ใต้เงาพยัคฆ์ บทส่งท้าย Part 1
ใต้เงาพยัคฆ์ บทส่งท้าย มาลิกามาอยู่เมืองไทยได้เกือบปีแล้ว มันเป็นแผนการชีวิตที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการปลอมตัวเป็นพี่ชายต่างแม่ เสี่ยงอันตรายแทนเขา เกือบตายแทนเขา ตกลงปลงใจอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำงานเป็นช่างแต่งหน้าอิสระในกองละครและภาพยนตร์ เปิดโรงเรียนสอนแต่งหน้าเต็มรูปแบบ และสุดท้ายลงเอยด้วยการแต่งงานกับคนรักของเธอ ชุดโออิโรนะโอชิ...ชุดแต่งงานกิโมโนสีขาวซ้อนทับกันหลายชั้น หนาและหนัก ไม่เหมาะกับเมืองร้อนเป็นอย่างยิ่ง กำลังสร้างภาระให้กับมาลิกา เธอสยองชนิดไม่กล้าลุกยืน...เพราะกลัวจะลุกไม่ไหว แค่แบกชุดบนไหล่ก็รู้สึกว่ามันหนักมากแล้ว รวมเบ็ดเสร็จน่าจะหลายกิโลอยู่ เธอหันไปมองทสึโนกากูชิ...เครื่องประดับศีรษะของชุดแต่งงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างๆ แล้วเบ้หน้า ลองถ้าสวมเจ้านี่อีกชิ้น เธอคงไม่ต้องเดินไปไหนแน่ๆ แค่ชุดแต่งงานก็หนักจะแย่ อึดอัดด้วย...อ้อ ลืมไป เธอจะมีคนช่วยประคองระหว่างเดิน ไม่ต้องกลัวจะเดินไม่ไหว ช่างแต่งหน้าถอยออกเมื่อบรรจงทาลิปสติกสีแดงสดให้เธอเสร็จ เป็นครั้งแรกที่มาลิกามีคนแต่งหน้าใคร ปรกติเธอมักจะแต่งหน้าเอง...และไม่แต่งเต็มยศขนาดนี้ด้วย เจ้าสาวสวยมากค่ะ ช่างแต่งหน้าออกความเห็นพร้อมยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะหมุนเก้าอี้ให้เธอหันไปทางกระจกเงา มาลิกาจำตัวเองแทบไม่ได้ เธอดูผ่องใสและชวนตะลึงสมกับวันงานสำคัญ เธอไม่ได้ทาลิปสติกสีแดงมาตั้งแต่เลิกเป็นวัยรุ่นแล้ว ใครจะไปคิดว่ามันจะเข้ากันกับผิวขาวๆ และผมสีเข้มเหลือบน้ำเงินของเธอ ใช่ สวยมาก เสียงคุ้นเคยเรียกให้เธอหันไป ดวงตาสีเข้มเบิกกว้างอย่างยินดี นรสิงห์ในชุดกิโมโนแต่งงานของผู้ชายเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว มือของเขาถือพัดกระดาษโบกไปมาอย่างทักทาย ดวงตาเย็นชามีชีวิตชีวิตเมื่อเห็นผู้หญิงคนสำคัญของเขา ช่างแต่งหน้าหลบออกไป ปล่อยให้สองหนุ่มสาวอยู่กันตามลำพังอย่างรู้ใจ อิจฉาคุณจัง ชุดใส่สบายกว่าฉันจมเลย นี่ขนาดใส่สบายกว่านะ ผมว่าผมต้องสวมอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ แถมยังต้องถือพัดตลกๆ นี่ด้วย มาดูชุดของฉันก่อนเป็นไงแล้วค่อยพูด ชุดของคุณสวย เหมาะกับคุณ นรสิงห์แตะไหล่ภายใต้ผ้าสีขาวสะอาดตาอย่างทะนุถนอม ลิปสติกสีแดงก็เหมาะกับคุณมาก...มากเสียจนผมอดใจไม่ไหวเลยเชียวละ เขาไม่พูดเปล่า ดึงให้เธอแหงนหน้าขึ้นรับจุมพิตดูดดื่มของเขา สีแดงย้ายมาเคลือบริมฝีปากของเขา ดูน่าขัน...และขณะเดียวกันก็น่าเอ็นดู คุณก็เหมาะกับลิปสติกสีแดงเหมือนกันนะ เธอยิ้ม ชายหนุ่มหัวเราะ เขาไม่เช็ดริมฝีปาก เพราะรู้แก่ใจว่าจะมีครั้งที่สอง เขาดึงร่างเพรียวที่ตอนนี้ทั้งหนาและหนักด้วยชุดกิโมโนมาสวมกอดแล้วจุมพิตเธอหนักๆ อย่างเสน่หา สองหนุ่มสาวแทบไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของผู้บุกรุก หรือเสียงกระแอม... อะแฮ่ม เมื่อครั้งแรกไม่เป็นผลก็มีครั้งที่สอง แฮ่ม แฮ่ม ตามมาด้วยเสียงดังแซวอย่างขบขันโดยหวังว่าคราวนี้จะเรียกความสนใจได้บ้าง เอ้าๆ ลิปสติกหลุดหมดแล้วนั่น ได้ผล นรสิงห์ปล่อยว่าที่เจ้าสาวพลัน แต่ยังโอบกอดร่างเพรียวไว้ไม่ปล่อย หน้าของเขาแดงเหมือนริมฝีปาก แต่นอกเหนือจากนั้น เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ เว้นแต่ภาคภูมิใจ ไฮ มาร์ พี่สาว พี่หลง ไหมกับปัตถ์ยืนที่หน้าประตู ไหมยิ้มเขิน...หน้าแดงแทนพวกเขา ส่วนปัตถ์อมยิ้มล้อเลียน พวกเขาบินมาจากอเมริกาเพื่อมาร่วมงานแต่งงานของสองหนุ่มสาว ไหมเป็นนักเรียนโรงเรียนสอนแต่งหน้าแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย กำลังสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เธอเลือกด้วยตัวเอง โดยมีปัตถ์กับแม่คอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ แม่ทำใจเรื่องโทดะและอคินได้มากกว่าตอนแรก กระนั้นแม่ก็ไม่ขอมาร่วมงานแต่งงานของมาลิกากับนรสิงห์ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการกลับเมืองไทยอีก ไหมเคารพการตัดสินใจของแม่ และเธอเห็นว่ามันอาจจะดีต่อแม่...และพวกยามากูชิมากกว่า แม่กับโนริโกะเปิดคอร์สสอนทำอาหารไทยแบบตัวต่อตัว แรกๆ ทำเพื่อแก้เบื่อ สอนเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง หากหลังๆ เมื่อเริ่มมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และได้รับคำโฆษณาแบบปากต่อปาก พวกเธอก็ยึดเป็นงานจริงๆ จังๆ ก่อนจะหันมาเปิดร้านอาหารไทยแทน ด้วยรสมือสุดยอดของทั้งสอง กิจการจึงเป็นไปด้วยดี พวกเธอรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เธอทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำและไม่ต้องพึ่งพาใคร ไม่เหมือนกับตอนที่อยู่กับยามากูชิ ที่การทำอาหารก็เป็นแค่การเลี้ยงคนในบ้านให้อิ่มท้อง คนที่ปรับตัวได้ยากกว่าใครเห็นจะเป็นทาเคตะ ความผิดของโนริโกะและความลับเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงทำให้เขาเสียศูนย์ไปนาน กว่าจะยอมรับความจริงได้ว่าตัวเองเป็นลูกของใคร ทาเคตะลอยชายท่องเที่ยวรอบสหรัฐอเมริกาอยู่เป็นเดือน จนวันหนึ่งปัตถ์พาเขาไปที่กองถ่ายเพื่อเปิดหูเปิดตา กลายเป็นว่าผู้กำกับเกิดถูกใจทาเคตะ ชักชวนเขาไปเป็นตัวแสดงแทนนักแสดงประกอบที่เกิดเจ็บกลางกองถ่ายกะทันหันในบทบาทเสี่ยงตาย เขาแสดงได้ประทับใจ และถูกทาบทามมาทำงานร่วมด้วย จนปัจจุบันได้เลื่อนขั้นกลายเป็นตัวแสดงแทนและผู้ฝึกสอนศิลปะป้องกันตัวประจำกองถ่ายไปเสียแล้ว แต่ทาเคตะก็ยังเหมือนมีอะไรหน่วงอยู่ในใจตลอดเวลา เพียงแต่ว่างานใหม่ทำให้เขาไม่มีเวลาให้คิดฟุ้งซ่านเหมือนก่อน ไม่ต่างกับทาเคตะ โทดะสิ้นฤทธิ์ไปมาก หลังถอยห่างจากการบริหารยามากูชิ โดยมีอคินรับช่วงงานไปพัฒนาต่อ เขาก็หันเข้าสู่การนั่งสมาธิเพื่อทำจิตใจให้สงบ ซึ่งช่วยได้มาก หลังจากจิตใจเริ่มมั่นคง เขาก็บินไปหาทาเคตะที่อเมริกาพร้อมกับปรานต์ซึ่งกลายมาเป็นคนดูแลเขาแทนทาเคตะ จุดประสงค์เพื่อทำความรู้จักกับลูกชายของเขาอีกครั้ง ทาเคตะสงวนท่าทีกับเขา เห็นเขาเป็นเพียงนายท่าน...แต่ไม่ใช่นายท่านคนเดิมที่ทาเคตะกริ่งเกรงและนับถือ และเขาเป็นคนทำลายศรัทธานั่น ส่วนโนริโกะและศศิมายังคงไม่ให้อภัยเขา ตรงข้ามกับมาลินและชบาที่ต้อนรับเขาอย่างเกรงในที ถ้าเป็นเมื่อก่อน โทดะคงไม่แคร์ แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ไม่มีใครคิดว่าเขาจะปล่อยผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าลูกชายและตัวการวางแผนฆ่าหลานชาย สนับสนุนให้หลานสาวคนเล็กเรียนทางด้านศิลปะ หรือปล่อยวางบ่วงอำนาจที่เขาสร้างขึ้น และกลายมาเป็นคนแก่ธรรมดาที่ออกจะจุกจิกวุ่นวายไปสักหน่อย บางคนอาจคิดว่าพวกเขารับโทษไม่สาสมกับความผิดที่พวกเขากระทำ แต่มาลิกาไม่เห็นด้วย เห็นได้ชัดเจนว่าไม่มีใครที่เป็นเหมือนเดิม สบายดีนะ สบายดี ไหมก็สบายดี ส่วนฉันคงไม่ต้องถามเธอว่าสบายดีไหม หน้าเธอฟ้องหมดแล้ว ไอ้บ้าปัตถ์ มาถึงก็ปากดีเลยนะ มาลิกาเดินเข้าตัวปลิวทั้งที่ชุดก็หนัก เมื่อถึงเป้าหมายก็ซัดที่แขนเขาแรงๆ เอาคืน ไหมหัวเราะชอบใจ เอาอีกพี่สาว แรงๆ เลย เขาไม่เจ็บหรอก อีตานี่นอกจากจะหนังหนา ยังชอบแหย่ไหมอยู่เรื่อย ปากหาเรื่องตลอดเวลา มาอิจัง พอมีพวกเข้าหน่อยละเอาใหญ่เชียวนะ ปัตถ์ขยี้ศีรษะของเธออย่างมันเขี้ยว ฮึ ก็ใครเล่าชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อย ก็ใครเล่าแหย่ขึ้นอยู่เรื่อย ไหมกระทืบเท้าที่คนรักล้อเลียนเธอจนเขาร้องโอ๊ย เธอไม่สนใจ ปัดมือเขาออกแล้วโผนไปหาพี่สาว กอดแขนอีกฝ่ายไว้แน่น ดูสิพี่สาว เธอฟ้อง แหย่กันเป็นเด็กๆ ไปได้ ไม่เปลี่ยนเลยสินั่น ไม่มีวันเปลี่ยนหรอก ไม่มีวัน อ้อ อาจจะมีคู่หนึ่งละที่ไม่เปลี่ยน...วันแรกเป็นยังไง วันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น มาลิกาคิดยิ้มๆ ปัตถ์ยืนยันความรู้สึกของเขา ตาสบมองคนที่อยู่ตรงข้าม สื่อบอกว่าสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือใจของเขา นับตั้งแต่เริ่มเข้าใจหัวใจตัวเองทีละนิด เขาก็เริ่มยอมรับมัน และโชคดีที่เธอก็มีหัวใจเดียวกับเขา เอ้า หวานกันซะให้พอ ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกันเลย นรสิงห์แทรกขัดขันๆ ช่วยไม่ได้ ใครบางคนไม่เกรงใจก่อน ปัตถ์ยักไหล่ หน้ายวนๆ ช่วยไม่ได้ ใครบางคนทำให้อดใจไม่ไหว หนุ่มมังกรเล่นคำกลับ พลางส่งตาหวานให้ ใครบางคน ซึ่งแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ทั้งที่แก้มเริ่มออกสีจัดชนิดที่ซ่อนอย่างไรก็ไม่มิด นายนี่มันจริงๆ เล้ย ปัตถ์รู้ดีว่าเจอคู่แข่งสำคัญซะแล้ว...อ้อ จะว่าไปเขาก็รู้มาตั้งแต่แรกแล้วละ เพียงแต่ตอนนั้นเขาไม่ยอมรับเท่านั้น ก็พอกันทั้งคู่นั่นแหละ นั่นสิพี่สาว พวกผู้ชายนี่เป็นแบบนี้ทุกทีเลย เราไปเติมลิปสติกกันดีกว่า พี่หลงทำเสียหายหมดเลย น้องสาวเข้ามาประคองมาลิกาแล้วพาไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ปัตถ์ที่เคยเหม็นขี้หน้านรสิงห์มาก่อนปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว พวกผู้หญิงเนี่ยน้า ได้ทีก็รวมหัวกันใหญ่เลย นายก็จับคู่กับหยูหลงสิ ปัตถ์ ไม่มีใครว่าอะไรนี่ มาลิกาหันมาตะโกนยุส่ง ก็ด้าย แล้วอย่าหาว่าไม่เตือน จะมาขอเจ้าบ่าวคืนตอนหลังไม่ได้นะ ปัตถ์ลากเสียงแล้วแสร้งทำชะม้ายตาไปทางว่าที่เจ้าบ่าว แต่ก่อนที่เขาจะได้คล้องแขนกับนรสิงห์ หนุ่มมาเฟียก็ร้องออกมาอย่างรังเกียจ หยุดเลย ไม่ต้องมาแตะฉันเชียว ฉันไม่นิยมไม้ป่าเดียวกัน แหม ทีอย่างนี้ละมาทำกลัว เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นเลยนี่ ปัตถ์แซว จำได้ดีว่าเมื่อปีก่อนนรสิงห์ตามติดมาลิกาที่ปลอมตัวเป็นอคินชนิดที่ว่าถึงไล่ก็ไม่เลิก นั่นมันคนละคนกัน นรสิงห์ตามไปหาผู้หญิงของเขา และช่วยประคองเธอเดินจนถึงโต๊ะ ต้องเป็นคนนี้เท่านั้นหรอก ฉันถึงจะยอม จ้า รู้แล้วจ้า หวงกันขนาดนี้ แสดงความเป็นเจ้าของซะขนาดนี้ ใครจะกล้าเป็นมือที่สาม นายก็มีคนของนายอยู่แล้วนี่ นายคงไม่มาสนคนของฉันหรอก เขาพยักพเยิดไปทางไหมที่กำลังบรรจงปาดพู่กันจุ่มลิปสติกสีแดงสดบนริมฝีปากของเจ้าสาว ทันเห็นมือของเจ้าหล่อนสั่นนิดๆ ที่ถูกกล่าวถึง ไม่ต้องบอกก็รู้น่า แล้วนี่ไปหาอากิระรึยัง หรือแวะมาที่นี่ก่อน ถึงอคินจะมีศักดิ์เป็นพี่ มาลิกาก็ไม่คิดจะเรียกเขาว่าพี่ พวกเขาไม่อาจเรียกได้ว่าสนิทกัน แต่นรสิงห์สนิทกับอคิน เธอจึงพลอยได้ทำความรู้จักกับอคินไปโดยปริยาย อคินดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก เขาเป็นคนน่าสงสาร ยังคงคิดถึงสิ่งที่ศศิมาก่อไม่หาย เขาไม่เคยปริปาก แต่เธอเห็นมันในดวงตาของเขา เขาดูเย็นชาเสียยิ่งกว่านรสิงห์ เขาเหมือนคนไม่มีความรู้สึก...หรือเคยมี แต่บัดนี้ได้มลายหายไปแล้ว เธอไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกิจธุระของยามากูชิ เธอไม่เคยนับว่าตัวเองเป็นยามากูชิ หรือถ้าจะนับ ก็คงเป็นได้แค่ยามากูชินอกคอก เธอไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์ของพวกยามากูชิด้วยซ้ำ แต่กลับหาที่อยู่และสร้างธุรกิจของตัวเอง เธอรู้ว่าโทดะเข้ามาจุ้นจ้านช่วยหาลูกค้าให้เธอบ้าง แต่เธอไม่โวยวาย นั่นเป็นเรื่องที่พอจะรับได้ ถ้าเขาอยากจะทำก็ตามสบาย เรียบร้อยแล้วค่ะ เลยไปหาฝาแฝดของแพต แถมแวะไปเดินเล่นมาทั่วแล้วด้วย โรงแรมตกแต่งสถานที่สวยมาก ตื่นเต้นจังพี่สาว เป็นครั้งแรกที่ไหมจะได้ร่วมงานแต่งงานแบบชินโตเลยนะเนี่ย เจ้าภาพงานนี้เป็นฝ่ายยามากูชิ จัดที่สวนรื่มรมย์ ณ โรงแรมเดอะไฮด์อเวย์ อาจจะเรียกได้ว่าโชคดีที่เจ้าสาวไม่ต้องยุ่งเกี่ยวเรื่องการจัดงานให้ปวดหัวเหมือนเจ้าสาวสติแตกหลายคน เพราะโทดะเสนอตัวจัดการให้ และเจ้าตัวก็ไม่ร้องขอจะทำเอง เธอเห็นว่าคงจะดีกว่าถ้าให้โทดะจัดการตามที่ขอ...แม้จะขออย่างอ้อมๆ ก็เถอะ จะจัดงานแต่งทั้งที ให้เสียชื่อยามากูชิไม่ได้หรอก งั้นคุณอยากจะทำอะไรก็ทำตามสบายละกัน ไหนๆ ก็จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้นี่ ใช่ อยู่ๆ มีคนเสนอตัวจ่ายเงินจัดงานให้ฟรีๆ เธอคงโง่ที่คิดปฏิเสธ โทดะไม่ทำให้ยามากูชิเสียชื่อ พิธีแต่งงานแบบชินโตอันเป็นภาพร่างแรกในความคิดของเขาบัดนี้ถูกแปลงเป็นงานกลางสวน ใต้ร่มเงาของร่มคันใหญ่ เจ้าสาวเดินเคียงคู่เจ้าบ่าวโดยมีไหมคอยช่วยประคองร่างเพรียวในชุดแต่งงานหนักอึ้งเข้ามาในสวน สองหนุ่มสาวดูเหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาของผู้เฒ่าร้อนผ่าว น้ำตาไม่ไหล ไม่งั้นเขาคงขายหน้าแย่ ยากจะเชื่อว่าเขาจะผูกพันกับหลานสาวที่เขานึกรังเกียจส่งไปอยู่ไกลหูไกลตาและดึงกลับมาเพื่อใช้ประโยชน์ ใครจะคิดว่าหลานสาวนอกคอกคนนี้กลับเป็นหลานคนแรกที่ได้แต่งงาน...แต่งกับพวกสิงห์ทองที่เขาหมายตาไว้แต่แรกเสียด้วย หัวหน้านักบวชพระนิกายชินโตถูกเชิญมาทำพิธีการแต่งงานศักดิ์สิทธิ์ให้สองหนุ่มสาวถึงเมืองไทย มีเพียงญาติพี่น้องของฝ่ายยามากูชิและซือเท่านั้นที่ร่วมพิธีนี้ แม้จะไม่ได้จัดในศาลเจ้า แต่ก็จำลองทุกอย่างมาจนเหมือนจริง ศาลเจ้าสีขรึมตั้งอยู่กลางสวนสวย เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยืนอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยแขกเหรื่อที่นั่งประจำที่นั่งพิเศษ นักบวชทำพิธี สาวมิโกะที่ทำหน้าที่รับใช้เทพเจ้าในศาลเจ้าทำการสักการะเทพเจ้า ก่อนจะรินสาเกให้คู่บ่าวสาวดื่ม จิบแรกนั้นหมายความว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน มาลิกาลอบมองคนข้างกายและพยายามระงับอาการตื่นเต้น การซักซ้อมเมื่อวานดูไหลลื่นผิดจากที่กลัว นรสิงห์ความรู้สึกไวเหลือบตามองหญิงสาวและยิ้มให้กำลังใจ พวกเขาดื่มสาเกจากถ้วยสามใบ ใบละสามครั้ง รวมทั้งหมดเก้าครั้ง มาลิกาเพิ่งจะได้เห็นแหวนแต่งงานของตัวเองครั้งแรก เพชรกลมสีชมพูเม็ดเขื่องน้ำสะอาดส่องประกายสะท้อนในดวงตาของเธอ ก้านแหวนประดับเพชรดูบอบบางเช่นเดียวกับเจ้าสาว นรสิงห์บรรจงเลื่อนแหวนเข้านิ้วนางข้างซ้ายของเธอ พอดีเป๊ะ เหมาะกับคุณมาก เหมือนไลต์ไฟร์ ใช่ ทันทีที่เขาเห็นเพชรสีชมพูเม็ดนี้ เขาก็รู้ว่าเขาจะต้องเอามันมาเป็นของเธอ มันจะเข้ากับสร้อยคอไลต์ไฟร์ได้อย่างเหมาะเจาะ เสร็จสิ้นในส่วนของชายหนุ่ม หญิงสาวก็เริ่มหน้าที่ของตน มือสั่นๆ พยายามสวมแหวนปลอกมีดสีเงินแบบเรียบๆ ให้เขา แต่ก็สวมไม่เข้าสักที อะไรกัน ตื่นเต้นพิธีการจนมือสั่น หรือไม่อยากจะได้ผมเป็นสามีกันแน่ ทั้งสองอย่าง เธอกระซิบงึมงำ มือง่วนกับการสวมแหวนให้เขา บางทีฉันอาจจะคิดผิดที่ปล่อยให้โทดะจัดการงานแต่งงานให้ มัน...มันดูยิ่งใหญ่เป็นบ้า ใครจะไปคิดว่าตาเฒ่าที่เริ่มสงบหงิมจะลุกขึ้นมาทำอะไรใหญ่โตวุ่นวาย เขาช่วยเธอดันนิ้วเข้าไป และในที่สุดเธอก็สวมแหวนให้เขาได้ แหวนสีเงินอยู่เคียงข้างกับแหวนเพชรสีชมพู ที่ทำเป็นคู่เข้ากับจี้รูปเสือโคร่งกอดเพชรไลต์ไฟร์ที่ซุกอยู่ในชุดโออิโรนะโอชิของเจ้าสาว ช้าไปหน่อยละ นี่เพิ่งเริ่มต้นเองนะ พวกเขายังมีงานยกน้ำชาแบบจีนตอนบ่ายและงานเลี้ยงฉลองแต่งงานแบบฝรั่งในตอนค่ำอีก เรียกได้ว่าวันนี้เหนื่อยกันทั้งวันแน่ๆ อีกอย่าง ผู้ชายคนนี้ ขายแล้วขายเลย ซื้อแล้วงดรับคืนนะ แล้วจะคอยดู วันไหนมาโอดครวญนี่จะซัดให้ดู งั้นคุณคงต้องเก็บมือสวยๆ นี่ไว้เฉยๆ แล้ว เพราะจะไม่มีวันนั้นหรอก ริมฝีปากบางเหยียดกว้าง เธอหลุบตาลงซ่อนยิ้ม วาทะสัญญาที่บอกว่าจะซื่อสัตย์และรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่ถูกถ่ายทอดจากปากของเจ้าบ่าว ให้บรรดาญาติพี่น้องเป็นสักขีพยาน เมื่อนรสิงห์อ่านจบ แขกก็รู้คิวลุกขึ้นยืนทำความเคารพด้วยการโค้งลง ก่อนทั้งหมดจะถูกเชิญไปยังห้องจัดเลี้ยงเพื่อประกอบพิธียกน้ำชา มาลิกาเหลือบตามองผู้ชายที่เธอเรียกได้เต็มปากว่าเป็นของเธอ สายตาสื่อว่ายังพิธีการนี้อีกยาวไกล บางทีผมน่าจะชวนคุณหนีตั้งแต่แรก บอกตอนนี้คงจะช้าไปหน่อยแล้วละ มาลิกาและนรสิงห์ถูกแยกตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ชุดที่สองของคู่บ่าวสาวถูกผลัดเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว มาลิกาสวมชุดกี่เพ้าสีแดงสดปักลายสิงห์สีทอง เธอไม่รู้ว่ามันถูกสั่งทำพิเศษเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงของนรสิงห์ เธอได้แต่อิจฉาที่เขาสวมชุดสูทสีดำ หูกระต่ายของเขาเป็นสีทองกลมกลืนกับสีชุดของเธอ อิจฉาคุณอีกแล้วนะ เกิดเป็นผู้หญิงนี่ช่างไม่ยุติธรรมเลย ถึงชุดกี่เพ้าจะไม่หนักและไม่มีขั้นตอนการใส่ยุ่งยากเท่ากับโออิโรนะโอชิ แต่มันก็ทั้งรัดและแคบจนเดินเหินลำบาก ตอนเป็นอากิระเห็นบ่นใหญ่ สถานการณ์มันไม่เหมือนกัน งั้นสงสัยต้องมาสลับตำแหน่งกับผม เผื่อคุณจะเปลี่ยนใจ เมื่อกี้ผมโดนน้องสาวคุณเรียกค่าผ่านทางอานเลย ทำไมจะต้องกั้นประตูเงินประตูทองด้วยก็ไม่รู้ ชายหนุ่มบ่นอุบ นึกถึงความวุ่นวายที่เพิ่งผ่านพ้นเมื่อครู่แล้วยังสยองไม่หาย เพื่อนยายไหมก็แสบๆ ทั้งนั้น สรรหามาแต่ละอย่าง แต่ละคำถาม ไม่นับที่สั่งให้ปั่นจิ้งหรีดกับวิดพื้น แล้วก็แว็กซ์ขนหน้าแข้งนะ ถ้าภาพหลุดออกไปคงได้ฮากันถ้วนหน้า คนที่โดนแว็กซ์ขนหน้าแข้งคือเฉียนไม่ใช่รึ เธอเตือนความจำเขาที่ส่งเพื่อนเจ้าบ่าวผู้โชคร้ายไปทำหน้าที่รับการแว็กซ์จนน้ำตาเล็ดและได้รับหน้าแข้งขาวๆ ข้างเดียวตอบแทน มันก็เหมือนกันละน่า พูดแล้วอดนึกถึงคนที่อยู่ด้านหลังไม่ได้ ป่านนี้คงรู้สึกโล่งขาพิลึก รู้งี้ส่งปัตถ์ไปเป็นตัวแทนถูกแกล้งตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง เพื่อยายไหมจะเห็นใจ...เอ หรือจะยิ่งอยากแกล้งมากกว่าเดิมละสิไม่ว่า สองคนนี้เป็นคู่รักคู่กัดกันนี่นา สู้ไม่ไหวฝ่าฟันไม่ได้ก็ไม่ต้องมารับฉันสิ ได้ยังไง มาถึงขนาดนี้แล้ว อ้าว เห็นบ่นเป็นหมีกินผึ้ง เลยนึกว่าจะฝ่อ ไม่ฝ่อหรอก ยังไงก็ไม่ฝ่อ เพราะผมมีแผนกะจะทบต้นทบดอกแทนคำบ่นคืนนี้เหมือนกันละ แก้มของมาลิการ้อนนิดๆ แต่ก็ยังปากดีพูดต่อว่า ปรกติคืนแต่งงานเขามักจะนั่งนับซองกันต่างหาก นั่นมันเขา ผมน่ะใคร นรสิงห์หลิ่วตาให้อย่างเจ้าชู้ ย่ะ พ่อคนถึก แล้วจะคอยดู ดวงตาของเขาขยายอย่างตื่นเต้น นิ้วชี้พลางยิ้มร่า อย่าท้าเชียวนะ คุณท้าผมทีไรได้เรื่องทุกที หญิงสาวนึกถึงจูบแรกระหว่างเธอกับเขาที่โรงยิมมาเอดะ คราวนี้สีแดงแผ่ลามไปทั่วทั้งหน้า ทำเอาคนรับคำท้าฉีกยิ้มจนแทบถึงรูหู และเธอก็ยังไม่เข็ด พูดเปิดช่องตามประสาคนปากกล้าและปากไว อย่านึกนะว่าจะกลัว ก็ไม่คิดว่าคุณจะกลัวหรอก และเพราะอย่างนี้ไง ผมถึงได้รักคุณ มาลิกายิ้มอ่อนโยน ฉันก็เหมือนกัน ฉันรักที่คุณเป็นคุณ หยูหลง สองหนุ่มสาวนั่งคุกเข่าเบื้องหน้าซือต้าหลงผู้เป็นหัวเรือใหญ่จัดงานพิธียกน้ำชาแบบจีน ข้างกายเขาเป็นโทดะที่มีฐานะเท่าเทียมกัน ถนัดไปเป็นมาลินที่มีโอกาสได้ร่วมงานยกน้ำชาในฐานะแม่ของเจ้าสาว นรสิงห์และมาลิกาช่วยกันยกน้ำชาให้โทดะซึ่งอาวุโสที่สุด และได้รับโฉนดที่ดินแปลงงามของยามากูชิมาทำทุน ต้าหลงจิบน้ำชาที่หลานชายและหลานสะใภ้ยื่นมาให้พอเป็นพิธี ก่อนจะคืนน้ำชาที่เหลือใส่กาน้ำชามอบเป็นทุนกลับไปให้คู่บ่าวสาว พร้อมกับทุนของจริง...ที่ดินแปลงงามไม่แพ้กับของยามากูชิ ราวกับต้องการจะข่มอีกฝ่ายยังไงยังงั้น ถึงทั้งสองจะไม่ได้มีบทบาทอำนาจในตระกูลแล้ว แต่สิงห์แก่และเสือเฒ่าก็ยังไม่สิ้นลาย มาลิกาและนรสิงห์ยื่นถาดน้ำชาให้มาลินเป็นลำดับสุดท้ายในฐานะผู้อ่อนอาวุโสที่สุด เธอทำตามโทดะและต้าหลง จิบน้ำชาเล็กน้อย น้ำตาของเธอไหลยามมองลูกสาวคนเดียว เธอไม่เคยว่าจะได้เห็นลูกสาวมีวันนี้ มาลิกาหัวแข็งช่างขบถและพึ่งพาตัวมาโดยตลอดเสียจนเธอเกรงว่ามาลิกาจะอยู่เป็นโสดไปจนวันตาย แต่เห็นได้ชัดว่าเธอคิดผิด ยังมีรักแท้ในโลกของมาลิกา และเมื่อความรักเข้ามา อะไรก็ขวางไม่ได้ นรสิงห์ มาลิกาเป็นแก้วตาดวงใจของแม่ แม่รักของแม่มานาน แม่ยอมทำทุกอย่างเพื่อยายหนู แต่ตอนนี้ยายหนูของแม่มีคนมาขอดูแลแทนแล้ว ดังนั้นดูแลลูกสาวของแม่ให้ดีๆ นะ มือของเธอจับมือของลูกสาวและเจ้าบ่าว แม่ครับ นรสิงห์บีบมือเล็กที่หยาบกระด้างจากการทำงานหนักอย่างให้สัญญา ผมจะดูแลมาร์ให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้ทั้งมาร์หรือแม่ผิดหวังครับ ความอบอุ่นเต็มตื้นอยู่ข้างในใจของคนฟัง น้ำอุ่นๆ ซึมออกจากหางตา แต่ก่อนที่มันจะไหลเปื้อนแก้มนวล คนข้างกายก็ใช้นิ้วเช็ดให้อย่างอ่อนโยน มาลินมั่นใจว่าลูกของเธอจะอยู่ในมือที่เหมาะสม ขอให้รักกันยั่งยืน มีหลานมาให้แม่อุ้มไวๆ นะ คืนนี้ไม่พลาดครับแม่ นรสิงห์ทำหน้าจริงจัง และโดนมาลิกาถองที่เอวจนจุก มาลินเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ พูดมากกับแม่ฉันเชียวนะ แม่จะได้ไม่ผิดหวังยังไงล่ะ ตาด้วย จะรออุ้มเหลนคนแรก ใช่ รีบๆ มีเจ้าตัวน้อยๆ ไวๆ ขี้เกียจรออากิระแล้ว ท่าทางจะอีกนาน โทดะบุ้ยใบ้ไปยังอคินที่หลังจากแสดงตัวเป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าบ่าวเรียบร้อย เขาก็ถอยมาดูห่างๆ ท่าทางขรึมเหมือนเคย...อาจจะยิ่งกว่าเคย เพราะหลังจากตื่นจากโคม่าและรู้บุคคลที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร เขาก็ช็อกไม่ต่างจากโทดะหรือทาเคตะที่เปิดหนีไปอยู่อเมริกา ไม่กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีก คุณ! มาลิการ้อง หน้าของเธอแดง จะจัดให้อย่างว่องเลยครับปู่ โทดะหัวเราะชอบใจ ดี ดี มันต้องแบบนี้สิ เขาตบหลังมังกรหยกแรงๆ นานแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกมีความสุข...ความสุขที่แท้จริง ตีซี้กับโทดะเชียวนะ ปู่ ปู่ เชอะ มาริ น้ำเสียงที่เรียกเจ้าสาวอ่อนเนือย หลานจะเรียกฉันว่าปู่สักครั้งไม่ได้เลยเชียวหรือ ตั้งแต่รู้จักกันอย่างเป็นทางการ มาลิกาไม่เคยเรียกเขาอย่างสนิทสนมเลย ตอนแรกเขาไม่แปลกใจ แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องกับอคิน เขาก็รู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เขาพยายามเจาะทะลุกำแพงใจของเธอ พยายามแม้กับทาเคตะ แต่ก็ล้มเหลวเหมือนเช่นที่ได้ผลกับเธอ มาลิกาลังเล นรสิงห์มองทั้งหญิงสาวและโทดะอย่างให้กำลังใจ เขาจะไม่บังคับใจเธอ เขาอยากจะให้เธอยอมด้วยหัวใจตัวเอง มาลิกาสบตาเขา เขาเพียงพยักหน้าให้ เธอหันไปทางโทดะซึ่งรออย่างมีความหวัง คุณปู่ เธอเรียกเสียงเบา แต่ยังไม่วายทิ้งท้ายว่า แต่มันจะไม่ง่ายหรอกนะ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เธอเรียกเขาว่า คุณปู่ เธอยอมลงให้เขาเพราะนี่เป็นวันแห่งความสุขของเธอ ปู่รู้ ปู่เข้าใจ เขาทำกรรมเอาไว้มากเหลือเกิน มันก็สมควรที่เขาจะโดนกรรมศอกกลับ และจากนิสัยหลานสาว เขาเชื่อว่าเขาจะต้องเหนื่อยอีกนานแน่ๆ (เนื่องจากเนื้อหายาวจัด เลยต้องแบ่งเป็น 2 Part นะคะ)
Create Date : 12 พฤษภาคม 2557 | | |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2557 0:35:34 น. |
Counter : 1044 Pageviews. |
| |
|
|
|