Chapter 21 [The End]
ตอนที่ 21

“แฮร์รี่ นายจะกลับพรุ่งนี้จริงๆ เหรอ”

แฮร์รี่ พอตเตอร์ละมือจากเสื้อผ้าที่กำลังพับใส่กระเป๋า ข้าวของของเขามีไม่มากนักเพราะส่วนใหญ่ก็เก็บไปอังกฤษตั้งแต่คราวก่อน จะมีก็แต่เสื้อผ้าของซีเรียสที่เขาหยิบมาจากอพาร์ตเมนท์เท่านั้น ชายหนุ่มมองร่างสูงที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านสำนวนการสืบสวนคดีอย่างขะมักเขม้นอยู่บนเตียงของตัว แสงไฟจากเพดานสาดให้เห็นว่ารอยแผลบนใบหน้าคมคายนั้นจางหายไปเกือบหมดแล้ว

“อือ” เขารับสั้นๆ “ฉันจะแวะกลับอพาร์ตเมนท์ซีเรียสก่อน เอาของไปเก็บแล้วก็จะใช้กุญแจนำทางที่นั่น” กุญแจที่รอนเคยติดไว้ให้ตอนที่มาที่บ้านซีเรียสครั้งแรกตอนนี้ยังคงใช้ได้อยู่

“เอลฟ์บ้านของนายคงน้ำตานองอีกแหงเลย” เดรโกพูดทั้งที่ไม่ได้เงยหน้ามามอง มือพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ “เฮ่อ! สำนวนคดีพวกนี้นี่มันยุงยากชะมัดเลยแฮะ ไม่น่าเชื่อว่าพวกนายจะต้องเขียนเจ้าพวกนี้ทุกวัน” เสียงถอนใจอย่างเบื่อๆ

แฮร์รี่อดยิ้มไม่ได้กับท่าทางที่ยังคงดูเอาแต่ใจไม่หายของอีกฝ่าย “เวลาจริงๆ เราอาจจะแค่รายงานต่อที่ประชุมน่ะ มีเลขาคอยจดแล้วก็พิมพ์ให้” เขาพูดแบบคนมีประสบการณ์มาก่อน ชายหนุ่มทรุดนั่งลงบนเตียง “แต่เวลารับงานต่อก็ต้องอ่านสำนวนคดีพวกนี้เหมือนกัน ถ้านายจะทำงานฝ่ายปราบปรามก็ต้องฝึกไว้”

“ฮ้าววววววววววววว”

ใบหน้าหล่อเหลาปิดปากหาวยาวเหยียดก่อนจะวางแฟ้มหนักอึ้งลงบนโต๊ะข้างเตียง ร่างสูงเอนตัวลงนอน มือทั้งสองหนุนศีรษะ “ง่วงชะมัด”

แฮร์รี่มองตามกิริยานั้นก่อนจะพูด “งั้นก็รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้ฉันเองก็ต้องออกไปแต่เช้าเหมือนกัน” ดวงตาสีเขียวหม่นลง พรุ่งนี้ก็จะถึงเวลาจากกันแล้ว

ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงติดกันหมุนตัวกลับมา “นายจะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอ พินซ์ไม่อยากให้นายกลับนะ ต้องร้องไห้งอแงแน่”

แล้วนายล่ะ เดรโก อยากให้ฉันกลับหรือเปล่า

เสียงถามในใจแต่แฮร์รี่ก็ไม่คิดจะพูดออกไป ชายหนุ่มตัดบทพลางเก็บกระเป๋า

“ไม่เป็นไรหรอก พินซ์น่ะ มีเพื่อนเล่นใหม่เดี๋ยวก็ลืมแล้วล่ะ”

ใช่...คนเราลืมเรื่องของคนที่เคยเดินเข้ามาในชีวิตได้ไม่ยากหรอก ยิ่งเมื่อพบสิ่งใหม่ ช่วงเวลาที่เคยมีร่วมกันก็เป็นเพียงสายลมที่พัดผ่าน...เท่านั้น

ร่างสูงที่มองอยู่นิ่งไปอึดใจก่อนจะถามเรียบๆ “แฮร์รี่ นายมีอะไรจะคุยกับฉันไหม”

คนถูกถามเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาสีฟ้าคราม พูดเหรอ.....เขาจะพูดอะไรกับคนที่กำลังจะมีชีวิตใหม่ที่สดใสได้ล่ะ นอกจาก....

ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ดวงตาสีเขียวจ้องตอบกลับส่อแววจริงใจกับคำพูดที่ตามมา

“ไม่มีอะไรมากหรอก เห็นนายกับพินซ์มีความสุขแบบนี้ ฉันก็คงกลับอังกฤษได้อย่างสบายใจแล้วล่ะ”

พูดจบแฮร์รี่ก็เดินไปปิดไฟ ห้องพักนั้นตกอยู่ในความมืดมิด มีเพียงแสงจากหน้าต่างเท่านั้นที่ส่องเข้ามาเห็นเงาสลัวของร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงข้างๆ ชายหนุ่มหันหลังให้กับร่างนั้น ราวกับกลัวว่าความมืดอาจจะไม่สามารถซ่อนความอ้างว้างที่ฉายชัดในแววตาของตนเองตอนนี้ได้

ขอเพียงนายมีความสุข.... เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว....

....................................................................

“โฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

เสียงโหยหวนยาวเหยียดของก๊อกโกดังขึ้นทันทีที่แฮร์รี่บอกมันว่าเขาจะกลับอังกฤษ “ฮึ่ก ฮึ่ก นายท่าน.....นาย...ท่าน”

“ใจเย็นๆ ก่อนก็อกโก” ชายหนุ่มรีบยกมือห้ามมัน “ฉันไม่ได้จะไปตายนะ”

“แต่...แต่..นายท่านจะ..จะทิ้งก็อกโกนี่ขอรับ”

“ไม่ได้ทิ้ง แต่ฉันต้องกลับไปทำงานนะ อยู่ที่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ”

“แล้วนายผู้หญิง เอ้ย คุณเดรโกกับคุณหนูพินซ์ล่ะขอรับ นายท่านจะทิ้งไปหรือขอรับ ฮือ”

แฮร์รี่ชะงักกึก ก่อนจะพูดเสียงขรึม “คุณเดรโกทำงานที่นิวยอร์กนี่ เขาไม่ต้องการฉันคอยดูแลแล้วล่ะ”

“แต่...” เจ้าเอลฟ์บ้านป้ายน้ำตาป้อยๆ จนเจ้านายอดสงสารไม่ได้ ชายหนุ่มทรุดนั่งระดับเดียวกับมันแล้วพูดเสียงอ่อน ๆ

“ก็อกโก ฉันยังไม่ได้บอกคุณเดรโกนะ แต่ฉันกะว่าจะยกอพาร์ตเมนท์นี้ให้เขา” แฮร์รี่ฝืนยิ้ม “ยังไง....ฉันอาจจะไม่ได้กลับมาอีกอยู่แล้ว....เดี๋ยวแกจะได้คอยดูแลพินซ์ด้วยไง ดีไหมล่ะ”

“เลี้ยงคุณหนูพินซ์หรือขอรับ!”ก็อกโกเงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมาทันที “จริงหรือขอรับ!”

ผู้เป็นเจ้านายพยักหน้าย้ำกับท่าทางกระตือรือร้นของเจ้าเอลฟ์บ้าน “จริงสิ” เขาถอนใจ

“แต่แกต้องเลิกเรียกคุณเดรโกว่า นายผู้หญิง ให้ได้ก่อนนะ”

แฮร์รี่หิ้วกระเป๋าลงมายังชั้นล่างโดยไม่ฟังเสียงก๊อกโกที่อาสาจะขนมาให้ เขาสั่งให้มันไปที่โรงพยาบาลแล้วบอกเดรโกเรื่องที่ห้องของซีเรียสแทน อย่างน้อยหมอนั่นกับพินซ์จะได้ไม่ต้องหาบ้านใหม่ให้ยุ่งยาก

ชายหนุ่มเดินลงมาถึงชั้นล่างของตึก มองหากุญแจนำทางที่อยู่ที่รางระบายน้ำตามที่รอนบอกครั้งก่อน ไม่นานนักก็พบ หมวกปาร์ตี้เก่าๆ ถูกผูกทิ้งไว้ตรงซอกของท่อ แฮร์รี่กระชับเสื้อคลุมสีน้ำเงินที่เขาไปซื้อกับเดรโกก่อนที่จะสะพายกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปหาหมวกนั้น

“จะไปทั้งอย่างนี้จริงๆ เหรอ แฮร์รี่”

เสียงทักจากด้านหลังดังขึ้นจากด้านหลัง ชายหนุ่มชะงักกึกก่อนจะหันกลับไปมองต้นเสียง

หญิงสาวร่างท้วมผมสีแดงเพลิงในชุดเสื้อคลุมสีน้ำตาลอ่อนยืนอยู่ เธอกอดอกมองนิ่งหน้าบึ้ง

“จินนี่” แฮร์รี่เรียกก่อนจะละจากกุญแจนำทางเดินเข้าไปหา “มาส่งฉันเหรอ แล้วทอมล่ะ”

คนถูกถามตอบเสียงเรียบเฉย “ทอมไปทำงานจ้ะ ตอนนี้กำลังจัดการปิดคดีเนคตาร์” หญิงสาวขมวดคิ้วพร้อมกับพูดต่อด้วยท่าทางเคืองนิดๆ “ใจคอเธอจะกลับโดยที่ไม่ล่ำลาคนทางนี้เลยนะ แฮร์รี่ ถ้าคุณมอทโกเมอรี่ไม่บอกทอมกับฉันก็คงไม่รู้”

ชายหนุ่มอึกอัก “เอ่อ...ฉันฝากโน้ตไปกับนกฮูกของกระทรวง...”

“แค่นั้นเองเหรอ” เสียงถามต่อเริ่มซักไซ้ จินนี่ยามนี้เหมือนคุณนายวิสลีย์ไม่มีผิด

“ก็...คือ...” คนถูดต่อว่ารู้สึกเกรงใจขึ้นมา ระยะหลังที่มีเรื่องยุ่งๆ เขาก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับพวกจินนี่จริงๆ

น้องสาวของเพื่อนสนิททำเสียงกึ่งงอนกึ่งน้อยใจ “แล้วตอนนี้พอจะมีเวลาคุยกับฉันไหมเนี่ย หรือว่าต้องรีบกลับอีก”

แฮร์รี่ยิ้มเอาใจเธอก่อนจะตอบ “มีแน่นอนอยู่แล้ว งั้น....เราออกจากห้องนี้ก่อนเถอะ ที่นี่อับไม่เหมาะกับคนท้อง”

เขาแตะศอกของจินนี่เบาๆ แล้วพาเธอออกจากห้องชั้นล่าง ขึ้นไปนั่งที่สวนข้างอพาร์เมนท์ หญิงสาวร่างท้วมทรุดนั่งบนม้านั่งพร้อมกับอดบ่นต่อไม่ได้

“ใจร้ายจริงเชียว เธอยังไม่ได้ไปกินข้าวที่บ้านฉันเลยด้วย ทอมก็บ่นทุกวันเรื่องที่อดคุยเรื่องควิชดิชกับเธอเพราะมัวแต่ยุ่งๆ นึกว่าเธอจะอยู่นานกว่านี้”

“ไว้ค่อยคุยกันตอนงานแต่งงานรอนก็ได้นี่นา” แฮร์รี่ทรุดนั่งวางกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ข้างตัว

จินนี่หันไปมองดูชายหนุ่ม “จะรีบกลับไปไหนกันจ๊ะ งานก็เรียบร้อยแล้วนี่นา” เธอถามพลางปัดผมที่ปลิวไสวเพราะลมพัด “แล้วนี่...ลามัลฟอยหรือยัง”

แฮร์รี่ถอนใจพลางฝืนยิ้ม “บอกแล้ว....เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” บอกเสียงเรียบแต่ดวงตาหลุบลง จินนี่มองดูกิริยานั้น

“แล้วอยากจะให้เขาว่าอะไรล่ะจ๊ะ แฮร์รี่”

ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่มีหรอก เห็นหมอนั่นดูมีความสุขดีแล้ว ฉันก็สบายใจ”

“สบายใจ? แล้วทำไมทำหน้าซึมอย่างนั้นล่ะฮึ” จินนี่ย่นจมูก

“ฉันสบายดีน่า ไม่เป็นไร” แฮร์รี่พยายามตัดบท แต่ก็ไม่สามารถซ่อนแววตาหม่นหมองของตนจากอีกฝ่ายได้ หญิงสาวถอนใจเบาๆ “เธอน่าจะคุยกับมัลฟอยให้รู้เรื่องก่อนจะกลับไปนะ”

“เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนี่ ก็ไม่มีอะไร...”

“อย่าปิดเลยน่า แฮร์รี่, เธอน่าจะพูดเรื่องความรู้สึกของเธอสองคนให้รู้เรื่อง จะกลับไปทั้งแบบนี้ได้ยังไง”

“จะให้ฉันพูดอะไรล่ะ จินนี่!”

ชายหนุ่มหลุดปากออกไปโดยไม่รู้ตัว เก็บความน้อยใจไว้ไม่ได้ “หมอนั่นไม่ได้ขอให้ฉันอยู่สักหน่อย! ตอนนี้เขาก็มีอนาคตของเขาเอง ฉันอยู่ก็เป็นส่วนเกินในชีวิตเขาเปล่าๆ”

จินนี่จ้องหน้าของชายหนุ่มนิ่งๆ “แฮร์รี่จ๊ะ แล้ว...เธออยากอยู่กับเขาหรือเปล่าล่ะ”

ชายหนุ่มชะงักก่อนจะพยักหน้า “อยากสิ” เขาเคยคิด...ว่าจะไม่ปล่อยให้คนคนนั้นจากไปไหนอีก แต่ตอนนี้....

“งั้น....” หญิงสาวถามต่อ “เธอเคยถามมัลฟอยหรือยัง ว่าเขาอยากให้เธออยู่หรือเปล่า”

แฮร์รี่นิ่งคิดอยู่อึดใจก่อนจะส่ายหน้า “ไม่เคย”

“เห็นไหม” เสียงอีกฝ่ายบอกว่าเป็นต่อ “ยังเป็นคนปากแข็งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยน๊า มีอะไรก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมถาม เข้าใจอยู่ฝ่ายเดียว แล้วก็ต้องไปนั่งเศร้าอยู่คนเดียวทุกที”

“แต่..”

จินนี่รีบว่าต่อไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายปฏิเสธ “แฮร์รี่จ๊ะ ถ้าเราไม่ถามเราก็ไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายเขาคิดยังไง แล้วถ้าเราไม่พูดออกมาก็สื่อความรู้สึกไปไม่ถึงหรอกนะ นี่มัลฟอยเขาไม่เคยถามเธอบ้างเลยเหรอ”

คำพูดลอยเข้ามาในความคิดของชายหนุ่ม ‘แฮร์รี่ นายมีอะไรจะพูดกับฉันไหม’

“ใช่ หมอนั่นถามนี่นา” ดวงตาสีเขียวเบิกกว้าง

“งั้นจะมัวรออะไรอีกล่ะ แฮร์รี่” น้องสาวของเพื่อนสนิทอมยิ้มพร้อมกับเร่ง “ไปบอกมัลฟอยเลยว่าเธอคิดยังไง”

“แต่...”

“จะมัวรออะไรอีกเล่า ขืนช้าเดี๋ยวเขาก็หลุดมือไปหรอก” ว่าที่คุณแม่เริ่มหงุดหงิด

แฮร์รี่ซึ่งหายกังวลแล้วอดขำกับท่าทางของอีกฝ่ายไม่ได้ “ทำไมดูเธอจริงจังกับเรื่องนี้จังเลย มาจากประสบการณ์จริงหรือเปล่านี่” เขาแกล้งล้อ

จินนี่ทำแก้มป่อง “ลองเธอมีแฟนเป็นคุณหมอพูดน้อย วันๆ เอาแต่อ่านหนังสือกับปรุงยาดูสิ เธอก็รู้เองแหละ” พูดจบหญิงสาวก็ยิ้มพลางตบหลังมือแฮร์รี่เบาๆ

“ไปบอกกับมัลฟอยอย่างที่ใจเธอคิดเถอะ”

แฮร์รี่ผุดลุกขึ้น “ท่าทางฉันจะติดหนี้เธอหลายครั้งแล้วนะ จินนี่ ตอบแทนยังไงก็ไม่หมดแน่” เขาว่าพลางยิ้ม

หญิงสาวยิ้มตอบ “แค่รับเป็นพ่ออุปถัมป์ของลูกฉันก็พอแล้วล่ะ อ้อ แวะไปทานข้าวที่บ้านฉันด้วยล่ะ แต่ตอนนี้รีบไปก่อนเร็ว”

ไม่ต้องเร่ง ชายหนุ่มก็ออกวิ่งไปที่โรงพยาบาลโดยไม่รั้งรออยู่แล้ว

...................................................................

แฮร์รี่ไปที่ห้องคนไข้แต่พยาบาลเวรบอกว่าเจ้าของห้องเพิ่งออกไปข้างนอก เขาจึงรีบวิ่งไปที่สวนหย่อม ชายหนุ่มก้าวไปถึงบริเวณกลางสวนแล้วก็เห็นแผ่นหลังของร่างสูงกำลังเดินช้าๆ อยู่บนทางสายเล็กๆ ที่ทอดยาวไปยังริมฝั่งแม่น้ำ เขารีบสาวเท้าเข้าไปหาพร้อมกับส่งเสียงเรียก

“เดรโก!”

ร่างที่กำลังเดินอยู่ชะงักกึกก่อนจะหันกลับมา ดวงตาสีฟ้าครามเบิกกว้างอย่างประหลาดใจปนตกใจเล็กน้อยที่เห็นชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลัง “แฮร์รี่? ฉันนึกว่านายกลับไปแล้วเสียอีก”

“เดรโก.. ฉันมีอะไรจะพูดกับนาย...” แฮร์รี่พูด เขาหยุดยืนห่างออกไป

ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยกมือกอดอก “ก็พูดมาสิ” เสียงพูดเอื่อยๆ กับสีหน้านิ่งเฉยนั้นบอกความรู้สึกที่ทายไม่ถูก

แฮร์รี่นิ่งอยู่อึดใจก่อนจะพูดช้าๆ

“เดรโก....ฉันบอกว่า นายกับพินซ์มีความสุขแล้วฉันจะกลับอังกฤษได้อย่างสบายใจน่ะ....ฉันโกหก...” เขาก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำทะเล

“ถ้าต้องไปจากที่นี่...ฉันไม่มีความสุขเลย”

“ทำไมล่ะ”

อีกฝ่ายจ้องตอบกลับ สีหน้าเรียบเฉยนั้นปรากฏแววบึ้งนิดๆ ก่อนจะหายไปแล้วเดรโกจึงพูดต่อ

“นายเองก็จะรีบกลับบ้านไม่ใช่เหรอ นิวยอร์กไม่มีอะไรให้นายอาลัยอาวรณ์แล้วนี่” ประโยคนั้นประชดเล็กน้อย

“มีสิ” แฮร์รี่พูดจริงจัง “ก็...นายไงล่ะ”

“ฉัน?”คนถามแกล้งทำหน้าไม่เชื่อ “เพราะฉันงั้นเหรอ? อย่ามาโกหกเลยน่า ขนาดฉันขอให้นายอยู่ต่อนายยังไม่อยู่เลย”

“นายขอให้ฉันอยู่ตอนไหนกัน?” คนถูกกล่าวหาถามกลับ

ใบหน้าคมคายยิ่งบึ้งหนัก “ก็ที่ฉันถามนายเมื่อคืนน่ะว่า นายจะไม่อยู่ต่ออีกหน่อยเหรอ นั่นไม่ใช่คำถามหรือไง”

“นั่นนายถามให้พินซ์ต่างหาก” แฮร์รี่พยายามแก้ต่าง “ช่างเหอะ เอาเป็นว่า...เดรโก...ฉันไม่อยากจากนายไปไหนอีกแล้ว...”

ใบหน้าคมคายแกล้งทำท่าประหลาดใจ “หมายความว่านายอยากอยู่กับฉัน…” ถามแล้วก็ก้มลงมองร่างสูงของตัวเอง “ทั้งที่ฉันเป็นแบบนี้เนี่ยนะ”

แฮร์รี่พยักหน้ามั่นใจ “ใช่ ไม่ว่านายจะเป็นยังไง นายก็เป็นเดรโกที่ฉันอยากจะอยู่ด้วยตลอดไป”

คราวนี้ใบหน้าคมคายจึงยิ้มนิดๆ ดวงตาสีฟ้าครามส่อแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาบ้าง

“งั้น...ต้องพิสูจน์หน่อยล่ะ”

ร่างสูงก้าวพรวดเข้ามาจนชิด มือเรียวยาวแตะที่แขนของชายหนุ่มแบบไม่ทันให้ตั้งตัว “หลับตาสิ” เสียงทุ้มบอกเบา ๆ

“เอ่อ...เดี๋ยว..เดรโก” แฮร์รี่ทำท่าจะถอยหนี ถึงจะทำใจไว้แล้ว แต่ว่าคนตรงหน้าก็ไม่ใช่ร่างเล็กที่คุ้นเคยอยู่ดี “ไม่..เหมาะมั้ง...คือ...”

“นายอยากจะพิสูจน์คำพูดตัวเองรึเปล่า...” เสียงเร่งพร้อมกับจับแขนอีกฝ่ายไว้แน่นกันไม่ให้หนี “ถ้าใช่ก็อยู่นิ่งๆ”

คนที่ขุดหลุมดักตัวเองเลยต้องกลั้นใจหลับตา ลมหายใจอุ่นแผ่วปะทะกับใบหน้า

แล้วชายหนุ่มก็รู้สึกว่ามีมือเล็กๆ เลื่อนมาแตะที่ไหล่ก่อนจะกดลงเล็กน้อยราวกับเจ้าตัวคนจับต้องเขย่งตัวขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยลอยมาพร้อมกับริมฝีปากบางประทับลงบนแก้มอย่างแผ่วเบา

แฮร์รี่รีบลืมตาขึ้นแล้วก็ต้องอ้าปากค้างกับภาพของคนที่อยู่ตรงหน้า “เดรโก? นาย?”

“อะไรเล่า เจ้าแฮร์รี่ซื่อบื้อ”

เสียงพูดกึ่งขำกึ่งเขินดังมาจากร่างเล็กบางที่ยืนชิด ใบหน้าสวยหวานนั้นแสนคุ้นตา จะแปลกก็แต่เส้นผมสีทองที่เคยหยักยาวถูกตัดสั้นเหลือแค่ปรกต้นคอเท่านั้น

“นาย...ทำไม...”

ร่างบางไม่ตอบ กลับหันที่พุ่มไม้ข้างๆ แล้วบอกเสียงดัง “ขอบใจมากพินซ์ ก็อกโก”

เสียงกุกกักพร้อมกับพุ่มไม้นั้นสั่นไหว แล้วใบหน้าเล็กของเด็กหญิงตัวจิ๋วกับเจ้าเอลฟ์บ้านก็โผล่ออกมา “เรียบร้อยแล้วนะเดรก” พินซ์ถามหน้ายิ้มแป้น

เดรโกยิ้มตอบ ขยิบตาให้เด็กในปกครอง “ใช่ ไปเล่นกันก่อนไป๊” แกล้งโบกมือไล่ทั้งสอง โดยแฮร์รี่ซึ่งยืนข้างๆ ยังอ้าปากค้างงุนงงอยู่

“ไปก็ได้ เย๊ ทีนี้แฮร์รี่ก็ไม่ต้องทำหน้าเศร้าแล้ว”

พินซ์หัวเราะคิกคักก่อนจะดึงก็อกโกที่อมยิ้มปลื้มใจออกไปทิ้งให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพังอีกครั้ง

“เดรโก นี่มันอะไรกัน….ทำไมนาย...” แฮร์รี่ถามตะกุกตะกัก

“อ้อ นี่เหรอ” คนตอบแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้จับผมตัวเอง “มันไหม้แล้วก็เลยตัดออกน่ะ”

“ไม่ใช่...ตัวนายต่างหาก...ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ไหนว่าคำสาปคลายแล้ว...” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับแตะไหล่ร่างบางราวกับอยากจะสัมผัสให้แน่ใจว่านี่เป็นเรื่องจริง

“คำสาปคลายเพราะฤทธิ์แอมโบรเชียร์ต่างหากเล่า พอยาหมดฤทธิ์มันก็กลับมาเป็นแบบเดิม จะว่าไปยานั่นก็ใช่ยาวิเศษเลยแฮะ”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมฉันไม่รู้?” ชายหนุ่มยิ่งงุนงงเข้าไปอีก

คนตัวเล็กยักไหล่ “ก็ซักสองสามวันมาแล้วแหละ แต่ฉันยังพอมีพลังเวทย์เสกคาถาแปลงร่างให้เป็นแบบนั้นได้ มาวันนี้แหละที่ต้องให้พินซ์ช่วย ดีนะว่าสอนคาถาแปลงกายให้ยัยนั่นไว้มั่งแล้ว”

แฮร์รี่ฟังจนจบแล้วก็อุทาน “แสดงว่านายหลอกฉันล่ะสิเนี่ย !”

ใบหน้าหวานยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็ตอนที่ฟื้นขึ้นมา นายอยากทำเฉยใส่ฉันก่อนทำไมล่ะ โดนแบบนี้บ้างก็ดี” ว่าแล้วก็ทำท่าจะผละออกห่าง แต่แฮร์รี่ซึ่งหายงงแล้วตวัดแขนรวบเอวของร่างบางไว้ “จะไปไหน ร้ายนักนะนายนี่ ทำฉันไม่สบายใจอยู่ตั้งหลายวัน” ชายหนุ่มพูดแบบกึ่งยิ้มกึ่งหมันเขี้ยว

คนในอ้อมกอดดิ้นขลุกขลักพร้อมกับแลบลิ้นหลอก “ยือ ก็นายอยากอ้ำอึ้ง ไม่ถามเองทำไมล่ะ”
“รู้ไหมถ้าจินนี่ไม่ไปห้าม ป่านนี้ฉันกลับไปนั่งเศร้าที่อังกฤษแล้ว” เสียงพูดอ่อนโยนพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งลูบผมสีทองของคนตรงหน้าเบาๆ

เดรโกนิ่งก่อนจะถาม “แล้ว...นายต้องกลับอังกฤษไหม”

“กลับสิ” แฮร์รี่พยักหน้า มือทั้งสองยังคงอยู่ที่เอวบาง “งานฉันอยู่ที่โน่นนี่นา” ชายหนุ่มถามกลับบ้าง “แล้วนายล่ะเดรโก จะทำยังไงต่อ”

คนตัวเล็กยักไหล่ “ก็ไม่รู้สิ ฉันไม่มีเวทมนต์อีกแล้ว อาจจะกลับไปทำงานที่เดิมละมั้ง หัวหน้าที่ร้านก็คงรับฉันกลับไปทำงานแหละ ถึงจะหยุดนานไปหน่อยก็เถอะ”

“ที่เดิม? ร้านอาหารที่มีเจ้าโทนี่ทำงานอยู่น่ะเหรอ” ชายหนุ่มนึกถึงเจ้าหัวหน้า ‘เดรกแฟนคลับ’ ขึ้นมาแล้วก็อดฉุนไม่ได้

“อือ”

“ไม่เอา ฉันไม่ให้นายกลับไปทำงานที่นั่นแล้ว” แฮร์รี่พูดพลางทำหน้าบึ้ง ดึงให้คนตัวเล็กเข้ามาแนบอกแบบหวงๆ ถึงจะรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้สนใจเจ้าโทนี่ แต่ก็ไม่อยากให้เจ้าหน้าจิ้งจกนั่นมาเกาะแกะวุ่นวายอีก

เดรโกย่นหน้า “แล้วจะให้ฉันทำมาหากินอะไรล่ะฮ๊ะ ไม่ใช่เศรษฐีนี่จะได้ไม่ต้องทำงาน แล้วยังพินซ์อีกค...”

“กลับอังกฤษกับฉันไหม” แฮร์รี่ถามเร็วๆ แทรกเข้ามาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ

คนที่พูดค้างชะงักกึก ใบหน้าสวยฉงน “กลับอังกฤษ...กับนาย?”

“ใช่ ก็บ้านฉันที่กริมโมเพลซ ความจริงบ้านของซีเรียสน่ะ....มันใหญ่จะตาย” ชายหนุ่มหาเหตุผลทีเล่นทีจริง “ทำความสะอาดคนเดียวเหนื่อยแทบแย่แน่ะ...”

“นายจะเอาฉันไปเป็นหัวหน้าพ่อบ้านหรือไง?” เสียงถามห้วนแต่ใบหน้าสวยกลับเรื่อขึ้น

แฮร์รี่ยิ้มก่อนจะก้มกระซิบที่ข้างหูของคนตัวเล็ก “จะอยู่ตำแหน่งไหนก็แล้วแต่นาย...”

แก้มนวลเลยยิ่งแดงขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามแก้เขินด้วยการดันตัวออก “พอเลย...ปล่อยได้แล้ว...”

“ไม่ปล่อย บอกก่อนว่าจะกลับอังกฤษกับฉัน” คนกอดได้ทีเลยซบหน้าลงกับผมสีทองที่ตัดสั้นนั้น

“เอ๊....นายนี่....” ร่างเล็กทำเสียงขัดใจ คนสูงกว่าเลยใช้มือเชยคางของอีกฝ่ายขึ้น ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าคราม เสียงพูดแผ่วกระซิบแต่หนักแน่น “กลับบ้านกับฉันนะ เดรโก”

ใบหน้าขาวซึ่งกลายเป็นสีชมพูไปแล้วหลุบตาลงนิ่งอยู่อึดใจก่อนจะพยักหน้าพร้อมตอบรับเสียงแผ่ว “อือ”

“ไชโย!”

แฮร์รี่ร้องเสียงดัง แขนยาวตวัดเอวบางของอีกฝ่ายแล้วดึงเข้ามาหาจนเท้าของคนตัวเล็กลอยขึ้นจากพื้น ร่างบางหมุนไปตามแรงโอบของคนตัวสูงกว่าที่กำลังหัวเราะเบิกบาน

“เฮ้ย แฮร์รี่” คนที่ถูกหมุนจนตัวปลิวเลยต้องผวากอดคอชายหนุ่มไว้แน่น “ปล่อยนะ เล่นอะไรเนี่ย” เสียงโวยวายลั่นๆ อยู่นานกว่าแฮร์รี่จะยอมปล่อยเขาลง ทั้งสองยืนอยู่กลางสวน สายลมเย็นพัดวูบเข้ามาในสวนจนใบไม้ที่เริ่มแห้งกรอบปลิวโปรยปราย “อากาศเย็นแล้วนะ” แฮร์รี่พูดขึ้นหลังจากคลายอ้อมกอดให้คนตรงหน้าเป็นอิสระ “หนาวไหมเดรโก”

อีกฝ่ายไม่ได้ฟังประโยคนั้นเท่าไหร่เพราะมัวแต่จัดผมสีทองซึ่งยุ่งเหยิงให้เข้าที่เข้าทางพลางบ่น “ลมยิ่งแรงๆ อยู่ยังมาเล่นแบบนั้นอีก ผมยุ่งหมดเลย”

“น่าๆ อ๊ะ....” คนถูกต่อว่าทำหน้ารื่นอารมณ์ดีก่อนจะเพ่งใบหน้านวลที่ตอนนี้ทั้งเขินทั้งฉุน “เดรโก มีอะไรติดหน้านายแน่ะ”

“อะไร” ร่างบางพูดแล้วใช้มือปัดหน้าตัวเอง

“ไม่รู้ ยังไม่ออกเลย นายหลับตาสิ เดี๋ยวฉันปัดให้” ชายหนุ่มพูดหน้าเฉย

“เอ้า”คนตัวเล็กยอมหลับตาโดยดี “เร็วๆ เข้า เดี๋ยวฉันจะไปตามพินซ์”

“อือ” แฮร์รี่กระซิบ มองใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้มเห็นขนตางอนยาวนั้น

ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยน แล้วก้มลงประทับจูบลงบนริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบาอ่อนหวาน สายลมที่พัดกรรโชกเมื่อครู่ผ่อนเบาลงราวกับเป็นใจ มือของแฮร์รี่แตะที่หลังของร่างบางที่ตัวแข็งไปแล้ว เขาดูดดื่มความหวานจากริมฝีปากสีชมพูนั้นจนพอใจก่อนจะผละออก จึงเห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้ายืนเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง

ชายหนุ่มยิ้มกริ่มก่อนจะพูดหน้าตาเฉย “กลับเข้าไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะเรียกพินซ์ให้เอง”

เดรโกได้สติแล้วก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “แฮร์รี่...นาย....”

“อะไรเหรอ” ชายหนุ่มแกล้งทำหน้าฉงนบ้าง

“แฮร์รี่...แก...” เสียงพูดยิ่งตะเบ็ง “ไอ้คนฉวยโอกาส”

ร่างเล็กโผเข้าทุบคนตัวใหญ่กว่าที่วิ่งหลบไป “อย่าหนีนะ เจ้าบ้า ฉันจะฆ่านาย!”

“ไม่เอาหรอก ฉันตายแล้วใครจะอยู่กับนายล่ะ” เสียงตะโกนตอบจากร่างสูงที่แกล้งหนี

“ไม่รู้โว้ย นายตายแน่”

เสียงโหวกเหวกนั้นค่อยๆ แผ่วห่างออกไป สายลมหนาวยังคงพัดแผ่ว แต่บริเวณที่ทั้งสองยืนเมื่อครู่กลับอบอุ่นราวกับว่าช่วงเวลาที่อ่อนหวานนั้นยังคงอยู่

และมันจะยาวนานตลอดไป

……………The End……………




Create Date : 05 มกราคม 2548
Last Update : 5 มกราคม 2548 17:18:04 น.
Counter : 1005 Pageviews.

4 comments
  
อ่านจบแล้วค่ะ สนุกมากมาย

ขอบคุณมากๆนะคะ
โดย: พุทรา IP: 124.121.163.167 วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:40:57 น.
  
นำตาแทบล่วงเลยอ่ะ
โดย: เฟ IP: 202.139.223.18 วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:12:10:06 น.
  
อ๊ากกกกก ฟิคเรื่องนี้รักจินนี่อะ
เดรนะเดรแกล้งเจ้ารี่ได้แสบมาก
ดีแล้วกลับมาเป็นร่างบาง ถ้าเป็นร่างสูงเราขอเถอะ 55+
(ขอรองเท้าครบคู่นะคะ ไม่เอาทีละข้าง 55+)
ตอนท้ายแอบหวานนนนนนนน
นี่ถ้าแฮร์รี่กลับอังกฤศแล้วเจ้าก็อกโกมันจะอยู่กับใครเนี่ย
มาอยู่กับเราไหมห้องกำลังรก 55+

ฟิคเรื่องนี้มีหลายอารมณ์มากมาย
สนุก ซึ้ง หวาน โหด มัน ฮา =[]=
ขอบคุณไรเตอร์มากเลยนะคะที่แต่งฟิคดีๆให้อ่าน ^^
โดย: เชอร์ลอก โฮมส์ IP: 124.121.131.137 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:10:57 น.
  
เป็นเพราะความเชื่อมั่นๆแท้ที่ทำให้พระเอกของเราไม่ยอมแพ้ไปตั้งแต่แรก เชื่อมั่นว่าเดรโกไม่ได้ทำผิด แค่อยากจะเชื่อใจดูสักครั้ง

งื้อ ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคดีจริงๆนะ ทำให้เรายิ้ม หัวเราะ ยิ้มอีก ร้องไห้

สุดยอดจริงๆค่ะ
โดย: hyukinuii IP: 110.168.10.156 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:46:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นะโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]