Group Blog
 
All blogs
 
self-inflicted political

ได้อ่านบทความ "วาทกรรมถวายพระราชอำนาจคืน" ของ อ เกษียร เตชะพีระ

ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชน ลองอ่านดูครับน่าสนใจมาก

ผมขออนุญาตยกบทสรุปมา

"ใช่หรือไม่ว่า ที่กำลังดังกังวานอยู่ตอนนี้คือเสียงเรียกร้องหา political tutelage กันอีก อันสะท้อนอาการ political immaturity เรื้อรัง แถมเป็น self-inflicted political immaturity มากกว่าอื่น?

แปลไทยเป็นไทยได้ว่า

ประชาธิปไตยของคนไทย เป็นประชาธิปไตยที่คอยเรียกหาผู้ใหญ่ให้ดูแล เพราะคนไทยยังไม่บรรลุนิติภาวะพอ?




ถ้ามีเวลาก็ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของ ผู้แต่งคนเดียวกันได้ในเว็ปข่าวประชาไทครับ


ความอิจฉาเป็นบ่อเกิดแห่งความเสมอภาค

ชาติที่คนชั้นกลางรัก เป็นชาติที่ไฟฟ้าถูก แต่ไฟฟ้ามันถูกก็เพราะมันไปปล้นเอาแม่น้ำเขามา ปล้นเอาสิ่งแวดล้อมเขามา หรือพูดง่ายๆ มันเป็นชาติที่เขาอยู่บนความได้เปรียบพอสมควร ได้เปรียบธรรมชาติ ได้เปรียบชาวบ้านข้างล่าง นี่คือชาติที่คนชั้นกลางรักมากเลย

ผมคิดว่าปัญหาที่คนชั้นกลางลุกขึ้นมาต่อต้านทักษิณ เพราะทักษิณคุกคามความเป็นอยู่ของชาติในความหมายนี้ ซึ่งพูดถึงจุดยืนแล้ว ผมไม่ชอบชาติในความหมายนี้เลย มันเป็นชาติที่มีปัญหามาก แล้วก็ที่ผ่านมาก็ทะเลาะกันแย่งชาติแบบนี้แหละ

แต่แม้กระทั่งชาติแบบนี้ เราก็ยังรู้สึกว่าถูกคุกคาม เพราะอะไร เพราะทักษิณดำเนินกระบวนการเปลี่ยนแปลงแบบโลกาภิวัตน์เสรีนิยมใหม่ แบบที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มทุนของเขา ต่อพวกพ้องของเขา ซึ่งมันไปคุกคามความมั่นคงในชาติที่น่ารักของคนชั้นกลาง ไฟฟ้าแพงเหรอ น้ำมันแพงเหรอ อย่างนี้แปลว่าอะไร ตลาดหุ้น... บางคนได้เปรียบ กูเสียเปรียบเหรอ

...


กล่าวเฉพาะในคณะของผม นี่คือประเด็นที่เราถกกันเยอะมากด้วยความวิตก เราระมัดระวังที่จะไม่ให้มีถ้อยคำใดๆ ในแถลงการณ์ของเราที่ส่อไปในทางยอมรับอำนาจพิเศษ คือขอให้อยู่ในกรอบ ในระบอบนี้ซึ่งเป็นระบอบที่มีปัญหา ต้องแก้ แต่เฉพาะหน้านี้มันต้องปลดล็อคตรงนายกฯ ก่อน ส่วนเราจะแก้อะไร แก้อย่างไร เราคุยกันได้อีกเยอะ เพราะโจทย์มันใหญ่ ไม่ใช่แค่ทักษิณ

พูดสั้นๆ โจทย์ก็คือ กลุ่มทุนผูกขาดในประเทศ + ทุนโลกาภิวัตน์ ซึ่งตอนนี้เรารู้จักกลุ่มทุนโลกาภิวัตน์ผ่านชื่อเทมาเสก เรากำลังจะหาการเปลี่ยนแปลงในรัฐธรรมนูญเพื่อมาถ่วงดุลคนกลุ่มนี้ โอ้โห มันยาก ผมไม่แน่ใจว่าทำได้ด้วยซ้ำ



...

ผมคิดว่าสิ่งที่น่ากลัวก็คือ ถึงที่สุดแล้วคุณใช้วิธีการนอกระบบ ไม่รู้นะ มันอยู่ที่การนิยามชัยชนะอย่างไรด้วยใช่ไหม ถ้านิยามชัยชนะว่า ทักษิณต้องออกไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทย อย่างนี้ก็น่ากลัว

แต่ถ้านิยามชัยชนะว่า ไม่มีใครตายแม้แต่คนเดียวในความขัดแย้งทางการเมืองนี้ สังคมไทยค้นพบการเปลี่ยนผ่านจากระบอบทักษิณ ไปสู่อย่างอื่นโดยไม่มีใครตาย ระหว่างที่สังคมไทยผ่านวิกฤต ได้เรียนรู้ เข้าใจตัวเอง และเข้าใจเงื่อนไขที่ล้อมสังคมดีขึ้น กระจ่างขึ้น อันนี้เป็นชัยชนะที่ยั่งยืน

การเปลี่ยนผ่านนี้มันใหญ่ ประเทศเราทั้งประเทศ จะจัดการเปลี่ยนผ่านนี้อย่างไร เอาแค่เรื่องคุณทักษิณ เอาแค่ไม่ให้มีใครตาย เพราะไม่คุ้มหรอก มันไม่เคยคุ้มเลย

สำหรับวันที่ 11 นี้ ผมเกรงว่าจะเกิดความรู้สึกประมาทของทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาลอาจจะประเมินจากวันที่ 4 ว่า อ๋อสุดยอดของคุณแค่ 50,000 เอง แล้วอาจมีใครทำอะไรเอาใจเจ้านายอีก

...




Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2549 21:20:52 น. 2 comments
Counter : 628 Pageviews.

 
ตราบใดที่
สังคมคนไทย ประเทศไทย
ยังยอมรับไม่ได้กับ "การแอบดูพระเจ้าอาบน้ำ"*
แล้วละก็ ......

ปัญหาที่ซับซ้อนทบทวีคูณขึ้นทุกวัน ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยง..
"การเผชิญหาอย่างไม่สันติ ของคนในสังคม" ได้ดอก




* มาจากเพลง กาลิเลโอ กาลิเลอี ของ สุรชัย (หงา ฅาราวาน) ว่า ... คงเคยมีใคแอบดูพระเจ้าอาบน้ำ ...

เราเข้าใจว่า .... การรู้เห็นความลับของพระเจ้านั้น เป็นสิ่งต้องห้าม (และห้ามนำมาเปิดเผย ห้ามพูดถึงหรือวิพาษ์วิจารณ์เด็ดขาด) มีความผิดร้ายแรง ...โทษประหาร


สำหรับเรา ... ความหมายของ "ประชาธิปไตยที่คอยเรียกหาผู้ใหญ่ให้ดูแล" ของ อ เกษียร เตชะพีระ จึงเท่ากับ "ประชาธิปไตยในอุ้งพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า" อยู่นั้นแล้ว


โดย: a_somjai วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:06:29 น.  

 
คุณ a_somjai : จริง ๆ ผมคิดไปไกลกว่านั้นนะครับ แต่มันคงยังไม่ใ่ช่เวลาที่จะมาวิเคราะห์วิจารณ์กันในขณะนี้

ก็เลยตั้งเป็นข้อสังเกตและเตือนความทรงจำไว้ก่อน

ไปอ่านบทความของ ดร ปัญญา แกมีวิเคราะห์ต่อด้วยว่า ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ สังคมไทยเป็นสังคมที่ปกป้องคนในสังคมมากเกินไป จนทำให้ไม่กล้าเสี่ยง และทำอะไรไม่เป็น ผมนึกถึงสังคมญี่ปุ่นที่มีทัศนะแบบเดียวกัน จนกระทั่งคนในประเทศเขาต้องร่างพิมพ์เขียวการเมืองใหม่ขึ้นมา


โดย: ฮันโซ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:1:04:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฮันโซ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สหายสิกขา Lite version

สหายสิกขาตั้งคำถามกับการเป็นอยู่ของสรรพสิ่งตรงหน้า พร้อมกันนั้นก็เปิดรับแนวคิดของคำตอบในมุมมองที่แตกต่างอย่างเท่าเทียมกัน

สหายสิกขาจะมีความยินดียิ่ง หากคุณได้นำความรู้ที่ได้จุดประกายนี้ไปตีความต่อให้ลึกซึ้งยิ่งๆขึ้น เพราะยิ่งแลกเปลี่ยนยิ่งถกเถียงยิ่งสนทนาก็สามารถแตกประเด็นไปอีกได้มาก

สหายสิกขาต้องการกระตุ้นให้คนอ่านได้คิด และสัมผัสถึงขอบเขตที่ไม่สิ้นสุดแห่งจินตนาการ

พร้อมกันนั้นสหายสิกขา ก็พร้อมอยู่เป็นเพื่อนคู่คิด เพื่อนสนทนา เพื่อจับมือกันเรียนรู้ไปในโลกกว้าง ...ด้วยกัน

CC Developing Nations
Friends' blogs
[Add ฮันโซ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.