...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
All blogs
 
โลกไม่มีขยะ

เรื่องขยะกำลังเป็นปัญหาโลกท่านเชื่อหรือไม่



มีคุณครูท่านหนึ่งมาปรึกษาว่า หนูจะสอนให้เด็กช่วยกันลดขยะจะทำได้อย่างไร มีวิธีการนำเสนออย่างไร ข้าพเจ้าบอกว่ากล้วย ๆ รีบไปหาข้อมูลมาลุงจะวาดภาพประกอบการ์ตูนให้ เธอได้ข้อมูลมาค่อนข้างยาว ข้าพจัดแจงแบ่งซอยให้เป็นตอน ๆ เพราะถ้ายาวมากและภาพไม่เตะตาเด็กชั้น ป.๒ จะไม่อ่าน เรื่องนี้จึงมีทั้งหมด ๖ เล่ม

การเดินเรื่องนับว่าสำคัญมาก ข้าพเจ้าพบว่าครูส่วนใหญ่ที่สอนหนังสือ สอนแต่ให้เด็กอ่านออกเขียนได้อย่างเดียว เด็กก็อ่านไปแบบเซ็ง ๆ เพราะบอกเล่าแต่เนื้อหาล้วน ๆไม่เปิดโอกาสให้เรื่องราวในท้องถิ่น ชุมชนที่อาศัยเข้าไปแทรกอยู่บ้างเลย

พอดีไม่ไกลจากบ้านของข้าพเจ้ามีครูแก่ท่านหนึ่ง อนุญาตให้ชาวบ้านใช้สวนปาล์มของท่านทำตลาดนัดเปิดท้าย พอคุณครูท่านนี้มาปรึกษาเรื่องการสอนให้เด็กเห็นโทษและคุณค่าของขยะข้าพเจ้าก็เล่าให้ฟังเป็นฉาก ๆ จากนั้นก็มาช่วยกันในเรื่องการสร้างเรื่องให้เข้ากับบ้าน โรงเรียน และชุมชนที่เธอ(ครู-นักเรียน)อยู่ เรื่องนี้จึงได้เกิดขึ้นมา

ท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วโลกไม่มีขยะได้อย่างไร เรื่องนี้จบแบบเรื่องสั้นและจะไปบอกตอนท้าย ตอนนี้ลองชมภาพการ์ตูนแบบส้ม ๆ คือ แบบคนแก่ ๆ ยุคเก่าวาดว่างั้นเถอะ ซึ่งไม่เทียมทันเท่ายุคใหม่เขาหรอก แต่เอาเถอะเพราะคุณครูท่านนี้คงผ่านซีแปดไปเรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าไม่ผ่านจะมาตะแหง่ว ๆ อาจารย์คะ อาจารย์ขา แก้กันตาลายอยู่นั่นแหละ ฮ่า ๆ ๆ

โม้พองามตามสไตล์ลุงบูลย์ ใครถือสาระวังความดันจะกำเริบนะ ฮ่า ๆ ๆ




หนูโต้ง กับ หนูตุ้ม เป็นพี่น้องกัน หนูโต้งกำลังเรียนชั้น ป.๔ หนูตุ้มกำลังเรียนชั้น ป.๒ พ่อและแม่ของเด็กทั้งสองเป็นข้าราชการ จึงปลูกบ้านอยู่ในตัวเมือง


วันหนึ่งเป็นวันอาทิตย์ แม่ขับรถพาหนูโต้งและหนูตุ้มไปเที่ยวที่ “ตลาดนัดเปิดท้าย” เปิดขึ้นในบริเวณสวนปาล์ม มีต้นปาล์มขึ้นเป็นแถว ทำให้มีที่จอดรถที่ไม่ร้อนและเย็นสบาย
หนูโต้งถามแม่ว่า
“ทำไมเขาเรียกตลาดเปิดท้ายละครับแม่”


แม่ของเด็กทั้งสอง จึงเล่าว่า “มันมาจากคำว่า เปิดท้ายรถยนต์ขายของ นะลูก เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๑”
“ปีนั้น คนรวย ๆ ที่มีรถยนต์พากัน ตกงาน จึงนำข้าวของที่พอจะขายได้ ใส่ท้ายรถยนต์มาจอดขาย เรียกว่า “ตลาดเปิดท้ายรถ”หรือตลาดเปิดท้าย มาจนถึงปัจจุบัน”


เมื่อจอดรถยนต์เรียบร้อย แม่จูงมือเด็กทั้งสองเดินผ่านทางเดิน ที่แม่ค้ายกเพิงและวางของไว้สองฟาก ส่วนคนซื้อเดินตรงกลาง
หนูโต้งกับหนูตุ้ม ทำจมูกฟุดฟิด ก่อนจะจามออกมาฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย! ส่วนหนูตุ้มพูดว่า
“เหม็นจังเลย เหม็นอะไร พี่โต้งเหม็นไหม”


“เหม็นซี ทำไมเหม็นมากขนาดนี้” หนูโต้งตอบ
“จุ๊ย์! ๆ! อดทนหน่อยลูก อายเขา คนมองใหญ่แล้ว” แม่ปรามเด็กทั้งสอง
“วันนี้ ลุงฉุยไปอบรมเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง ไม่ได้มารื้อขนขยะ ทำให้เหม็นและมีแมลงวัน คงต้องทนกันหน่อย เดี๋ยวแกกลับมาทุกอย่างก็เรียบร้อย” แม่ค้าคนหนึ่งบอก


“ตลาดนอกเมืองก็อย่างนี้แหละ ไม่เหมือนตลาดเทศบาล มีแต่คุณลุงเจ้าของสวนอยู่คนเดียว ที่คอยมาเก็บกวาด เอาขยะไปแยกไปฝัง” แม่ค้าอีกคนพูด


“โอ๊ย! แมลงวันเยอะ แล้วแบบนี้ อาหาร ขนม... ที่แม่ค้านำมาขายก็ไม่สะอาดนะซิ”
หนูโต้งพูดประสาซื่อ แม่ตกใจรีบพูดกระซิบว่า
“เบา ๆ ลูก แม่จะซื้อแต่ผลไม้ ผัก ปลา เอาไปล้างแล้วทำอาหาร แม่ชอบมาซื้อของที่นี่ เพราะที่นี่มีของสด ๆ แล้วราคาก็ถูกกว่าในตลาดอำเภอมากนะจ๊ะลูก”




ระหว่างที่แม่เดินซื้อปลา ผักและผลไม้ หนูโต้งและหนูตุ้ม เงยหน้ามองผลปาล์ม พอดีได้ยินแม่ค้า กับคนที่มาซื้อของ คุยกัน คนหนึ่งพูดว่า
“ลุงฉุยแกฉลาด คิดตัดรายจ่ายค่าซื้อปุ๋ย มาใส่ต้นปาล์ม จึงให้ชาวบ้านใช้สวนปาล์ม ทำตลาดเปิดท้าย ทำให้ต้นปาล์มของแก แทบไม่ต้องใส่ปุ๋ย แล้วผลปาล์มของแกก็ดกทุกต้น เงยดูซี”



“ใช่ แต่วันนี้ ลุงฉุยไปอบรม เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ของ ในหลวง ไม่ได้มารื้อขนขยะเสียสี่ห้าวัน”
“ทำให้ขยะที่กองอยู่มีกลิ่นเหม็นและมีแมลงวัน คงต้องอดทนกันหน่อยนะ วันพรุ่งนี้แกกลับมาทุก ๆ อย่าง คงจะเรียบร้อย”
แม่ค้าผักพูด


“ไม่เป็นไร รีบ ๆ ซื้อ รีบ ๆ ขาย ไม่กี่ชั่วโมงตลาดก็เลิกแล้ว”
เสียงแม่ค้าและพ่อค้าพูดกัน
“แม่ก็ได้ของที่อยากซื้อครบแล้ว เรากลับกันเถอะ”
แม่ของหนูตุ้มกับหนูโต้งพูด

เมื่อกลับมาขึ้นรถ โต้งยังสงสัยเรื่องต้นปาล์มมีผลดก แต่ไม่ต้องใส่ปุ๋ย จึงถามแม่ว่า
“โต้งยังสงสัยเรื่อง ที่คุณตาฉุยให้ใช้สวนปาล์มทำตลาดนัด ทำให้สวนปาล์มของแกไม่ต้องใส่ปุ๋ย มันเกี่ยวกันอย่างไรครับแม่”
“ถ้าลูกอยากรู้ก็ต้องไปถามคุณตาฉุย งั้นนัดหน้าเรามากันอีกครั้ง แม่จะพาลูกไปรู้จักคุณตาฉุย”

(จบตอนที่ ๑ ต่อตอนที่ ๒ อีกค่ะ)

หมายเหตุภาพอาจซ้ำกันบ้าง ทำยากจะชัก คนแก่ปวดหัว ของฟรีนะครับจะเอาอะไรนักหนาจริงมั้ย

หลวงพ่อจำเนียร อยู่สถาพรท่านว่า "คนดีชอบแก้ไข คน.... ชอบแก้ตัว ฮา"




Create Date : 12 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2553 10:11:19 น. 14 comments
Counter : 30860 Pageviews.

 
ชอบค่ะ เรื่องดี ภาพสวย


โดย: เชิญจุติ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:11:00:29 น.  

 
สวัสดีครับลุง

คุณตาฉุยหัวใสแน่ แกต้องวางแผนแปลงขยะให้เป็นปุ๋ย แต่ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรนะ แล้วพวกเศษขยะอย่างถุงพลาสติกพวกนี้ละ ตาฉุยจะจัดการอย่างไรดี จะฝังกลบกันไหวหรือ ก็สมัยนี่คนมันมีวินัยกันที่ไหนเล่า นึกจะทิ้งก็ทิ้ง ขนาดเขาเขียนติดถังให้เห็นกันโต้งๆว่า ถังนี้ขยะเปียก แห้ง ขวดแก้ว

มานยังอ่านกันไม่ออกเลย 555 (ใส่รวมกันหมด แบบกรูไม่สน ไม่ใช่เรื่องหรือหน้าที่ของกรู เมิงไปแยกเอาเองสิ)

ให้มันได้อย่างนี้สิ..คนไทย

ลุงครับ..ในโลกนี้มีประเทศไหนบ้าง ที่เขามีวินัยในการกำจัดขยะ และประเทศเขาสะอาดมากๆนะ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:52:01 น.  

 
มาแปะทักทายก่อน

เด๋วมาอีกทีค่า


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.103.232 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:19:06 น.  

 
ผมชอบลีลาเล่าเรื่อง และรูปภาพครับลุงบูลย์
ผมอยากทำแบบนี้...แต่ไม่มีฝีมือเลยครับ
ผมขอสมัครเป็นขาประจำนะครับลุง


โดย: panwat วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:41:14 น.  

 
มาแล้วค่ะ ตามสัญญา

รูปกะเรื่อง ใสกริบ ใสซื่อ สะอาดตาสะอาดใจ

การ์ตูนแบบนี้ ควรแก่การอนุรักษ์มากๆนะคะ

แต่รูปที่เปิดท้ายขายของ สงสัยจะขายแถวนิวยอร์ก

แหม ตึกรามบ้านช่อง โอฬารดีจริงค่ะลุง

ขอบคุณนะคะ อัพการ์ตูนได้เรื่อยๆนะ...เอางานสไตล์ของลุงมาให้คนรุ่นใหม่ๆได้ดู

นักล่าฯว่าเป็นวิทยาทานค่ะ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.103.232 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:45:23 น.  

 
เหมือนคุณลุงบูลย์ตั้งใจจัดระเบียบของชาวบ้าน ร้านค้า
ให้เข้าที่เข้าทาง สวยงาม น่าเดิน น่าชม
ต้นปาล์มของคุณลุงบูลย์ไม่ซ้ำกันเลย การเรียงของกาบใบ
มีความแตกต่าง ถ้าให้ผมวาดต้นปาล์มนี่คงคิดหนักครับ
วาดยากมาก...

ภาพวาดของคุณลุงบูลย์ เด็กๆเห็นคงชอบทุกคน
สีสันของภาพชวนหลงไหล ถูกตาถูกใจ จนเด็กๆอดไม่ได้ที่
จะสะกดคำหาความหมายของภาพ

การปลูกฝังเรื่องขยะตั้งแต่เด็กๆ จะช่วยให้สังคมของเขาในอนาตค
มีการจัดการที่ดี อะไรจะสู้การตระหนักรู้ถึงความรับผิดชอบตั้งแต่
เล็กๆ

ที่ซอยบ้านผม บ้านช่องแต่ลหลังสะอาดสะอานทุกหลัง
ตกเย็นเห็นบางคนหิ้วถุงขยะมาทิ้งที่ปากซอย (ที่ดินรกร้าง)
ถ้าฝนตกกลิ่นจะโชยจนรู้สึกได้
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งที่บ้านและที่สาธารณะต้องหวัง
คนรุ่นต่อไปแล้วครับ (ไม่รู้จะหวังได้แค่ไหน)

ขอเชียร์ภาพและเรื่องของบล็อกนี้และบล็อกต่อไปครับ

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำกลอนครับคุณลุงบูลย์


โดย: Insignia_Museum วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:13:39 น.  

 
น่ารักดีนะ อิิอิ
เห็นภาพวาดทำให้นึกตอนสมัยป.1 ป.2
แต่ก็ทำให่รู้จักคำว่าเปิดท้าย ด้วย
ขอบคุณที่เอามาให้นะคะ


โดย: นินนินมาแว้ว วันที่: 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:44:32 น.  

 
บล็อก นินนินมาแว้ว ทำไมพอลุงจะไปเยีั่ยมบ้าง กลับมีป้ายแปะว่า "ไม่พบบล็อกน้ีค่ะ" จขบ.ให้เฉพาะวีไอพี หรือเปล่า


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:00:32 น.  

 
ลุงคะ

นักล่าฯเมล์ไปหาคุณผาด ว่าจะสั่งซื้อหนังสือพร้อมลายเซ็นพนมเทียนให้เป็นของขวัญปีใหม่ลุง

แต่คุณผาดบอกว่า เขาตั้งใจส่งให้ลุงอยู่แล้ว โดยเมล์ไปถามที่อยู่ แต่ลุงยังไม่ได้ตอบ

ถ้ายังไงลุงก็ลองเช็กเมล์ดูบ้างนะคะ

ป.ล.นักล่าฯก็เลยไม่ต้องควักเป๋าเอง แหะ...เด๋วค่อยให้ลุงเป็นหนังสือของตัวเองนะคะ

เล่มใหม่จะวางธันวานี้ละ...


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 183.89.235.77 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:33:04 น.  

 
ขอบคุณคุณลุง แทนลูกชายด้วยนะครับ ขอบคุณจริงๆเลย

แถมยังฝากกลอนอันทรงคุณค่ามาด้วยทุกครั้งที่มาบล็อกผม


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:05:03 น.  

 
........................

..........
สวัสดียามดึกครับคุณลุง


โดย: panwat วันที่: 14 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:53:48 น.  

 
แว้บไปบ้านนักล่าฯหน่อยนะคะ คริๆ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 14 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:50:36 น.  

 
ขอให้นักศึกนำมาทำการ์ตูน 2 มิติได้ป่าว ค่ะเป็นโปรเจ็คเพื่อการศึกษาอะค่ะ


โดย: อ.te IP: 203.158.176.20 วันที่: 30 มิถุนายน 2556 เวลา:15:42:21 น.  

 
ขออนุญาตนำไปเป็นสื่อการสอนค่ะ ขอให้ท่านเจริญเจริญ


โดย: kruaom IP: 125.25.250.79 วันที่: 25 มีนาคม 2558 เวลา:22:04:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.