Group Blog
 
All blogs
 
Truth or Die บทที่ 5

Truth or Die บทที่ 5

"นั่น...นั่นมันเลือดดดดดดดด!"

"กรี๊ดดดดดดดด!" แพรีกรีดร้อง

"ไม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่!" เกรซโหยหวน

มัลลอรีเอามือปิดปากตัวเองเพื่อกลบเสียงร้อง

"อ๊าาาาาาาาา" เสียงลิลดังขึ้น

"ม..." ผู้หญิงบนจอภาพยนต์เริ่มร้องแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร สัตว์ประหลาดก็เขมือบหัวเธอเข้าไปทั้งหัว

"ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราจะมานั่งอยู่ตรงนี้แล้วก็ดูไอ้นี่กัน" ลิลพูด

เด็กผู้ชายสวมหมวกตลกๆ ที่นั่งอยู่ข้างหน้าพวกเธอหันมาส่งเสียง "ชู่ว์ว์ว์"

"โทษที น้องชาย" ลิลพูดพร้อมกับลดตัวลงนั่ง เธอเริ่มเคี้ยวข้าวโพดคั่วจำนวนหนึ่งกำมือใหญ่ๆ เสียงดัง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งรายชื่อนักแสดงปรากฏ





"พวกเธอคิดว่าไง?" เกรซถามขึ้นขณะที่พวกเธอเริ่มเดินออกจากโรงหนังที่ทวินฟอลเพื่อกลับมหาวิทยาลัย

"ฉันว่ามันเป็นหนังที่ห่วยที่สุดที่ฉันเคยดูมาเลย" ลิลตอบ "ทำไมพวกเราถึงดูเรื่องนี้กันนะ?"

"เพราะมันเป็นหนังที่ฉันจะพาเคนน์ไปดูนะสิ...ลิล ฉันเคยบอกเเล้วนี่ เธอไม่ได้ฟังหรอกรึ?" เกรซถาม

แพรีสั่นศีรษะ "เกรซ แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอยากไปดูหนังเรื่องรีเทิร์นออฟเดอะบลัดอเวนเจอร์กับเคนน์"

เกรซกรอกตาไปมา เธอยิ้มแล้วตอบว่า "คิดสิแพรี...หนังสยองขวัญ...ทำให้เขากลัว ฉันก็กลัว...ทีนี้พอถึงฉากสยอง เราก็จะตกใจจนต้องกอดกัน...แล้วนี่ฉันจะต้องอธิบายต่อไหมเนี่ย?"

"อืมมมม เข้าท่าแฮะ" แพรีแกล้งพูดจริงจัง

มัลลอรีพูดต่อว่า "อาทิตย์นี้ที่มหาวิทยาลัยของเราจะมีเทศกาลหนังสยองขวัญชั้นเยี่ยม" เธอย่นจมูกแล้วพูดต่อว่า "ฉันไม่ชอบหนังสยองขวัญเลย แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่ว่ามันเป็นหนังชั้นดี"

"ไม่ ไม่ ไม่ ฉันอยากให้เป็นหนังที่เขาไม่เคยดูมาก่อนแต่ฉันดูไปแล้ว ฉะนั้นเวลาที่ฉันไปดูกับเขา ฉันก็จะรู้เรื่องทั้งหมดก่อนแล้ว และฉันก็จะควบคุมตัวเองได้...เข้าใจไหม?"

"เห็นได้ชัดเลยว่าเธอเป็นนักจัดการชั้นยอดนะเกรซ...โอ๊ย...แล้วอย่างนี้ใครจะอยากเชื่อเธอ?" ลิลยิ้ม มัลลอรีที่อยู่ข้างๆ ลิลหัวเราะเบาๆ

แพรีพูดอย่างเคร่งขรึม "โธ่...เคนน์ที่น่าสงสาร เขาไม่มีโอกาสจะรู้เลยว่า..."

"เคนน์รึ? แล้วไบรอันล่ะ?" เกรซโต้กลับ

"เธอคิดว่าฉันควรจะชวนไบรอันไปดูหนังเรื่องนี้นะเหรอ? ไม่มีทางหรอก...แค่ครั้งเดียวก็พอแล้วสำหรับฉากที่เต็มไปด้วยเลือดกับการแก้แค้น"

"เลือดกับการแก้แค้น" ลิลพูดอย่างไตร่ตรอง "ฉันว่าชื่อนี้เหมาะจะเป็นชื่อหนังหรือชื่อหนังสือ"

"หรือเหมาะจะเป็นเรื่องจริง" เกรซพูด "มันเกิดขึ้นตลอดเวลา"

"เธอคงไม่เชื่อหรอกใช่ไหม?" แพรีถาม "การแก้แค้นรึ? คนพวกนี้จะแก้แค้นรึ?"

ลิลเตะต้นไม้ที่เธอเดินผ่าน "ฉันจะแก้แค้นเฉพาะตอนที่ฉันเล่นฟุตบอล...ฉันหมายถึง...ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มนะ...แต่ถ้าใครทำฉันก่อน ฉันก็จะเอาคืน"

"นั่นไม่ใช่การแก้แค้นหรอก" แพรีพูด "นั่นมันตอนที่เธออยู่ในสนามนะ"

"พวกเธอคิดว่าการแก้แค้นในความคิดของเธอเป็นยังไงล่ะ?" มัลลอรีพูดเบาๆ

เด็กหญิงทั้งสี่เดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยอย่างเงียบๆ เกรซหันหน้าไปยังตึกที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของพวกเธอ ต่างหูรูปปลาวาฬที่ติ่งหูเธอแกว่งไปมา มีนั่งร้านตั้งอยู่ที่ด้านหนึ่งของมันและหลังคาส่วนหนึ่งก็หายไป

"ตึกไนต์แมร์" เธอพูดลอยๆ "พายุพัดผ่านและทำความเสียหายให้กับตึกของมหาวิทยาลัย ต้นไม้ล้ม ไม่มีไฟฟ้าใช้สองชั่วโมง แล้วพายุก็ฉีกหลังคาของตึกนึงไป...ตึกไนต์แมร์...ทุกคนย้ายออกเพราะพวกเขาเห็นอะไรบางอย่าง นี่ไม่ใช่เรื่องประหลาดครั้งแรกที่เกิดขึ้นที่นี่หรอกนะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเรียกมันว่าตึกไนต์แมร์ทำไมล่ะ...นี่แหละ...ที่นี่แหละที่มีการแก้แค้นเกิดขึ้น"

"เธอหมายถึงอะไรน่ะ?" มัลลอรีถาม

"มีเด็กผู้หญิงตายที่นั่น...เธอชื่อจิเซล...เธอไม่คิดว่าเขาจะกลับมาแก้แค้นหรอกหรือ?"

"ผีน่ะหรือ?" มัลลอรีถาม "เธอคงไม่เชื่อว่าผีมีจริงหรอกนะเกรซ...ใช่ไหม?"

เกรซหยุดที่ข้างทาง เธอจ้องไปยังตึกเก่าๆ ที่ตั้งอยู่ข้างหน้าเธอ

"เกรซ?" มัลลอรีเรียก

"อะไรนะ?" เกรซหันไปรอบๆ สีหน้าของเธอดูน่ากลัวจนแพรีประหลาดใจ แล้วมัลลอรีก็เผลอก้าวถอยหลัง

"เก...เกรซ?" มัลลอรีเรียกอีก "เป็นอะไรไป?"

"เป็นอะไรรึ? ไม่นี่" เกรซตอบ "ทำไม...ใครเป็นอะไร?" เสียงเธอแหบห้าว

มัลลอรีมองเกรซอย่างงงๆ แพรีเองก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่แล้วเกรซก็มองไปอีกทาง

แพรีจ้องลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลของมัลลอรี...มัลลอรีขมวดคิ้วจนหน้ายุ่ง...แพรีรู้สึกว่าถึงเเม้ว่าเด็กสาวทั้งสองยังไม่รู้จักกันดีเท่าไรนัก เเต่มันก็ดูเหมือนว่าต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

มีบางอย่างผิดปรกติ

แต่แพรีก็รู้ว่าเธอไม่สามารถจะคาดคั้นอะไรเกรซได้ และเธอก็รู้ว่าถ้าเธอถามมัลลอรี มัลลอรีก็จะไม่ตอบอะไรเช่นกัน

"เอาล่ะ" เกรซพูดขึ้น เธอสะบัดศีรษะแรงๆ

"เอ้อ..." แพรีเริ่มบ้าง แต่ลิลที่สังเกตเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มจะไม่ดีพูดขัดขึ้นมาทันทีว่า

"เฮ้ๆ...เราหยุดพูดเรื่องนี้กันได้ไหม? ทั้งเรื่องเลือด การแก้แค้น แล้วก็ผี...เรื่องพวกนี้ทำให้ฉันรู้สึกหิวขึ้นมาตงิดๆ ล่ะ"

ทันใดนั้นหน้าของเกรซก็ผ่อนคลายลง เธอเอามือลูบกางเกงและผมสั้นสีดำของเธอเบาๆ แต่ทุกอย่างก็ยังดูเป็นปริศนา

นี่ฉันคิดไปเองรึเปล่านะ? แพรีคิด

"เป็นความคิดที่ไม่เลวนะลิล" เกรซพูด น้ำเสียงเธอกลับมาเป็นปรกติ "อย่าเพิ่งกลับหอเลย ไปกินพิซซ่ากันไหม?"





เสียงอะไรดังนะ...กริ๊งงงง กริ๊งงงง...ไปเข้าชั้นเรียนสายรึ?

แพรีลุกขึ้นมาทันที

นี่เธออยู่ที่ไหนนะ?

แล้วเธอก็จำได้...หอพัก...มหาวิทยาลัย...ใช่แล้ว...เธออยู่ที่ซาเล็มนั่นเอง

เธอปิดนาฬิกาปลุกแต่เสียงกริ่งยังคงดังอยู่

กริ๊งงงง

ใช่แล้ว โทรศัพท์

แพรีเดินสะดุดเท้าตัวเอง เธอได้ยินเสียงหนังสือประวัติศาสตร์หล่นโครมใหญ่

"โธ่เอ๊ย" เธอบ่น...ทุกคนไปไหนกันหมดนะ? เพื่อนร่วมห้องของเธออยู่ไหน?

เเล้วโทรศัพท์ที่ติดอยู่บนฝาผนังห้องน้ำถัดจากอ่างล้างมือก็ดังอีกครั้ง

แพรีคว้าหูโทรศัพท์ได้ก็พูดกรอกไปว่า "สวัสดีค่ะ"

"ฉันขอท้าเธอ" เสียงปลายสายคุกคาม

"อะไรนะ?"

"ฉันขอท้าเธอ" เสียงแหบๆ พูดซ้ำ

"ใครกันน่ะ? คุณเป็นใคร?"

"ฉันขอท้าเธอ" เสียงนั้นพูดซ้ำเป็นครั้งที่สาม "ให้พูดความจริง"

ลำคอของแพรีรู้สึกเหนียวหนับขึ้นมาทันที เธอรู้สึกกลัวจนไม่สามารถอธิบายได้

"บอกความจริงมา..." เสียงนั่นยังคงพูดต่อ "หรือไม่ก็ชดใช้มาซะ" มันหัวเราะเสียงชั่วร้าย

แพรีวางโทรศัพท์ดังโครม

แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก

เธอยืนพิงกำแพงฟังเสียงโทรศัพท์...หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง...เเล้วเธอก็ทนไม่ได้

เธอรับโทรศัพท์ แทบจะพูดไม่ออก

"คุณต้องการอะไร?" แพรีพูด

"ฮัลโหล? ฮัลโหล...เอ่อ...แพรีหรือ? ขอสายแพรีหน่อยครับ จากไบรอันครับ"

"อะไรนะ?" แพรีพูด

"นั่นใช่แพรีรึเปล่า?"

"ใช่ ฉันหมายถึง...ใช่แล้ว ฉันเอง" เธอหนีบหูโทรศัพท์ด้วยไหล่ แล้วค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปนั่งกับพื้น

"ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย" แพรีบ่น

"คุณพูดแบบนี้ทุกครั้งที่รับโทรศัพท์เหรอ?" ไบรอันถาม

"เปล่านะ...ไม่หรอก ไม่อยู่แล้ว" แพรีตอบ "มันก็แค่..." ไม่รู้เพราะอะไร เธออยากจะบอกไบรอันเรื่องโทรศัพท์ประหลาดนี่ แต่อาจจะเป็นเรื่องล้อเล่นก็ได้ มุกแย่ๆ ของเกรซ ของมัลลอรี หรือไม่ก็ของลิล...แน่นอน...มันจะต้องเป็นลิลแน่ๆ ลิลมักจะชอบทำเรื่องทำนองนี้อยู่แล้วนี่

แล้วเธอก็จะไม่ให้ลิลมาหัวเราะเธอด้วยเรื่องนี้หรอก

"คือ ฉันกำลังหลับอยู่น่ะ" แพรีตอบ "ขอโทษนะ"

"ขอโทษที่ปลุกคุณนะ...เจ้าหญิงนิทรา คือว่าผมอยากเจอคุณอาทิตย์นี้น่ะ"

"ทำไมเหรอ?" แพรีถาม รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก

"คือ...ผมมีความคิดดีๆ นิดหน่อย แต่ผมก็อยากถามความเห็นของคุณด้วย" ไบรอันเริ่ม

"ได้สิ" แพรีพูด รอยยิ้มของเธอกว้างขึ้น "ฉันก็เหมือนกัน"

จบบทที่ 5





สวัสดีค่ะ

ปรกติเวลาแปลมิถุนาจะพยายามคงเค้าคำเดิมให้มากที่สุดนะคะ ไม่ค่อยเปลี่ยนหรือปรับคำพูดของคนแต่งเท่าไหร่ที่ไม่จำเป็น เรื่องนี้เป็นนิยายสำหรับวัยรุ่นวัยทีน เลยจะใช้คำศัพท์ง่าย ไม่ได้มีอะไรหวือหวา อ่านง่ายๆ และดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็วค่ะ

บทที่ห้า แพรีเจอดีเข้าแล้ว แต่ใครเป็นคนโทรฯ มาแกล้งกันนะ เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป ติดตามในบทหน้านะคะ

มิถุนา
//mithuna.bloggang.com



Create Date : 30 มกราคม 2555
Last Update : 30 มกราคม 2555 0:14:16 น. 2 comments
Counter : 1549 Pageviews.

 
คือทั้ง 6 สาวไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมาเจอกันครั้งแรกที่งานเลี้ยงแล้วทำไมถึงใจกล้าเล่นอะไรกันแบบนี้ งงๆกับอารมณ์ตัวละคร มีแอบคิดกลัวอีกฝ่าย ทำไมต้องมีความคิดแบบนั้น


โดย: mimny วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:56:36 น.  

 
mimny เกมนี้เป็นเกมแบบอเมริกันค่ะ เด็็กอเมริกันส่วนใหญ่เล่นกับขำๆ อยู่แล้ว ทำนองเจอท้ามาก็คะนองทำนั่นเอง
ส่วนที่คนที่กลัว ส่วนใหญ่ตกกับแพรีที่เหมือนเป็นคนขี้เกรงใจเพื่อนมาก ก็กลัวแต่ก็จำใจเล่นนั้นเองค่ะ
สำหรับเหตุผลลึกๆ นั้น...รอติดตามกันต่อไปนะคะ :-D


โดย: มิถุนายน วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:1:07:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิถุนายน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]





บล็อกนี้เริ่มต้นจากการเก็บรวบรวมนิยายของมิถุนาให้เป็นหลักแหล่ง และต่อมาได้เพิ่มความชอบเกี่ยวกับเครื่องสำอาง การท่องเกี่ยว การกิน และเรื่องจิปาถะอื่นๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ

มิถุนา (busaba401แอตhotmail.com)

แวะทักทาย/ฝากคำถามได้ที่ cbox นะคะ แล้วจะมาตอบให้ทุกคนค่า








Fanpage นิยายของมิถุนา
(เฉพาะนิยายนะคะ ไม่ได้อัพเรื่องเครื่องสำอางค่ะ)
มิถุนา Mithuna นิยาย

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ



E-book ของมิถุนา
คืนปรารถนา
มิถุนายน
www.mebmarket.com
ทั้งหมดเริ่มต้นจากความเข้าใจผิด...อชิระคิดว่ามิลินท์หักหลังเขา เขาจึงใช้ความรักที่เธอมีให้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น มิลินท์จาก...
ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม
มิถุนายน
www.mebmarket.com
เมื่อยอดคุณป๊า ที่ถือคติที่ว่า “เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน” พยายามจับคู่ลูกๆ ที่เหลือให้ครบ อดีตคู่กัดสมัยละอ่อนเลยได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในฐานะเจ้าบ่าวและเจ้าสาว...
New Comments
Friends' blogs
[Add มิถุนายน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.