เขาเดินเข้าไปภายใน ปราสาทกลายเป็นซากปรักหักพักแทบทั้งหมด เหลือเพียงหอคอยเท่านั้นที่ยังอยู่ดี เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปสำรวจที่นั่น

เจ้าชายเดินผ่านบันไดคดเคี้ยวขึ้นสู่หอคอย และเมื่อเปิดประตูเข้าไป เจ้าชายก็ต้องตกตะลึง

บนเตียงนั้น ร่างบางร่างหนึ่งนอนอยู่ เมื่อยิ่งพิจารณาใกล้ ๆ ก็ยิ่งเห็นความงามอ่อนหวาน ผมสีทองที่ยาวสยายเต็มหมอมกับดวงตาหลับพริ้ม แก้มใสสีชมพูและริมฝีปากบาง จะแปลกตาก็แค่ร่างบางที่ควรจะใส่ชุดยาวเฉิดฉายกลับอยู่ในชุดเสื้อและกางเกงทะมัดทะแมงแบบเดียวกับที่เจ้าชายสวม

“ตำนาน เป็นความจริงเหรอเนี่ย” เจ้าชายแฮร์รี่อุทาน
และแน่นอนพระองค์ไม่สามารถหักห้ามใจที่จะก้มลงจุมพิตริมฝีปากแดงเรื่อนั้นได้

และแน่นอนเมื่อเจ้าชายถอนจูบแสนหวานนั้นออก ดวงตาที่หลับพริ้มก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น

จะผิดก็แต่ว่า ใบหน้างามนั้นไม่ได้ยิ้มให้เขา ดวงตาฟ้ากลับเบิกกว้างอย่างตกใจจนอ้าปากค้าง “ทำอะไรของแกฮ๊ะ!!!!!!!!!!!!” เสียงห้าวดังออกมาจากริมฝีปากบางนั้นก่อนที่กำปั้นลุ่นๆ จะซัดหน้าผู้มาปลุกจนกระเด็น

“เจ้า เจ้าเป็น ผู้...ผู้ชาย” เจ้าชายแฮร์รี่ตะกุกตะกัก อ้าปากค้างไม่แพ้กัน

ร่างบางลุกขึ้นนั่ง “ก็เออสิ เจ้าคิดว่าสภาพข้าแบบนี้จะเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงเหรอ” ใบหน้าเรียวหยิ่งเชิดพลางยกกำปั้นขึ้น แต่พอเห็นลำแขนบางของตัวเองก็ชะงัก “ทำไมแขนข้าเล็กนัก เฮ้ย ตัวข้าด้วย และ...อ้ากกกกกกกกกกก” เสียงร้องโหยหวนดังก้องไปทั้งหอคอย

“ร่างกายข้า ร่างกายข้า ผลข้างเคียงจากไอ้ยาบ้านั่นแน่ๆ” คนตัวเล็กโวยวาย

เจ้าชายแฮร์รี่ที่สงบสติอารมณ์ได้แล้วลุกขึ้นมานั่งข้างๆ “เอ่อ ใจเย็นก่อนนะ ข้าว่าร่างกายเจ้าก็ไม่ได้น่าเกลียด” ออกจะน่ารัก ข้ายังเผลอเคลิ้มเลย

“ข้าจะทำยังไงดี” เสียงเจ้าชายจอมดื้อเริ่มเครือ ถูกปลุกเพราะโดนผู้ชายด้วยกันจูบ แถมตื่นขึ้นมาไม่เจอใครนอกจากไอ้บ้านี่ แล้วยังกลายเป็นครึ่งหญิงครึ่งชายอีก

“เจ้าชื่ออะไร” เจ้าชายแฮร์รี่ถาม

“เดรโก” เสียงตอบห้วน ๆ

“’งั้น เดรโก เจ้ากลับไปอาณาจักรของข้าไหม” เจ้าชายแฮร์รี่ชวนยิ้ม ๆ

“ทำไมข้าต้องไปกับเจ้า” เสียงตอบหงุดหงิดแม้จะเริ่มรู้สึกดีใจ

“ก็..อยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครนี่นา เจ้าล่าสัตว์เก่งไหม เล่นควิชดิชได้รึเปล่า”

“อย่ามาดูถูก ข้าเก่งที่สุดในทีมด้วยซ้ำ”

“ดี ข้ากำลังอยากได้เพื่อนมาซ้อมด้วยกันพอดี เจ้ากลับกับข้านะ”

ใบหน้างามครุ่นคิดก่อนจะเชิดหน้าตอบ “ก็ได้ แต่บอกก่อนนะว่าข้าไม่เป็นคนใช้เจ้าแน่” (ไปอยู่บ้านเขาแล้วยังเรื่องมากอีกนะ)

“ได้ๆ ใครว่าข้าจะให้เจ้าเป็นคนใช้ล่ะ” จะเอาไว้ตำแหน่งอื่นต่างหาก หึหึ

แล้วทั้งสองจึงกลับอาณาจักร และอยู่ด้วยกันอย่างผาสุขตลอดไป

..........................จบแล้ว...........................



Create Date : 05 มกราคม 2548
Last Update : 5 มกราคม 2548 17:17:28 น.
Counter : 752 Pageviews.

2 comments
  
วี้วๆ หนุกๆ เอาอีกๆ
โดย: แครอทคุง IP: 202.5.80.202 วันที่: 19 เมษายน 2548 เวลา:21:11:09 น.
  
55+ ชอบเวอร์ชั่นนี้จัง
โดย: เชอร์ลอก โฮมส์ IP: 124.121.131.137 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:51:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]