Group Blog
 
All blogs
 
ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-3 ฮานอย นี่หรือ cha ca!!!!

>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-1 สุวรรณภูมิ ดินแดนของพนักงานหน้า...<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-2 ฮานอย เดินทาง หาที่พัก<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 1-3 ฮานอย กินๆ นอนๆ<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-1 ฮานอย เดิน เที่ยว ถ่าย วิ่ง Amazing Race<<<
>>>ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-2 ฮานอย ถึงแล้วจริงๆนะ<<<




หลังจากเปลืองลิ้นไปกับไอติมแท่งรสประหลาด (แต่แก้ด้วยไอติมโคนเรียบร้อย) ก็เดินๆและก็เดินไป water puppet theater เพราะจะไปซื้อตั๋วดูหุ่นกระบอกน้ำกัน ระหว่างทางก็ผ่านที่นี่



ไม่มีเวลามากนัก แล้วเราก็เดินต่อไป มองไปเห็นสิ่งนี้ ( ตรงไหนไม่ได้พูดที่มาที่ไปหรือประวัติใดๆ ก็คือไปหาอ่านประวัติหรือที่มาที่ไปกันเอาเอง ทริปนี้เราไม่ได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ อย่างที่บอกเป็นครั้งที่4 ไม่ใช่วิชาโปรด)



ขณะนั้นเวลาประมาณบ่าย3แล้ว มาถึงสะที



มองไปแถวยาวเหยียดก็ยืนต่อแถวกัน เพื่อนในกลุ่มผู้มีภาษาเป็นเลิศ (มีกันอยู่แค่สามคน มีเรา เจ๊แม่ลูกอ่อน นี่ก็คือคนที่เหลืออีกคนนั่นแหละ) ฉลาดสุดเดินไปดูแถวช่องขายตั๋วจึงพบว่าตั๋ววันนี้หมดแล้ว ให้จองของวันพรุ่งนี้แทน พลาดอีกครั้ง เอาเหอะวะ กินไอติมบ้าๆ นั่นแล้ว ไม่ได้ดูหุ่นกระบอกน้ำก็คงไม่ได้แปลว่ามาไม่ถึงฮานอยอีกหรอกนะ 555



เปลี่ยนแผนเดินข้ามสะพานแดงไปวัดหงอกเซินทันที



เดินเข้าไปจะเจอ ที่นี่มักจะสร้างเป็นแนวๆ แบบนี้เหมือนๆ กันหมดเกือบทุกวัดเลยนะ แบบต้องผ่านซุ้มเข้าไปไรงี้



เดินเข้ามาก็จะเจอสิ่งนี้



หลังซุ้มนี้ไปจะเป็นที่ขายตั๋วเข้าวัดด้านใน ใครที่แค่จะมาถ่ายรูปที่สะพานก็ไม่ต้องซื้อตั๋ว (ค่าเข้าวัดคนละ 3,000ดอง)



เดินผ่านสะพานแดง เข้ามาถึงภายในวัดก็จะมีคนไหว้เจ้ากันมากมาย เบียดเสียด เหมือนไปวัดเล่งไน่ยี่



ป้ายนี่เค้าก็ไหว้กัน



มีตู้ให้หยอดตังด้วย หลายตู้เลย สามารถหยอดเงินทำทานได้



แล้วก็มีเจอเต่า รู้ว่าทุกคนรู้ประวัติแล้ว ส่วนคนไม่รู้ก็สามารถไปแอบฟังไกด์ชาวไทยที่นั่นได้ คนไทยเยอะมากๆๆ ทุกๆก้าวที่เดินจะพบเจอคนไทยตลอดเวลา จนบางคนที่ป่วยง่าย (คนป่วยง่ายพอเจออุณหภูมิต่ำ>>เป็นหวัด>>กินยาแก้แพ้เพื่อลดน้ำมูก>>ง่วงๆ>>เบลอๆ) อาจคิดว่านี่เราอยู่ที่เวียดนามทาวน์ในเมืองไทย (คล้ายๆไชน่าทาวน์)



ออกมานอกตัววัด แต่ยังอยู่บริเวณวัด จะเจอคนจับกลุ่มเล่นเลี้ยบตุ่ย เอ้ยไม่ใช่ เล่นไรสักอย่างที่น่าจะเป็นหมากรุก เล่นไปสูบไป เหม็นนะว้อยย



หลังจากแอบฟังไกด์คนไทยพล่ามในวัดเสร็จก็ออกเดินเพื่อไปกิน cha ca ก็เดินๆๆๆ ข้ามถนน ข้ามๆๆๆ เดินๆๆๆ เสียงแตรรถที่นี่ที่เคยได้ยินมาบ่นกันว่าหนกขูน่ารำคาญ พอเรามาเจอเข้าจริงๆ ก็พบว่ามันไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้น ไม่ได้เสียงดังขนาดนั้น เราเฉยๆ นะ ทั้งที่เราก็ไม่ได้เคยไปอยู่อินเดียเป็นปีแบบเพื่อนผู้ชำนาญภาษา และก็ไม่เคยไปอยู่พนมเปญ4เดือนแบบเจ๊แม่ลูกอ่อน (คนเดียวกะเอาเสื้อเก่าเช็ดตัวนั่นแหละ) รู้สึกว่าการที่เค้าบีบแตรก็เพื่อให้เรารู้ว่าเค้ามาทางนี้แล้วนะเว้ย ระวังกันให้ดีๆ ไม่ได้บีบกันด้วยอารมณ์เมิงอย่าแซงออกมาแบบบ้านเรา (รึเปล่า??) คือถ้าเราอยากได้ยินเสียงแตร เราถึงกับต้องตั้งใจฟังเสียงแตร เราถึงได้ยิน ขนาดนั้นเลย.. นี่เจอต้นไม้ใหญ่กลางถนนอีกแล้ว อันนี้โค้งด้วย



แล้วเราก็มาถึง cha ca la vong เป็นร้านที่ลงในหนังสือ 1,000 Places to See Before You Die



โต๊ะข้างล่างไม่มีคนเลย สภาพเหมือนบ้านคนมากเลย



เลยขึ้นข้างบน ไม่มีคนอยู่ดี สงสัยเพิ่งบ่าย4 พอนั่งกันเรียบร้อยแล้วพนง.ก็เอาไอ้เจ้านี่มาวางที่โต๊ะ



เราก็โอเค ยกมาเลย แล้วก็สั่งน้ำเปล่ากิน หายไปสักพักก็ยกมาตั้งเรียงรายบนโต๊ะ



แล้วก็ยกเตาร้อนๆ มาตั้ง มีปลาผัดกะผักอยู่ ควันฉุย น้ำมันเยิ้ม เวลากินก็มั่วสุดๆ ก็ตักผัก (ที่ไม่ใช่ผักชี) จากในถ้วยซึ่งมีผักหลายประเภทอยู่ ไปผัดกะปลาในกระทะ แล้วถ้วยส่วนตัวก็ตักเส้นขนมจีนใส่ถั่วใส่ผักชีใส่น้ำจิ้มรอ แล้วก็ตักปลากะผักที่อยู่ในกระทะมาใส่ถ้วยส่วนตัว แล้วก็กินเข้าไป



ปลามีน้อยมาก เลยต้องเน้นกินผักแทน ผักเติมฟรีเรื่อยๆ เห็นบางโต๊ะเติมปลา ทีแรกนึกว่าฟรีเลยเรียกเค้ามาถาม เค้าบอกถ้าเพิ่มปลา คิดเพิ่มเหมือนมาอีกคน คือ 90,000ดอง เลยขอถั่วแทน พอกินกันจนอิ่ม (แอบเสียดาย ถ้ามันถูกกว่านี้เราคงเอาไปโยนถังขยะแล้วเผ่นออกจากร้านนานแล้ว) ก็เริ่มคิดกันเสียงดังๆ ว่า เห้ยมันอร่อยตรงไหนวะ ปลาถูกๆ งกใส่มาให้ในกระทะนิดเดียว คือแบบว่ากินเมืองไทย 540บาท (3คน) นี่ปลาเป็นตัวๆ อะ ตัวค่อนข้างใหญ่ด้วยอะ กินแล้วก็เหมือนได้แต่กลิ่นผัก มันก็มัน ไม่เข้าใจว่าเป็น1ใน 1,000 Places to See Before You Die ได้ยังไงฟระ


ก็บ่นไปอย่างนั้น กินเสร็จแล้วนี่ เรียกมาเก็บเงินปรากฎว่าทั้งหมด 297,500ดอง ที่คิดว่าถั่วกะหนมจีนฟรีนั้นจริงๆไม่ฟรี เค้าคิดจานละ2,500ดองต่อการเติม 1ครั้ง น้ำก็ขวดละหมื่นดอง (ถ้าจำไม่ผิด) โห ร้านก็โทรมๆ ถั่วเน่าๆนั่นคิดจานละ 5บาทเลยเรอะ (จานกระจิดริด) ไอ้เจ๊ที่เขียนหนังสือนั่นมันได้ค่าหัวคิวเป่าวะ ลูกค้าในร้านคนอื่นคงสงสัยเหมือนที่เราสงสัย อีกครั้งที่เพื่อนเหลือบไปเห็นโต๊ะอื่นเค้ามีน้ำจิ้มกะปิ แต่โต๊ะเราเค้าไม่ได้เอามาให้ เอาเข้าไป ไม่ละ พอๆๆ ไม่มีการกินแก้อะไรทั้งนั้น ท้ายที่สุดเราจึงเข้าใจว่าทำไมมันจึงลงหนังสือ 1,000 Places to See Before You Die เพราะเค้าให้มา see ไม่ได้ให้มา eat ไง มาseeพวกฟายอย่างเราที่มานั่งกินแหงๆ (555 ขำๆ นะ คือไม่ใช่ว่าคนมากินร้านนี้ฟายหรอกนะ แต่แค่มันไม่ถูกปากเราและเพื่อน และในความคิดเราคิดว่าแพงไปไม่คุ้มกะที่กินเข้าไป เพิ่มตังนิดหน่อยไปกิน sen คุ้มกว่า.. ทริปนี้ต้องตัดร้าน sen ทิ้งไปเพราะเปลี่ยนไปซาปาทำให้เวลาไม่มีพอ เลยอดไปลิ้มลอง)


หลังจากหนีออกมาจากร้าน ก็เดินย้อนลงมาแถวทะเลสาบอีกครั้งเพื่อไปโบสถ์เซนต์โจเซฟ ก็ถ่ายรูปเป็นที่ระทึก



โบสถ์แม้จะดำๆ แต่ก็สวยเหมือนเป็นรูปวาดเลย



จบการเที่ยวเมืองฮานอยตลอดวันนี้เพียงเท่านี้




>>>อ่านตอนต่อไป ชีวิตราคาถูก ฮานอย-ซาปา ตอน 2-4 ฮานอย มุ่งสู่ซาปา<<<



Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2551 20:04:36 น. 0 comments
Counter : 371 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SimVK
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคน
มีอะไรก็หลังไมค์มาได้^^
Friends' blogs
[Add SimVK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.