ตอนที่ 4
ที่เชียงใหม่
สุนีย์และกรเปิดประตูห้องเช่าของลูกชาย หลังจากที่กลับจากงานรับปริญญาของลูกชาย ที่จัดขึ้นช้ากว่ากรุงเทพฯหลายเดือน โต้งขึ้นเครื่องไปรับพ่อแม่ด้วยตัวเองก่อนวันรับจริง

" ห่างสายตาพ่อแม่ ทำตัวเหลวไหลแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้?" สุนีย์ทิ้งตัวลงกับเก้าอี้เล็กๆที่ตั้งอยุ่ใกล้ระเบียงห้อง
" เอาน่าคุณ !! ลูกมันโตแล้ว ปล่อยๆมันไปสนุกสนานกับเพื่อนๆบ้างเถอะ"
กรแหวกม่านที่กั้นระหว่างตัวห้องและระเบียงให้แสงและลมพัดเข้ามา สุนีย์หันมามองค้อน
"ตามใจกันเข้าไป นี่ไม่รู้ว่ามั่วยา มั่วหญิงกันหรือเปล่า?"
"ไปกันใหญ่แล้วคุณ เลี้ยงลูกต้องปล่อยให้เขาได้เติบโตด้วยความคิดเขาเอง เราเป็นพ่อเป็นแม่อย่าไปตีกรอบความคิดให้กับลูก ถูกผิด ดีชั่วอย่างไร ผมเชื่อว่าเจ้าโต้งมันรู้"
กรเดินไปลูบบ่าภรรยาเบาๆ สุนีย์ซบลงที่ตัวของสามี ความห่วงในใจยังไม่จางหาย


ดึกมากแล้ว กรนอนหลับอยูบนเตียงของลูกชาย ส่วนสุนีย์ยังคงยืนตรงระเบียงทอดมองไปในความมืด ไม่รู้สึกเหนื่อยเพลียที่ตื่นแต่เช้า เตรียมตัวไปงานรับปริญญาลูกชาย สุนีย์นึกเป็นห่วงที่โต้งขอไปสังสรรค์กับเพื่อนต่อ จนดึกป่านนี้ไม่กลับ
สุนีย์เดินกลับเข้ามา หยิบโทรศัพท์เลือกหมายเลขของลูกชายขึ้นมาหน้าจอ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจไม่โทร.ออก
" ไปไหนของเค้านะ ป่านนี้ไม่รู้จักกลับ เหลวใหลใหญ่แล้ว" สุนีย์พรึมพรำคนเดียว ไม่นานแสงไฟหน้ารถคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ สุนีย์คว้าเสื้อคลุมเดินลงจากห้องไป
"โต้ง" ซึ่งขณะนี้กลายเป็นชายหนุ่มที่ร่างกายกำยำได้ส่วน แม้จะดูผอมไปบ้างแต่ก็ไม่เก้งก้าง จมูกโด่งรับกับเรียวปากสีชมพูขับผิวให้ดูขาวขึ้น จัดว่าเป็ยผู้ชายที่หน้าตาดีทีเดียว ไม่แปลกใจที่สุนีย์จะหวงลูกชายมากก็ย่อมเป็นธรรมดาที่มีลูกชายหน้าตาหล่อเหลา ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะล็อครถผู้เป็นแม่ก็เข้ามาประชิดตัว

"เมามาหรือเปล่าโต้ง!!"
" แม่..แม่ไม่นอนอีกเหรอ?" โต้งตกใจเล็กน้อยโอบกอดแม่ ราวกับเด็กน้อยที่สำนึกผิด สุนีย์ตีแขนลูกชายเบาๆ
"ขึ้นไปอาบน้ำ แล้วนอนซะ พรุ่งนี้เรามีนัดอะไรกับพ่อเค้าไม่ใช่เหรอ?" โต้งยังไม่ยอมปล่อยแขน จนสุนีย์เซเล็กน้อย
"นี่เรากลายเป็นเด็กขี้อ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่" สุนีย์อดแซวลูกไม่ได้
"แม่...!!" โต้งยืนตัวตรง เรียกแม่เบาๆ สองมือยังโอบที่เอวผู้เป็นแม่
"หือ!!" สุนีย์เงยหน้ามอง

"แม่เหนื่อยไหม?"
โต้งจ้องมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยสายตาเปี่ยมสุข ริมฝีปากเม้มหากันเล็กน้อย
"เรื่องอะไรล่ะ?" สุนีย์มองหน้าลูกชาย
"ทุกเรื่อง!! โต้งรู้...แม่เหนื่อย โต้งพยายามตั้งใจเรียนให้จบไวๆจะได้ผ่อนภาระของแม่ ต่อไปนี้โต้งจะดูแลพ่อกับแม่เอง..." ชายหนุ่มน้ำตาเอ่อ สุนีย์เอื้อมมือเช้ดน้ำตาให้ลูกชาย

"แม่ไม่เคยเหนื่อย ไม่มีวันไหนที่แม่เหนื่อย ที่ทำทุกวันนี้ก็เพื่อโต้ง วันนี้แม่เห็นความสำเร็จของโต้งแล้ว ใช่ว่าแม่จะหมดห่วง โต้งยังเรียนรู้ชีวิตอีกเยอะ แต่อย่างน้อยสิ่งที่โต้งทำสำเร็จในวันนี้ก็ทำให้พ่อกับแม่ชื่นใจที่สุดแล้ว " สุนีย์ถอนหายใจเบาๆ โต้งพาสุนีย์เดินมานั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนบริเวณนั้น
" โต้งขึ้นไปอาบน้ำ พักผ่อนเถอะ..แม่นั่งรับลมเย็นๆสักพัก" สุนีย์ยิ้มให้กับลูกชาย โต้งสบตากับผู้เป้นแม่ แต่ไม่ได้ลุกไป สุนีย์มองออกไปยังสวนหย่อมเล็กๆที่เจ้าของหอพักจัดไว้เป็นมุมพักผ่อนด้านหน้าตึก
ภาพเก่าๆผุดขึ้นมาในความคิด ดึงรั้งให้หญิงสาววัยกลางคนนั่งจมกับความหลัง



"โห!! นั่งขนอะไรไปเยอะแยะ!!" สุนีย์มองดูสัมภาระใบใหญ่ที่ลูกสาวถือเดินลงบันไดมา แตงผู้เป็นลูกสาวหันหน้าไปสบตากับผู้เป็นพ่อ และมองหน้าแม่ที่ตีหน้าดุอยู่ตรงหน้า
"คือ...คุณแม่ขา แตงขออยู่เที่ยวต่อกับเพื่อนๆสักสอง สามวัน นะแม่นะ...นะค่ะ" ลูกสาวพยายามวิงวอนแต่ก็ไม่ทำให้สุนีย์ใจอ่อน
" เอาน่า ลูกมันโตแล้วก็ปล่อยมันไปเที่ยวกับเพื่อนๆบ้างเถอะ" เสียงของกรดังขึ้นมา สุนีย์หันไปมอง เห็นสายตาเชิงขอร้องขอสามีก็พูดไม่ออก


สายลมอ่อนๆ พัดเบาๆพาเมฆขาวมาบดบังพระจันทร์ เสียงลมหายใจของสุนีย์ดังออกมาเฮือกใหญ่อย่างลืมตัว
" แม่ครับ" โต้งหันไปเรียกแม่เบาๆให้ตื่นจากภวังค์
"แม่อยากรู้ไหม? ทำไมโต้งจึงพยามยามสอบเข้าเรียนต่อที่เชียงใหม่"
"ทำไม!!" สุนีย์หันกลับมามองหน้าลูกชายอย่างสงสัย
"เพราะหวังสักวัน โต้งจะเจอพี่แตงที่นี่"
" โต้ง!!" สุนีย์เรียกลูกชายเบาๆเพียงเท่านั้น บ่อน้ำตาของผู้เป็นแม่ก็ทะลักไหล เข้าใจในความรู้สึกของตัวลูกชาย ตลอดเวลาที่เลี้ยงดูลูกชายมาหลังจากเกิดวิกฤติในครอบครัว หล่อนต้องสร้างกำแพงเข้มแข็ง เพื่อปิดบังความอ่อนแอของตัวเอง บัดนี้กำแพงนั้นมันผังทลายลงเมื่อถึงวันที่ลูกชายเติบโตและเรียนจบมหาวิทยาลัย

" เค้าไม่มีวันหลับมาแล้วลูก เค้าไม่กลับมาแล้ว"

สุนีย์ดึงตัวลูกชายเข้ามากอด โต้งร้องไห้เบาๆที่ไหล่ผู้เป็นแม่
สายตาของกร ที่ยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าต่าง ทอดมองภรรยาและลูกที่อยู่ม้าหินอ่อนเบื้องล่าง ด้วยความรู้สึกปวดร้าวลึกๆในใจ




Create Date : 19 กรกฎาคม 2551
Last Update : 20 กรกฎาคม 2551 12:38:29 น.
Counter : 337 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหมอกมลชนก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

คำคมนี้ดูจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของ"ออมสิน"ได้เป็นอย่างดี...


สมาชิกอยู่ในบ้านขณะนี้