제 세상 오신 걸 환영합니다~*
Group Blog
 
All blogs
 

บทที่13. เพราะว่า........ก็เลย........

หลังจากที่หายไปหลายวันเนื่องด้วยเหตุผลหลายอย่าง เพราะงั้น วันนี้ภาษาเกาหลีขอเสนอเรื่องการบอกเหตุบอกผลค่ะ (เข้าเรื่องกันดื้อๆงี้เลย)

คำแรกที่ขอนำเสนอ คือคำว่า 그래서 แปลว่า ดังนั้น/จึง/ก็เลย.../เพราะฉะนั้น เอาไว้ใช้ขึ้นประโยคใหม่เพื่อบอกผลจากประโยคก่อนหน้า ดูตัวอย่างประโยคแบบภาษาไทยก่อน

ปาร์ตี้มาก ก็เลยไม่มีเวลา

เปลี่ยนเป็นเกาหลีได้อย่างนี้

파티 많아요. 그래서 시간이 없어요.

ดื่มเบียร์มาก จึงอ้วนขึ้น (ตัวอย่างประโยคเฉยๆนะก๊ะ ไม่ใช่เรื่องจริง)

맥주를 너무 마셔요. 그래서 더 뚱뚱해요.

รักมาก ก็เลยห่วงมาก

아주 사랑해요. 그래서 아주 걱정해요.

^ ข้างบนนั้นเป็นแบบเด็กๆนะคะ ถ้าโตขึ้นมาหน่อยก็จะต้องรวมประโยคเหตุและประโยคผลให้เป็นประโยคเดียวโดยใช้รูป 아/어/여 서 ไปผันที่กริยาในประโยคบอกเหตุ ส่วนด้านหลัง 서 ก็เป็นประโยคบอกผลค่ะ

ปล. ตรงการผัน 아/어/여 서 นี้ ถ้าพื้นฐานการผันแบบ요 โอเคแล้วก็สบายเลยค่ะ หลักการเดียวกันเลย

มาดูกันค่ะ ประโยคบนเป็นแบบเด็กๆ และประโยคล่างจะเป็นแบบรวมเป็นประโยคเดียวนะคะ ใช้ตัวอย่างเดิมละกัน

ปาร์ตี้มากเลยไม่มีเวลา

파티 많아요. 그래서 시간이 없어요.

파티 많아 시간이 없어요.

ดื่มเบียร์มาก จึงอ้วนขึ้น

맥주를 너무 마셔요. 그래서 더 뚱뚱해요

맥주를 너무 마셔 더 뚱뚱해요

รักมาก ก็เลยห่วงมาก

아주 사랑해요. 그래서 아주 걱정해요.

아주 사랑해 아주 걱정해요.

พอจะเห็นมั้ยเอ่ยว่ามันแปลงร่างแบบไหน

วิธีการนะคะ ก็คือให้เอาVst ในประโยคบอกเหตุ(ประโยคหน้า) มาผันในแพทเทิร์น 아/어/여 서 โดยใช้หลักการเดียวกับการผันแบบโยฟอร์ม คือแบ่งVst ออกเป็น3กลุ่มตามสระที่ลงท้ายค่ะ

กลุ่มแรก Vstที่ลงด้วยสระ ㅏ,ㅗ ให้เติม 아서 ถ้าVst ไม่มีตัวสะกดก็รวบคำโลดค่ะ

กลุ่มสอง Vstที่ลงด้วยสระที่ไม่ใช่ ㅏ,ㅗ ให้เติม 어서 ถ้าVst ไม่มีตัวสะกดก็รวบคำโลดค่ะ

กลุ่มสาม กริยา 하다 ให้เปลี่ยนเป็น 해서 โดยอัตโนมัติค่ะ (วิธีการจริงๆคือ ต้องเติม 여서 แต่ว่า 하+여 มันผันพิเศษกลายเป็น 해 ก็เลยให้จำแบบอัตโนมัติเลยดีกว่าค่ะ ^^')

สำหรับการใช้จริงๆ ส่วนมากเวลาพูดก็ใช้แบบสั้นๆ เหลือแต่คำว่า서 ตรงกลางประโยคค่ะ จะเห็นได้บ่อยๆในเพลง ส่วนแบบเต็มๆนั้นก็ใช้บ้างเหมือนกันแหละ แต่น้อยค่ะ ลองนึกถึงคำว่า ดังนั้น/เพราะฉะนั้น ในภาษาไทยค่ะ ว่าเราใช้พูดในอารมณ์ไหน ^^

เด๋วไว้จะหาตัวอย่างในเพลงมาให้ดูกันนะคะ

การบอกเหตุผลที่จะสอนมีอีกอันนึงคือคำว่า 때문에 ใช้แบบนี้ค่ะ N+때문에 ตัวอย่างง่ายๆก่อน

너 때문에 เพราะเธอ

화장 때문에 เพราะการแต่งหน้า

전쟁 때문에 เพราะสงคราม

ถ้าจะนำมาแต่งเป็นประโยคก็ให้เอาประโยคที่เป็นผลต่อด้านหลัง แตมุนเน ค่ะ ตัวอย่าง

너 때문에 난 좋은 여자이고 싶어요.
ฉันอยากเป็นผู้หญิงที่ดีก็เพราะเธอ

오늘 너 넘 예쁘네요! วันนี้คุณสวยมาก
화장 때문에. เป็นเพราะการแต่งหน้าจ่ะ

การใช้ก็แบบนี้หน่ะค่ะ ถ้ามีโอกาสก็เอาไปใช้อะแด๊ปใช้กันตามใจชอบนะคะ สำหรับบทนี้ก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้ฮ่ะ

จบจนได้ อิอิ

(노력 때문에 เพราะความพยายาม)




 

Create Date : 28 มีนาคม 2550    
Last Update : 29 มีนาคม 2550 3:37:40 น.
Counter : 21404 Pageviews.  

บทที่12.ไม่ใช่ ไม่ใช่...ในภาษาเกาหลี

여러분 안녕하십니까?
สวัสดีค่ะทุกคน สบายดีป่าวคะ

ไม่พูดมากละกันวันนี้ ปวดฟันน่ะค่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า

วันนี้จะมาสอนเรื่องกริยา아니다 ค่ะ แปลว่า ไม่ใช่ เป็นกริยาพิเศษอีกตัวนึง พิเศษตรงที่ต้องการส่วนเติมเต็มที่เป็นคำนาม ex..ไม่ใช่นางฟ้า ไม่ใช่เจ้าหญิง ไม่ใช่ของฉัน ไม่ใช่อะไรก็ว่าไป แพทเทิร์นการใช้เวิร์บตัวนี้คือ

N+이/가 아니다

ง่ายๆค่ะ เวลาจะใช้ก็ให้เติมคำช่วยชี้이/가 ไว้หลังส่วนเติมเต็ม ก็เท่านั้นเอง แล้วจะเลือกใช่อะไรระหว่าง 이/가 หน่ะหรอคะ ก็ตามนี้เลยจ้า

- ถ้านามมีตัวสะกด เติม 이
- ถ้านามไม่มีตัวสะกด เติม 가

มาเริ่มดูตัวอย่างแบบเบๆ

학생이 아닙니다 .ไม่ใช่นักเรียน
고양이가 아닙니다. ไม่ใช่แมว (고양이=แมว)
핸폰이 이닙니다.ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ (핸폰=มือถือ)
부자가 아닙니다.ไม่ใช่คนรวย (부자=เศรษฐี คนรวย)
거지가 아닙니다.ไม่ใช่ขอทาน (거지=ขอทาน)
공주가 아닙니다.ไม่ใช่เจ้าหญิง (공주=เจ้าหญิง)

แบบประโยคเต็มๆบ้าง

내 애인은 태국사람이 아닙니다. แควนชั้นมะใช่คนไทย
이것은 내 것이 아닙니다.สิ่งนี้(อันนี้)ไม่ใช่ของชั้น
이 남자는 내 동생이 아닙니다.ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่น้องของฉัน
여기는 우리 집이 이닙니다.ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา
이 것은 교과서가 아닙니다. นี่ไม่ใช่หนังสือเรียน

ก็ประมาณนี้ค่ะ กริยา아니다นี้ ถ้าผันแบบ요ก็จะได้ 아니에요นะก๊ะ เอาไว้ใช้ได้ พูดให้คล่องค่ะ เดี๋ยวก็เนียน

บทนี้ไม่ยากนะคะ และเป็นบทเรียนเบสิกเลยก็ว่าได้ เวิร์บพิเศษ 이다 กะ 아니다 เนี่ย ไปเรียนที่ไหนๆเค้าก็จะสอนตั้งแต่แรกๆเลย

สำหรับใครที่อยากหัดใช้ก็ลองเอาไปอะเด๊ปแต่งประโยคแล้วเอามาให้จารตรวจกะได้นะจ๊ะ โอเค วันนี้จากไปแบบซึมๆหน่อย ไปผ่าฟันคุดมามะวาน ...

아파서 죽겠다 ! ==> ปวดจะตายอยู้แร้น


이따 봐요~
แล้วเจอกันค่ะ




 

Create Date : 20 มีนาคม 2550    
Last Update : 20 มีนาคม 2550 12:17:45 น.
Counter : 8013 Pageviews.  

บทที่11. This is a book แบบเกาหลี

แอบมาอัพบ๊อคยามค่ำคืนอีกเช่นเคย มีcommentเพิ่มมาหลายอันเลย จะบอกว่าถ้าใครมีคำถามให้ถามไว้หน้าที่อัพเดทล่าสุดนะคะ เพราะหน้าเก่าๆก้ไม่ได้เข้าไปเช็คทุกวันหน่ะค่ะ อีกหน่อยถ้ามีคนเข้ามาดูเยอะๆค่อยเปิดห้องถาม-ตอบเนอะ ตอนนี้ก็อยู่กันแบบครอบครัวไปก่อน อิอิ

วันนี้จะมาสอนเรื่องง่ายๆ ปูพื้นให้แน่นๆ (ข้ออ้างในวันที่เหนื่อยๆ) อ่ะเข้าเรื่องนะคะ วันนี้อิชั้นจะพูดถึงกริยา 이다 ค่ะ

เวิร์บ 이다 (อีดา) แปลว่า เป็น/คือ ซึ่งเวิร์บตัวนี้เป็นกริยาพิเศษนะคะ พิเศษตรงที่ว่ามันต้องการส่วนเติมเต็มค่ะ เวลาใช้จะต้องมีส่วนเติมเต็ม(นาม)มารองรับเสมอ โดยที่เวิร์บ이다นี้จะวางไว้ตามหลังนามที่เป็นส่วนเติมเต็มเสมอค่ะ มาดูตัวอย่างประกอบดีกว่า (ไม่อธิบายการลงท้ายประโยคแล้วนะเคอะ)

학생입니다 = เป็นนักเรียน / ส่วนเติมเต็มคือ 학생=นักเรียน

แบบเพิ่มประธานนะคะ

저는 학생입니다 = ฉันเป็นนักเรียน

책입니다 = คือหนังสือ
이것은 책입니다 = สิ่งนี้คือหนังสือ

ก็เป็นอย่างนี้นะคะ หลายคนอาจจะคิดว่า แหม ไอ้ประโยคแบบนี้มันจะได้ใช้ซักเท่าไหร่กันเชียว อิชั้นจะยกตัวอย่างให้ดูนะคะ ว่ามันใช้เยอะซักเท่าไหร่กัน!

여기 어디입니까? ที่นี่(คือ)ที่ไหนคะ?
여기 태국입니다. ที่นี่(คือ)ประเทศไทย

이것은 얼마입니까? สิ่งนี้ราคา(คือ)เท่าไหร่คะ?
오만원입니다. (คือ)ห้าหมื่นวอนค่ะ

덩욱씨는 누구입니까? ดองวุกเป็นใครคะ?
아...내 애인입니다. อ๋อ เป็นแฟนชั้นเอง

이것은 한국말로 무엇입니까? สิ่งนี้ภาษาเกาหลี(คือ)อะไรคะ (ภาษาเกาหลีเรียกว่างอย่างไร)

생일 며칠입니까? วันเกิด(คือ)วันที่เท่าไหร่คะ

몇 시입니까? ตอนนี้(คือ)กี่โมงคะ

이름이 뭐예요? ชื่ออะไรคะ

ค่ะ ก็ยกตัวอย่างกันพอหอมปากหอมคอนะคะ ให้เห็นว่ามันใช้เยอะนะ ละก้อต่อไปนี้จะไม่เขียนคำอ่านให้แล้วนะคะ ใครสงสัยว่าอ่านถูกมั้ยถามได้ค่ะ ยินดีตอบจ่ะ

อีกนิดนึงเรื่องกริยา 이다 สำหรับการผันแบบลงท้ายด้วย요 จะกลายร่างเป็น 이에요 หรือ 예요 ค่ะ นั่นขึ้นอยู่กับนามที่เป็นส่วนเติมเต็มคือ

- ถ้านามมีตัวสะกดจะใช้ 이에요 เช่น 책이에요.(คือหนังสือ) 학생이에요?(เป็นนักเรียนใช่ไหม?)

- ถ้านามที่เป็นส่วนเติมเต็มไม่มีตัวสะกดจะใช้ 예요 ค่ะ เช่น 얼마예요?(ราคาเท่าไหร่คะ) 몇 시예요? (กี่โมง)

จบแล้วค่ะสำหรับวันนี้

연심히 공부하세요~
ตั้งใจเรียนนะคะ




 

Create Date : 18 มีนาคม 2550    
Last Update : 18 มีนาคม 2550 9:35:11 น.
Counter : 2521 Pageviews.  

[ จ ด ห ม า ย จ า ก เ ก า ห ลี ]




วันนี้ได้รับเมลจากเกาหลี ความว่า

Subject : To Jinn

| | | Inbox


--------------------------------------------------------------------------------

Attachment : 사진0007.jpg (0.06 MB)


^^ 나 머리 짤랐네~ 그리고 안경테도 바꿨어!

오늘은 사탕주는 날인데... 주기엔 넘 멀다...

마음만 보낸다~ ^_^

แปลได้ว่า

ตอนนี้ผมยาว แล้วก็เปลี่ยนแว่นแล้ว
วันนี้จริงๆแล้วเป็นวันที่ต้องให้ลูกกวาด แต่ไกลเหลือเกิน
ส่งใจไปแทนแล้วกัน~

(เล่นเอาเราน้ำตาซึมเลยอ่ะ แบบว่าคิดถึง แล้วรูปที่ส่งมาให้เป็นรูปเค้ายื่นลูกกวาดมาให้)

...คือว่าวันนี้เป็นวัน White Day ของเกาหลี คือ14กุมภา เป็นวันที่ผู้หญิงจะให้ช๊อคโกแลตผู้ชาย แต่พอ14มีนาก็คือวันนี้ จะกลับกันคือฝ่ายชายจะให้ฝ่ายหญิง

อันนี้ไม่อยู่ในบทเรียนนะคะ ไม่ขอพูดถึงแกรมม่าละ ขอให้ทุกคนมีความสุขนะคะ



First Publish

14 มีนาคม 2550




 

Create Date : 14 มีนาคม 2550    
Last Update : 19 พฤษภาคม 2550 22:28:23 น.
Counter : 1394 Pageviews.  

บทที่ 10. แกรมม่าในเพลงเกาหลี (Never say goodbye)

อันยองค่ะ บ๊อคแก๊งปิดไปซะนานเลย ในที่สุดก็ได้กลับมาอัพบ๊อคต่อ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนนะคะ 대단히 감사합니다 (แท-ดัน-นี คัม-ซา-ฮัม-นี-ดะ/ ขอบคุณเป็นอย่างสูงเด้อค่ะ)

มาเข้าเรื่องของเราในวันนี้นะคะ เนื่องจากไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าว่าจะอัพบล๊อค เลยทำให้นึกไม่ออกว่าจะสอนอะไร หมดมุขแบบนี้ก็หยิบเพลงที่อิชั้นชอบอยู่ตอนนี้มาร้องกันดีกั่ว พร้อมกับจะบรรยายถึงแกรมม่าที่เค้าใช้ในเพลงนะคะ ตรงนี้ถ้าคนที่อ่านเฉพาะบ๊อคนี้อ่านแล้วอาจงงได้ (ก้อพึ่งสอนไปไม่กี่อย่างเอง จะมาให้แปลเพลงซะแระ) ก็ถือว่าวันนี้มาชิลๆหัดร้องเกะนะจ๊ะ แกรมม่าที่ลึกซึ้งจะได้อธิบายให้กระจ่างในคราต่อไป ชะเอิงเอย

วันนี้หยิบ My Girl-Ost มานะคะ เครดิตจาก //www.popcornfor2.com/music/k_s_mygirl2.php

เราจะมาดูเฉพาะท่อนฮุคตรงที่ผู้หญิงร้องค่ะ (ท่อนแร็พยังร้องไม่ทัน และถ้าบรรยายทั้งเพลงอาจจะใช้เวลาหลายวันเลยทีเดียว)

if you go away
you will see me cry
don't you let me go
baby don't you let me down
늘 함께 있어도 더 가깝지 않은
นึล ฮัม-เก อิด-ซอ-โด ทอ กา-คับ-จี อัน-ฮึน
어떤 의미도 없는 진부한 사랑
ออ-ทอน อึย-มี-โด ออป-นึน จิน-พู-ฮัน ซา-รัง
don't you let me go
baby don't you let me down

you never say good bye
한동안 멍하니 우두커니 앉아
ฮัน-โด-งัน มอง-ฮา-นี อู-ทู-คอ-นี อัน-จา
다시 생각했지만
ทา-ซี เซง-คัก-เฮด-จี-มัน
멈출 순 없겠어
มอม-ชุล ซุน ออป-เกด-ซอ
온통 그대 생각 할 수밖에 없는
อน-ทง คือ-เท เซง-กัก ฮัล ซู-พัก-เก ออป-นึน
내 자신이 미워
เน จา-ซี-นี มี-วอ
don't you let me go
baby don't you let me down

นับแล้วมี 7 ประโยคเอง มาดูกันเลยค่ะ

ประโยคที่1

늘 함께 있어도 더 가깝지 않은
แม้ว่าอยู่ด้วยกันเสมอก็ไม่ใกล้ไปกว่านี้

อธิบาย
늘 = เสมอ เป็นประจำ
함께 = ด้วยกัน
있어도 = 있다 (มี/อยู่) ผันแบบ 요 form แล้วเข้าแกรมม่า ...도 (เวลาเอาไปเข้าแกรมม่าเพื่อเชื่อมประโยคก็จะเอา요 ออกไปแล้วเอาตัวเชื่อมมาวางตรงกลาง)

แกรมม่า 도
โดยปกติแล้ว 도 จะแปลว่าด้วย ใช้ตามหลังนามเพื่ออิงประโยคก่อนหน้าว่า ...ด้วย(เหมือนกัน) อธิบายอย่างงี้งงมั้ย ดูตัวอย่างประโยคดีกว่าค่ะ

나는 영어를 좋아해요. ฉันชอบภาษาอังกฤษ
한국어 좋아해요. (และฉันก็)ชอบภาษาเกาหลีด้วย

***แต่คำว่า도 ในประโยคนี้ไม่ได้แปลว่าด้วยนะคะ ถ้าอยู่กลางประโยค (ตามหลังกริยา) แบบนี้จะแปลได้ว่า ถึงแม้ว่า(ประโยคหน้า)ก็(ประโยคหลัง)

ถึงแม้ว่า (ประโยคหน้า = อยู่ด้วยกันเสมอ) ก็ (ประโยคหลัง = ไม่ใกล้กันมากไปกว่านี้)

더 가깝지 않은
ไม่ใกล้มากไปกว่านี้

더 = กว่า
가깝다 = ใกล้
Vst+지 않다 = ปฏิเสธกริยา แปลว่า ไม่V.นั้นๆ

ตัวอย่าง แกรมม่า - 지 않다

가깝지 않다 = ไม่ใกล้ (가깝다=ใกล้)
예쁘지 않다 = ไม่สวย (예쁘다=สวย)
말하지 않다 = ไม่พูด (말하다=พูด)

ประโยคที่2

어떤 의미도 없는 진부한 사랑
รักเก่าเก็บที่ไม่มีความหมายอะไร

어떤 = ใด ไหน อะไร
의미 = ความหมาย
어떤 의미 = ความหมายใดๆ

진부하다 = เก่าแก่ เก่าเก็บ คร่ำครึ ล้าสมัย
사랑 = ความรัก
진부한 사랑 = ความรักเก่าๆแก่ๆ
ตรง진부하다 ที่กลายมาเป็น 진부한 นั่นคือการเปลี่ยน V. ให้กลายเป็น Adj/Adv

วิธีทำ V ให้กลายเป็น adj/adv ในลักษณะนี้คือ เอาVst. มาเติมㄴเป็นตัวสะกด แล้ววางไว้หน้านามที่เราจะขยาย

ประโยคที่3

한동안 멍하니 우두커니 앉아
นั่งใจลอยๆอยู่พักนึง

อธิบาย

한동안 = ช่วงเวลาหนึ่ง ระยะเวลาสั้นๆ
(한=หนึ่ง/동안=ช่วงเวลา)
멍하니= ใจลอย
어두커니 = ใจลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เคลิ้ม
앉아 = นั่ง (มาจาก V.앉다 นำมาผันแบบ 요form แล้วเอา요ออกเพื่อต่อประโยคค่ะ)

ประโยคที่4

다시 생각했지만
คิดอีกครั้ง แต่ก็...

อธิบาย

다시 = อีกครั้ง
생각하다 = คิด
그렇지만 = แต่ว่า

ในประโยคนี้นำ 생각하다 มาผันให้อยู่ในรูปอดีต(ยังไม่ได้สอน) จะได้เป็น 생각했다 ตัด 다 ทิ้งไปเพื่อใส่คำเชื่อม 지만 (แต่)

คำว่า 그렇지만 (แต่) เป็นคำเต็มๆ ถ้าจะใช้คือเอาไว้ขึ้นประโยคใหม่ แต่ถ้าจะเอามาเชื่อมตรงกลางให้มันขัดแย้งกันก้อเอาแค่คำว่า지만 มาใช้แบบในเพลงนะคะ

ประโยคที่5

멈출 순 없겠어
มันก็หยุดไม่ได้

อธิบาย

멈추다 = หยุด ชะงัก หยุดยั้ง

ประโยคนี้มีศัพท์อยู่คำเดียวนี่แหละค่ะ นำมาใส่แกรมม่านี้
Vst.+ㄹ/을 수 있다 = สามารถที่จะทำV.นั้นได้
Vst.+ㄹ/을 수 없다 = ไม่สามารถที่จะทำV.นั้นได้

วิธีการใช้แกรมม่านี้ก็คือ
1.ดูว่าVst.มีตัวสะกดหรือไม่ ถ้าไม่มี ใส่ㄹ เป็นตัวสะกด แล้วตามด้วย 수 없다หรือ있다 ก็ว่าไป เช่นจากในเพลงนี้
멈추(ไม่มีตัวสะกด) ใส่ㄹ 수 없다= 멈출 수 없다 = ไม่สามารถที่จะหยุด

2.ถ้าVst.มีตัวสะกด ให้ใส่ 을 수 있다/없다 ตัวอย่างนะคะ

먹다 (กิน) Vst คือ 먹 มีตัวสะกดแบบนี้ให้ใส่을 수있다
먹+을 수 있다 = 막을 수 있다 = สามารถกินได้

อีกนิดสำหรับประโยคนี้ เค้าจบประโยคด้วย 없겠어 เป็นการลงท้ายประโยคในรูปอนาคตโดยการเติม 겠 ค่ะ (ยังไม่ได้สอน)

ประโยคที่6

온통 그대 생각 할 수 밖에 없는
ทั้งหมดที่ทำได้ก็เพียงคิดเรื่องเธอเท่านั้น

อธิบาย

온통 = ทั้งหมด ทั้งสิ้นทั้งปวง โดยสิ้นเชิง
그대 = เธอ โดยมากใช้กะคนรัก
생각하다 = คิด
...밖에 없는 = เพียง...เท่านั้น

ประโยคที่7

내 자신이 미워
เกลียดตัวฉันเอง

อธิบาย

내 = ของฉัน (내/제(สุภาพกว่า) +คำนาม ก็จะแปลว่า นามนั้นของฉัน ใช้เหมือนคำว่า My)
자신 = ตัวเอง ตนเอง
미워 = เกลียด มาจาก V.밉다 มาผัน 요form

จบละค่ะ มีคำถามถามไว้นะจ๊ะ

또 만나~
ไว้เจอกันอีกค่ะ

*กำลังพยายามใส่เพลงแบบให้ขึ้นเฉพาะหน้านี้ค่ะ*

//stream.popcornfor2.com/mygirl-02-Never%20Say%20Goodbye%20-%20Mario%20&%20Nesty.wma




 

Create Date : 14 มีนาคม 2550    
Last Update : 11 เมษายน 2550 14:51:35 น.
Counter : 9338 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

Jinsee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




หวัดดีค่ะ ชื่อจิ๋นค่ะ

บ๊อคเนี้ยะ เพื่อคลายเครียดและเป็นความสุขส่วนตัวเล็กๆน้อยๆนะคะ ^^,

Friends' blogs
[Add Jinsee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.