...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
All blogs
 

โลกไม่มีขยะ ๓

ตอนที่ ๓
เกะกะต้องคัดแยก
(ต่อจากตอนที่แล้ว)

ตอนนี้จะไม่พูดมาก แต่อยากจะบอกอยู่อย่างหนึ่งว่า ภาพและคำที่ปรากฏในบล็อกนี้นั้น ของจริงทำเป็นการ์ตูนคือมีคำพูดอยู่ในวงรีและวงกลมต่าง ๆ ซึ่งทำในเวิร์ด แต่พอเอาลงในนี้นี้ ลุงทำไม่เป็น ฮ่า ๆ ๆ

ถ้าจะเอาลงก็คือต้องเอาภาพที่พรินท์ออกมาไปสแกนอีกทีซึ่งเสียเวลาและยุ่งยาก และยุ่งยากในการทำมาหากินด้วย
งั้น ถ้ามีใครถามว่า อ้าว แล้วที่เอามาลงนี่เพื่ออะไร คำตอบก็คือเพื่อเป็นแนวทางทำมาหารับประทานเช่นกัน เพียงแต่ว่าทำผ่านคอมไม่เป็น คือเป็นแค่โฟโต้ช็อปพื้น ๆ ฮา



“ถ้าเราปล่อยให้ขยะกองหมักหมม เน่าเหม็น จะมีแมลงวันหนู แมลงสาบ มด และเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าไปอาศัย เป็นแหล่งอาหาร และที่เพาะพันธุ์ของมัน”
ตาฉุยอธิบาย ขณะพาเดินดูวิธีกำจัดขยะในสวนปาล์ม

“กองขยะเน่า จะส่งกลิ่นเหม็นรบกวน ผู้ที่อยู่ในบริเวณข้างเคียง นอกจากนั้น เศษชิ้นส่วนของขยะแห้งที่มีน้ำหนักเบา จะฟุ้งกระจายไปในอากาศ”


“ฝุ่นที่เกิดจากเศษขยะ จะทำให้อากาศเสีย หายใจเข้าไปเป็นอันตราย”



“การทิ้งขยะมูลฝอยลงบนพื้นถนน ทำให้บ้านเมืองสกปรกและเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถ ใช้ถนน”
คุณตาฉุยอธิบาย

“การทิ้งขยะมูลฝอยลงในลำน้ำ ก็จะทำให้ลำน้ำตื้น เขิน น้ำไหลไม่สะดวก เกิดการเน่าเสีย จะใช้อาบ ซักเสื้อผ้า หรือล้างถ้วย ล้างจาน ก็ไม่ได้ นอกจากนั้นสัตว์น้ำ ปู ปลา กุ้ง หอย อาหารของเรา ที่อาศัยแม่น้ำลำคลอง ก็จะหายไป”


“นี่ตาพูดจากที่ไปอบรม เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมา ในหลวงทรงเป็นห่วงคนในยุคปัจจุบัน ที่อยากร่ำรวยแต่แข่งกันทำลายป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ และ
ลำคลอง...ซึ่งก็คือการทำลายชาติหรือประเทศนั่นเอง”

“ในหลวงทรงมีพระประสงค์ที่จะให้ชาวบ้านรักษาธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ และแม่น้ำ ลำธารไว้ ถ้าธรรมชาติ ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธารยังอยู่ คนก็อยู่ได้ แต่ถ้าธรรมชาติ หายคนอยู่ไม่ได้”


“ใช่ค่ะ คนจะตายด้วยโรคภัยและสารพิษต่าง ๆ ทั้งที่มากับน้ำและลอยมาในอากาศ น้ำและอากาศ ที่สกปรกยิ่งน่ากลัวกว่าขยะบนดิน” แม่พูด

“ตาจึงหมักขยะทำปุ๋ย แบบเดียวกับปุ๋ยที่มีอยู่ในธรรมชาติ โดยใช้เชื้อจุลินทรีย์ในอากาศ มาย่อยสลายวัตถุธรรมชาติ ให้กลายเป็นปุ๋ย”
คุณตาฉุยพาเด็ก ๆ ไปดูในโรงหลังคาจาก แล้วพูดว่า


“ปุ๋ยที่หมักแล้วนอกจากมีประโยชน์ต่อพืช ยังสามารถทำลายเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด ที่เป็นเชื้อโรคได้อีกด้วย”

ในโรงหลังคาจาก มีถังใบโต ๆ อยู่หลายใบ บางใบไม่มีขยะ คุณตาฉุยอธิบายว่า


“ตาแยกขยะเป็น ๕ ประเภท ประเภทที่ ๑ ขยะที่ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ เรียกว่า ขยะเปียก คือ เศษอาหารและพืชผัก ที่มีมากกว่าขยะอื่น ๆ ถ้าไม่รีบจัดการจะมีกลิ่นเหม็น ตาเอาไปหมักทำปุ๋ย”

“ประเภทที่ ๒ เศษแก้ว กระเบื้องแตก เศษวัสดุก่อสร้าง ไม้ อิฐ หิน... พวกนี้เอาไปฝังกลบในหลุมลึก ๆ หรือเอาไปถมที่ลุ่ม ทำให้ที่ลุ่มกลายเป็นพื้นราบ แล้วเอาดินกลบให้หนา ๆ ทำให้ได้ลานบริเวณเพิ่มขึ้น”

“ประเภทที่ ๓ ขยะที่มีสารพิษ เช่น หลอดไฟฟ้า แบตเตอรี่ที่ทิ้งแล้ว วัสดุติดเชื้อ เช่น ขยะมูลฝอยตามสถานีอนามัย และโรงพยาบาล ต้องฝังดินให้ลึก ๆ”


“ประเภทที่ ๔ พวกเศษเหล็กหรือโลหะ เช่น รถจักรยานพัง ๆ เครื่องไฟฟ้าที่ใช้การไม่ได้แล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ตู้เย็นเครื่องซักผ้า ลวด ทองแดง ของพวกนี้แยกชิ้นออกมาชั่งขายเป็นกิโลได้เลย มีราคาดี”


“ประเภทที่ ๕ กระดาษหนังสือพิมพ์ กล่องกระดาษ
กระดาษทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ใช้แล้ว”

“ประเภทที่ ๖ ขวดแก้วที่ไม่แตก ขวดน้ำพลาสติก พลาสติกแข็ง กระป๋องเบียร์ กระป๋องน้ำอัดลม สองประเภทนี้ แยกเอามาไว้ขายได้เลย”


ตอนที่ ๔
จำแนกขยะอันตราย
ที่โรงเรียน เพื่อนของหนูตุ้มคนหนึ่ง ชื่อหนูแก้ว พ่อ - แม่ของหนูแก้ว มีอาชีพรับซื้อขวด เศษเหล็ก หรือ “ของเก่า” เอาไปขายต่อ มีกำไรดีมาก ส่วนหนูแก้ว พอถึงวันหยุดก็เที่ยวเก็บหา ของที่ทิ้งแล้วมาขายกับพ่อแม่ เพื่อหาเงินเป็นค่าขนม




แรก ๆ เพื่อนในชั้น พากันซุบซิบนินทา รังเกียจหนูแก้ว ว่าสกปรกและน่ารังเกียจ แต่พอคุณครูสิริพร นำเรื่อง “ธนาคารขยะรีไซเคิล” และผลเสียของขยะ ที่กำลังจะล้นเมือง มาพูดให้เด็ก ๆ ฟัง เพื่อน ๆ ต่างหันไปยกย่องหนูแก้ว

คุณครูสิริพร ได้อธิบายให้เด็ก ๆ เห็นพิษภัยของขยะว่า
”อาชีพรับซื้อของเก่า เป็นอาชีพที่ควรยกย่อง เพราะช่วยทำให้ขยะในประเทศลดน้อยลงนะคะ”

“ถ้าพวกเราอยากจะให้ประเทศของเรา สะอาด บริสุทธิ์ บรรยากาศไร้มลพิษ พวกเราต้องร่วมมือกัน กำจัดและลดจำนวนขยะ”

“ขยะจำนวนมหาศาล ทำให้เสียหายต่อชุมชน ยิ่งถ้าที่ใด
ไม่มีการกำจัดให้ถูกต้อง จะก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม
เช่น ขยะที่กองไว้บนดิน เมื่อฝนตกน้ำจะชะลากพาลงสู่แม่น้ำ
ลำคลอง ทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ”

“งั้นเอาไปเทลงหลุม หรือทิ้งลงในที่ ๆ มีการขุดเอาดินไปใช้ จะได้ไหมครับ” นักเรียนคนหนึ่งถาม

“ทิ้งลงหลุมถ้าไม่กลบ จะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง หนู และแมลงวัน”
“ถ้าเรารีบเผาเสียให้หมด จะได้ไหมครับ”
พวกเด็ก ๆ ต่างพากัน ร่วมแสดงความคิดเห็น

“งั้น เราไปดูของจริงกัน” คุณครูสิริพร ชวนนักเรียนไปดูการเผาขยะ
“การเผากลางแจ้ง ทำให้เกิดควันและมลพิษทางอากาศ”
หนูตุ้มพูด และเพื่อน ๆ ก็เห็นด้วย

“วิธีกำจัดขยะที่ถูกต้อง คือ ต้องเผาในเตาเผาขยะ”
เด็กชายคนหนึ่งพูด
“ฝังกลบก็ได้”
“หมักทำปุ๋ยก็ได้” เด็ก ๆ ผลัดกันพูด
“ไม่มีใครตอบแล้วใช่ไหมคะ แต่ขยะไม่ได้มีประเภทเดียวนะคะ ขยะมีมากมายหลายประเภท การกำจัดจึงยุ่งยากและลำบาก”
คุณครูสิริพรสรุป


เมื่อกลับมาสู่ห้องเรียน คุณครูนำแผนภูมิมาติดบนกระดานหน้าห้อง และชี้ให้นักเรียนดู
ระยะเวลาที่ขยะแต่ละชนิดย่อยสลายตามธรรมชาติ
ชนิดของขยะ ระยะเวลาย่อยสลาย
เศษกระดาษ ๒ - ๕ เดือน
เปลือกส้ม ๖ เดือน
ถ้วยกระดาษเคลือบ ๕ ปี
ก้นกรองบุหรี่ ๑๒ ปี
รองเท้าหนัง ๑๕ - ๔๐ ปี
กระป๋องอะลูมีเนียม ๘๐ - ๑๐๐ ปี
ถุงพลาสติก ๔๕๐ ปีโฟม ใช้เวลานานมากในการย่อยสลาย
“เห็นหรือยังคะ ว่าสิ่งใดที่เราไม่ควรใช้ หรือทิ้งให้เป็นขยะ” คุณครูสิริพรถาม
“กระป๋องอาลูมีเนียม ถุงพลาสติก โฟม” เด็ก ๆ ตอบ

“ไม่น่าเชื่อว่าถุงพลาสติก จะอยู่ยาวนานถึง ๔๕๐ ปี”
“คนเกิดแล้วตาย เกิดอีกสิบครั้งพลาสติกก็ยังอยู่”
เด็ก ๆ ต่างนั่งรำพึง


“ถ้าอย่างนั้นเราจะคิดแก้ไขกันอย่างไรดีคะ” คุณครูสิริพรถาม
“ใช้แต่สิ่งที่ย่อยสลายง่าย เช่น กระดาษ ใบไม้ ใบตอง มาห่อของแทนถุงพลาสติกค่ะ”
“เลิกใช้ สิ่งที่ย่อยสลายยาก” เด็ก ๆ ตอบ


วันต่อมา คุณครูสิริพรพูดว่า
“ยังมีขยะอีกประเภท ที่ย่อยสลายได้ แต่เป็นสารพิษอันตราย ต้องระวังในการกำจัดมาก ๆ รู้ไหมคะว่า อะไร”
“น่าจะเป็นพวกยาฆ่าแมลง และยาฆ่าหญ้า”

“ใช่ค่ะ ขยะอันตราย คือของเสียที่ประกอบด้วยวัตถุอันตราย เช่นวัตถุระเบิด วัตถุไวไฟ วัตถุมีพิษวัตถุที่ทำให้เกิดโรค วัตถุที่ทำให้เกิดอันตรายแก่คน สัตว์ พืช หรือสิ่งแวดล้อม”
“เหมือนข่าวในโทรทัศน์ คนไปอาบน้ำ แล้วผิวหนังเป็นผื่น เกิดแผลเน่าเปื่อย”

“วัตถุพวกนี้ มักแฝงมาในสินค้าประเภทเคมี พวกเราต้องเป็นหูเป็นตา พบเห็นอะไรผิดปรกติ บอกคุณพ่อ คุณแม่
ให้ไปแจ้งต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกเทศมนตรีนะคะ”

(ยังมีต่อ)


ขนาดว่า วันนี้ลงให้ ๒ ตอนนะครับ มีผู้มาโพสต์น้อยแต่ผู้เข้าชมมากกว่า ๑๐๐ จึงถือว่ามีผู้สนใจใฝ่รักบ้านรักเมือง ลุงจึงขอทำเพื่อสิ่งนี้




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2553 11:40:38 น.
Counter : 43533 Pageviews.  

โลกไม่มีขยะ ๒

วันนี้มาชมการ์ตูนรุ่นเก่าโบราณแบบส้ม ๆ กันต่อครับ งานประเภทนี้แบบนี้ วันใดที่ผมเดี้ยงไปก็จะไม่มีให้ดูอีกแล้ว จะมีมากก็แต่พวกคางแหลมเปี๊ยบ ตาโตเท่าไข่เห้ เส้นสายคมเปรี๊ยะ(เพราะใช้เครื่องมือ) แต่ก็ยังดีที่มีทีมการ์ตูนไทยของคุณแอน(สีทน) ที่แม้จะเป็นการ์ตูนเทคโนโลยี แต่คุณเธอก็มาในแบบสไตล์การ์ตูนไทย งานของเธอดูแล้วสบายใจ

ส่วนของลุงบูลย์นั้น บอกตามตรงว่าจำเป็นต้องหยาบ ไม่มีเวลาพิถีพิถันเลย ลองคิดดูซีครับ การ์ตูนชุดนี้ทั้งหมดมี ประมาณ ๘๐ ภาพ แต่ต้องทำให้เสร็จภายในไม่เกิน ๑ เดือน ไม่งั้นไม่ทันเวลาส่ง และผู้ที่มาให้วาดก็มีมากันเป็น ๒๐ คนต่างก็จะเอาก่อนกันทั้งนั้น บางครั้งก็เลยเครียด ร่าง ๆ ป้าย ๆ เอา ครับ แต่ก็ไม่สุ่มสั่วเกินไป หลาย ๆ คนเขารับได้

แต่ที่สำคัญทั้งจังหวัดนี้เขาไปหา ๆ กันมาแล้ว มีครูหรือช่างศิลป์ที่เขียนได้อยู่เพียง ๔-๕ คนทั้ง จว. ครับ ลุงก็เลยตีกินได้ สบม.

ลองชมกันต่อครับ...




วันนี้ขณะที่แม่ขับรถ เพื่อพาลูก ๆ ไปเที่ยวตลาดนัดที่สวนปาล์มอีกครั้ง ระหว่างผ่านตลาด บนถนนบางสายซึ่งสะอาด มีกระถางดอกไม้ ต้นไม้เรียงรายอยู่สองข้างถนน หนูโต้งกับหนูตุ้ม มองแล้วรู้สึกว่ามีความสุข



แต่พอผ่านถนนสกปรก มีถุงพลาสติก มูลสุนัขและเปลือกผลไม้ ทิ้งอยู่กลาดเกลื่อน ทั้งสองรู้สึกมีความทุกข์



ตอนหนึ่งแม่ขับรถข้ามคลอง ทั้งสองมองไปเห็นน้ำ ในลำคลองใสสะอาด จึงขอให้แม่จอดรถลงไปดู หนูโต้งและหนูตุ้มมองลงไปเห็นมีปลา ปู แหวกว่ายไปมา ในน้ำ ก็รู้สึกว่า มีความสุข



บางคลองที่แม่จอดรถให้ลงไปดู น้ำในคลองมีเศษ อาหาร มีถุงพลาสติกเศษผ้า ขวดพลาสติก และขยะมูลฝอยลอยอยู่ทั่ว น้ำก็มีสีดำ ส่งกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้เด็กทั้งสองรู้สึกมีความทุกข์


“ทำไมคนแถวนี้ เขาจึงทิ้งขยะลงคลองละแม่”
หนูตุ้มถามแม่
“เพราะคนชอบเอาแต่ความสะดวก พอทำงานเสร็จก็ทิ้งเศษสิ่งที่ไม่ต้องการ แบบไม่รับผิดชอบ”
“งั้นต้องแก้อย่างไรครับ” หนูโต้งถาม



“ต้องให้เขาเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม รู้ว่าขยะสามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้ ขยะชนิดใดต้องทิ้งและทิ้งอย่างไร จึงจะไม่เสียหายกับถนนหนทาง และแม่น้ำ ลำคลอง”



“พวกถุงพลาสติกใส่ของ กระดาษหนังสือพิมพ์ ขวดแก้วหรือของใช้พลาสติก สิ่งของที่หมดประโยชน์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ที่พังและชำรุด พัดลมหรือตู้เย็นที่เสียแล้ว ถ้าทิ้งไว้ก็เรียกว่า ขยะทั้งนั้น"
“เราจะพบขยะพวกนี้ตามบ้าน ร้านค้า ข้างถนน ตลาด โรงเรียนและโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งวัดวาอาราม”



“ขยะมูลฝอยพวกนี้ ถ้าทิ้งไม่เป็นที่เป็นทาง จะทำให้บ้านเมืองสกปรกรกรุงรัง ไม่มีระเบียบ ปัจจุบันขยะทุกประเภทสามารถเก็บมาคัดแยก และนำกลับมาใช้ใหม่ได้”
“แม่หมายถึงขยะประเภทไหน” หนูโต้งถาม
“ก็ขยะที่แม่จะพาไปดูการคัดแยก แบบที่เรียกว่าการรีไซเคิลของคุณตาฉุยในวันนี้ไง” แม่ตอบ


แม่พูดจบรถก็มาจอดในระหว่างแถวต้นปาล์ม ในสวนปาล์ม แต่วันนี้ไม่มีตลาดนัด เพราะตลาดนัดมีเฉพาะวันพุธ



“สวัสดีค่ะลุงฉุย วันนี้กำลังทำอะไรอยู่คะ”
นางปราณี แม่ของเด็ก ๆ ถามชายชราเจ้าของสวนล์มน้ำมัน
“กำลังแก้ปัญหาขยะที่หมักหมมและมีกลิ่นอยู่ครับ พอดีผมไม่อยู่ ไปอบรมเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงเสีย ๕ วัน เดินทางไป-กลับด้วยก็ ๑ อาทิตย์พอดี”



วันก่อนหนูมาไม่เจอคุณลุง วันนี้เด็ก ๆ เขาอยากรู้ว่าคุณลุง หรือคุณตา ไม่ใช้ปุ๋ยใส่ต้นปาล์ม แต่ทำไมปาล์มมีผลดก”
“ความจริงตาใช้ปุ๋ยนะครับ แต่ว่าตาไม่ต้องซื้อ ตาใช้ขยะในตลาดนี่แหละทำปุ๋ย”



“เปล่า! ไม่ใช่อย่างนั้น ต้องแยก แยกเอามาเฉพาะเศษผัก เปลือกผลไม้ เศษอาหาร ขยะพวกนี้ถ้ากองทิ้งไว้จะบูดเน่า ส่งกลิ่นเหม็น”

href="//www.bloggang.com/data/l/lungboon/picture/1289709688.jpg" target=_blank>

“แต่ถ้านำไปหมักด้วยวิธีที่ถูกต้อง กลิ่นเหม็นจะหมด และสามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ได้ทุกชนิด ไปดูการคัดแยกขยะของตากันไหมครับ อยู่ตรงท้ายสวนใกล้ ๆ นี่เอง”

...........

โปรดติตามตอนต่อไปครับ....




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2553 8:23:45 น.
Counter : 24331 Pageviews.  

โลกไม่มีขยะ

เรื่องขยะกำลังเป็นปัญหาโลกท่านเชื่อหรือไม่



มีคุณครูท่านหนึ่งมาปรึกษาว่า หนูจะสอนให้เด็กช่วยกันลดขยะจะทำได้อย่างไร มีวิธีการนำเสนออย่างไร ข้าพเจ้าบอกว่ากล้วย ๆ รีบไปหาข้อมูลมาลุงจะวาดภาพประกอบการ์ตูนให้ เธอได้ข้อมูลมาค่อนข้างยาว ข้าพจัดแจงแบ่งซอยให้เป็นตอน ๆ เพราะถ้ายาวมากและภาพไม่เตะตาเด็กชั้น ป.๒ จะไม่อ่าน เรื่องนี้จึงมีทั้งหมด ๖ เล่ม

การเดินเรื่องนับว่าสำคัญมาก ข้าพเจ้าพบว่าครูส่วนใหญ่ที่สอนหนังสือ สอนแต่ให้เด็กอ่านออกเขียนได้อย่างเดียว เด็กก็อ่านไปแบบเซ็ง ๆ เพราะบอกเล่าแต่เนื้อหาล้วน ๆไม่เปิดโอกาสให้เรื่องราวในท้องถิ่น ชุมชนที่อาศัยเข้าไปแทรกอยู่บ้างเลย

พอดีไม่ไกลจากบ้านของข้าพเจ้ามีครูแก่ท่านหนึ่ง อนุญาตให้ชาวบ้านใช้สวนปาล์มของท่านทำตลาดนัดเปิดท้าย พอคุณครูท่านนี้มาปรึกษาเรื่องการสอนให้เด็กเห็นโทษและคุณค่าของขยะข้าพเจ้าก็เล่าให้ฟังเป็นฉาก ๆ จากนั้นก็มาช่วยกันในเรื่องการสร้างเรื่องให้เข้ากับบ้าน โรงเรียน และชุมชนที่เธอ(ครู-นักเรียน)อยู่ เรื่องนี้จึงได้เกิดขึ้นมา

ท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วโลกไม่มีขยะได้อย่างไร เรื่องนี้จบแบบเรื่องสั้นและจะไปบอกตอนท้าย ตอนนี้ลองชมภาพการ์ตูนแบบส้ม ๆ คือ แบบคนแก่ ๆ ยุคเก่าวาดว่างั้นเถอะ ซึ่งไม่เทียมทันเท่ายุคใหม่เขาหรอก แต่เอาเถอะเพราะคุณครูท่านนี้คงผ่านซีแปดไปเรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าไม่ผ่านจะมาตะแหง่ว ๆ อาจารย์คะ อาจารย์ขา แก้กันตาลายอยู่นั่นแหละ ฮ่า ๆ ๆ

โม้พองามตามสไตล์ลุงบูลย์ ใครถือสาระวังความดันจะกำเริบนะ ฮ่า ๆ ๆ




หนูโต้ง กับ หนูตุ้ม เป็นพี่น้องกัน หนูโต้งกำลังเรียนชั้น ป.๔ หนูตุ้มกำลังเรียนชั้น ป.๒ พ่อและแม่ของเด็กทั้งสองเป็นข้าราชการ จึงปลูกบ้านอยู่ในตัวเมือง


วันหนึ่งเป็นวันอาทิตย์ แม่ขับรถพาหนูโต้งและหนูตุ้มไปเที่ยวที่ “ตลาดนัดเปิดท้าย” เปิดขึ้นในบริเวณสวนปาล์ม มีต้นปาล์มขึ้นเป็นแถว ทำให้มีที่จอดรถที่ไม่ร้อนและเย็นสบาย
หนูโต้งถามแม่ว่า
“ทำไมเขาเรียกตลาดเปิดท้ายละครับแม่”


แม่ของเด็กทั้งสอง จึงเล่าว่า “มันมาจากคำว่า เปิดท้ายรถยนต์ขายของ นะลูก เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๑”
“ปีนั้น คนรวย ๆ ที่มีรถยนต์พากัน ตกงาน จึงนำข้าวของที่พอจะขายได้ ใส่ท้ายรถยนต์มาจอดขาย เรียกว่า “ตลาดเปิดท้ายรถ”หรือตลาดเปิดท้าย มาจนถึงปัจจุบัน”


เมื่อจอดรถยนต์เรียบร้อย แม่จูงมือเด็กทั้งสองเดินผ่านทางเดิน ที่แม่ค้ายกเพิงและวางของไว้สองฟาก ส่วนคนซื้อเดินตรงกลาง
หนูโต้งกับหนูตุ้ม ทำจมูกฟุดฟิด ก่อนจะจามออกมาฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย! ส่วนหนูตุ้มพูดว่า
“เหม็นจังเลย เหม็นอะไร พี่โต้งเหม็นไหม”


“เหม็นซี ทำไมเหม็นมากขนาดนี้” หนูโต้งตอบ
“จุ๊ย์! ๆ! อดทนหน่อยลูก อายเขา คนมองใหญ่แล้ว” แม่ปรามเด็กทั้งสอง
“วันนี้ ลุงฉุยไปอบรมเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง ไม่ได้มารื้อขนขยะ ทำให้เหม็นและมีแมลงวัน คงต้องทนกันหน่อย เดี๋ยวแกกลับมาทุกอย่างก็เรียบร้อย” แม่ค้าคนหนึ่งบอก


“ตลาดนอกเมืองก็อย่างนี้แหละ ไม่เหมือนตลาดเทศบาล มีแต่คุณลุงเจ้าของสวนอยู่คนเดียว ที่คอยมาเก็บกวาด เอาขยะไปแยกไปฝัง” แม่ค้าอีกคนพูด


“โอ๊ย! แมลงวันเยอะ แล้วแบบนี้ อาหาร ขนม... ที่แม่ค้านำมาขายก็ไม่สะอาดนะซิ”
หนูโต้งพูดประสาซื่อ แม่ตกใจรีบพูดกระซิบว่า
“เบา ๆ ลูก แม่จะซื้อแต่ผลไม้ ผัก ปลา เอาไปล้างแล้วทำอาหาร แม่ชอบมาซื้อของที่นี่ เพราะที่นี่มีของสด ๆ แล้วราคาก็ถูกกว่าในตลาดอำเภอมากนะจ๊ะลูก”




ระหว่างที่แม่เดินซื้อปลา ผักและผลไม้ หนูโต้งและหนูตุ้ม เงยหน้ามองผลปาล์ม พอดีได้ยินแม่ค้า กับคนที่มาซื้อของ คุยกัน คนหนึ่งพูดว่า
“ลุงฉุยแกฉลาด คิดตัดรายจ่ายค่าซื้อปุ๋ย มาใส่ต้นปาล์ม จึงให้ชาวบ้านใช้สวนปาล์ม ทำตลาดเปิดท้าย ทำให้ต้นปาล์มของแก แทบไม่ต้องใส่ปุ๋ย แล้วผลปาล์มของแกก็ดกทุกต้น เงยดูซี”



“ใช่ แต่วันนี้ ลุงฉุยไปอบรม เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ของ ในหลวง ไม่ได้มารื้อขนขยะเสียสี่ห้าวัน”
“ทำให้ขยะที่กองอยู่มีกลิ่นเหม็นและมีแมลงวัน คงต้องอดทนกันหน่อยนะ วันพรุ่งนี้แกกลับมาทุก ๆ อย่าง คงจะเรียบร้อย”
แม่ค้าผักพูด


“ไม่เป็นไร รีบ ๆ ซื้อ รีบ ๆ ขาย ไม่กี่ชั่วโมงตลาดก็เลิกแล้ว”
เสียงแม่ค้าและพ่อค้าพูดกัน
“แม่ก็ได้ของที่อยากซื้อครบแล้ว เรากลับกันเถอะ”
แม่ของหนูตุ้มกับหนูโต้งพูด

เมื่อกลับมาขึ้นรถ โต้งยังสงสัยเรื่องต้นปาล์มมีผลดก แต่ไม่ต้องใส่ปุ๋ย จึงถามแม่ว่า
“โต้งยังสงสัยเรื่อง ที่คุณตาฉุยให้ใช้สวนปาล์มทำตลาดนัด ทำให้สวนปาล์มของแกไม่ต้องใส่ปุ๋ย มันเกี่ยวกันอย่างไรครับแม่”
“ถ้าลูกอยากรู้ก็ต้องไปถามคุณตาฉุย งั้นนัดหน้าเรามากันอีกครั้ง แม่จะพาลูกไปรู้จักคุณตาฉุย”

(จบตอนที่ ๑ ต่อตอนที่ ๒ อีกค่ะ)

หมายเหตุภาพอาจซ้ำกันบ้าง ทำยากจะชัก คนแก่ปวดหัว ของฟรีนะครับจะเอาอะไรนักหนาจริงมั้ย

หลวงพ่อจำเนียร อยู่สถาพรท่านว่า "คนดีชอบแก้ไข คน.... ชอบแก้ตัว ฮา"




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2553 10:11:19 น.
Counter : 30855 Pageviews.  

นักวาดการ์ตูนตกสมัย

แต่เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาของเด็กๆ


วันนี้ขอวกกลับมาที่งานที่ทำในปัจจุบัน คืองานรับจ้างวาดการ์ตูนด้วยมือ(ไม่ได้ใช้คอมฯเพราะทำไม่เป็น ไม่มีเวลาศึกษา) แฮ่ ๆ ขออกตัว

ที่ตั้งชื่อว่านักวาดการ์ตูนตกสมัยเพราะมันตกสมัยจริง ๆ แต่ยังใช้ได้ในระดับภูธร ไกลปืนเที่ยง ฮา

ตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ ที่ข้าพเจ้าได้รับอนุมัติเป็น อ.๓/๘ ข้าพเจ้าได้ทำงานพวกนี้(วาดการ์ตูนประกอบหนังสือผลงานครู) มาแล้วไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ ราย และที่ผ่านซี ๘ ไปแล้วก็ไม่ต่ำกว่า ๕๐ ราย ที่เหลือยังค่อย ๆ ทยอยผ่าน ฮา เพราะเหกตุว่ายังมีปัจจัยตัวอื่น ๆ อีกหลายตัว

ที่จะทำให้ไม่ผ่าน เช่น เขียนให้ไปแล้วนำไปใช้ (วิจัยผลงาน-การรายงานการใช้สื่อไม่เป็น) แบบนี้ก็ต้องรอผ่านกันนานหน่อย ส่วนว่าถ้าผ่านแล้วมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ขอยกตัวอย่าง บางรายจาก งด.๒๕,๐๐๐ บาท พอผ่านก็ได้เพิ่มอีก ๑๒,๐๐๐ บาท บวกขั้นวิ่งอีกเป็นหมื่น งด.จึงเป็นสี่หมื่น-ห้าหมื่นบาทก็มี เห็นไหมครับว่าการมาว่าจ้างให้ข้าพเจ้าวาดแค่ภาพละ ๓๐๐ บาทนั้น คุ้มสุดคุ้มแค่ไหน

ภาพที่นำมาแสดงในวันนี้ เป็นของคุณครูสอนชั้น ป.๑ โรงเรียนที่อยู่ริมถนนเพชรเกษม ใกล้ปากทางเข้าอำเภอบ้านของข้าพเจ้านี่เอง ท่านผ่านซีแปดไปเรียบร้อยแล้ว

งานของคุณครูท่านนี้ท่านเขียนคำมาให้ ส่วนภาพท่านให้วาดแบบ ๒ ขั้นตอน คือขั้นแรกเอาภาพร่างลงหมึกไปให้นักเรียนหัดระบายสีด้วย ส่วนขั้นตอนที่ ๒ คือให้ข้าพเจ้าระบายภาพด้วยสีน้ำเป็นภาพสำเร็จ

ข้าพเจ้าเห็นว่าเหมาะกับเด็ก ๆ ที่จะเข้ามาอ่าน เผื่ออาจได้สาระดีกว่าเล่นเกมส์นะครับ เชิญทัศนาได้นะบัดนาว

(ดัดจริตใช้คำฝรั่งปนไทย แฮ่)



สระ อิ ( -ิ )
เรื่อง ขยันคิดฉลาดทำ




ทำกินพอเพียง........ หาเลี้ยงชีวิต
เผื่อคนใกล้ชิด......... คิดให้แบ่งปัน
อย่าอยู่เฉยนิ่ง.......... ทุกสิ่งแข่งขัน
ดิ้นรนทุกวัน............. เธอฉันยินดี


คัดคำที่ประสมสระ อิ เช่น กิน_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระอี ( -ี )
คุณครูผู้ใจดี



คุณครูมาลี........ ใจดีล้นเหลือ
มีใจเอื้อเฟื้อ....... โอบเอื้ออารี
อบรมสอนสั่ง....... หวังให้เด็กดี
ท่านเป็นสตรี........ ศรีแห่งแม่พิมพ์



คัดคำที่ประสมสระ อี เช่น ลี_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระ อู ( -ู )
เรื่อง รักลูกจึงปลูกฝัง



พ่อ แม่ รักลูก........ พันผูกปลูกฝัง
พวกหนูจงฟัง........ ให้ตั้งใจเรียน
ผู้รู้ครูสอน............ วิงวอนพากเพียร
หมั่นฝึกขีดเขียน...... ต้องเพียรพยายาม


คัดคำที่ประสมสระ อู เช่น หนู_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _



สระ เอ (เ-)
กล่อมน้องนอนเปล



ลิเกเฮฮา........ เวลาออกแขก
เซไปกระแทก........ หัวแตกตาเข
เด็กน้อยยังอ่อน........ ต้องนอนในเปล
ตื่นร้องโยเย........ แม่เห่ให้นอน



คัดคำที่ประสมสระ เอ เช่น เก_ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ __ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระแอ (แ-)
เรื่องลูกสัตว์น่ารัก>



แพะมีสี่ขา........ เดินมาเร็วรี่
ลูกแมววิ่งหนี........ ชะนีแอบแล
เห็นแรดไล่แพะ........ แกะร้องแบแบ
ลูกแมวพบแม่........ แกแสนดีใจ


คัดคำที่ประสมสระ แอ เช่น แมว_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระโอ (โ-)
เรื่องตาโถอยากกินแตงโม




ตาโถจูงโค........ เดินโซเซมา
ตาโต้งมาหา........ นั่งทำตาโต
ป้าโสมาด้วย....... ช่วยถือแตงโม
กินกันพุงโย้....... โอ้โฮหวานดี


คัดคำที่ประสมสระ โอ เช่น โถ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระออ (-อ)
เรื่องสังข์ทองถอดเงาะ




สังข์ทองหุ้มเกราะ........ รูปเงาะบังไว้
ถอดเงาะออกได้........ ร่างกายห่อทอง
พ่อตา แม่ยาย........ พอใจทั้งสอง
ชมชอบเนื้อทอง........ กึกก้องทั่วเมือง


คัดคำที่ประสมสระ ออ เช่น ทอง _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระเอือ (เ - ือ)
เรื่อง ตาเสือไปหาปลา



ตาเสือออกเรือ........ เพื่อไปหาปลา
ตาเจือตามมา........ หาปลาด้วยกัน
ตาเกื้อเอื้อเฟื้อ........ เผื่อแผ่แบ่งปัน
แจกปลาเพื่อนพลัน....... ทั่วกันทุกคน


คัดคำที่ประสมสระ เอือ เช่น เสือ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระอัว ( -ัว )
เรื่อง ตาบัวปลูกถั่ว




ตาบัวหัวเราะ........ เดินเลาะไปทั่ว
มาเจอไร่ถั่ว........ ตาบัวชอบใจ
ตาบัวพาวัว........ ตัวโตว่องไว
มากินใบไม้........ ใกล้รั้วถั่วพู


คัดคำที่ประสมสระ อัว เช่น วัว_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


สระอำ (- ำ)
เรื่อง คำสอนปู่ย่า



ทุกคนจงจำ....... อย่าพร่ำพูดปด
ทำชั่วต้องงด........ อดทนทำงาน
ลำบากไว้ก่อน....... แน่นอนสำราญ
ร่ำรวยได้นาน........ ชื่นบานสุขใจ
center>

คัดคำที่ประสมสระ อำ เช่น จำ_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

ภาพสุดท้ายนี้วาดแล้วเขาไม่เอา ให้เปลี่ยนใหม่ (ไม่ฮา-เสียเวลาเปล่า)



ท่านผู้ใดเข้ามาอ่านโปรดประทานความเห็นไว้มั่งนะขอรับ




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2553 12:59:04 น.
Counter : 62968 Pageviews.  

นักวาดการ์ตูนกระจอก ๓

บทรำพึง



ภาพเหล่านี้เคยนำลงในบล็อกมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่การนำเสนอหรือเรื่องราวอาจจะต่างมุมกันในฐานะที่ข้าพเจ้ามีอาชีพ (ตอนนี้)คือ เขียนเรื่องสั้น บทกลอนและนิยาย" จึงขอเขียนถ้อยคำในทำนองเพ้อ(เจ้อ) อีกสักครั้ง หวังว่าท่านที่มาเผลออ่าน คงจะไม่หาว่ามาขึ้นธรรมาสน์เทศนานะครับ

ทุก ๆ ชีวิตที่เกิดมาบนโลกต่างมีต้นทุนทั้งทางร่างกาย ฐานะทางบ้าน หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อมทางสังคมที่แตกต่างกัน ผมเป็นคนหนึ่งที่เรียกได้ว่า "มีต้นทุนต่ำ" ในข้อที่ ๑ และ ๒



(หากท่านอยากทราบว่าผมมีต้นทุนแบบใด ท่านสามารถหาอ่านได้ในหนังสือเรื่อง "ครูไพบูลย์ฯ" ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค วางขายคู่กับ "ไล่ตงจิ้นฯ และ หลินเจี้ยงหลงฯ" ซึ่งเป็นหนังสือแนวอัตชีวประวัติของคนจีนไต้หวัน

การมีต้นทุนต่ำเป็นเหตุให้คนเราต่างไขว่คว้าหาทุนใหม่ที่สามารถหาได้ด้วยตนเองมาเสริม เพราะถ้าไม่พยายามหาใครจะหามาให้ได้ละครับ



มีคำ ๆ หนึ่งที่ข้าพเจ้าฟังแล้วสะกิดใจตลอดทุกครั้งที่ได้ยิน คือคำว่า ขยัน กับ ขี้เกียจ พระพุทธเจ้าจึงตรัสเป็นพุทธภาษิตว่า "วิริเย นะ ทุก ขะ มัจ เจ ติ" แปลว่า ชีวิตจะพ้นทุกข์ได้ด้วยความเพียร

แต่ในความขยันนี้ มีบางท่านบอกว่า "ต้องขยันแบบฉลาด" ด้วยจึงจะประสบความสำเร็จ ส่วนถ้าขยันแบบโง่ ๆ ยิ่งขยันยิ่งฉายหิบ ว่าเข้าไปนั่น


ก็น่าจะจริง เพราะความเพียรของคนค้าขาย ทำให้คนกลายเป็นเศรษฐี ความเพียรของนักการพนันทำให้คน ๆ นั้นล่มจม ความเพียรของนักเขียน อาจทำให้จากที่เขียนไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่องกลายเป็นเขียนดีก็ได้


(อันนี้คือหัวเรื่อง เขียนให้คนที่เขียบนเรื่องมาลงในนิตยสาร)

ความเพียรฝึกฝนฝีมือทางช่าง สร้างมูลค่าเพิ่มให้ช่างแต่ละคนกลายเป็นช่างที่มีฝีมือ ความขยันในการฝึกซ้อมเพลงอาวุธของทหารในสงคราม ทำให้สามารถเอาตัวรอดได้จากศัตรู ฉันใดก็ฉันนั้น


(อันนี้ก็หัวเรื่อง)

"บุรุษและสตรีจึงไม่พึงปล่อยเวลาให้ล่วงไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะชีวิตที่ชะตากรรมท่านสั่งให้เรามาเกิดเพื่อใช้กรรมนี้สั้นนัก"สาธุ...

(ขอยืมคำของนักปราชญ์ ศาสดามาเทศน์)

(หัวเรื่อง วาดประกอบให้นักเขียนที่เขียนเรื่องสั้นมาลงในนิตยสาร)


ด้วยเหตุดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงอยากจะเล่าว่า ข้าพเจ้าได้ใช้ทุก ๆ เวลาและนาที เพื่อจะสะสมต้นทุนเหล่านี้ และทุนที่ใฝ่หามาก็ได้ส่งผลให้ข้าพเจ้ามีทุนกินใช้ได้ในระดับหนึ่ง และในปัจจุบันข้าพเจ้าก็ยังต้องเพียรเพิ่มทุนให้กับตนเองไปเรื่อย ๆ จนกว่าม่านชีวิตของข้าพเจ้าจะถูกปิดลง

สาธุ...(อีกครั้ง)


(หัวเรื่อง)

ภาพทั้งหมดในนี้ คือต้นทุนหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้พยายามฝึกปรือมาในอดีต จนครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้ใช้มันเป็นเครื่องทำมาหาเลี้ยงชีพ ส่งตนเองเรียนเป็นค่าหน่วยกิต ค่าอาหาร ค่าหอพัก และค่าเสื้อผ้ารวมทั้งรายจ่ายนานา ตอนที่เรียนที่ มศว.ประสานมิตรระหว่างปี พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๑๙



(หัวเรื่อง สมัยนั้นมีคนเขียนเรื่องอาวุธปืนไปลงในหนังสือที่ข้าพเจ้าทำด้วย)



นี่ก็หัวเรื่อง เขียนประกอบเรื่องของนักเขียนที่เขียนไปลง




 

Create Date : 30 ตุลาคม 2553    
Last Update : 30 ตุลาคม 2553 13:18:01 น.
Counter : 6537 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

pantamuang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.