Group Blog
 
All blogs
 
Truth or Die บทที่ 11

Truth or Die บทที่ 11


"ไม่ม่ม่ม่!"



แพรีกรีดร้องพร้อมผุดลุกขึ้นมา



"ไม่ม่ม่ม่" เสียงของเธอลากยาว



เธอไม่ได้อยู่คนเดียวที่ลู่วิ่งมืดๆ โดยมีซากศพวิ่งตาม



เธออยู่คนเดียวในห้องของเธอ...บนเตียงของเธอ...ที่เธอฟุบหลับไปทั้งที่เธอยังใส่รองเท้าวิ่งอยู่



เธอครางและฝังใบหน้าบนฝ่ามือ



ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะทำให้เธอเป็นบ้า



มันเป็นเกมที่ไร้สาระ...เกมโง่ๆ



เธออยากจะหยุดเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ที่เธอต้องการ



เเต่เธอก็ไม่หยุด เธอต้องไม่กลัว



แล้วแพรีก็นึกถึงคำท้าของเธอเอง และเธอก็รู้ว่าเธอกลัว...กลัวความมืด...กลัวที่จะต้องอยู่คนเดียว



กลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวในความมืดที่ตึกไนต์แมร์



ตึกถูกปิดเพื่อจะซ่อมหลังคา คนที่อยู่ในหอต้องย้ายไปพักที่หออื่นชั่วคราว และไฟฟ้าก็ถูกตัด



ตึกไนต์แมร์ตั้งตระง่านเดียวดายและว่างเปล่าบนพื้นที่ที่ยกสูงเหมือนกับเนินเขาลูกย่อม



"ฉันไม่อยากทำเลย" เธอพูดกับตัวเองออกมาดังๆ



เเต่เธอก็รู้ว่าเธอจะต้องทำมัน รู้ว่าคืนนี้เธอจะต้องไปที่ตึกเก่าๆ มืดๆ ที่ตั้งอยู่บนเนินนั่นโดยมีคนอื่นๆ ไปด้วย



ไม่ใช่เพราะเธอกล้าหาญมากพอจะอยู่ทั้งคืนคนเดียวในหอผีสิงนั่นหรอก



เเต่เป็นเพราะเธอกลัวเกินกว่าจะปฏิเสธไม่ทำมัน

****************************************************************



"ชู่วววว!"



"เธอนั้นเเหละที่ต้องเงียบ...เเครอล" จีนพูด...ดวงตาสีฟ้าเย็นชาของเธอยิ่งดูเยือกเย็นมากกว่าเดิม



"นี่...เธอทั้งสองคนนั่นแหละ...ช่วยเงียบๆ กันหน่อย" ลิลพูดบ้าง เธอดันไหล่ของเเพรี่เบาๆ "เธอจะทำให้แพรีประสาทกินนะ"



"ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" แพรีตอบ เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อลิลแตะตัวเธอ



ปกติแล้ว...ลิลจะไม่สังเกตเห็นความผิดปรกตินี้เลย "ก็ไม่แปลกหรอกถ้าเธอจะกลัว" เธอย้ำ "ถ้าเป็นฉัน...ฉันก็คงจะประสาทเสียเหมือนกัน"



"เธอคงไม่กลัวความมืดหรอกใช่ไหม?" แครอลพูดช้าๆ



แพรีหมุนศีรษะไปรอบๆ และมองเเครอล...สีหน้าของเเครอลถูกซ่อนไว้หลังแว่นตา



เธอรู้ได้ยังไง? แล้วเธอเดาได้ยังไง?



เธออ่านความลับสุดยอดของฉันแล้วรึไงนะ เธอเปิดกล่องความจริงแล้วหรือ?



"ไม่กลัว" แพรีตอบสั้นๆ



"ฉันกลัว" มัลลอรีพูดเบาๆ...เบาจนแพรีคิดว่าเธอได้ยินเพียงคนเดียว



"จริงเหรอ?" แพรีถาม ส่วนใหญ่เธอกับมัลลอรีจะมีสไตล์การแต่งตัวที่คล้ายกัน: จีนแต่งแบบสบายๆ...สเวตเตอร์ (ของมัลลอรีเป็นแบบคอวีสีลาเวนเดอร์ และของแพรีเป็นแบบมีปกสีเขียวอ่อน) รองเท้าไม่ผูกเชือก ถุงเท้าที่เข้าคู่กัน แพรีมองมัลลอรีอย่างเห็นใจ



มัลลอรีพยักหน้า "ฉันรู้ว่ามันโง่ แต่ฉัน...ฝันร้าย"



"คิดมากไปหรือเปล่า?" น้ำเสียงเเดกดันของจีนแทรกขึ้นมา "หรือบางทีจิตใต้สำนึกของเธออาจจะพยายามบอกอะไรบางอย่างกับเธอก็ได้"



มัลลอรีก้มศีรษะลงและจีนก็หัวเราะเสียงเหี้ยม



“หยุดหัวเราะอย่างนั้นเถอะ...จีน” แพรีพูดอย่างโกรธๆ ทำไมจีนจะต้องทำตัวเป็นราชินีแห่งความชั่วร้ายด้วยนะ? "จริงๆ แล้วเธอไม่รู้อะไรเลย เธอแค่ทำเป็นว่าเธอรู้เท่านั้น"



คางของจีนเชิดสูงขึ้น...ราวว่าแพรีตบจีน ดวงตาของเธอหรี่เล็กลง



“โอ้...งั้นรึ?” เธอพูด



แล้วเกรซก็ทำหน้าที่สงบศึกระหว่างเด็กสาวทั้งสอง



"หยุดได้แล้ว...ทั้งสองคนเลย" เธอหันมาพูดพร้อมกับเอามือลูบผมสั้นสีดำสนิทของเธอ "เรามาถึงกันแล้ว"



แพรีเงยหน้ามองตึกใหญ่โตเก่าๆ ที่ตั้งเด่นอยู่ข้างหน้า มันทำให้เธอลืมเรื่องจีนและคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ร้ายกาจนั่นได้ เธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที



ใครจะอยู่ในที่อย่างนี้ได้นะ?



อย่างน้อยก็คนตายล่ะที่จะอยู่...



"เราจะให้แพรีพักก่อน...แพรี-ผู้-ไม่-กลัว-ความ-มืด" จีนล้อเลียน "เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องที่มีผีตายก็ได้นะ..."



"ผีไม่มีทางที่จะตายหรอก" มัลลอรีพูดโพล่งออกมาโดยที่ทุกคนคาดไม่ถึง และแพรีอยากขอบคุณเธอ



เเต่เธอไม่รู้สึกแบบนี้กับจีน



"เด็กสาวที่เสียชีวิต" เธอพูดสวน แล้วหันมาอย่างรวดเร็วเสียจนผมสีเงินยวงของเธอกระเพื่อมเป็นคลื่นราวกับมีชีวิต "เธอก็แค่ขึ้นไปอยู่ชั้นบน พวกเราจะคอยผลัดเวรเฝ้าเธออยู่ข้างนอก เราจะได้เเน่ใจว่าเธอจะไม่เเอบหนีออกมา..."



"แหม...ขอบใจนะที่ไว้ใจฉัน" แพรีพึมพำ



"และทุกหนึ่งชั่วโมงเธอจะต้องมายืนตรงหน้าต่างด้านซ้ายที่อยู่ข้างหน้านี่และส่งสัญญาณไฟให้เรารู้ว่าเธอยังอยู่ที่นั่น"



แครอลก้มลงมองนาฬิกา "ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงสี่สิบเเล้ว" เธอพูดพลางดันแว่นตาขึ้น "หวังว่าตอนเที่ยงคืนเราจะได้เห็นสัญญาณไฟครั้งแรกนะ"



แพรีพยักหน้าแล้วก็มองออกไปที่ถนน...ไม่มีใครเลย...มันว่างเปล่า



"เอาล่ะ...ฉันไปล่ะนะ" เธอพูด



"โชคดีนะ" เกรซพูด



"แล้วเจอกัน" ลิลพูดเสริม "ไปจัดการกับมันเลย"



แพรีเดินรอบๆ และขึ้นบันไดชั้นเเรกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดอะไร...พวกเขาจะเดินไปรอบๆ ตึก สองคนจะเดินมานั่งรอที่รั้วไม้เตี้ยๆ ตรงข้ามกับถนนและคอยมองเธอ



แพรีหวังว่าประตูจะล็อก...แต่แน่นอน มันไม่ล็อก...แครอลอาจจะมาจัดการกับล็อกไว้ก่อนแล้ว มันเปิดง่ายมากและไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาเลย เธอเปิดไฟฉายและปิดประตูข้างหลังอย่างรวดเร็ว คนที่อยู่ข้างนอกจะได้ไม่รู้ว่ามีคนเเอบเข้ามาข้างใน



แล้วคนข้างในล่ะ...จะรู้ไหม? แล้วผีล่ะ?



แพรีลดแสงไฟฉายให้อยู่ต่ำๆ เธอหยุดเพื่อตั้งสติและหยุดหัวใจที่กำลังเต้นระรัวของเธอ เธอไม่เเน่ใจว่าจะเจออะไรบ้าง...แต่ทางเข้าของตึกก็ดูธรรมดา...ทางเข้าเก่าๆ ซึ่งทางด้านหนึ่งมีบันไดที่นำไปสู่ชั้นสองและห้องที่เปิดอยู่...ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีชั้นฝุ่นบางๆ จับที่มุมบันได ตึกนี้ถูกปิดมาเกือบเดือนนึงแล้ว ไม่มีใยแมงมุม บ้านหลังนี้ก็มีกลิ่นของพิซซ่าเก่าๆ ติดอยู่ และมีสบู่เมอร์ฟีออยล์...สบู่สำหรับทำความสะอาดพื้นไม้ กับไม้ที่ถูกเลื่อยเป็นท่อนๆ เพื่อการซ่อมแซม



ฉันกลัว แพรีคิด



เธอฉายไฟฉายไปยังบันไดทางขึ้นและเริ่มก้าวขา



ก้าวเเรกมีเสียงลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดเหมือนมันจะหักเพราะน้ำหนักของเธอ และตัวแพรีเองก็ปล่อยเสียร้องอู้อี้ออกมา เธอจับราวบันไดไว้และเดินหน้าขึ้นข้างบนโดยไม่สนใจเสียงลั่นของบันได



เธอหยุดอีกครั้งที่บันไดขั้นสุดท้าย...ห้องที่เด็กสาวตายอยู่ไหน? จะรู้ได้ยังไงนะ? จะเป็นยังไงถ้าฉันเลือกอยู่ผิดห้อง?



อย่าคิดถึงมันเลย แพรีสั่งตัวเอง เธอหันไปทางด้านหน้าบ้านและเปิดประตูบานหนึ่งที่จะนำไปสู่หน้าต่างบานที่สามารถมองเห็นถนน ยิ่งเข้าใกล้หน้าต่างเท่าไร เธอก็ยิ่งได้ยินเสียงหอนาฬิกาของมหาวิทยาลัยเริ่มตีเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน



แพรีรูดผ้าม่านไปไว้ข้างๆ และกดสวิตช์ไฟฉายเปิดๆ ปิดๆ อย่างรวดเร็ว



จากนั้นเธอก็ก้าวถอยหลัง



ชั่วโมงเเรกของเธอที่ตึกไนต์แมร์ได้เริ่มขึ้นแล้ว

****************************************************************



"ใครอยู่ที่นั่นน่ะ?"



แพรีนั่งอยู่บนเก้าอี้เก่าๆ ที่เธอดึงมาไว้ใกล้ๆ กับหน้าต่าง เธอกำลังนั่งรอให้คืนนี้ผ่านไป เธอใช้เวลาชั่วโมงเเรกสำรวจบ้าน...พิจารณาหนังสือที่วางอยู่บนชั้นวางของห้องบางห้อง...มองรูปที่อยู่บนบอร์ดประกาศข่าว...และเสื้อคลุมที่เเขวนอยู่หลังประตู มันเหมือนกับอยู่บนเวทีที่ไม่มีนักแสดง พวกสายลับจะความรู้สึกแบบนี้หรือเปล่านะ...เดินผ่านชีวิตของผู้คนในโลกที่ไม่มีใครแลเห็น...บันทึกสิ่งที่พวกเขาได้ทำ...แล้วพวกเขาอยู่โดยที่คนอื่นไม่ได้สังเกตเห็นได้ยังไงนะ?...และเขาก็ปกปิดความลับด้านมืดของพวกเขา



คนที่อยู่ที่นี่มีชีวิตธรรมดาๆ...ชีวิตที่พวกเขาละทิ้งมันไว้ชั่วคราวและคาดหวังว่าจะได้กลับมาอีก



แต่สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ตึกไนต์แมร์



ในห้องนอนแต่ละห้อง...แพรีหันไฟฉายไปยังของที่อยู่ประจำที่...พยายามจะคิดว่ามันมาจากสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น หรือมองอะไรที่น่าสงสัย



แต่เธอก็บอกอะไรไม่ได้ และเมื่อเธอกลับไปส่งสัญญาณเมื่อหมดชั่วโมงเเรก เธอก็คิดอะไรไม่ออกเลย



โอ...บางทีมันคงจะดีกว่าถ้าเธอไม่รู้อะไรเลย



เธอหยิบหนังสือจากชั้นวางหนึ่ง นั่งลงที่เก้าอี้ พยายามจะอ่านมันและรอให้คืนนี้ผ่านไป



เสียงปี๊บๆ ของนาฬิกาเธอปลุกเธอตอนตีสอง เธอโผล่ไปที่หน้าต่างและส่งสัญญาณไฟ แล้วเธอก็ปิดไฟ เธอมองผ่านกระจกหน้าต่างลงไปยังความมืดที่อยู่ข้างนอก



ตอนนี้ใครกำลังมองเธออยู่ข้างล่างนะ? แครอลกับจีน? มัลลอรีกับเกรซ? จีนกับลิล? คู่ไหนที่นั่งเฝ้าข้างนอกตึกไนต์แมร์ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างใน? และใครกันนะที่ไม่ได้นั่งและรอ? ใครว่างพอจะไปๆ มาๆ...โดยไม่มีใครสังเกต...หรือตรวจดู? จะมีคนที่ขังเกรซไว้ในโรงรถ...คนที่โทรศัพท์หาเธอ...หรือคนที่คิดคำท้าแปลกๆ ด้วยหรือเปล่า?



หยุดคิดได้เเล้ว แพรีบอกกับตัวเอง แต่ความคิดของเธอยังคงดำเนินต่อไป



บางทีอาจจะไม่มีใครอยู่ข้างล่างเลยก็ได้ ไม่มีใครเลย บางทีพวกเขาแค่พูดว่าจะคอยมอง...เพื่อให้เธออยู่ข้างในนี้...บางทีอาจจะไม่มีใครอยู่ข้างล่างคอยมองสัญญาณไฟจากหน้าต่างทุกๆ ชั่วโมงหรอก



แต่เธอก็บอกไม่ได้



เธอเกลียดความมืด แพรีคิด



นิ้วของเธอลูบไล้ถ่านไฟฉายที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงตรงสะโพก เธอรู้สึกถึงการกระทบกันของถ่านไฟฉายจำนวนมากที่เธอพกมาด้วย--บทเรียนที่เธอได้มาจากคำท้าของเกรซ



ฉันเรียนรู้อะไรมากมายจากเกมบ้าๆ นี่ เธอคิด



เหมือนกับว่ามันมีอะไรบางอย่างที่เลวร้ายกว่าการอยู่ในความมืด--อย่างเช่นอยู่ในความมืดโดยไม่มีไฟฉาย



แล้วเธอก็กลับลงไปนั่งที่เก้าอี้อีกครั้ง



เธอผล็อยหลับไปและตื่นขึ้นมาเพราะเสียงบางอย่างปลุก



ไม่ใช่เสียงจากนาฬิกาของเธอ...เสียงปี๊บๆ ที่เตือนทุกชั่วโมง...มันเพิ่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงเอง



แต่เสียงนี่ฟังดูคุ้นเคยมาก



แล้วเธอก็นึกออกว่ามันเป็นเสียงอะไร...เสียงคนก้าวเหยียบบันไดขั้นเเรก



มันจะต้องเป็นหนึ่งในพวกเขา...คนใดคนนึงในกลุ่ม...มันอธิบายได้เพียงอย่างเดียว...แต่หัวใจของเธอเริ่มเต้นอย่างรุนเเรงตลอดเวลา



"สวัสดี?" เธอเรียกเบาๆ "นั่นใครน่ะ?"



ไม่มีใครตอบ บ้านเงียบมาก



เงียบผิดปรกติ...เงียบเพราะใครบางคนกำลังรอเธอในความมืด รอเธอให้ลืมเสียงนี่ รอให้เธอผ่อนคลาย...ไม่ระวัง...และกลับไปนอน



รอ



หรืออาจจะไม่รอก็ได้



เสียงของมันดังใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ



มันหยุดอยู่ข้างนอกประตูห้องนอน



จบบทที่ 11



สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ



วันหยุดได้ไปเที่ยวไหนกันไหมคะ ถ้าไม่ได้ไปก็แวะมาอ่านนิยายกับเพลินๆ นะคะ



บทที่ 11 เฉลยตัวผีร้ายในบทที่ 10 แล้ว เป็นอย่างที่คิดกันไว้หรือเปล่า ส่วนบทที่ 11 ปิดท้ายกำลังลุ้นเลย เสียงที่แพรีได้ยินเป็นเสียงอะไร คราวนี้เป็นฝันอีกหรือไม่ แล้วเจอกันบทหน้านะคะ สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ



มิถุนา
มิถุนา Bloggang
มิถุนา Facebook
มิถุนา Dek-d



Create Date : 14 เมษายน 2555
Last Update : 27 เมษายน 2555 11:58:15 น. 0 comments
Counter : 1861 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.