Group Blog
 
All blogs
 
ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 3-1 ซาปา มากินหรือมาเที่ยว

>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-1 สุวรรณภูมิ ดินแดนของพนักงานหน้า...<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-2 ฮานอย เดินทาง หาที่พัก<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-3 ฮานอย กินๆ นอนๆ<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-1 ฮานอย เดิน เที่ยว ถ่าย วิ่ง Amazing Race<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-2 ฮานอย ถึงแล้วจริงๆนะ<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-3 ฮานอย นี่หรือ cha ca!!!!<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-4 ฮานอย มุ่งสู่ซาปา<<<



รถไฟจอดตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะเพื่อนปลุก 6โมงครึ่งแล้ว ฟ้ายังมืดอยู่เลย มองออกไปนอกหน้าต่าง เห้ยคนเดินออกไปกันเต็มเลย หลับไม่รู้เรื่องเลยเรา เก็บข้าวของเอาเสื้อนอกมาใส่ แล้วก็ลงรถไฟมาทั้งสภาพเยินๆ หน้าไม่ล้าง ฟันไม่แปรง ส่วนผมไม่ได้สระมาตั้งแต่เย็นวันอังคาร นี่มันเช้าวันศุกร์แล้ว อากาศหนาวน้อยกว่าที่คิด คงต้องรอไปถึงซาปาถึงจะหนาวกว่านี้



เราก็เดินตามๆ ชาวบ้านเค้าไปเรื่อยตามสไตล์ มีพวกมาหาลูกค้าเดินมาเสนอรถตู้ แท๊กซี่เป็นระยะ เราก็รอกะว่ามาหารถตู้ข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวจะโดนฟันค่าหัวคิวไปอีก พอออกมาด้านนอก ก็เห็นรถตู้จอดเยอะแยะ คันใหญ่สีขาวแบบรถตู้แวนก็มี คนก็จะมาห้อมล้อมเรา เพื่อเสนอรถประเภทต่างๆ และราคา เราก็เริ่มถามราคา เปิดโพยข้อมูลที่หามา อืมเค้าจะเรียก25,000ดองถ้าเป็นรถตู้และต่อได้ เราก็เลยถามราคาไป ตอนแรกก็เรียกกันมาแพงมาก เราก็ส่ายหัว แล้วบอกว่าชั้นรู้ราคาแกอย่าได้คิดมามั่วกะช้าน


สักพักคนเริ่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด คนส่วนใหญ่ตกลงราคาได้ก็ไปกันเกือบหมด มองๆ ไปเหลือแต่พวกเราสามคนแล้วสะงั้น แต่นั่นไม่ทำให้เราท้อในการต่อราคาฝ่ายนั้นล้อมวงเข้ามา มีประมาณเกือบสิบคนได้ ก็เริ่มเสนอราคาแบบไม่โอเว่อร์
"2 dollar for 1person"
สาวแม่ลูกอ่อนได้ยินดังนั้นถึงกับตอบกลับไปว่า
"NO NO ดั๊ดล้ำ (=แพงมาก) I will walk to SAPA" ทำท่าใส่อารมณ์ว่าแพงประกอบ (เวียดนามคำอังกฤษคำเลยนะเพื่อนเรา) โห มันคิดได้ไงวะ เค้าคิดมาแค่2เหรียญ มันถึงขนาดจะเดินไปซาปาเองเลย เค้าไม่ได้คิดแกหมื่นเหรียญนะเวย ไงก็ตามเดี๋ยวเจอกันข้างบนนะเพื่อน หึหึ ...ประโยคเด็ดนี้สามารถเอามาเป็นประโยคหากินได้เลย เอะอะตั้งราคามาแพง กรูเดินเอาก็ได้ แต่พอดีว่าเรามาซาปาแค่สองวันเท่านั้น ฉะนั้นถ้าเดินขึ้นไปยังไม่ทันเที่ยวอาจต้องเดินลง


เราเลยเสนอราคาไปมั่งหลังจากฟังมานาน
"45,000Dong for 3 of us ok?"
ทุกคนส่ายหัว บอกจะเอา 75,000ดอง แล้วเราก็ต่อราคาไปอีกครึ่งชั่วโมงจนในที่สุดเค้าก็ให้ 70,000ดอง/3คน แล้วก็ให้ไปขึ้นรถตู้ซึ่งมีคนนั่งรออยู่ในรถประมาณ 6คนไม่รวมคนขับ คาดน่ากลุ่มนี้คงรอเรามานานแล้วเพื่อจะเป็นรถคันสุดท้ายที่ขึ้นไปซาปา ถ้าเค้ารู้ว่าเราเสียเวลาไปครึ่งชั่วโมงเพื่อการต่อได้เพียง 5,000ดอง เค้าคงรวมเงินมาจ่ายให้เราด้วยความสมเพชตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่กว่าพวกเราจะสำเหนียกว่า 5,000ดองมันก็แค่ 10บาท เหอๆๆ ก็ไปถึงห้องพักที่ซาปาแล้วนู้น


ด้วยความที่เงินมันดูเยอะ เราส่วนใหญ่จึงไม่ชินเงินกันในวันแรกๆ ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องคิดเลข ซึ่งมักจะขี้เกียจหยิบขึ้นมาใช้ 5,000ดองก็คิดว่าเยอะ พอคำนวณออกมา นิดเดียวเองนี่หว่า แล้วเสียเวลาทำบ้าอะไรไม่รู้อยู่นาน ตอนหลังเราคิดเงินง่ายๆเอง โดยตัดศูนย์สามตัวหลังออกแล้วคูณ2ซะ อ่า เข้าใจง่ายขึ้นเยอะ เลิกเสียเวลาเล็กๆน้อยๆไปได้แยะ โง่อยู่นานว่าง่ายๆ


เมื่อขึ้นรถตู้ เค้าก็ขับขึ้นเขาประมาณ 30กว่าโล ทางก็คล้ายๆ ขึ้นดอยที่เชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึงก็ถึง เค้าจะขับพาเราไปถึงหน้าโรงแรมที่เราพักเลย พอถึงค่อยจ่ายเงินให้คนขับ อย่าไปจ่ายก่อน เรานี่เกือบพลาดไปจ่ายก่อน แล้วตอน8.30เราก็มาถึงโรงแรม โรงแรมที่เราพักก็คือ Sapa Summit Hotel ที่คนไทยชอบมาพักกัน



ถ้ามองตอนขึ้นเนินมาที่พักจะเห็นแบบนี้ เป็นด้านข้างโรงแรม



พอเดินเข้ามาก็จะเห็นเค้าเตอร์ของโรงแรม คนเยอะมากตอนเราไปถึง (แต่รูปถ่ายตอนบ่ายที่คนหายไปเที่ยวกันหมดแล้ว) เค้าเตอร์ของโรงแรมนี้จะอยู่ชั้นสาม มีห้าชั้นก็แปลว่าชั้นบนสุดก็ขึ้นไปอีกสองชั้น ชั้นกินข้าวก็คือชั้นล่างสุด ก็ลงไปสามชั้นก็เจอ



เราก็เช็คอินเลย เค้าก็ไปดูว่าห้องว่างรึเปล่า ถ้าไม่ว่างก็ต้องรอจนคนเก่าเค้าเช็คเอ้าท์ก่อน ก็โชคดีที่ห้องว่างพอดี ก็เข้าไปได้เลย ของเราห้อง 502 เป็นห้องเตียงใหญ่หนึ่งเตียง เตียงเล็กหนึ่งเตียง ห้องหน้าอยู่ใช้ได้เลย



มีกาต้มน้ำร้อนให้ด้วย และก็มีชา ทำให้เราไม่ต้องไปซื้อน้ำข้างนอกกิน หุหุ นี่มุมหน้าต่างมองออกไปนอกห้อง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ



อีกมุมหนึ่งในห้อง



ห้องน้ำ มีผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ ผ้าเช็ดหัว พรมเช็ดเท้า แปรงสีฟัน+ยาหลอดเล็กๆเน่าๆ แล้วก็สบู่เน่าๆก้อนนึง แล้วก็ทิชชู่สัมผัสกระด้างๆอีก 2ม้วน แต่ใช้หมดไปม้วนเดียว เจ๊แม่ลูกอ่อนถือโอกาสจิ๊กอีกม้วนไปใช้ส่วนตัว สงสัยจะติดใจสัมผัสเถื่อนๆ แบบนี้ แต่ที่เวียดนามห้องส้วมที่เคยไปมาทั้งหมด ตามร้านอาหาร โรงแรมเกรดถูกที่เราได้พัก จะไม่มีฉีดก้นให้ อย่างดีก็มีทิชชู่สัมผัสเถื่อนๆ ให้



นี่คือวิวที่ถ่ายจากในห้อง จะบอกว่าต้องมาดูเองอะ ถ่ายรูปไปไม่สวย ไม่ใช่มืออาชีพ สู้ของจริงที่เห็นไม่ได้เลย



มองไปไกลๆสุดลูกหูลูกตา สวยอะไรอย่างนี้



นี่เราไม่นึกว่ากะลังอยู่ในเวียดนามเลยนะเนี่ย



สำหรับเรื่องอากาศ พอมาถึงซาปานี่อากาศหนาวเลยอ่ะ หนาวกว่าฮานอยอีก หนาวแบบใครอย่าได้ไปเปิดประตูตรงระเบียงทิ้งไว้อะ เพราะมันคือช่องแอร์ดีๆ นั่นเอง เราถึงกะต้องใส่เสื้อผ้า5ชั้น ปากนี่แตกลอกหมด ต้องทาลิปบามที่ยืมจากเจ๊แม่ลูกอ่อนเลย เพราะลืมเอามา หนาวขนาดทำให้หน้าแดงกันไปตามๆกันโดยไม่ต้องใช้บลัชช่วยเลยอะแบบว่าหน้าแตก (ไม่ได้หน้าแตกแบบไปหกล้มโชว์ก้นอะไรหยั่งงั้นนะ) แต่ตอนยังไม่แตกก็ต้องใช้บลัชช่วยนะ^^ มันจะไปแตกตอนเย็นๆอะ เรามาสองวันมีฝนตกปรอยๆ แค่เช้าวันนี้วันเดียว แล้วก็ไม่มีฝนอีกเลย ที่อุตส่าห์หิ้วร่มกันมาไร้ประโยชน์สิ้นดี


เมื่อเข้าห้องพักเราก็อาบน้ำสระผมแปรงฟันอะไรกันให้เรียบร้อย หลังจากทนสภาพอุบาดมานานพอสมควรแก่เวลา ประมาณ11โมงเราก็เสร็จกิจ ใครได้มาเห็นห้องตอนนี้ก็จะนึกว่าเพิ่งเกิดศึกสงครามในนี้ เละเทะมาก ไม่แน่ใจว่าสามคนนี้เป็นผู้หญิงแน่หรอ โดยเฉพาะคนที่คุณก็รู้ว่าใคร


เนื่องจากว่าอากาศดีกว่าที่คิดไว้ แถมเงินเหลือบานเบอะ ต้องหาวิธีกำจัดสักหน่อย เราจึงคิดว่าจะเอาเงินไปเผาเล่นแก้หนาวแถวระเบียง ไม่ดีกว่า ต้องลงไปเผาแถวตลาดซาปา โชว์เทพให้คนเวียดนามเห็นว่าคนไทยรวยขนาดไหน โอเคฝันมาพอแล้วก็เข้าสู่ความเป็นจริงต่อ เราก็เลยตัดสินใจไปซื้อทัวร์ครึ่งวันสำหรับวันพรุ่งนี้กันที่ข้างล่างของโรงแรมที่เราพัก เพราะยังไงเราก็ไม่มีแพลนไปไหนพอดี เรามาลงล็อกที่ทัวร์พาไปดูน้ำตก silver และ tram ton pass แบบ private เค้าคิดราคามาคนละ 10ดอล แล้วเค้าก็เสนอรถตู้ไปส่งเลาไกวันกลับด้วยราคา 35,000ดอง/คน เราจึงบอกเค้าไปว่าเรานั่งมาถูกกว่านี้มากๆ เราต่อขอจ่าย25,000ดอง/คนแล้วกัน เพราะก็ขี้เกียจไปหารถตู้เองด้วย เค้าก็โอเค สะระตะรวมราคาจ่ายเป็นดอง (เพราะเหลือดองบานเบอะ) ทัวร์คนละ 160,000ดองสามคนก็ 480,000ดองบวกกะค่ารถขากลับ 75,000ดอง รวม 555,000ดอง แล้วเราก็บอกเดี๋ยวเราจะไปรีวิวที่พักให้คนมาพักเยอะๆ ตอบแทนให้นะ แต่ลดเหลือ 500,000ดองแล้วกัน ต่อรองกันสักพักเค้าก็ลดให้จริงๆ ^^ แล้วก็จ่ายเงินนัดแนะเวลาบ่ายโมงวันพรุ่งนี้อย่างเรียบร้อย


แล้วก็ถึงเวลาหิว ก็ออกไปหาอะไรกินหน่อยมื้อแรกที่ซาปา ก็เดินไปที่ตลาดซาปาหน่อย ที่เมืองซาปาเป็นเมืองเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องมีแผนที่ก็ได้ เอาแผนที่ของโรงแรมมาก็พอแล้ว เดินๆ หาอะไรไม่เจอถามเค้าก็ได้ง่ายดี เดินไปไม่นานก็จะจำได้เอง เพราะเมืองเล็กมาก อันนี้พอเดินจากที่พักมาลงบันไดมาเรื่อยๆ เพื่อไปตลาด



แล้วก็เดินไปตามถนนเรื่อยๆ นี่เราอยู่เวียดนามจริงๆหรอเนี่ย



แล้วเราก็ถามทางเค้าที่แยก ก็เลี้ยวขวาเดินไปเรื่อยๆ เราก็เจอกะ Sapa Market อย่างง่ายดาย อันนี้ถ่ายจากมุมที่เราเข้ามาในตลาดแล้ว ตลาดสกปรกไม่แพ้ของไทยเรา



กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เออ นี่ชั้นอยู่เวียดนามจริงๆหว่ะ แถมคิดไปถึงเมืองไทยอีกต่างหาก (ประเทศฝาแฝดชัดๆ)



แล้วเราก็ไปถึงที่มีขายของกินมากมาย แล้วก็ตัดสินใจลองกินดูที่ตลาด เพราะเคยอ่านเจอว่าอร่อย



ที่นี่เค้ามีเมนูมาให้ด้วย เราก็เลยลองสั่ง Fried Pork with Mushroom หรือหมูผัดเห็ดกะผักนั่นเอง ซึ่งเค้าคิดจานละ 40,000ดอง จากตอนแรกที่เค้าเรียกมา50,000ดอง พอพูดว่า "แหยมแย้" ขำกันเลยลดให้ เราพยายามต่อเพิ่มอีก เจ๊ไม่ลดเพิ่มให้เลย ก็เลยเออถือว่าช่วยชาวบ้านก็ได้วะ พอผัดเสร็จเอามาให้เท่านั้น จานแค่นี้ 80บาท แมร่งโกงกรูชัดๆ ท่องไว้ๆ ช่วยชาวบ้านๆๆ .. พอชิมดูเท่านั้น เห้ยที่นี่เค้ามีแจกเกลือฟรีเรอะ สาดเกลือลงไปทำไมเยอะแยะฟระ



แล้วก็ลองสั่งเฝอไก่มาอีกชาม 15,000ดอง อันนี้ต่อไม่ได้เลย ชามนี้รสชาติแย่มากๆ เนื่องจากผงชูรสเยอะมากจนเกิดความประหลาดของน้ำแกงเลยทีเดียว ชนิดที่ว่าหลังจากชามนี้ไม่มีใครยอมกินเฝออีกเลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ (เรากินไปแค่คำเดียวเท่านั้น)


อย่างสุดท้ายก็ Fried Rice with egg (2 eggs) หรือข้าวผัดใส่ไข่สองใบนั่นเอง อันนี้ไม่ลดให้อีกแล้ว 20,000ดอง ไมร้านนี้มันขายของแพงจังวะ ถ้าเทียบกะว่าเป็นแค่ตลาดอะนะ สำหรับชามนี้เป็นอันเดียวที่เราเอามือปิดไม่ให้ใส่ผงชูรสอีกต่อไป ทำให้เป็นชามเดียวที่ทุกคนกินได้ และรสชาติแย่น้อยที่สุด แต่สรุปว่าไม่แนะนำให้มากินในตลาด น่ากลัวมากๆ



หลังจากผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายของมื้อแรกในซาปา เราก็ต้องกินอย่างอื่นเข้าไปแก้ตามสไตล์เรา เดินย้อนกลับไปทางโรงแรมที่เราพักกันอีกครั้ง เพื่อไปกินเบเกอรี่ล้างท้อง ร้านนี้เป็นร้านแนะนำของทุกคนเลยที่มาซาปา เราก็ตามรอยมาแบบไม่มีหัวคิดอีกเช่นเคย นี่ทางเข้าหน้าร้าน



ถ้ามองจากมุมด้านนอกร้าน ถ้าฝนไม่ตกเค้าจะเอาโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ตามสไตล์ที่พวกฝรั่งชอบนั่งมาตั้งไว้ ให้คนสามารถมานั่งด้านนอกได้



เลยรู้ว่าร้านนี้ก็มีที่ฮานอยนะ อยู่ถนน Nguyen Van Huyen น่ะเอง



เข้ามาเห็นชื่อร้าน โชว์หลา



หันไปซ้ายมือ โอ้ว ตู้เค้กที่ใฝ่ฝัน



เค้ก คุ้กกี้ และขนมปังที่นี่ ราคาจะประมาณ 8,000-20,000ดอง ไม่แพงเลย เมืองไทยคงหารสชาติแบบนี้ในราคาเท่านี้ยากอยู่ (คือมันก็มีอร่อยกว่านี้อ่ะนะ แต่มันก็แพงกว่านี้หลายเท่าอยู่)



หลังจากไปยืนชี้ๆ กันที่หน้าตู้เค้กเรียบร้อย สักพัก พนักงานก็เอามาเสริฟที่โต๊ะ น่ากินมากๆๆๆๆ ในความคิดเรานะ เราว่าชิ้นสีดำกลมๆ นั่นอร่อยที่สุดในสามชิ้นนี้ (ราคา18,000ดอง) รองลงมาก็สีเหลืองๆ กลมๆ นี่ ราคา 14,000ดอง (สามารถไปดูชื่อได้ในใบเสร็จหรือรูปที่ถ่ายในตู้เค้ก) ส่วนชิ้นบน (18,000ดอง) เค้กอันนี้ไม่ใช่ว่าไม่อร่อย ตัวช็อกโกแลตอร่อยมาก แต่ตัวขนมปังมันอ่ะที่เป็นชั้นๆ (บอกไม่ถูก พอดีว่าทำไรไม่เป็น กินเป็นอย่างเดียว แต่ก็เรียกไม่ถูกอยู่ดี) มันไม่ค่อยอะ ตรงนี้เองที่ทำให้คะแนนถูกตัดไปเยอะสำหรับชิ้นนี้



ช็อตเด็ดอยู่ตรงนี้เอง เมื่อพนักงานมาเสริฟเสร็จเพื่อนผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาก็ถามพนักงานว่ามีอูกราแตงมั้ย (เพราะกะจะลองสักหน่อย) เป็นภาษาอังกฤษ พนักงานตอบกลับมาว่า "Can you speak English?" เพื่อนถึงกับทำน่าเซ็งเลิกถามไปเลย จะบอกว่าจริงๆ แล้วเพื่อนคนนี้สำเนียงภาษาอังกฤษดีมากไม่แพ้เจ้าของภาษาเลย แต่ด้วยความที่พนง.ร้านฟังไม่เข้าใจ อาจจะด้วยกะลังเสริฟหรืออะไรสักอย่าง ขาดสติไป เห็นหน้าเรากระเหรี่ยงๆ เลยคาดว่าที่เราพูดออกไปคงไม่ใช่ภาษาสากลแน่นอน เพราะงั้นไม่ต้องเสียเซลฟ์นะเพื่อน


แล้วเราก็สั่งชาคาโมมายกะช็อกโกแลตร้อน 2แก้ว ก็มาเสริฟ ก็เป็นอย่างที่เห็นนี้ ช็อกโกแลตร้อนรสมันได้ใจมากๆ เข้มข้นมากๆ คุ้มมากๆแก้วนี้



อันนี้ชา หอมกรุ่น ร้อนๆ



หมดไปเพียง 200กว่าบาทเท่านั้น คุ้มมากๆ แต่ที่เวียดนามนี่กินร้านไหนก็ไม่เห็นมี service charge สักร้าน คิดราคาตามที่สั่งเป๊ะๆ ดี ทำให้เราควบคุมเงิน(ฝืด)ได้สบาย





>>>อ่านตอนต่อไป ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 3-2 ซาปา ละเลียดบรรยากาศ สูดอากาศ และซึมซาบวิวทิวทัศน์<<<


Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 6 มีนาคม 2551 16:55:11 น. 1 comments
Counter : 590 Pageviews.

 
อยากไปที่นี่บ้างจัง สวยมากเลยค่ะ


โดย: jirew วันที่: 15 มีนาคม 2551 เวลา:19:08:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SimVK
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคน
มีอะไรก็หลังไมค์มาได้^^
Friends' blogs
[Add SimVK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.