Fly to nanaspace... , Welcome to my place...

ร้อยรักล้อมใจ (ตอนพิเศษ)

เขียนตอนนี้ไว้นานแล้วค่ะ วันนี้ตัดสินใจเอามาแปะ
ต้องบอกก่อนว่า ตอนพิเศษนี้จบแบบ...ให้คิดต่อกันเอาเองนะคะ




ออดคาบเรียนสุดท้ายดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกโรงเรียนเลิก แต่ครูผู้สอนยังคงพูดอธิบายเนื้อหาบนกระดาษดำโดยไม่ได้สนใจเวลา คำสอนต่างๆ เริ่มเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแล้ว กว่าสิบนาทีผ่านไป เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ชายหนุ่มจึงค่อยๆ เก็บหนังสือลงกระเป๋าไปพลาง

ทันทีที่ครูสอนเสร็จ และถือหนังสือเดินออกจากห้องไป เขาซึ่งรอพร้อมอยู่ก่อนแล้วรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ คว้ากระเป๋าเป้ วิ่งตามออกไปติดๆ จอมแทบก้าวกระโดดลงบันไดทีสองขั้นเพื่อทำเวลาให้เร็วที่สุด ภายในไม่ถึงหนึ่งนาทีก็สามารถพาตัวเองจากห้องเรียนที่อยู่ชั้นสามของอาคารลงมาถึงชั้นหนึ่งได้สำเร็จ

ขณะกำลังเลี้ยวพ้นจากตัวอาคารนั้นเองเขาก็แทบชนเข้ากับครูฝ่ายปกครองที่จะเดินขึ้นตึก ชายหนุ่มตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

“ขอโทษครับๆ” เขารีบพนมมือยกขึ้นไหว้ ก้มหน้าก้มตาหลบเต็มที่

หญิงสาวผู้เป็นครูมาเกือบยี่สิบปีขยับแว่นตาให้เข้าที่พร้อมกับมองนักเรียนชายที่วิ่งมาชนตนเอง

“นึกว่าใคร นายจอมนี่เอง จะรีบไปไหนกันเชียว วิ่งลงบันไดมาแบบนี้มันอันตรายไม่รู้เหรอ” เธอเอ่ยเรียกนักเรียนด้วยชื่อเล่นอย่างคุ้นเคยเพราะชายหนุ่มมีเรื่องต้องเข้าๆ ออกๆ ห้องฝ่ายปกครองเป็นประจำ

แม้เขาจะไม่ใช่เด็กเกเรที่ชอบมีเรื่องชกตีชกต่อยทั้งยังมีผลการเรียนที่ดี แต่ทำไมถึงได้มีเรื่องให้โดนว่ากล่าวเสมอๆ ก็ไม่รู้

“ขะ...ขอโทษครับ คือวันนี้ผมรีบนะครับ ผมต้องไปแล้วนะครับครู” พูดเสร็จชายหนุ่มก็ทำท่าจะผละออกจากบริเวณนั้น

“เดี๋ยวก่อน ครูบอกให้เธอไปได้แล้วหรือยังไง ขึ้นไปข้างบนแล้วเดินลงบันไดมาดีๆ ใหม่เดี๋ยวนี้เลย”

เมื่อเป็นคำสั่งชายหนุ่มก็ต้องทำตาม คะแนนความประพฤติที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวจะน้อยลงกว่านี้ไม่ได้แล้ว จอมรีบหันหลังสาวเท้ากลับขึ้นบันไดไปยังบริเวณทางเดินพักระหว่างชั้นแล้วจึงย่างกรายลงมาอย่างเชื่องช้า (...อย่างที่ครูต้องการ) แต่พอทำท่าจะเดินผ่านครูสาวใหญ่ไปก็โดนเรียกตัวไว้อีกครั้ง

“อย่าเพิ่งไป ชายเสื้อนักเรียนเอากลับเข้าไปไว้ในกางเกงให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย จะแต่งตัวแบบนี้ออกไปนอกโรงเรียนได้ยังไง คราวก่อนโดนตัดคะแนนไปยังไม่เข็ดใช่ไหม” พอได้ยินเช่นนั้นชายหนุ่มก็ทำท่าจะจัดการยัดเก็บลงกางเกงทันที “เดี๋ยวๆๆ จะมาทำอะไรรุ่มร่ามตรงนี้ นักเรียนหญิงเดินผ่านไปผ่านมาไม่อายใครเหรอ กลับเข้าไปแต่งตัวใหม่ในห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วออกมาให้ครูดูอีกที” ชายหนุ่มต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

ไม่นานเขาก็ออกมาในลุคใหม่ เสื้อนักเรียนถูกดึงให้ตึงแน่วโดยชายเสื้ออยู่ในกางเกงอย่างเรียบร้อย ครูฝ่ายปกครองยิ้มอย่างพึงพอใจ

“แต่งแบบนี้ก็แต่งเป็นนี่ เห็นไหมว่าเรียบร้อยกว่าเมื่อกี้ตั้งเยอะ เอาล่ะ ไปได้แล้ว และคราวหลังอย่าให้ครูเห็นอีกนะว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อย” พอได้ยินคำอนุญาตเท่านั้นชายหนุ่มก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีได้ยินเสียงครูว่าไล่หลังมา “นี่ ใครใช้ให้เธอวิ่ง เฮ่อ ไม่ไหวเลยเด็กสมัยนี้”

อีกด้านหนึ่งหญิงสาวซึ่งมีนัดหมายกับชายหนุ่มรุ่นพี่กำลังยืนรออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน เวลาผ่านไปกว่ายี่สิบนาทีแต่คนรอรู้สึกว่ามันยาวนานยิ่งกว่านั้น กลุ่มนักเรียนชายหญิงจำนวนมากพากันทยอยเดินออกจากโรงเรียนแล้ว แต่ไม่ยักจะเห็นคนที่นัดไว้

วันนี้ชมรมไม่มีซ้อมจึงเป็นฤกษ์ดีที่เธอจะจัดการกับธุระของเธอให้เรียบร้อย นี่เลยเวลานัดมาตั้งนานแล้วนะเนี่ย หญิงสาวเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ ถ้าเขามาสายก็จะทำให้เธอไปถึงที่หมายช้า และเป้าหมายของเธออาจกลับบ้านไปซะก่อน เธอกลัวว่าถ้าพลาดวันนี้ไปแล้วจะไม่สามารถหาโอกาสไปที่น่นอีก

ไม่นานเนยก็มองเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งวิ่งมาจากระยะไกล มือหนึ่งจับสายสะพายเป้สะพายหลังสีดำที่คล้องอยู่ที่ไหล่ขวาไว้มั่นไม่ให้หล่น อีกมือยกขึ้นโบกให้เป็นที่สังเกต รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าขาวของเธอในทันที

“พี่จอม ทางนี้ค่ะ” เธอโบกมือตอบรุ่นพี่ให้รู้ว่าเห็นเขาแล้ว เพียงอึดใจเดียวชายหนุ่มก็วิ่งมายืนห่างจากเธอไม่ถึงเมตร หอบหายใจแรงจากการใช้พลังงานในการวิ่ง หวังสักนิดว่าจะได้ยินคำหวานๆ ให้ชื่นใจ แต่ผิดคาด... “ช้าเป็นเต่าเรื่อยเลยนะคะพี่จอม มาสายตั้งยี่สิบนาทีแน่ะ” คนที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘เต่า’ เงยหน้ามองเธออย่างเสียไม่ได้

“นี่ก็ลมกรดร้อยเมตรแล้ว เร่งจังเลยนะครับคุณน้อง เหาะได้ก็เหาะมาแล้วเนี่ย” เนยส่งยิ้มให้รุ่นพี่อย่างชอบใจในคำพูดของเขา

เนย...เธอเป็นหญิงสาวที่หน้าตาน่ารัก ยิ้มง่าย ใครเห็นใครก็ชอบ ส่วนจอม...เขาเป็นชายหนุ่มที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีทั้งกับเพื่อนๆรุ่นพี่และรุ่นน้อง อยู่ที่ไหนก็พลอยแต่จะทำให้เกิดเสียงหัวเราะ ผิวขาวตาชั้นเดียว และมีรูปร่างที่สามารถระชากใจสาวๆ ได้ง่ายๆ อีกด้วย

เขาและเธอรู้จักกันมาจริงๆ ได้เดือนกว่าหลังจากที่หญิงสาวสมัครมาเข้าชมรมในฐานะผู้จัดการทีมตามพี่สาว แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วเขาเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามถึงความโดดเด่นด้านหน้าตาของเธอมาก่อนหน้านั้น และในวันแรกที่เขามีโอกาสได้เห็นตัวจริงเสียงจริงของเธอ สิ่งแรกที่เขาคิดได้ก็คือข่าวลือที่ว่าเธอน่ารักนั้นไม่เป็นจริงสักนิด เพราะรุ่นน้องของเขาคนนี้ไม่ใช่แค่น่ารักธรรมดา แต่เป็น...น่ารักมากๆ ต่างหาก

เมื่อการแข่งขันบาสเกตบอลระดับภูมิภาคสิ้นสุดลงไป เอ๋ย...พี่สาวของเธอลาออกจากชมรมเพราะอยากให้เวลาเตรียมตัวสำหรับการสอบเข้ามหาลัย รวมถึงสมาชิกชมรมรุ่นพี่ที่อยู่ม.6 คนอื่นๆ ก็ต่างพากันพักการซ้อมไปหมด ทำให้ชมรมจึงเหลือเพียงสมาชิกสิบกว่าคนเท่านั้น ทำให้เนยและจอมมีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น

ไม่เพียงแต่เท่านั้นชายหนุ่มยังได้รับการมอบหมายจากพี่สาวของเธอให้ช่วยพาหญิงสาวไปส่งที่บ้านหลังเลิกซ้อมด้วย ดังนั้น เมื่อเทียบกับสมาชิกชายคนอื่นๆ ในชมรมแล้วเธอจะสนิทสนมกับเขามากกว่าใครๆ แม้จะเรียนหนักมาทั้งวัน และเหนื่อยจากการซ้อมอีกกว่าสองชั่วโมง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้คิดว่าหน้าที่นั้นเป็นเรื่องลำบากเลยสักนิด

“แล้วตกลงบอกพี่ได้หรือยังว่าจะให้พี่พาไปที่ไหน”

ชายหนุ่มเอ่ยถามถึงสาเหตุที่หญิงสาวรุ่นน้องต้องการให้เขาพาไปธุระ ซึ่งเขาดีใจมากที่เนยเห็นความสำคัญของเขา ไว้ใจเขา แต่เพียงแค่เธอเอ่ยชื่อสถานที่ที่ต้องการไปออกมา ทำเอาชายหนุ่มตกใจไปทันที

“เฮ้ย! จะไปที่โรงเรียนนั้นทำไม” ชื่อของโรงเรียนที่เพิ่งลงสนามแข่งบาสด้วยกันมาในรอบชิงที่ออกจากปากเนยทำเอาจอมแทบสะอึก

“ก็เนยต้องไปหาเพื่อนไงคะ ไม่รู้ล่ะพี่จอมสัญญากับเนยแล้ว ห้ามผิดสัญญานะคะ”

สัญญามัดมือชกของเธอเกิดจากเมื่อวานซืนที่หญิงสาวทำขนมมาให้ชิม เพียงคำเอ่ยชมเรื่องรสชาติออกจากปากเขาเท่านั้น เธอก็เอ่ยปากไหว้วานขอร้องให้เขาไปธุระเป็นเพื่อนก่อนพาไปส่งบ้าน ชายหนุ่มคิดว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร จนกระทั่งได้ยินชื่อสถานที่ที่เธอจะให้ไปเมื่อครู่นี่แหละ

“เพื่อนอะไร เพื่อนที่ไหน เราเพิ่งย้ายมาเมืองไทยไม่ใช่เหรอ จะไปรู้จักใครที่โรงเรียนนั้นได้ยังไงกัน พี่ไม่เชื่อหรอก”

“ก็เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเนยอีกที เนยจำเป็นต้องไปจริงๆ” ยิ่งฟังชายหนุ่มก็ยิ่งไม่อยากเชื่อ เพราะถ้าเป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเธอขนาดนั้น ก็ยิ่งไม่เห็นถึงความจำเป็นต้องไปหาถึงในถิ่นนี่นา

“ถ้าเป็นเพื่อนของโคตรเพื่อนแบบนั้นก็แปลว่าเราไม่สนิทน่ะสิ รู้ๆ อยู่ว่าโรงเรียนเราเพิ่งได้รางวัลชนะเลิศแข่งขันมาทั้งๆ ที่โรงเรียนนั้นแข่งชนะ เดี๋ยวก็เจอใครเขม่นเข้าให้ก็เป็นเรื่องอีกหรอก พี่ว่าอย่าไปเลยนัดเจอกันที่ห้างหรือที่ไหนจะดีกว่า บอกวันเวลามาไว้เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้” จอมรีบเสนอทางออกที่ดีกว่าให้กับหญิงสาวทันที

“ได้ยังไงล่ะคะ พี่จอมกินขนมของเนยไปแล้วจะทำแบบนี้เหรอคะ”

หลายคนที่รู้จักหญิงสาวคนนี้เพียงผิวเผินอาจคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยและหัวอ่อน แต่ไม่ใช่สำหรับเขาอย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่ได้พูดคุยรู้จักกันมากขึ้น เขาถึงรู้ได้ว่าแท้จริงแล้วเธอทั้งดื้อและแสบซนไม่น้อย ยิ่งเมื่อได้ฟังวีรกรรมหลายๆ อย่างของเธอจากปากนิค...รุ่นพี่ของเขาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เชื่อว่าหญิงสาวเป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ

“เอ้าๆๆ ทวงจังเลยเรื่องขนมเนี่ย ไปก็ไป เดี๋ยวกลับถึงบ้านช้ากว่าพี่เอ๋ย มีหวังโดนเล่นอีกงาน คราวนี้ไอ้จอมไม่ตายก็มีหวังเลี้ยงไม่โต” ชายหนุ่มชักไม่แน่ใจว่าเค้กก้อนเท่ากำปั้นที่เขาได้กินไปมันจะสร้างความเดือดร้อนได้ขนาดนี้

“โห อย่างพี่จอมยังต้องกลัวว่าตัวจะไม่โตไปกว่านี้อีกเหรอคะ” เธอพูดเองแล้วก็ขำเองอย่างน่าเอ็นดู

“ส่งกระเป๋ามานี่มา และก็เดินตามมาเร็วๆด้วย” เนยส่งกระเป๋านักเรียนให้ชายหนุ่มอย่างไม่อิดออด เพราะทุกครั้งที่เขาไปส่งเธอที่บ้านรุ่นพี่คนนี้ก็จะช่วยเธอถือกระเป๋าเสมอโดยบอกว่าเธอจะได้เดินเร็วขึ้น




ในเมื่อห้ามหญิงสาวไม่ได้จอมก็จำเป็นต้องพาเธอไป เนื่องจากว่าชายหนุ่มเป็นที่รู้จักของหลายๆ คนเพราะเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีทั้งยังหน้าตาและรูปร่างที่ใครเห็นก็ต้องเหลียวมอง และหญิงสาวที่เดินด้วยก็คล้ายๆ กับเป็นดาวเล่นของโรงเรียน ขวัญใจของหนุ่มๆ เมื่อทั้งคู่เดินด้วยกันก็กลายเป็นที่สนใจของคนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว

ทั้งสองนั่งรถเมล์จากป้ายหน้าโรงเรียนเพื่อไปลงยังตลาดที่อยู่ในตัวจังหวัด จากนั้นจึงนั่งรถสองแถวรับจ้างเพื่อไปลงในตัวเมืองของอีกจังหวัด แล้วจึงเดินต่อไปยังที่หมาย หญิงสาวมีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างสมใจทันทีที่มาถึง ในขณะที่ชายหนุ่มกลับเริ่มมีสีหน้าหวาดหวั่นอยู่เนืองๆ

ทั้งคู่เดินมุ่งไปยังทิศที่สวนทางกับกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงในชุดนักเรียน บ้างเดินมาตามลำพัง บ้างเดินเป็นกลุ่มพูดคุยกันสนุกสนาน จนกระทั่งเริ่มมองเห็นขอบเขตรอบรั้วโรงเรียน บริเวณนั้นมีรถเข็นขายขนมและน้ำดื่มจอดริมกำแพงด้านนอกเรียงรายกันตลอดแนว ลูกค้าส่วนใหญ่ซึ่งเป็นนักเรียนยืนต่อคิวรอซื้อกันเป็นจำนวนมาก เสียงเจ๊าะแจ๊ะพูดคุยดังไม่ได้สรรพไปทั่วบริเวณ

“พี่จอมคะ รอเนยแถวๆ นี้ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเข้าไปเป็นเพื่อนเนยก็ได้”

“ได้ยังไงกัน ลากพี่มาถึงนี่แล้ว พอหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่งแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

“ไม่ใช่นะคะ ก็พี่จอมบอกเนยเองว่าอาจมีใครในโรงเรียนนี้ไม่พอใจนักเรียนโรงเรียนเรา แล้วพี่จอมก็ใส่ชุดนักเรียนอยู่ อักษรย่อก็เด่นหราอยู่ตรงอกแบบนี้ด้วย เนยก็เลยว่าพี่จอมรอข้างนอกดีกว่าคะ เห็นไหมมีขนมน่ากินเยอะแยะไปหมดเลย” เธออ้างสารพัดเพื่อไม่ให้รุ่นพี่ตามเข้าไปด้วย

“โห พี่ไหว้ล่ะครับน้องเนยที่เคารพรัก” เขาพูดพร้อมกับยกมือประนมขึ้นสูงล้อเลียนเธอ “ก่อนออกจากบ้านไม่ได้ดูกระจกเหรอไงครับว่าไอ้ตัวอักษรบนเสื้อเรามันก็ตัวเดียวกับที่อยู่บนเสื้อพี่นั่นแหละ”

“ก็ใช่ แต่ว่าพี่จอมตัวใหญ่เป็นที่สังเกตง่ายนี่คะ เนยตัวเล็กไม่มีใครเห็นหรอก”

จอมเริ่มสับสนกับเหตุผลที่เธอว่ามา “มีที่ไหนกันตัวเล็กแล้วคนจะมองไม่เห็น เราเป็นมนุษย์ล่องหนเหรอไง นี่พี่ตามใจขนาดพามาถึงนี่แล้วยังไงก็ต้องเข้าไปด้วยกันสิ”

“แต่เนยอยากเข้าไปคนเดียวนี่คะ” เสียงออดอ้อนกับใบหน้าเศร้าๆ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากตามใจเธอในคราวนี้

เพียงแค่พาหญิงสาวมาถึงนี่ชายหนุ่มก็กลัวจะแย่แล้วว่าพี่สาวของเธอรู้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นผลที่ตามมาอย่างแรกเขาก็คงโดนต่อว่าและอาจเจ็บตัว อย่างต่อมาที่สำคัญกว่าก็คือเขาคงโดนห้ามไม่ให้ไปส่งเธอที่บ้านอีก ซึ่งแน่นอนที่สุด! จอมต้องไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น

“ก็ลองดูสิ ถ้าไม่ให้พี่เข้าไปด้วย พี่ก็จะลากเรากลับบ้านด้วยกันเดี๋ยวนี้แหละ ว่าไงจะให้พี่เข้าไปด้วยไหม” เนยก้มหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก “อย่าคิดนานๆ ตอบมาเร็ว”

อ้ะ! รู้ล่ะ เธอเงยหน้าให้คำตอบกับชายหนุ่มรุ่นพี่ “ก็ได้ค่ะ ไหนๆ พี่จอมก็มาเป็นเพื่อนเนยถึงนี่แล้ว เข้าไปด้วยกันก็ได้ค่ะ” ได้ยินแบบนี้ชายหนุ่มก็ค่อยรู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย “อุ้ย พี่จอม ผู้หญิงที่ต่อแถวซื้อขนมร้านป้าคนนั้นน่ารักมากๆ เลยค่ะ หันไปดูเร็ว”

คำว่า ‘น่ารักมากๆ’ ที่ได้ยินทำเอาชายหนุ่มหันขวับตามสัญญาตญาณของความเป็นเด็กผู้ชาย เขาชะเง้อคอมองหาอยู่นานแต่แล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีใครสักคนน่ารักอย่างที่เธอว่า กว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกก็ตอนที่หันกลับมาแล้วไม่เห็นหญิงสาวที่เขาคิดว่าน่ารักที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาอยู่ตรงนั้นแล้ว

“ยัยตัวแสบเอ้ย...! หลอกมาได้!”




หญิงสาวเดินผ่านพ้นประตูโรงเรียนเข้าไปโดยไม่มีใครติดตามอย่างสมใจ เครื่องแบบนักเรียนที่แตกต่างกับดวงหน้าที่น่ามองทำให้สายตาหลายคู่มองมาอย่างสนใจ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกรำคาญคงเพราะความเคยชินแล้ว หญิงสาวยังคงมุ่งหน้าเดินต่อไป

แรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยที่กระเป๋ากระโปรงทำให้เธอต้องล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กออกมา เครื่องที่ช่วยกันเลือกกับพี่สาวได้เพียงสามวันก่อนหน้านี้ ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าขาวใสของเธอได้ พี่จอม? แต่แล้วเธอก็กดทิ้งไปเสียอย่างงั้น

“ว้า เผลอกดผิดปิดไปซะแล้ว เนยขอโทษนะคะ เนยยังไม่คุ้นกับมือถือเครื่องใหม่เลย” หญิงสาวบ่นออกมาก่อนจะเก็บมันลงที่เดิม

บรรยากาศตอนห้าโมงเย็นกว่าๆ เช่นนี้ทำให้อากาศกำลังเย็นสบาย สระบัวขนาดใหญ่โดดเด่นอยู่กลางบริเวณโรงเรียนทำให้รู้สึกสดชื่น ตึกเรียนสามสี่ชั้นถูกสร้างรายรอบ ต้นไม้ใบหญ้ามีให้เป็นทั่วไป ใหญ่สมกับเป็นโรงเรียนประจำจำหวัดจริงๆ หญิงสาวรู้สึกปลอดโปร่งไม่น้อย

เนยตัดสินใจถามใครสักคนบริเวณนั้นเพื่อไปยังที่หมาย หญิงสาวในชุดนักเรียนที่กำลังนั่งทำการบ้านอ่านหนังสืออยู่เพียงลำพังที่โต๊ะม้าหินดูจะเป็นคนที่เหมาะที่สุด เธอจึงตรงไปอย่างไม่ลังเล นักเรียนหญิงเจ้าถิ่นเงยหน้ามองเมื่อเห็นใครเดินมาใกล้ รอยยิ้มที่ปรากฏทำให้เนยไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวจึงถามออกไป

นักเรียนคนนั้นก็ส่งยิ้มให้เธอเช่นกันก่อนจะเอ่ยปากตอบ “ห้องชมรมบาสเหรอคะ อยู่แถวโรงยิมค่ะ เดินตรงไปสุดถนนนี้เลย พอถึงตึกสี่ชั้นตรงนั้นก็ทะลุใต้ตึกออกไป จะอยู่ซ้ายมือค่ะ มองไปแวบเดียวก็เห็น หรือถ้าจะหลงทางก็ถามใครแถวนั้นก็รู้ค่ะ” ผู้คุ้นเคยที่ทางกว่าอธิบายเสร็จก็ส่งยิ้มให้อีกครั้ง เนยจึงตอบขอบคุณก่อนจะเดินไปยังทางที่เธอคนนั้นว่า

เมื่อเดินตามถนนลึกเข้าไปเรื่อยๆ นักเรียนเริ่มบางตาลง จนกระทั่งพ้นใต้ตึกออกไป หญิงสาวเริ่มเห็นกลุ่มนักเรียนอีกครั้ง บริเวณตรงหน้าคือสนามหญ้าขนาดกว้างนักเรียนชายหลายคนกำลังวิ่งเตะฟุตบอลเล่นกันอยู่ ที่สแตนด์เหล็กข้างสนามมีนักเรียนชายหญิงนั่งกันประปราย อาคารสูงโปร่งของโรงยิมภายในร่มเด่นหราอยู่ทางซ้ายมือ เนยจึงเดินเลียบตัวตึกไปยังทางนั้น

เมื่อสองสัปดาห์ก่อนในวันแข่งขันบาสเกตบอลนั้น พี่สาวสุดที่รักของเธอโดนจับตัวไปขังและยังได้บาดแผลที่ข้อมือออกมาทำให้เธอโกรธแทนไม่น้อย แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ถือสาเอาความอะไรแล้ว แต่เธอไม่ยอมให้พี่สาวเธอเจ็บตัวฟรีแน่ เต้...คือชื่อของคนที่ทำให้พี่เธอเจ็บ น่าเสียดายที่เธอไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าตาผู้ชายใจร้ายคนนั้นชัดๆ แต่ไม่ว่ายังไง วันนี้เธอจะต้องเจอหน้าให้ได้และจะเอาคืนแทนพี่สาวเธอเอง!

ขวามือของเธอในตอนนี้คือสนามบาสเกตบอลกลางแจ้งสองสนาม ซึ่งเรียงติดกัน และถัดไปจึงเป็นอาคารโรงยิมที่เธอกำลังมุ่งหน้าไป หญิงสาวมองผ่านนักเรียนนักชายสามสี่คนที่กำลังเล่นบาสกันอยู่ที่สนามกลางแจ้งโดยไม่ได้สนใจ เสียงตะโกนโหวกเหวกบริเวณนั้นจึงพลอยไม่ได้เข้าหูเธอไปด้วย

“เอ๊ย... เธอคนนั้นน่ะ หลบ!!” ใครบางคนตะโกนขึ้นมา

‘ผลักะ’ เสียงของลูกกลมๆ สีส้มกระแทกเข้ากับศีรษะเล็กๆ ของเธอ หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งยอง สองมือกุมบริเวณที่โดนลูกบาสลอยมาชนใส่ทันที “โอ๊ย... เจ็บจัง...” สมองรู้สึกเบลอไปชั่วแวบนึง ความรู้สึกเจ็บตามมาติดๆ

เสียงฝีเท้าวิ่งมาหยุดยืนตรงข้างๆ เธอซึ่งกำลังนั่งก้มหน้ามือกุมขมับอยู่ “เธอๆ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” เสียงนุ่มทุ้มของเจ้าของรองเท้าพละสีดำซึ่งอยู่ตรงระดับสายตาเธอพอดีทำให้รู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย “เดี๋ยวแป๊บนึงนะ”

เขาผละหันไปเก็บลูกบาสที่ตกอยู่บริเวณใกล้ๆ กันนั้นโยนกลับเข้าไปในสนาม “เฮ้ย! พวกเอ็งเล่นต่อกันไปก่อนเลย เดี๋ยวข้าดูยัยตัวจิ๋วนี่แป๊บนึง” เขาตะโกนบอกกับเพื่อนๆ ที่เล่นบาสด้วยกันเสร็จและกำลังจะหันมาให้ความสนใจกับเธออีกครั้ง แต่ก็ได้ยินเสียงใสแวดขึ้นมาเสียก่อน

“เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าอะไรนะ!?”

ยัยตัวจิ๋วงั้นเหรอ? ชื่อที่ครั้งหนึ่งเอ๋ย...พี่สาวของเธอก็ใช้เรียกเธอ และตอนนี้ผู้ชายคนนี้ก็กำลังเรียกเธอด้วยชื่อเดียวกัน ทำให้รู้สึกสะกิดใจหญิงสาวไม่น้อย

เมื่อชายหนุ่มหันกลับมาก็เห็นใบหน้าขาวใส ซึ่งเงยหน้าขึ้นมองมาพอดีทำเอาเขาชะงักไปเล็กน้อย แปลกใจตัวเองว่าทำไมเขาไม่เคยเห็นนักเรียนหญิงคนนี้มาก่อน หน้าตาแบบนี้มันต้องเคยสะดุดตาบ้าง แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือเขารู้สึกว่าใบหน้าแบบนี้คุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก ลืมคำพูดที่กำลังจะออกจากปากไปทันที

เช่นเดียวกันกับหญิงสาว หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอรู้สึกเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้สบตากับชายหนุ่มคนนี้ รูปร่างที่สูงโปร่งของเขากลับยิ่งดูสูงขึ้นไปอีกเมื่อเธอยังนั่งยองๆ เงยหน้ามองเขาแบบนี้

ไม่นานชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงยองๆ ตรงหน้าใกล้ๆ กัน ตลอดเวลาทั้งคู่ไม่ได้ละสายตาออกจากกันเลยแม้แต่น้อย

“ก็...ยัยตัวจิ๋วไง เราเห็นว่าเธอตัวจิ๋วน่ะ” เหตุผลที่ชายหนุ่มพูดมานั้นก็เหมือนกับที่พี่สาวบอกกับเธอไม่มีผิดเพี้ยน ทำเอาเธอแทบหยุดหายใจไปทีเดียว “เราขอโทษนะ เธอเจ็บมากไหม ให้พาไปห้องพยาบาลเปล่า” เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

ทั้งๆ ที่เขาเองก็เป็นผู้ชายและตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ เวลาโดนลูกบาสกระแทกใส่ตามลำตัวยังรู้สึกเจ็บไม่น้อย และนี่เธอก็เป็นผู้หญิง แถมยังดูบอบบางขนาดนี้ ลูกบาสลอยมาโดนศีรษะจังๆ ไม่เจ็บก็คนเหล็กแล้ว

เนยรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจ อีกทั้งเขาก็เอ่ยขอโทษแล้ว แต่เธอรู้สึกไม่ชอบใจที่เวลาได้มองหน้าหรือได้ยินเสียงของเขาแล้วหัวใจต้องเต้นแรงแปลกๆ จึงพาลกลับไป

“เจ็บสิถามมาได้ หัวคนนะ ไม่ใช่หัวเผือกหัวมัน อยากลองโดนบ้างไหมล่ะ” เสียงใสแวดๆ ที่ย้อนคืนมาสามารถเรียกเสียงรอยยิ้มบนใบหน้าคมเข้มได้ “เสียมารยาท ยังจะมายิ้มอีก เนยบอกอยู่นะว่าเจ็บ” ชายหนุ่มรีบเม้มปากให้สนิทเพื่อไม่ให้เธอเห็นฟันขาวและกล่าวหาว่าเขายิ้มอีก แต่นั่นก็ไม่สามารถปกปิดรอยยิ้มที่ปรากฏในดวงตาคมได้ “บอกว่าอย่ายิ้มยังไงล่ะ ทำคนอื่นเจ็บแล้วยังมาหัวเราะอีก นิสัยไม่ดี!”

“ไม่ยิ้มแล้วครับไม่ยิ้มแล้ว เจ็บใช่ไหมงั้นเดี๋ยวเราอุ้มไปห้องพยาบาลนะ” ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าแถมทำท่าจะช้อนตัวเธออุ้มขึ้นมาด้วย

“ว้ายๆ อย่านะ อย่ามาโดนตัวเนยนะ” แขนขาวเล็กๆ รีบปัดมือชายหนุ่มออกห่างเพื่อไม่ให้เขาได้สัมผัสเธอ ก็แค่ได้มองเธอยังใจเต้นขนาดนี้ แล้วถ้าโดนอุ้มทั้งตัวจะขนาดไหน




พอหญิงสาวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงซึ่งก็ไม่ผิดจากที่ชายหนุ่มเห็นจากระยะไกลจริงๆ ตัวเธอสูงเพียงหน้าอกเขาเท่านั้น แบบนี้จะไม่ให้เรียกยัยตัวจิ๋วได้ยังไง พอสังเกตเห็นอักษรย่อโรงเรียนที่ปักอยู่บนหน้าอกถึงได้รู้ว่าเธอไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนนี้ ไม่แปลกใจสักนิดว่าทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน

“เนยไม่ได้เป็นนักเรียนโรงเรียนนี้หรอกเหรอ” ชายหนุ่มถือวิสาสะเรียกชื่อเล่นของเธอที่ได้ยินเมื่อเธอแทนชื่อตัวเองก่อนหน้านี้

“ก็เห็นอยู่ ถามทำไม คิดเองไม่เป็นหรอกไง” เมื่อหญิงสาวตอบคำถามนั้นเสร็จก็ก้าวเดินออกจากบริเวณนั้นไป มือหนึ่งยังคงลูบคลำศีรษะไปด้วยเพราะรู้สึกเจ็บไม่น้อย ชายหนุ่มสาวเท้าตามทันที “เดินตามมาทำไมล่ะ ไม่เป็นอะไรแล้ว” เธอหยุดเดินและหันไปแวดใส่เขาอีกครั้ง

“เนยจะไปไหนล่ะ มาทำธุระอะไรที่นี่เหรอ เดี๋ยวพาไปส่งให้ไหม” เขาเสนอตัวเองเพราะอยากทำอะไรเป็นการขอโทษหญิงสาวบ้างที่ทำให้เธอเจ็บ

“จะไปชมรมบาส ไปเองเป็น นายไม่ต้องมายุ่งหรอก”

“ชมรมบาส? เนยจะไปหาใคร รู้จักใครที่นั่นเหรอ” คำถามของเขาทำเอาหญิงสาวหยุดเดินหันหน้ามามองเพราะรู้สึกรำคาญ แต่พอได้สบตาก็เอาทำเธอรู้สึกใจเต้นอีกแล้ว

“จะไปหาคนชื่อเต้” เนยพูดเสร็จก็หันหลังก้าวเดินต่อไป

คำตอบที่ได้ยินนั้นทำเอาชายหนุ่มแปลกใจไม่น้อย ผู้หญิงคนนี้จะมาหาเขาทำไม? เพราะเขามั่นใจว่าไม่เคยรู้จักเธออย่างแน่นอน

“รู้แล้วก็เลิกเดินตามซะทีสิ” เต้กลับคิดว่าถ้าเขาไม่รู้ต่างหากถึงจะไม่เดินตาม!

“ไปหาทำไม เนยรู้จักเขาเหรอ”

หญิงสาวหยุดเดินแล้วหันมามองหน้า “รู้จักสิ รู้จักดีซะด้วย นายเต้...ผู้ชายใจตุ๊ด! ชอบรังแกผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ นายรู้ไหมเค้าจับพี่สาวฉันมัดมือแล้วก็ขังไว้ในห้อง ข้อมือพี่สาวฉันแดงเป็นวันๆ เลย แล้วอีกอย่างนะนายคนนี้ ขี้โกงเป็นที่หนึ่งด้วย ตอนแข่งกีฬาก็เล่นลอบกัดทำเอาเพื่อนๆ ในทีมฉันเจ็บตัวไปตั้งหลายคน”

เมื่อโดนถามถึงศัตรูคู่อาฆาตหญิงสาวก็เผลอเล่าระบายอารมณ์โมโหโกรธแทนพี่สาวให้กับชายหนุ่มที่เพิ่งได้เห็นหน้าเป็นครั้งแรกไปจนหมด และคำพูดเหล่านั้นก็สะกิดใจเต้ไม่น้อย

พี่สาว? มัดมือขังไว้ในห้อง? นี่แปลว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือน้องสาวของเอ๋ยงั้นเหรอ นั่นคงเป็นคำตอบว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกคุ้นกับใบหน้านี้นัก ใช่แล้วล่ะ เอ๋ยเมื่อสมัยที่ยังสนิทสนมกับเขานั้นก็ละม้ายคล้ายกับผู้หญิงคนนี้ตอนนี้นี่แหละ

ทว่าสิ่งที่สะกิดใจเขามากกว่าก็คือคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า ซึ่งเรียกความรู้สึกผิดแล่นลิ้วกลับขึ้นมาในใจเขาอีกครั้ง

“บางทีเขาอาจจะรู้สึกผิด และอยากขอโทษพี่สาวเนยก็ได้ แต่พี่สาวเนยต่างหากที่ไม่ให้อภัยเค้าแล้ว” นั่นคือความจริงที่เกิดขึ้นกับเต้ในตอนนี้

หลังจากวันแข่งขันนั้นเขาก็พยายามไปหาเธอที่โรงเรียน แต่ก็มักเห็นเธอเดินอยู่กับคนรัก เขาไม่อยากมีเรื่องจึงตัดสินใจฝากโทรศัพท์มือถือของเธอให้คนที่รู้จักนำไปคืนเจ้าตัว และยังพยายามโทรไปหาอีกหลายครั้ง แต่ก็เหมือนกับว่าเธอปิดเครื่องตลอดเวลา คงไม่อยากติดต่อกับเขาอีก เหมือนกับคำที่เธอได้เคยบอกว่าจะตัดเพื่อนกับเขา

“ไม่มีทางหรอกที่คนอย่างนายนั่นจะมาขอโทษพี่สาวฉัน ขนาดมือถือที่ขโมยไปยังต้องฝากคนอื่นมาให้เลย ผู้ชายที่ไม่กล้ามาเผชิญหน้าไม่ยอมรับผิดแบบนั้นน่ะเหรอจะมาขอโทษ” หญิงสาวเอ่ยพร้อมกับทำสีหน้าเย้ยหยัน

เนยนึกถึงโทรศัพท์มือถือของพี่สาวที่ตอนนี้นอนเล่นอยู่ในลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือของเธอเป็นที่เรียบร้อย เมื่อหลายวันก่อนมีคนนำมาฝากให้เธอนำไปคืนพี่สาว ตอนที่เธอรับมาก็รู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย ตอนขโมยก็ขโมยไปเอง แต่พอตอนคืนฝากคนอื่นมาคืน ผู้ชายอะไรกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ! เธอจึงตัดสินใจเก็บมันไว้เสียเอง เพราะไม่อยากให้เขาโทรมาวุ่นวายกับพี่สาวอีก และถ้าเป็นแบบนั้นสู้ให้พี่สาวเธอเปลี่ยนเบอร์ซื้อโทรศัพท์ใหม่ไปเลยเสียดีกว่า

“แล้วเนยจะทำยังไงกับเค้าเหรอ ถ้าได้เจอคนที่ชื่อเต้น่ะ”

“ถามอีกแล้ว ฉันก็จะไปจัดการล้างแค้นเอาคืนให้กับพี่สาวฉันไง” ไหนๆ ก็บอกเขาไปเยอะแล้ว บอกต่ออีกหน่อยจะเป็นไร “ฉันเอาที่ช็อตไฟฟ้ามา ถ้าเจอนายนั่นนะฉันก็จะเอาไปช็อตให้สลบเลย หลังจากนั้นก็จะเอาเชือกฟางมัดแขนมัดขาให้แน่นๆ เอาให้เจ็บไม่น้อยกว่าที่พี่สาวฉันเจ็บเลย” เธอพูดอย่างเร็วและรัวทำเอาตัวเองหอบเล็กน้อย

หญิงสาวมองดูชายหนุ่มว่าเขาจะมีปฏิกริยาอย่างไรแต่ดูเหมือนเขาจะนิ่งและมีสีหน้าสลดไปจนเธอแปลกใจ สายตาคมที่ชอบทำให้เธอใจเต้นประหลาดๆอยู่หลายครั้งยังคงมองตรงมา แต่ตัวเขาก็ไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ เนยจึงตัดสินใจกลับหันหลังก้าวเท้าเดินออกจากบริเวณนั้นอีกครั้ง

“ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้อยู่ที่ชมรมหรอก” คำพูดนั้นทำให้เท้าเล็กๆที่กำลังก้าวหยุดชะงักและหันมามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าสงสัย “เพราะเขาอยู่นี่ เรานี่แหละที่ชื่อเต้!”




น้องเนยรักพี่เอ๋ยสุดใจ ขนาดจะไปเอาคืนแทนพี่สาวเชียวล่ะค่ะ
เรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไปดี...
นายจอม - ชายหนุ่มอารมณ์ดีที่เอ๋ยเปิดทางให้ พี่ชายที่แสนดีของน้องเนย
นายเต้ - ผู้ที่เคยทำผิดกับเอ๋ย แม้จะกลับตัวกลับใจ แต่ก็กลายเป็นศัตรูของน้องเนยไปซะแล้ว


Create Date : 01 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2551 17:25:02 น. 20 comments
Counter : 2707 Pageviews.  

 
เรื่องใหม่ใช่เปล่าเนี่ย


โดย: อุ๊ IP: 117.47.32.186 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:59:07 น.  

 
พี่อ่านแล้วอ่ะ แต่งต่อนะ อิอิ
อยากให้จอมเป็นพระเอกมากกว่าอ่ะ


โดย: benjamas IP: 71.178.165.236 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:27:49 น.  

 
:)


โดย: xyz IP: 12.147.96.10 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:08:09 น.  

 
Jom's better naka.^_^


โดย: Tyra IP: 86.15.29.72 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:56:02 น.  

 
เคยอ่านแล้ว

เลือกไม่ถูกค่ะว่าจะลุ้นใครดี

รู้แต่ว่า รออ่านสำนวน nanaspace ค่ะ



โดย: ละเวง IP: 202.122.130.31 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:54:18 น.  

 
ไปเจอนามปากกา ชื่อnanaspace ในเด็กดี...
แต่ไม่ชัวร์ว่าใช่ีพี่หรือเปล่า....
เลยตามมาดูในนี้ต่อ

วรรณกรรมเป็นอย่างนี้นี่เอง....
勉強になりました!!


โดย: วิน IP: 122.24.174.249 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:23:15:54 น.  

 
อยากให้จอมเป็นพระเอกมากกว่านะ ส่วนเต้น่ะรู้ว่าต้องให้โอกาสคนที่เคยทำผิด แต่แค่ให้เอ๋ยกับเนยให้อภัยเค้าก็พอแล้วนะ


โดย: Haru Same IP: 115.67.18.6 วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:15:09:05 น.  

 
ว้าว อยากอ่านต่อค่ะ


โดย: หนูแอม IP: 125.25.147.134 วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:21:57:30 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่เป็นคนจากสำนักพิมพ์ Thaibook cafe พี่สนใจในนิยายของน้อง แต่เนื่องจากตอนนี้มีคนแอบอ้างว่าเป็นคนจากThaibook cafe ทำให้กระทบกระเทือนกับชื่อเสียงของThaibook cafe อย่างมาก หากน้องมีความไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ยังอยากมีความสนใจที่จะตีพิมพ์กับทาง Thaibook cafe กรุณาติดต่อเรากลับมาเพื่อคุยรายละเอียดกันที่ pinkge-333@hotmail.com (ทิ้งเบอร์ไว้นะค่ะ)


โดย: Thaibook cafe IP: 125.27.55.117 วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:16:27:46 น.  

 
เอิ่ม เหอๆ
อ่านแล้วให้ความรู้สึกว่า เต้ เป็นพระเอกค่ะ -_-"
ถ้าเต้ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้นมาก่อน ก็อยากจะเชียร์อยู่หรอก แต่...เฮอะ ๆ
จบแบบค้างคามากเลยค้าบบ T^T
เหมือนจะมีต่อ......จะมีต่อมั้ยง่ะค้า


โดย: peary วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:1:37:04 น.  

 
เขียนเล่มสองได้เลยนะเนี่ย เอาใจช่วยนะคะ


โดย: ดาดา IP: 61.90.251.83 วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:17:47:48 น.  

 
ไม่เอาเต้อ่ะ รับผู้ชายคนนี้ไม่ได้


โดย: lavender_jam วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:14:13:57 น.  

 
เชียร์จอมมมมม
ชอบนิสัยแล้วก็บุคลิกของจอมอ่ะ

ติดภาพเต้ว่านิสัยไม่ดีไม่แล้ว ไม่แมนอ่ะ
ถึงจะรู้สึกผิดขนาดไหนก็เถอะ
แต่ตอนนั้นมันก็บอกได้แล้วว่าคนอย่างเต้ไม่ใช่ลูกผู้ชายอ่ะ
เพราะงั้นเชียร์จอมสุดใจขาดดิ้นค่ะะะ 55555

ว่าแต่จะเขียนต่อมั้ยอ่ะคะชอบมากเลยค่ะ
อยากให้ทำเป้นเล่มด้วย จะตามอุดหนุนแน่นอน ^^


โดย: Ggg IP: 125.25.188.5 วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:20:02:13 น.  

 
ได้แต่งต่อมั้ย

ตีพิมพ์เป็นเล่มยัง(จะไปซื้อ)

อ่านเกริ่นนำแล้วสนุกมากจ้ะ ^^


โดย: knight IP: 113.53.166.35 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:11:59 น.  

 
เชียร์จอมด้วยอีกคนค่ะ น่ารักดี

จะต่อเรื่องนี้หรือเปล่าคะ ชอบน้องเนยนะ น่ารักดี สงสารตั้งแต่ตอนที่เอ๋ยยังไม่เข้าใจกับน้อง ยังไงให้มีเอ๋ยกับนิคมาแจมด้วยนะคะ คิดถึง


โดย: bird IP: 125.26.157.6 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:12:49:22 น.  

 
ยังสะกิดใจกับนายเต้ ไม่แมน แล้วจะมาคู่กับน้องเนยตัวจิ๋วเหรอเนี่ยยยย แง้ววววว แต่เผื่อเป็นเล่มต่อ รออ่านนะคะ เผื่อนักเขียนใจดี คริคริ


โดย: ninja IP: 124.122.67.93 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:14:35:31 น.  

 
รออ่านต่อนะ รีบทำมาเร็วๆ รอไม่ไหวแล้ว อิอิ


โดย: PANG :') IP: 118.173.167.129 วันที่: 15 กันยายน 2554 เวลา:21:06:58 น.  

 
รีบเขียนต่อเลยนะคะ แต่ไม่เอา(ไอ้) เต้ คู่กะน้องเนยสุดน่ารักนะคะ สิ่งที่ทำกะเอ๋ยกะนิค มันรับไม่ได้จริงๆ ใจตุ๊ดมาก


โดย: Fay IP: 92.98.142.69, 92.98.142.69 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:15:15:32 น.  

 
เชียร์เต้เพราะทำให้เนยใจเต้น


โดย: ปุ๊ก IP: 183.88.89.244 วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:16:54:26 น.  

 
ให้โอกาสเต้นะคะเขาไม่ได้ตั้งใจแค่อยากเอาชนะนิคเท่านั้น


โดย: รักเนย IP: 27.55.156.220 วันที่: 14 สิงหาคม 2556 เวลา:22:36:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nanaspace
Location :
Tokyo Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




A novelist,
Wanna be, not Born to be, though
nanaspace | Promote Your Page Too
New Comments
[Add nanaspace's blog to your web]