3. แผนสังหาร

จากนี้นับถอยหลังไปประมาณ 40 กว่าปี อ.คำชะอีถูกกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่สีชมพูมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น และมีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมามากมาย

 อาชีพของชาวบ้านในเขตพื้นที่สีชมพูส่วนใหญ่ทำไร่ ทำนา ทำสวน อีกทั้งยังชอบทำไร่เลื่อนลอย เสร็จจากหน้านาก็จะพากันขึ้นเขา และมีเทือกเขาสลับซับซ้อนที่มีทอดยาวติดต่อกับลภูเขาสำคัญในแถบจังหวัดใกล้เคียง กลุ่มชาวบ้านจึงไปทำไร่ทำสวนอยู่บนนั้น อาศัยอยู่กินที่นั่นเป็นแรมเดือน ทิ้งให้คนแก่คนเฒ่าเฝ้าบ้าน  เมื่อข้าวสารอาหารหมดก็จะลงมาจากเขาทีเพื่อรวบรวมสะสมเสบียง แล้วก็ขึ้นไปใหม่ ชีวิตความเป็นอยู่วนเวียนอยู่อย่างนี้เป็นเวลาเนิ่นนานหลายปี จนเวลาล่วงโรยมาสู่ยุคที่มีพรรคคอมมิวนิสต์จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย  เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศของแถบพื้นที่สีชมพูก็เป็นเส้นทางที่เอื้ออำนวยในหลาย ๆ อย่าง ไวม่ว่าจะเป็นเส้นทางลำเลียง ซ่องสุม ผานเทือกเขาที่ทอดตัวยาวเหยียด ทำให้ชาวบ้านที่ไปทำไร่อยู่บนเขาได้มีโอกาสพบปะกับกลุ่มผู้ซึ่งพยายามเผยแพร่แนวความคิด และเพื่อความอยู่รอด ไม่ขัดต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง บางทีการจำเป็นต้องโอนอ่อนผ่อนปรนไปก็ต้องมีบ้างเพื่อความอยู่รอด บางครั้งกลุ่มชาวบ้านก็พยายามยืนอยู่ตรงกลาง ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับผู้ที่มีความขัดแย้งทางความคิด และก็เสี่ยงจากการถูกเพ่งเล็งจากทางการและอาจถูกตั้งข้อกล่าวหาได้  โดยเฉพาะประเด็นหลังที่มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่ทางราชการกับชาวบ้านและนับวันจะทวีขึ้น 

  จากกลิ่นอายความร้อนระอุของดินแดนแห่งนี้ ผู้นำระดับอำเภอจึงมีการสับเปลี่ยนโยกย้ายกันบ่อยครั้ง และบางครั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐก็พยายามคิดหาแผนการที่จะลดช่องว่าง เพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน         

             “ทางอำเภอแจ้งมาว่า  จะมีการจัดการแข่งขันกีฬาตำบลเพื่อให้หมู่บ้านต่าง ๆ เข้าร่วมแข่งขัน ” ทิดใหม่ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกำนันประจำตำบลเรียกประชุมผู้ใหญ่บ้านในตำบลของตน และแจ้งให้ผู้ใหญ่ไปบอกลูกบ้านให้จัดเตรียมทีมนักกีฬา  การแข่งขันก็จะมีชักขะเย่อ วิ่งกระสอบ  ตะกร้อลวดห่วง  แชร์บอลล์  ตามนโยบายนายอำเภอคนใหม่ที่เยิ่งย้ายมารับตำแหน่ง และในการจัดงานครั้งนี้ก็มีนายอำเภอทำหน้าที่เป็นประธาน         

       “เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ ขบวนพาเหรดจะเริ่มเวลา 8 นาฬิกา ครับ” ทิดใหม่รายงานความคืบหน้าด้านการเตรียมงานแก่ปลัดอำเภอหนุ่มที่ออกไปติดตามผลการเตรียมงานด้วยภาษาไทยสำเนียงอิสาน          

       “ดีมากครับกำนัน..ขอรายละเอียดเพิ่มเติมหน่อยครับ” 

            “ขบวนพาเหรดของแต่ละหมู่บ้าน จะตั้งต้นที่ทางเข้าหมู่บ้านครับ จากนั้นก็ตะเคลื่อนเข้าสู่สนามโรงเรียนประจำตำบล” ทิดใหม่พยายามลำดับขั้นตอนให้ปลัดฟัง         

         “แล้วชาวบ้านที่อยู่บนเขา ได้เชิญชวนให้พวกเขาลงมาร่วมด้วยไหม กำนัน”           “แจ้งครับ บางคนก็ลงมา บางคนก็ไม่มา”  

          “งานนี้กำนันคิดว่าจะมีคนมาร่วมมากไหม”  

          “ก็คงเยอะอยู่ครับ” กำนันตอบด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าไม่ค่อยมั่นใจ

พอใกล้ถึงวันแข่งขัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านกลุ่มหนึ่งก็จัดเตรียมสนามแข่งขัน ตัดต้นไม้ที่ขึ้นสูง ขุดปรับระดับของสนาม บางกลุ่มก็ไปตัดไม้ไผ่ลำโต ๆ เพื่อนำมาสร้างเป็นโครงเพลิงพักชั่วคราว แล้วไปตัดก้านมะพร้าวมาวางพาดหลายชั้นทำเป็นหลังคา เพื่อให้แสงแดดส่งผ่านได้น้อยที่สุด จากนั้นก็ไปยกแคร่มาวางจัดเตรียมเก้าอี้ ไว้เป็นที่พักสำหรับประธานและแขกเหรื่อที่จะมาร่วมงาน พอถึงเปิดการแข่งขันกีฬาประจำตำบล  นายอำเภอซึ่งเป็นประธานในพิธีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ติดตามและลูกทีมพิเศษที่นำมาจากทางจังหวัดอื่นทั้งในและนอกเครื่องแบบก็เดินทางมาถึงบริเวณงาน นายอำเภอซึ่งเป็นประธานในครั้งนี้มีสีหน้าที่เคร่งขรึม อาจจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวตั้งแต่เช้าที่ทำให้ท่านดูอารมณ์ไม่ค่อยดี  ทิดใหม่รีบกุลีกุจอไปต้อนรับประธานเข้านั่งในที่ที่จัดเตรียมไว้  เมื่อนายอำเภอนั่งเรียบร้อย ทิดใหม่จึงรายงานกำหนดการแข่งขันกีฬาคร่าว ๆ ให้ประธานทราบ          

               “เมื่อขบวนพาเหรดมาถึงแล้ว ก็จะเป็นพิธีเปิดโดยท่านประธานครับ พิธีเปิดเสร็จแล้วก็จะเป็นรายการแสดงโชว์กระบี่กระบองหนึ่งรายการครับ”         

              “ฮื่อ ดี” ประธานในพิธีพยักหน้ารับทราบ  

 เสียงกลองจากขบวนพาเหรดก็เริ่มดังขึ้น ๆ ตามระยะที่ดังใกล้เข้ามา ๆ ขบวนหลากสีสันของหมู่บ้านต่าง ๆทะยอยเดินตัดเข้าสนามมาและมาตั้งขบวนเรียงตามรายชื่อหมู่บ้านตามที่ป้ายปักเอาไว้บริเวณด้านหน้ากองอำนวยการชั่วคราว  เมื่อเข้ามาถึงสนามจนครบทุกขบวนแล้ว เจ้าหน้าที่อำเภอคนหนึ่ง เป็นคนกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานต่อประธานในพิธี  ประธานให้โอวาท และพิธีเปิดก็เริ่มขึ้นมีการจุดคบเพลิง จุดพลุ่ จุดประทัดหลาย ๆ นัดติดกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหวกลุ่มควันดำจากพลุลอยคลุ้งไปทั่ว

สิ้นเสียงพลุ เครื่องเสียงก็เปิดเพลงบรรเลงวงปี่พาทย์ประกอบการแสดงรำกระบี่กระบองโดยนักแสดงหญิง 2 คน นักแสดงแต่ละคนท่าทางทะมัดทะแมงลีลาคล่องแคล่วว่องไว ผู้ชมที่อยู่ในปลัมพิธีชั่วคราว และผู้ชมที่อยู่ในสนามสายตาทุกคู่จ้องจับอยู่ที่รายการแสดง และต่างก็นิ่งเงียบ เหมือนถูกสะกดด้วยมนต์จากลีลาของนักแสดงที่ทั้งตื่นต้น เร้าใจ หวาดเสียว ผาดโผน  ..พอรายการแสดงจบลง ก็มีเสียงปรบมือเสียงเป่าปากเจี้ยวจ้าว เสียงนกหวีดเสียงกลองรัวขึ้นจากขบวนพาเหรดเพื่อเตรียมเดินสวนสนามเพื่อทำความเคารพประธานก่อนจะเริ่มการแข่งขัน นักแสดงโค้งรับการปรบมืออย่างสวยงามก่อนที่จะวิ่งอ้อมไปทางด้านหลังปลัมพิธีและวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำนักเรียนที่อยู่ด้านหลังอาคารเรียน   

ขบวนพาเหรดของหมู่บ้านต่าง ๆ ก็ทะยอยเดินสวนสนามเคารพประธาน ออกจากสนาม และไปตั้งกองเชียร์เป็นกลุ่ม ๆ ตามรายชื่อมหู่บ้านข้างขอบสนาม ประธานยืนมองขบวนต่าง ๆ ที่เดินผ่านด้วยสีหน้าที่พยายามฝืนยิ้มท่ามกลางแสงแดดจ้า พลันก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งวิ่งตรงมาที่ประธานด้วยท่าทีเร่งรีบ ประธานในพิธีเอียงหูไปฟังเจ้าหน้าที่คนนั้นที่ใช้มือป้องปากแล้วกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง ประธานผงะหงายหลังนิดหนึ่ง หน้าซีดเผือด แล้วเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ ‘เลวระยำ’ ท่านสบถออกมาเบา ๆ จากนั้นเปลี่ยนเป็นขบกรามแน่นจนมองเห็นสันโหนกแก้มทั้งสองข้าง มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นพ่นลมหายใจออกอย่างแรง เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกสามคนเข้ามายืนประชิดตัวท่าน ขบวนสุดท้ายยังไม่สิ้นสุด ท่านก็หันหลังเดินสาวท้าวก้าวยาว ๆ ด้วยท่าทีเร่งรีบเจ้าหน้าที่ติดตามต้องรีบสาวเท้าก้าวตามท่านให้ทัน ทั้งหมดตรงไปที่รถจิ๊ปที่มีพลขับเตรียมพร้อมรับคำสั่งอยู่แล้ว พอทุกคนขึ้นรถ เสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มขึ้นและรถกระชากออกไปอย่างแรง ทิ้งฝุ่นคลุ้งตลบเหมือนม่านหมอกหนาทึบปิดบังภาพผู้คนที่ยืนมองตามอยู่เบื้องหลังเอาไว้  

          “นายอำเภอคงมีธุระด่วน” ทิดใหม่พูดกับตัวเองเบา ๆ จากนั้นรถหน่วยติดตามของทหารก็กระชากตามรถจิ๊ปไปติด ๆ ส่วนภาคสนามกีฬาก็ดำเนินการแข่งขันต่อไป เล่นกันเอง เชียร์กันเอง ทั่วทั่งสนามเป็นบรรยากาศแห่งความสนุก แต่สำหรับทิดใหม่แล้ว สนุกได้ไม่นานก็ถูกเจ้าหน้าที่ของทางการมาเรียกไปคุยเป็นการส่วนตัว

           “รายการแสดงโชว์นี้เป็นความคิดของใคร” เจ้าหน้าที่คนที่ยืนรออยู่หน้าอาคารเรียนถามขึ้นขณะทิดใหม่เดินเข้าไปใกล้ ทิดใหม่เอะใจว่าเรียกมาเพื่อจะถามเรื่องนี้เองหรอกหรือ

          “ท่านหมายถึงอะไรครับ”  

          “กำนันอย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่อง” เจ้าหน้าที่คนนั้นพูดเบา ๆ แต่เน้นชัดทุกคำพูด  

          “ท่านหมายถึงอะไรครับ” ทิดใหม่มีสีหน้างุนงง  

          “นักแสดงมาจากไหน”  

          “ผมไม่ทราบครับ คณะกรรมการบอกผมแค่ว่าจะมีรายการแสดงโชว์ตอนพิธีเปิดครับ”

 เจ้าหน้าที่คนนั้น มองหน้าทิดใหม่แล้วหันไปมองเพื่อนร่วมงานพยักเพยิดด้วยท่าทีว่ากำนันอาจจะไม่รู้จริง ๆ ก็ได้เจ้าหน้าที่คนที่กำลังซักถามจึงอะไรอนุญาตให้กำนันไปได้ ทิดใหม่หันหลังกลับ พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นว่า ใครเป็นคนจัดรายการแสดงโชว์มา แล้วคนแสดงเป็นลูกบ้านบ้านไหนนะ หรือว่าเขาอาจจะไม่รู้จักหน้าค่าตาลูกบ้านก็ได้ เพราะตำบลของเขาก็กว้างใหญ่พอสมควร แล้วเขาก็เดินไปสมทบกับลูกบ้านที่กำลังเชียร์รายการวิ่งกระสอบกันอย่างสนุกสนาน เมื่อ

พอจบรายการแสดงทั้งสองตรงไปที่ห้องน้ำนักเรียนด้วยท่าทีเร่งรีบ ทว่าทั้งสองหารู้ไม่ว่ามีสายตาคอยจ้องจับการเคลื่อนไหวอยู่ทุกอริยาบทตั้งแต่เยื้องย่างเท้าก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าประธานในพิธีและเริ่มควงกระบี่กระบองตั้งแต่เพลงแรกจนจบครบเพลงและบัดนี้  ประตูห้องน้ำทั้งสองบานเปิดออกเกือบจะพร้อม ๆ กัน เผยให้โฉมผู้ที่กำลังจะเก้าเท้าออกมา ทั้งสองคนแต่งตัวคล้าย ๆ กัน ใส่ชุดดำสวมทับด้วยเสื้อแจ๊กเก็ตหมวกไอ้โม่งพับอยู่บนหัว แต่ทันทีที่ก้าวพ้นขอบประตูห้องน้ำท้ายปืนเอ็ม 16 หนัก ๆ ก็กระแทกลงที่ท้ายทอยของทั้งสองอย่างแรง  ร่างทั้งสองทรุดฮวบลงพื้นเกือบจะพร้อม ๆ กัน  กลุ่มชายฉกรรก์สี่คนต่างรีบกุลึกุจอยกร่างที่หมดสติไปโยนลงรถ 6 ล้อเก่า ๆ ที่ใช้เป็นรถติดตามของทางการ  ต่างช่วยกันมัดมือร่างที่สลบสไลไพล่หลัง และมัดข้อเท้าอย่างแน่นหนา ชายอีกคนหนึ่งหยิบผ้าเต้นท์ที่วางซ้อนกันไว้และกองไว้ใต้เบาะรถออกมาผืนหนึ่ง คลี่ผ้าออกมาและโยนคลุมร่างทั้งสองเอาไว้  รถจิ๊ปของประธานพุ่งออกไปไม่นาน รถ 6 ล้อก็ตะบึ่งห้อตามไปทันที คงทิ้งไว้แต่รอยฝุ่นเบื้องหลังที่ค่อย ๆ จางลงไปอย่างอ้อยอิ่งไม่มีทีท่าว่าจะเร่งรีบ

เรื่องการวางแผนลอบฆ่าไม่เป็นความลับอีกต่อไป มีการพูดปากต่อปากจากหมู่บ้านหนึ่งไปสู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง  ..แต่ก็ไม่มีใครตอบได้ว่า นักฆ่าหญิงทั้งสองมาจากไหน ทิดใหม่ซึ่งเป็นกำนันประจำตำบลก็ตรวจสอบดูแล้ว ไม่มีลูกบ้านหญิงคนไหนหายไป ..จากเหตุการณ์วันนั้นก็ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักแสดงหญิงทั้งสองรายนั้น..ถึงแม้หลาย ๆ คนพยายามสืบเสาะเพื่อหาคำตอบ..แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบได้...ทุกครั้งที่เรื่องนี้นี้ถูกนำมาเล่า มันก็จะจบลงตรงที่ ..ถูกทางการจับไป...และตอนนี้ก็เล่ามาถึงตรงนี้..Smiley 




Create Date : 01 เมษายน 2555
Last Update : 1 เมษายน 2555 22:06:22 น.
Counter : 367 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Maya_II
Location :
มุกดาหาร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



Star sign : Gemini
Hobby : Reading & Writing
Interest : variety