Merry Clinique... ความประทับใจครั้งใหม่กับคลินิกข์ เมื่อสัปดาห์ก่อนเราได้รับเชิญไปเยี่ยมชมเคาท์เตอร์คลีนิกข์โฉมใหม่ ที่พารากอนมา เคาท์เตอร์ใหม่สวยมากๆ สะอาดตา และแบ่งสัดส่วนชัดเจน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการจัดวางสินค้าและรูปแบบการนำเสนอหรือบริการ ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศการซื้อของของสาวนักช้อปได้เลยล่ะ ในเคาท์เตอร์รูปแบบใหม่นี้ ทางคลีนิกข์ได้ใช้คอนเซปท์ "Service As You Like It" ซึ่งเป็นเคาท์เตอร์คอนเซพท์ล่าสุดจากคลีนิกข์ ซึ่งที่พารากอนนี้เป็นแห่งแรก ในเอเชียที่เปิดในห้างสรรพสินค้าอีกด้วย จุดน่าสนใจ จากการช้อปปิ้งแบบเดิมๆ เครื่องสำอางค์ สกินแคร์มีจัดวางแค่มุมเดียว แต่ New concept นี้ ได้จัดวางใหม่หมด แบ่งออกเป็นโซนๆ หลักๆจะแบ่งเป็น 3 โซนย่อย คือ Full service - Guide self service - Self sevice Zone แรก Full service โซนนี้จะมี BA คอยบริการเต็มที่เลย เหมาะกับเรามาก เพราะไม่ค่อยรู้ว่าสินค้าตัวไหน เหมาะกับผิวเราบ้าง บีเอจะคอยแนะนำ และก็ยังมีการวิเคราะห์สภาพผิว ในโซนนี้เราจะพบกับ Diagnostic Mirror (หรือกระจกแห่งความจริง 555) เป็นเครื่องมือที่แพทย์ตามคลิกนิกผิวหนังใช้กันนั่นแหละ ส่องปุ๊ปเห็นปั๊บ ความจริงปรากฏ - -' ต่อกันที่ Guide self service zone ในโวนนี้จะมี skincare wall, Colour wall และ Colour Bar skincare wall นี่เราชอบมากเลย คือเค้าจะแบ่งตามสภาพผิวและความกังวล จะเลือกใช้สินค้าได้ตรงกับผิวมากขึ้น และก็เรียงลำดับให้ก่อนหลังด้วย โซนนี้ บีเอจะคอยมองห่างๆ ไม่ค่อยมายุ่งกับเรามาก แต่ถ้าอยากขอคำปรึกษาก็ หันไปสบตาได้ทันทีเลย ^ ^ สุดท้ายก็เป็นโซน self service จะรวมสินค้าเอาไว้ให้สาวนักช้อปที่ต้องการความรวดเร็ว ได้หยิบจับเพื่อซื้อสินค้าได้ทันที อีกจุดนึงทีเราชอบนั่นคือการบอกราคาืทุกชิ้น เขียนแปะไว้ชัดเจน เพราะเราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบถามราคาบีเอเท่าไหร่ นอกจากเกรงใจแล้ว บางแบรนด์พอบอกราคามาแล้วแพงกว่าที่คิดไว้ ไม่ซื้อก็โดนสายตารุมทำร้ายจิตใจ - -' แปะราคาไว้ ให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เลือกซื้อได้ง่ายขึ้นแบบนี้โอเคเลยล่ะ ไหนๆก็ไปเดินเยี่ยมชมแล้วก็เลยแวะวิเคราะห์สภาพผิวซักหน่อย BA เห็นถึงปัญหาสิวของเรา ก็เลยอธิบายถึงการเกิดสิวในรูปแบบต่างๆ และการป้องกัน รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเราให้ฟังด้วย การวิเคราะห์ผิวใช้เวลาไม่นานมากค่ะ ประมาณ 10 - 15 นาที ฟังแล้วได้ความรู้เพิ่มด้วย หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยกับคุณเอ๋ ถึงคอนเซปท์โฉมใหม่ของคลีนิกข์ คุณเอ๋ได้มีเซอร์ไพรส์เล็กๆด้วยของขวัญ Merry Clinique ที่มีให้เลือกมากมาย จัดเป็นเซทของขวัญ พร้อมกับอวยพรปีใหม่ซึ่งกันและกัน จากอีเว้นท์ครั้งนี้ก็เดินออกพร้อมความประทับกับคลีนิกข์ ครั้งหน้าคงได้ควงคู่มากับคุณแม่มาเยี่ยมชมเคาท์เตอร์แห่งนี้ใหม่ เพราะคุณแม่เป็นคนนึงที่รักแบรนด์นี้มากๆเลยล่ะ และเซท Merry Clinique ก็จัดไว้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ เมคอัพ หรือน้ำหอม ในราคาที่เรียกได้ว่า ลดแหลก และคุ้มสุดๆ บางเช็ทลดเกินครึ่งเลยก็มี ก่อนกลับก็แวะทานข้าวและเม้าท์ๆกันตามประสาสาวๆ ที่หน้าพารากอน มีน้องกระต่ายมาตั้งแล้ว น่ารักมากๆ เลยขอแชะๆกันก่อนกลับ กลับบ้านมาก็แกะกล่องอวดโฉมของขวัญที่ได้มากันซักหน่อย เราได้เซททดลองหลังจากการวิเคราะห์สภาพผิวด้วย ที่ได้มาเป็นเซทสำหรับ คนผิวมันและคนเป็นสิวค่ะ ลองใช้แล้วก็ดีเหมือนกันนะ หน้าไม่มันแต่ชุ่มชื้นดี และก็มีพวงกุญแจน่ารักๆติดมือมาด้วยล่ะ ส่วนเซทของขวัญที่เราเลือกมาเป็นเซทนี้ค่ะ Kisses from the heart เซทนี้ราคาเต็มอยู่ที่ 3,150 แต่จัดเซทแล้วเหลือแค่ 2,500 เท่านั้นเอง คุ้มสุดๆ ในเซทก็ประกอบไปด้วย น้ำหอม Happy Heart Perfume Spray 50ml. Happy Heart Body Cream 75ml. และ 2-Mini Long Last Glosswear SPF15 with Keychain: Air Kiss & Clearly Pink คีย์เชน น่ารักมากๆ สะดวกมากๆเลย สำหรับข้อมูลของเซท Merry Clinique อื่นๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ Merry Clinique gift set แล้วพบกันใหม่บล๊อกหน้าจ้า... หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 22 พฤศจิกายน 2553     Last Update : 31 ธันวาคม 2553 11:58:40 น. Counter : 1560 Pageviews.   6 comment Share Tweet

ในที่สุดก็เป็น 1 ใน Eucerin Beauty Columnist เมื่อสองเดือนก่อน เราได้เข้าร่วมโครงการค้นหา Beauty Columnist กับทาง Eucerin ค่ะ กติกาคือให้เขียนบทความส่ง บทความ 5 บทความที่ได้รับ คะแนนสูงสุดจากทางกรรมการก็จะได้รับของรางวัลไป วันประกาศผลก็ได้รับเมสเสสจากเพื่อนว่ายินดีด้วยน้า...เราก็งงๆ เอ๊ะ ยินดีเรื่องอะไรหว่า แล้วก็นึกออก เลยรีบเปิดเวบ Eucerin ดูเลย ดีใจสุดๆได้รางวัล Grand Prix ด้วย และเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางEucerin ก็ได้จัด Mini party กับเหล่า Beauty Columnists ทั้ง 5 คน ในงานมีพี่ปูเป้มาเข้าร่วมด้วยค่ะ งานจัดที่ร้าน Peony House อยู่สีลมนี่เอง ร้านเล็กๆ น่ารักๆ ร้านนี้ดังเรื่องชามากๆค่ะ เราสั่งชาสตอเบอร์รี่มา อร่อย หอม หวานมากๆเลย พี่ปูเป้สั่งชาเขียว ก็น่าทานมากๆ หลังจากพูดคุยแชร์เรื่องความงามกันพอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลามอบรางวัล รางวัลที่ได้มาเป็น IPAD 16GB wifi, Eucerin Giftset 10,000 Baht และ spa voucher from TRIA มูลค่า 2,200 บาทค่ะ ในตะกร้ากิฟท์เซทมีแต่ของดีๆทั้งนั้นเลยค่ะ เอาไว้โอกาสหน้าคงได้เอามารีวิวให้ชม ตอนนี้ติดใจ Eye cream และ Day cream มากๆค่ะ ใช้ดีอยากบอกต่อ ตอนนี้ผลงานการเขียนของเหล่า Beauty Columnists ก็ทยอยกันออกมาแล้ว เพื่อนๆสามารถเข้าไปอ่านกันได้ที่นี่เลยค่ะ หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 01 พฤศจิกายน 2553     Last Update : 31 ธันวาคม 2553 11:57:42 น. Counter : 932 Pageviews.   10 comment Share Tweet

แต่งหน้าแต่งตัวไปให้สัมภาษณ์กับ Naturegift เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทาง Naturegift ติดต่อนัดสัมภาษณ์เกี่ยวกับ ความมั่นใจในการทำงาน และวิธีการดูแลตัวเอง สถานที่เป็นที่ร้านของคุณเวฟ ชื่อร้านว่า Baby Puff เป็นร้าคาเฟ่น่ารักๆสไตล์ญี่ปุ่นตั้งอย่ที่ J avenue ทองหล่อ ระหว่างรอพิธีกรก็เดินไปมองๆขนม น่าทานทุกชิ้นจริงๆ แต่เดี๋ยวจะเลอะเทอะ รอให้เสร็จงานก่อนค่อยสั่งดีกว่า เลยสั่งแค่น้ำ Strawberry Lemonade มาแก้วนึง อร่อยเลยล่ะไม่หวานไป ซ่ากำลังดี เสื้อผ้าและเมคอัพที่เลือกไปวันนี้ ชุดมาจากร้านเราเองจ้ะ ส่วนเมคอัพเน้นดวงตา กรีดไลน์เข้มๆ ติดขนตาปลอมบนและล่าง เพิ่มวอลุ่ม เพราะวันนี้ถ่าย outdoor ช่วงเที่ยง แดดน่าจะแรง เลยต้องเน้นตาหน่อย ไม่งั้นคงกลืนหายไปกับแสง แล้วก็เล็งไว้ไม่ผิด ถ่ายออกมาผิวสะท้อนแสงจริงๆ ในช่วงสัมภาษณ์ คุณตุ๊กตาพิธีกรในครั้งนี้มากับพี่เกียรติ ตากล้องฝีมือดี จาก Hisoparty Magazine คุยกันบรรยากาศเป็นกันเองมากๆ คำถามส่วนใหญ่จะถามเรื่องงานที่ทำในปัจจุบันว่ามีอะไร ทำหน้าที่อะไร แล้วมีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง มุมมองต่างๆในหน้าที่การงาน ประมาณนี้จ้ะ หลังจากพูดคุยกันเสร็จ ก็มีขนมอภินันทนาการจากร้านมาเสริฟให้ชิม อร่อยทุกชิ้นจริงๆ ชอบที่สุดก็พายไข่ค่ะ อร่อยมากๆ แฮมชีสก็อร่อย ชอบทุกชิ้นเลยจริงๆ ไม่หวานเกินไป แป้งพัพเนื้อกรอบกำลังดี หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปนิดหน่อยเพื่อประกอบบทสัมภาษณ์ค่ะ สำหรับบทสัมภาษณ์จะลงที่หน้าเวบไซต์ www.beauty-mission.com เร็วๆนี้จ้า หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 24 กันยายน 2553     Last Update : 31 ธันวาคม 2553 11:57:51 น. Counter : 1390 Pageviews.   24 comment Share Tweet

ความภูมิใจเล็กๆ ใน Thailand Blog Awards 2010  ช่วงนี้ยุ่งมากถึงมากที่สุด เลยมาอัพเดทเลทไปมาก ขออภัยทุกๆท่านด้วยจ้ะ เมื่อปลายเดือนกรฏาที่ผ่านมา เราเห็นเพื่อนๆบล็อกเกอร์หลายๆคนลงสมัครใน การประกวดบล็อก Thailand Blog Awards มีแต่คนคุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น เราเลยลองส่งดูบ้าง ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะคนประกวดค่อนข้างเยอะมาก สาขาที่เราส่งไปคือ Shopping & Beauty Blog  สำหรับการตัดสิน รอบแรกเค้าให้โหวตกันค่ะ โหวตเพื่อเข้ารอบ 1- 10 บล็อกคะแนนสูงสุด ในช่วง 10 กว่าวันที่เหลือเวลา ก็ได้แรงโหวตจากเพื่อนขาประจำบล็อก เพื่อนๆที่เพิ่งเข้ามาแวะอ่าน และที่สำคัญได้แรงจากเพื่อนๆบล็อกแก๊งค์มาเยอะมากๆ ในรอบโหวตรอบแรกเราก็ติด 1-10 ได้อันดับที่ 8 ค่ะ ตอนนั้นดีใจสุดๆ เป็น 1 ใน Top 10 กับเค้าด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดตามงานประกาศผลตัดสิน รอบสุดท้าย ซึ่งตัดสินโดยคณะกรรมการ จนมีพี่ทอฟฟี่แวะมาโพสท์ที่หน้า Facebook ถึงได้รู้ว่าเราติด 1 ใน 4 รางวัลด้วย (ตอนนั้นเค้าไม่ประกาศว่าใครได้รางวัลอะไร แต่ให้ไปลุ้นหน้างานกันเอง) ตอนนั้นก็ดีใจแบบ งงๆ เห้ย...บล็อกเราถูกใจกรรมการด้วย ดีใจๆ และแล้วก็มาถึงวันงานค่ะ วันที่ 26 สิงหาคม จัดที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ที่นั่งไม่ค่อยมี เลยนั่งๆยืนๆตลอดงาน ก่อนอื่นก็แวะลงทะเบียนเพื่อติดสติกเกอร์สีส้มๆ (ซ้าย - รูปจากพี่ปูเป้ค่ะ) พิธีกรไฟแรงจากเนชั่น เป็นผู้ดำเนินรายการค่ะ ตอนเราไปถึงก็ประมาณ 1 ทุ่มแล้วล่ะ เพื่อนๆบล็อกแก๊งค์มากันครบแล้ว ของรางวัลในค่ำคืนนี้ค่ะ ถ้วยรางวัลสวยดีเหมือนกันน๊า (รูปจากพี่อาคุงกล่อง) และแล้วก็ถึงเวลาของ Shopping & Beauty Blog จ้า รางวัล Popular Vote เป็นของพี่ปูเป้  //pupesosweet.bloggang.com รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่พี่มดดี้ //cinnamongal.bloggang.com รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ เราเอง อิ๊วววว  //kirari.bloggang.com และ...รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ พี่เอ๋ สาวสวยคนเก่ง //aprincess.bloggang.com  ภาพหมู่ กับเพื่อนๆบล็อกเกอร์หลากค่ายที่ได้รับรางวัลค่ะ ซ้ายบน - ถ่ายกับพี่ปูเป้ คนอาร้ายย หน้าใส ผิวเด้ง ทำเอาเราอายไปเลย ขวาบน - ถ่ายกับพี่มดดี้คนสวย เก่งไปทุกเรื่อง ซ้ายล่าง - รูปหมู่จากกล้องพี่เอ๋ค่ะ ขวาล่าง - พี่อาคุงกล่องได้รางวัลรองชนะเลิศหมวด Entertainment กับ 2 สาวหมวดบิวตี้ การเขียนบล็อกสำหรับเราคือการจดบันทึก การแชร์ประสบการณ์ รางวัลคือโบนัสอย่างนึงที่ทำให้เรารู้สึกว่า มีอีกหลายๆคนที่ชื่นชอบในบล็อกของเรา แต่กำลังใจส่วนใหญ่ก็มาจากเพื่อนๆที่เข้ามาพูดคุย มาคอมเม้นท์ในบล็อกนี่แหละ ทำให้เราอยากเขียนไปเรื่อยๆ และสนุกกับการแชร์ประสบการณ์ และอีกหนึ่งเวบไซต์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการเริ่มทำบล็อกของเรา Jeban.com เป็นจุดเริ่มของการรักการแต่งหน้าของเรา จนรวบรวมนำมาเขียนเป็นบล็อก สุดท้ายนี้เราขอขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคนที่ร่วมใจกันเชียร์ให้ KiRaRi Blog  เป็นอีก 1 บล็อกที่น่าสนใจในด้านความงามนะคะ และขอบคุณThailand Blog Awards ที่จัดงานนี้ขึ้นมา ขอบคุณมากค่ะ หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 31 สิงหาคม 2553     Last Update : 15 มกราคม 2554 14:39:03 น. Counter : 4214 Pageviews.   33 comment Share Tweet

COVERMARK Workshop เก็บบรรยากาศและ trick เก๋ๆมาฝากค่ะ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เราไปร่วมงาน Workshop ของทาง COVERMARKมาค่ะ ชื่องานว่า "Jusme color workshop My True Color" งานนี้จัดที่ร้าน Q'Cafe ทองหล่อ ร้านน่ารักๆตั้งอยู่ชั้น 1 ที่ตึก Thonglhor Midtown (ชื่อยังกะ Tokyo Midtown แน่ะ) เมื่อเิดินเข้างานก็เจอมุมถ่ายภาพกับแบ๊คดรอปโลโก้ วันนี้เลือกชุดที่ร้านเราเอง สีเหลืองสดใส ให้เข้ากับงานซักนิด (ในบัตรเชิญมันเหลืองฟ้าๆ ก็เลยเอาซักหน่อย) ด้านข้างจะมีมุมเทสต์สีผิวที่เป็นผิวจริงๆของเรา โดย BA แต่ละคนจะเทสต์เฉดสีรองพื้น 6 สีบนท้องแขนของเรา แล้วดูว่าสีไหนกลืนไปกับผิวมากที่สุด โดยเราได้เป็นโทนสีเหลือง (Y) เมื่อได้โทนสีแล้ว ก็มาเทสต์บนหน้าโดยไล่ระดับความเข้ม ดูว่าเฉดไหนกลืนมากสุด ด้านเฉดสีเค้ามีโทน BN, BO, BP, YN, YO, YP สรุปแล้ว ผิวเราเข้ากับโทนเหลืองอมชมพู ได้ออกมาเป็นรุ่นนี้จ้า YP1 หลังจากนั้นก็เม้าท์แตก ถ่ายรูปๆๆๆตามประสาบล๊อกเกอร์บิวตี้ๆ ไม่นานนักพิธีกรก็เริ่มเปิดงาน โดยฉายวิดิโอแนะนำสินค้ารุ่นใหม่และ รองพื้นรุ่นต่างๆของ COVERMARK แต่ในวันนี้จะเน้นผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุด นั่้นคือ "Essence Foundation Liquid" ซึ่งจะดูจากโครงสร้างผิวที่แท้จริงหรือ skin undertone แบ่งออกเป็น 2 โทน Yellow Base และ Blue Base ในงานได้อธิบายว่าต่างกันอย่างไร เราขอสรุป คร่าวๆตามนี้จ้ะ Yellow Base หรือ warm tone คือกลุ่มผิวที่ได้รับอิทธิพลจากเส้นเลือดแดง ผิวจึงดูอบอุ่น มีสุขภาพดี Blue Base หรือ cool tone คือกลุ่มผิวที่ได้รับอิทธิพลจากเส้นเลือดดำ ผิวจะมีความกระจ่างใจ หลังจากรู้ผลสีผิวของตัวเองแล้ว ก็เดินไปรับผลิตภัณฑ์ ประกอบไปด้วย รองพื้น แป้งฝุ่นแบบรีฟิล ตลับแป้งฝุ่น และ ฟองน้ำเกลี่ยรองพื้น รวมๆีราคาแล้วก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ย (ประมาณ 4พันกว่าๆค่ะ) ตลอดงานวิทยากรชาวญี่ปุ่น อาเคมิ เซโนะซังได้บรรยายและสอนเทคนิคต่างๆ ในการแต่งหน้าโดยเน้นการลง Base make up เป็นหลักค่ะ หลังจากลบหน้ากันเรียบร้อยแล้วก็ลงมือแต่งหน้ากันอย่างสนุกสนาน วันนี้มาแชร์ทริคที่ได้จากการเวิร์คช๊อปครั้งนี้ซักเล็กน้อย ในการลงรองพื้นรุ่นนี้ เซโนะซังแนะนำให้หยด 1 หยดที่ฟองน้ำด้านกว้าง แล้วค่อยๆกดๆที่ใบหน้าบริเวณ หน้าผาก แก้ม และคาง แล้วหยดอีก 1 หยดที่ด้านแหลมของฟองน้ำ เพื่อทาบริเวณจมูกและส่วนที่เข้า ถึงยากค่ะ Review สำหรับรองพื้นรุ่นนี้ เนื้อเหลวค่อนข้างมาก ซึมไว ทาไม่นานก็เรียบเนียน ไปกับผิว ไม่เหนอะหน้า ปกปิดได้พอประมาณ ไม่ถึงกับปกปิดมาก เมื่อเวลาผ่านไป หน้าจะมันขึ้นเล็กน้อย แต่สีรองพื้นไม่เปลี่ยนค่ะ เยี่ยมเลย ติดทนใช้ได้เลย ไม่ผสมน้ำหอม ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เหมือนกัน ส่วนด้านฟองน้ำเกลี่ยรองพื้น เราเพิ่งเคยใช้ของยี่ห้อนี้ ปกติจะใช้ของ Lunasol ซึ่งเนื้อฟองน้ำค่อนข้างต่างกันมาก ของ Covermark เนื้อบางกว่า และรู้สึกว่า ไม่ค่อยดุดซับเนื้อรองพื้นมาก จึงสามารถหยดลงฟองน้ำเพื่อเกลี่ยผิวได้เลย แต่ก็ต้องกดซับประมาณ 2 ครั้งจึงจะเรียบเนียนค่ะ หลังจากลงรองพื้นแล้วก็เก็บรอยต่างๆด้วย Concealer เราแนะนำสุดๆเลยยี่ห้อนี้ เห็นมานานมากแล้วว่าครองอันดับ 1 ที่ญี่ปุ่นหลายปีซ้อน แต่ก็ไม่ได้ลองซักที เรามีปัญหารอยสิวค่อนข้างเยอะ จึงต้องลงคอนซีลก่อนรองพื้น และหลังจากลงรองพื้นแล้วก็ลงคอนซีลทับอีกชั้น สีที่ใช้เป็น โทนเหลือง เบอร์ 1 อ่อนสุดค่ะ เนื้อหนืดเล็กน้อย แต่ปิดได้เยี่ยมมาก เซโนะซังแนะนำให้ใช้นิ้วแทนแปรง ในการเกลี่ยคอนซีลค่ะ เพราะความร้อน จากร่างกายจะช่วยละลายเนื้อคอนให้เรียบเนียนกับผิวมากกว่านั่นเอง หลังจากนั้นก็ทาแป้งฝุ่นค่ะ ในการทาแป้งฝุ่น เซโนะซังก็มาสอนวิธีที่ถุกต้อง ซึ่งเราว่าดีมากๆเลย มาทำตามกันนะคะ... เวลาใช้แป้งฝุ่นให้กลับกระปุกแป้ง 1-2 ครั้ง แล้วบิดพัพเล้กน้อยกับตลับแป้ง (เหมือนปาดแป้งที่เกาะพัพเกินออกมาออกไปน่ะค่ะ) หลังจากนั้นก็ขยี้ฟองน้ำเพื่อให้แป้งเนียนไปกับพัพ ไม่เกาะเป็นหย่อมๆ ทำแบบนี้เวลาลงแป้งแล้วจะไม่ดูโบ๊ะ หรือวอกค่ะ จะได้ลุคธรรมชาติ ในการลงแป้งฝุ่นเช่นกัน เราจะลงจากล่างไปบน นั่นคือจะค่อยๆทาย้อนแนวรูขุมขน ไม่ใช่ตบๆวนๆนะคะ เมื่อทาแป้งแบบย้อนแนวรูขุมขน ผลที่ได้คือความเรียบเนียนค่ะ Review สำหรับแป้งฝุ่นตัวนี้เป็นแป้งโปร่งแสง ตบแล้วหน้าไม่วอกค่ะ พัพหนานุ่มมาก ใช้แล้วแฮปปี้ ดูอ่อนโยนกับผิวหน้าดีมากๆ ตัวตลับแป้งฝุ่น เราว่าไม่ค่อยสวย ค่อนข้างใหญ่สะดวกที่เปลี่ยนรีฟิลได้ง่ายแค่นั้นเอง หลังจากนั้นก็แต่ง Point make up กันอิสระค่ะ เราให้เซโนะซังเลือกเฉดสีให้ ได้ออกมาเป็นโทนน้ำตาลทอง อายแชโดว์สีสวยดีเหมือนกัน ตลับหรูดีด้วย แต่ไม่ค่อยวิ้งเท่าไหร่ คอเลคชั่นนี้ ไม่คิราริเลย 555+ หลังจากนั้นก็มีการจับรางวัลพิเศษ เป็น Lucky draw มีบัตรนวดหน้าพร้อม Gift voucher 3000 น้องดรีม พี่วรรณีและพี่นุ่น (คิคิ มาeditแล้นน) หนุ่มหล่อที่มาจับรางวัลก็เป็นพี่ป้องค่ะ เสื้อนำ้เงินเด่นมาแต่ไกลเลย หลังจากนั้นก็ได้เวลา แช๊ะ...แช๊ะ... หนุกหนานสุดๆ ขอชมทีมงานที่จัดนะคะว่าจัดงานได้ดีมากๆเลย สนุกและเป็นกันเองสุดๆ มีการเทสต์สีผิวให้ด้วย บรรยากาศ ขนมของหวาน วิทยากร พี่ๆ BA ทุกคนเริ่ดมาก เป็น workshop ที่ประทับใจมากๆอีกงานนึงเลยค่ะ หน้าสารบัญบล๊อก   Create Date : 25 สิงหาคม 2553     Last Update : 31 ธันวาคม 2553 11:58:33 น. Counter : 1987 Pageviews.   25 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com