ตอนที่ 7
อาเฮียขับรถออกจากโรงพยาบาลจิตเวช หลังจากพาหม่าม้าไปรับยาระงับจิตจากหมอ อาการของหม่าม้าตอนนี้ไม่ดี ยังคงเงียบขรึม บางครั้งก็หัวเราะขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ไม่สนใจโลกภายนอก นอกจากจมกับโลกส่วนตัวของเธอเอง
" ม้าไปเที่ยวทะเลกันนะ" อาเฮียหันมาถาม หญิงวัยกลางคนยังนั่งนิ่ง
" อั้วจะพาม้าไปหาอาหญิง" คราวนี้ได้ผล หม่าม้าค่อยๆหันหน้ามายิ้ม อาเฮียดึงผ้าผืนเล็กๆจากกระเป๋ากางเกงเช็ดน้ำลายที่ไหลเยิ้มออกจากปากมารดา
"อั้วรู้!! ม้าคิดถึงอาหญิงมัน อั้วจะโทรไปบอกให้อีเตรียมตัว อีคงดีใจเหมือนกันที่เจอม้า แต่ม้าต้องรับปากก่อนนะว่าจะกินยาตามที่หมอสั่ง" หญิงวัยกลางคนพยักหน้ารับ ตบมือดีใจราวกับเด็กน้อย


หญิง ถือแก้วน้ำส่งให้กับสามีที่เพิ่งกลับจากที่ทำงาน
"นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อน เดี๋ยวถึงไปอาบน้ำ แล้วกินข้าวกัน วันนี้หญิงทำห่อหมกปลาช่อนไว้ให้ด้วยนะ"
" เอาใจแบบนี้ ต้องมีอะไรพิเศษแน่ๆ" เสี่ยเชนผู้เป็นสามีกล่าวยิ้มๆรับแก้วน้ำมาดื่ม แล้วยื่นส่งคืน หญิงวางแก้วน้ำลงที่โต๊ะเล็กๆ นั่งลงข้างสามี
" พรุ่งนี้หม่าม้า กับอาเฮียจะมาเที่ยวที่นี่ หญิงขออนุญาตเฮียให้หม่าม้ากับอาเฮียของหญิงค้างที่นี่สักคืนนะ"
หญิงเอ่ยปากขอกล้าๆกลัวๆ เพราะรู้ดีว่าเสี่ยเชนไม่พอใจหม่าม้าที่เคยกีดกันเธอไม่ให้คบหากับพ่อหม้ายลูกติดอย่างเสี่ยเชน เจ้าของกิจการโรงงานผลิตน้ำปลาเล็กๆในจังหวัดระยอง แต่เพราะความเหงาและเครียดกับค่าใช้จ่ายในบ้านช่วงที่เกิดวิกฤตปัญหาในครอบครัวเธอจึงคบหากับเสี่ยเชนเงียบๆ แต่เรื่องก็รู้ถึงหูหม่าม้าจนได้ ตอกย้ำความเสียใจให้กับหม่าม้ายิ่งขึ้นจนถึงขั้นช็อก หมอต้องคอยให้ยารักษาอาการเรื่อยมา
"อืม!!"
เสี่ยเชนรับฟังแต่ไม่พูดอะไร ลุกเดินเข้าห้องไป หญิงมองตามสีหน้าไม่สบายใจรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย


เสี่ยเชนไม่เคยปิดบังหญิง ถึงสถานะพ่อหม้ายเมียหย่า หญิงยิ่งประทับใจและอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้ชายวัยกลางคนผู้นี้ หญิงสาวที่เพิ่งจบมัธยมหมาดๆคิดเพียงแค่ว่า แม้เสี่ยเชนจะเคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้วแต่ก็เป็นผู้ชายไม่เสียหายอะไร แถมยังรักลูกรักครอบครัวซึ่งหายากมาก หญิงมักเปรียบกับเตี่ยบ่อยๆ เตี่ยเองก็รักอาเฮียและหญิงมากเช่นกัน จากการสูญเสียเตี่ยไปเหมือนได้ตัวแทนความรักนั้นจากผู้ที่เข้ามาในชีวิต

เสี่ยเชนส่งเสียให้หญิงเรียนจนจบปริญญาตรี พาออกงานสังคมเป็นครั้งคราว หญิงเองได้รู้จักกับ"มายด์" ลูกติดจากสามี ซึ่งวัยห่างกันเพียง 8 ปี นอกจากมายด์แล้วยังมี "มีน"น้องชายคลานตามกันมากับมายด์อีกคน
แต่เพราะวัยที่ใกล้กันเด็กทั้งสองจึงเรียกหญิงว่า "น้าหญิง" ซึ่งทั้งสองคนให้ความนับถือหญิงเป็นอย่างดี ในฐานะ"แม่เลี้ยง"

มายด์ กำลังเรียนที่โรงเรียนประจำมีชื่อเสียงในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ส่วน มีน ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะเสี่ยเชนเลี้ยงตามใจจนกลายเป็น "ลูกแหง่" แม้อายุจะ13 ปีแล้วก็ตาม หญิงรู้สึกสงสารมีนและเข้าใจมีนมาก บางครั้งก็นึกโกรธและโทษเสี่ยเชนที่เลี้ยงลูกแบบตามใจโดยไม่ใช้เหตุผลสอน
บ่อยครั้งที่มีนและเสี่ยเชนทะเลาะกันและมีปากเสียง แต่สุดท้ายเสี่ยเชนจะเป็นฝ่ายขอโทษลูกก่อนเสมอ
" เฮียจะตามใจเด็กทำไมนักหนา แบบนี้เด็กก็จะเสียคนนะสิ"
หญิงเคยพูดกับสามี แต่ก็ได้คำตอบที่อึ้ง
" หาโรงเรียนดีๆให้มันเรียน มันก็เรียนไม่จบสักที แล้วจะให้เฮียทำไง"
"ก็ให้เขาเรียนสายอาชีพสิ หรือไม่ก็ให้มาช่วยงานที่โรงงาน"
"มันเคยสนใจมั๊ย!! ทำไงได้ถ้าจะโทษมันก็โทษที่เฮียดีกว่า เด็กมันไม่มีใครสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ปล่อยมัน..ถ้ามันรักดีก็ดีกับตัวมันเอง"
เสี่ยเชนกล่าวอย่างหนักใจไม่น้อย หญิงได้แต่เอื้อมละอาเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ถึงอย่างไร หล่อนก็เป็นได้แค่"แม่เลี้ยง"


เกือบเก้าโมงเช้า เสี่ยเชนแต่งตัวออกจากบ้าน หญิงถือจานอาหารเตรียมไว้ให้สามีกับลูกเลี้ยง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา รีบเดินไปรับเห็นสามีกำลังใส่รองเท้าอยู่หน้าบ้านก็ถาม
"เฮียออกไปธุระข้างนอก เดี๋ยวหญิง จัดห้องไว้ให้เฮียด้วยนะ"
"........."
แม้จะงงว่าจัดห้องไว้ให้ใครแต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าแล้ว กดสายรับโทรศัพท์มือถือที่ยังดังค้างอยู่ อาเฮียบอกว่าใกล้จะถึงระยองแล้ว หญิงบอกเส้นทางให้แล้ววางสายไป
เสียงอาเฮียเรียกหาลูกชายอยู่ที่โรงรถ เพียงอึดใจเดียวมีนก็วิ่งไปนั่งทำหน้าที่คนขับให้กับผู้เป็นพ่อ
หญิงเดินเข้าครัวอีกครั้ง เสียงโทรทัศน์ดังแว่วๆออกมาจากด้านในบ้าน ก่อนจะถึงห้องครัว หญิงมองหาต้นเสียงแล้วก็มาถึงห้องของมีนที่ปิดประตูไม่สนิท หญิงค่อยๆผลักประตูให้เปิดกว้างออก ก็ต้องผงะตกใจเมื่อเห็นภาพที่ปรากฎบนหน้าจอโทรทัศน์ ในจอเป็นภาพของชายหญิงแสดงบทรักกันอย่างเร่าร้อนถึงพริกถึงขิง

ที่สยาม เสียงทีมงานยกเหล็กและแผ่นไม้อัดดังเป็นระยะ ดูวุ่นวายเมื่อต้องทำงานแข่งกับเวลา พี่อ็อดลงมาคุมงานด้วยตัวเอง โดยมีมิวและเอ็กส์มาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย
"ช่วงนี้ซ้อมเหนื่อยหน่อยนะ!!"
พี่อ็อดละสายตาจากคนงานที่กำลังช่วยกันยกแผ่นไม้อัดเข้าประกบกับแผงเหล็ก
"ครับพี่" มิวตอบ
"เหนื่อยกว่านี้ก็ยอมเลยพี่ ผมอยากปล่อยของเต็มที่แล้ว" เอ็กส์ทำสีหน้ากระหายอยาก พี่อ็อดกับมิวหัวเราะกัน
"เต็มที่สิว่ะ งานนี้นอกจากเปิดตัวศิลปินใหม่ของค่ายแล้ว พี่เชื่อแน่ว่าจะเป็นการเปิดตัวการกลับมาของวงออกัสอีกด้วย แสดงเต็มที่เลยนะมิว"
ท้ายประโยคพี่อ็อดหันไปกำชับกับมิว มิวพยักหน้ารับไม่รู้สึกหนักใจอะไร
" สิบโมงแล้ว เดี๋ยวไปหาอะไรลงท้องกันดีกว่า?"
พี่อ็อดยกแขนขึ้นดูนาฬิกาที่ข้อมือ เอ็กส์พยักหน้ารับแต่มิวรีบขอตัว
"ทำไมว่ะ!!" เอ็กส์หันไปถามทำหน้าไม่เข้าใจ
"ขอโทษจริงๆครับพี่อ็อด ผมมีนัดกับป๊าวันนี้ ขอหยุดซ้อมหนึ่งวันนะครับ"
"ตามใจ แต่เรื่องงานห้ามพลาดนะ "
"ครับ เฮ๊ย!! กรูขอโทษจริงๆว่ะ ป๊ากรูมา" มิวหันมาบอกก่อนจะขอตัวไป
"อ้าว แล้วไงล่ะ!!พี่อ็อดครับไว้คราวหน้านะครับ" เอ็กส์หันมาบอกพี่อ็อดพร้อมกับวิ่งตามมิวไป
อีกด้านของสยาม โต้งเดินดูของตามร้านต่างๆกับโดนัท แล้วโต้งก็มาหยุดมองบริเวณลานจัดงานด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทว่าหากโดนัทใส่ใจกับโต้งมากกว่านี้จะเห็นรอยยิ้มมีความสุขจางๆซ่อนอยู่บนใบหน้าที่เรียบเฉยของชายหนุ่มนั้น

เสียงรถมาจอดเทียบที่รั้วด้านนอก หญิงชะโงกหน้าออกมาพร้อมกับวิ่งไปเปิดประตูรั้วให้ในชุดที่เรียบง่าย
"หม่าม้า!!"
หญิงสวมกอดผู้เป็นแม่แน่น ก่อนจะหันมาทักอาเฮียและพี่สะใภ้ที่อุ้มหลานวัยสามขวบในอ้อมแขน หญิงกุลีกุจอช่วยอาเฮียยกของลงจากรถและพาเข้าบ้าน ก่อนจะเดินทางต่อ



Create Date : 19 กรกฎาคม 2551
Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 12:39:41 น.
Counter : 369 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหมอกมลชนก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

คำคมนี้ดูจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของ"ออมสิน"ได้เป็นอย่างดี...


สมาชิกอยู่ในบ้านขณะนี้