ตอนที่ 19
โต้งนั่งตัวตรง พิงเบาะหลัง โดยมีศีรษะของมิวซบที่หัวไหล่ หลังจากที่รถประจำทางเคลื่อนตัวออกจากสถานีขนส่งระยองได้ไม่นาน ความเหนื่อยล้าและไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน รวมทั้งโต้งด้วยอีกคนที่ต่างพยายามหาทางแก้ปัญหาให้กับหญิง หลังจากที่กล่อมให้เธอขับรถกลับบ้าน เพราะป๊าโทร.เข้ามาที่เครื่องของหญิงให้รีบกลับบ้านทันทีที่งานเลี้ยงเลิก ขนาดคุยกันไม่นานที่ชั้นจอดรถ มีโทรศัพท์ของป๊าโทร.เข้ามาที่เครื่องของหญิงเป็นสิบสาย แม้หญิงจะรับสายแล้วบอกว่ากำลังขับรถกลับก็ตาม มิวและโต้งต่างก็หนักใจกับปัญหานี้เช่นกัน

รถประจำทางผ่านสี่แยกบางนา แล้วเลี้ยวขวามาตามถนนหลัก ไม่นานก็จอดเทียบท่าเมื่อถึงสถานีขนส่งเอกมัย โต้งยักไหล่เล็กน้อยเพื่อให้มิวรู้สึกตัว ชายหนุ่มแก้เก้อด้วยการยิ้มเจื่อนๆก่อนจะลงจากรถแล้วเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีต้นเอกมัยเพื่อกลับบ้าน

“สงสารหญิงจัง!!ทำไมหญิงต้องเจออะไรที่เลวร้ายตลอด”

โต้งหันมาสบตากับมิวที่นั่งใกล้ๆ ถัดไปก็เป็นชาวต่างชาติที่ส่งภาษากันเสียงดังระงม
“หญิงไม่มีเพื่อน หญิงไม่รู้จะปรึกษาใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวผัว-เมีย เราเองคงช่วยอะไรมากไม่ได้”

“ผมจะไม่ทำให้มิวเสียใจแบบนี้”

“บ้า!!”
มิวทุบปั๊กไปที่หน้าขาของโต้ง เสียงร้องโอ้ยจนชาวต่างชาติต้องหยุดส่งภาษาหันมามาองเป็นตาเดียวหมด เสียงโทรศัพท์มือถือดังมาจากกระเป๋ากางงเกงของมิว ชายหนุ่มหยิบขึ้นมารีบกดสายรับเมื่อเห็นหน้าจอเป็นชื่อของป๊า

“ครับป๊า!!”
“............”
“ไม่อยู่ครับ ไม่รู้สิครับ ตอนนี้ผมถึงกรุงเทพฯแล้วครับ”
“………”
มิววางสายลงด้วยความรู้สึกหดหู่ หน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมา จนโต้งต้องถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้

“ป๊าโทร.มาบอกว่าหญิงหนีออกจากบ้าน แต่ไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปสักชิ้น”
“เฮ้ย!!ไม่น่าใช่หรอกนะ หญิงคงไม่ทำอย่างนั้นแน่!!” โต้งไม่อยากเชื่อ แต่ก็เอามือวางทับลงบนหลังมือของอีกฝ่ายเป็นการปลอบใจ โต้งรู้ว่ามิวเองก็เสียใจอยู่ไม่น้อย

“หญิง!!เราขอโทษ เรารู้ว่าหญิงเครียดและเราก็ช่วยอะไรหญิงไม่ได้ เอาไงดีล่ะโต้ง?” เหมือนมิวจะพูดกับตัวเองแต่ประโยคหลังอดหันมาถามความคิดเห็นจากโต้งไม่ได้ ชายหนุ่มอีกคนได้แต่ทำหน้าไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก และไม่รู้จะทำอะไรที่ดีกว่านี้ได้

“หญิงทำไมไม่รับสายว่ะ!! ตอนนี้อยู่ที่ไหน? บอกกันให้รู้ก็พอ” มิวหงุดหงิด มองดูโทรศัพท์ในมือที่พยายามต่อสายถึงเพื่อน โต้งมองหน้าอย่างเข้าใจความรู้สึก

“มิวอย่าพยายามเลย ยิ่งโทร.ไปตอนนี้หญิงก็ยิ่งไม่สบายใจ เอาไว้ให้หญิงสงบสักนิด หญิงจะติดต่อมาเอง”
โต้งลูบหลังมิวช้าๆ อีกฝ่ายเอนตัวมาซบตรงหัวไหล่ ไม่สนใจสายตาของผู้คนที่มองมา…โต้งเองก็ไม่สนใจด้วยเหมือนกันคนที่อยู่ข้างๆตอนนี้ต่างหากที่เขาต้องให้ความสนใจและแคร์ความรู้สึก…


***************

ที่บริษัทเพลง พี่อ็อดประชุมเครียดกับผู้บริหารอีกครั้งเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ปลายปีแล้ว ช่วงนี้วงการเพลงค่อนข้างซบเซาลงไปมาก มีเพียงกระแสเป็นระยะๆ และงานคอนเสิร์ตใหญ่ๆของศิลปินอันดับต้นๆของค่ายเท่านั้นที่ปล่อยทีเด็ดออกไปช่วงกลางปี แต่ปลายปีนี้ ทางค่ายต้องการปล่อยวงออกัสให้เปรี้ยงอีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างกระแสโด่งดังเมื่อห้าปีก่อน

“พลอย พี่ให้เราติดต่อกับมิวอีกครั้ง บอกเขาว่าพี่ขอร้องและนัดให้มาพบพี่ด้วย” พี่อ็อดเดินถือแฟ้มหน้าเครียดออกจากห้องประชุมใหญ่กลับเข้ามาที่ห้องทำงาน พลอยรับทราบ จดข้อมูลลงสมุดทันที

“พี่ขอร้องเถอะ!! ไอ้การเคี้ยวหมากฝรั่งเวลาทำงานนี่มันไม่ช่วยสร้างบุคคลิกพลอยให้ดูดีเลย คราวหน้าอย่าเคี้ยวให้เห็นอีก”

“ค่ะ”
พลอยก้มศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินไปคายทิ้ง

***************

หลังจากพาตัวเองออกจากร้านกาแฟได้ เอ็กส์ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะไปที่แห่งหนึ่ง ทันทีที่คิดได้ก็โบกรถประจำทางไปทันที สองข้างทางที่เอ็กส์มองผ่านกระจกหน้าต่างนั้น มีหลากหลายอย่างที่เขาพบเห็น ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกในหัวใจของตัวเอง ไม่นานเอ็กส์ก็มาหยุดอยู่ที่ๆเขาตั้งใจมา

“สยาม”…ที่ลานน้ำพุ ชายหนุ่มพยายามสลัดภาพทรงจำที่เหมือนเพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่นานให้หลุดไปจากห้วงความคิด แต่ก็ยากเย็นเต็มที ภาพในอดีตตอนนั้นเขามีข่าวดีที่พี่อ็อดจะจัดงานคอนเสิร์ตเลี้ยงฉลองรับปริญญาให้กับมิวและชวนมิวเดินเล่นที่สยาม สยามแห่งนี้…

" ตอนนี้เพื่อนแกเค้าไปอยู่ไหนแล้วว่ะ?"
จู่ๆเอ็กส์ก็ถามขึ้นมา แต่ก็ทำให้มิวหัวใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ จนต้องเลี่ยงหันไปอีกทาง
" มรึงหมายถึงใคร?"
" ก็คนที่มรึงบอกว่าย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดไง!!"
เหมือนยกภูเขาออกจากอก
" อ๋อ..หญิงน่ะเหรอ?"
มิวหันกลับมาสบตากับเอ็กส์ช้าๆ พยายามทำสีหน้าให้เหมือนเดิม นึกขำตัวเอง เอ็กส์เห็นรอยยิ้มนั้นเข้าใจว่า หญิงคือคนพิเศษของมิว

" ตั้งแต่จอยมันบอกว่าย้ายไปจังหวัดสระแก้ว กรูก็ไม่เคยได้ข่าวอีกเลย ป่านนี้คงเรียนจบพร้อมๆกับพวกเรานั่นแหละ"

เอ็กส์อ้าปากค้าง เพราะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ตัวเองคิดจะเป็นจริงได้ เพราะหากหญิงเป็นคนพิเศษจริงก็น่าจะติดตามข่าวกันบ้าง

“เพื่อนอีกคนของมิวล่ะ!!ตอนนี้เค้าไปอยู่ไหน?”

เอ็กส์หันมาถามเรื่อยๆ เหมือนจะไม่ต้องการคำตอบจริงจังนัก แต่สำหรับมิวแล้ว เหมือนภูเขาเมื่อสักครู่ที่คิดว่ายกมันพ้น มันได้ถล่มลงมาทับที่กลางหัวใจอย่างไม่ทันตั้งตัว มิวหันหน้าเบือนไปอีกด้าน แต่ก็เหมือนก้อนหินจากภูเขาลูกนั้นต้องการฝั่งร่างของเขาให้จมลงกับพื้นดิน เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร้านไอศครีม ภาพของใครคนหนึ่งผุดขึ้นมาในความทรงจำ มิวไม่อาจจะหันกลับไปสบตากับเอ็กส์ได้ หรือแม้แต่จะมองร้านไอศครีมนั้นเต็มๆสองตา สิ่งที่ทำได้เพียงตอนนี้คือมองพื้นถนนที่ทอดยาวและพยายามสาวเท้าให้เร็วขึ้น เอ็กส์กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเหมือนรอฟังคำตอบนั้น

“ใคร!!” มิวถามขึ้นไม่หันมาสบตาด้วย
“เพื่อนของมรึง จะมีสักกี่คนกันว่ะ!!...กรูหมายถึงไอ้โต้ง!!”
เอ็กส์เกาะไหล่มิว เหมือนยื้อให้เดินช้าลง แต่มิวก็ยักไหล่เบาๆ เอ็กส์เอามือออก
" กรูเปลี่ยนเบอร์ ไม่รู้สิ ไม่เคยได้ข่าว"

มิวตอบได้เพียงเท่านั้นก็ก้มหน้าเดินไป เอ็กส์เริ่มรู้ตัว เหมือนจะโทษตัวเองที่เป็นคนเปิดประตูโลกแห่งความเหงานั้นให้กับมิวก้าวเข้าไป ...มิวเดินห่างออกไปทุกที เอ็กส์ไม่ได้เดินตามนอกจากมองดูมิวที่เดินอ้างว้างอยู่ท่ามกลางผู้คนที่พลุกผล่าน ไม่ต่างจากเรือน้อยๆที่ลอยเคว้งอยู่กลางมรสุม ยากที่จะบังคับทิศทางให้ไปยังฝั่งฝัน เอ็กส์ทรุดตัวลงกับเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ

" มึงชอบคิดเสมอๆว่าไม่มีใครเข้าใจมึง มึงต่างหากล่ะ!!ไม่เคยมองเห็นความหวังดีของกู"

เอ็กส์พูดคนเดียวเบาๆ สายตาหันไปมองมิวที่เดินหันหลังไหวๆสลับกับพื้นถนนตรงหน้า ภาพในอดีตกับปัจจุบันไม่ได้ต่างกันเลย มิวเลือกที่จะเดินห่างออกจากเขาไปทุกที เหงาเหลือเกินมิว กูเข้าใจมึงแล้ว ว่าความเหงาที่มึงชอบพูดนักหนา…มันเป็นอย่างไร? เอ็กส์ก้มหน้าร้องไห้กับตัวเอง ก่อนจะหุนหันจัดแจงหยิบกระดาษแผ่นใหย่ออกมาก้มๆเงยๆขีดเขียนบางอย่างลงไป ด้วยความรู้สึกเลื่อนลอยและเดียวดาย…

ผู้คนที่สยามยามเย็นดูคึกคักเหมือนทุกๆวัน แต่วันนี้คงมีบางอย่างที่พิเศษกว่าวันไหนๆ เสียงกลุ่มเด็กวัยรุ่นสาวๆส่งเสียงกรี๊ดกราดกันเป็นระยะๆ บางก็มีภาพของหนุ่มสาวเดินจูงมือกันเดินดูสิ่งของตามหน้าร้านต่างๆ สายตาของโดนัทที่อยู่ในร้านไอศครีมทอดมองออกมาเบื้องหน้ากระจก ไม่มีทีท่าเบื่อหน่าย เธอสามารถนั่งอยู่ตรงนี้ได้เป็นวันๆ หญิงสาวกลุ่มหนึ่งในชุดนักเรียนต่างยืนส่งเสียงชี้นิ้วไปที่ลานกว้างของสยามอีกฝั่งหนึ่งไม่ไกลจากร้านไอศครีมนัก

สาวๆต่างผลัดกันวิ่งเข้าไปถ่ายรูปและทำตามคำเชื้อเชิญของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของข้อความที่คล้องคออยู่ โดนัทพยายามเพ่งสายตาอ่านดูเพลินๆด้วยความสนใจ ละความรู้สึกจากความเหงาในใจของตัวเองไปได้บ้าง
“กอดผมให้หายเหงาได้ไหม?”

โดนัทอ่านข้อความนั้นแล้ว หัวเราะทั้งน้ำตา เรียกพนักงานในร้านมาซุบซิบๆแล้วเดินออกไปจากร้านไอศครีมเธอเองก็ใคร่อยากรู้ว่าเวลานี้จะมีใครที่เหงาไปกว่าเธอได้อีก …แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรับรู้ได้จากผู้ชายที่บางเวลายืนเคว้งคว้างรอคอยไอสัมผัสจากผู้คนอยู่น ณ เวลานั้น มันเหงาและเจ็บปวดเช่นไร? นี่แหละที่ใครๆต่างพูดว่าคนเหงา ย่อมเข้าใจความเหงาได้ดี …เธอเองเข้าใจดีทั้งความเหงาและคนที่เหงาที่ยืนอยู่ตรงนั้น…ทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของเจ้าของข้อความนั้น โดนัทถึงกับอึ้งและสุดจะกลั้นความรู้สึกออกมาได้

“เอ็กส์!!”

เขาจำได้ดีว่าผู้ชายคนนี้คือหนึ่งในสมาชิกวง ออกัส นั่นเอง หญิงสาวไม่คิดจะเปลี่ยนเจตนารมณ์ของเธอสักนิด ตรงกันข้ามเธอกล้าพอที่จะเดินไปหาชายหนุ่มช้าๆด้วยข้อความที่เธอขอให้พนักงานในร้านไอศครีมเขียนให้เธอ

“ขอใครสักคนกอดฉันให้หายเหงา!!”

ทั้งสองต่างสบตากันนิ่ง ไม่มีคำพูดใดๆมาอธิบาย อานุภาพของความเหงาต่างทำหน้าที่ของมันเอง แรงเหงาของฝ่ายตรงข้ามต่างพุ่งเข้าหากันและกันอย่างโหยหา สะกดทุกสายตาและอารมณ์ของทุกคนที่พบเห็น หนุ่มสาวต่างโผเข้าสวมกอดกันโดยไม่ต้องมีคำอธิบายนอกจากอ่านสายตาของกันและกัน
ทั้งคู่ยิ้มทั้งน้ำตา…ท่ามกลางเสียงปรบมือของผู้คนบนถนนสยามแห่งนี้…สยามแห่งรัก



Create Date : 07 สิงหาคม 2551
Last Update : 7 สิงหาคม 2551 17:57:41 น.
Counter : 380 Pageviews.

13 comments
  
โอ้โฮ! คุณออมสิน
เล่นใช้คำบรรยายความรู้สึกขนาดนี้
ทำให้รู้สึได้ว่า
ทุกตัวตนของสยามแห่รักนี้
ต่าก็มีจุด....ที่ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวของชีวิตเลยนะครับ
นับถือครับ
ยิ่งอ่านยิ่งมีลีลาที่แตกต่างกันในแต่ละตอน
สนุกมากๆครับ
ขอบคุณครับ
โดย: a IP: 202.149.25.241 วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:19:41:08 น.
  
เอ็กซ์ กับ โดนัท เหรอ
ดีเหมือนกันนะ โต้งกับมิวจะได้ทางสดวกขึ้นบ้าง
โดย: andy_kwan IP: 118.174.148.147 วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:22:55:41 น.
  
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ชอบมากเลยน้องออมสินแต่งเก่งและบรรยายเรื่องเก่งด้วย สงสารหญิงเจอเรื่องร้าย ๆ ดีใจที่มิวกับโต้งเข้าใจกัน ขอจบแบบสมหวังนะน้องออมสิน ในหนังมันไม่สมหวังแล้วขอฟิคจบแบบสมหวังบ้างดีกว่า เป็นกำลังใจให้น้องออมสินค่ะ
โดย: แก้ม IP: 125.25.89.225 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:0:30:41 น.
  
อ่านแล้วได้อารมณ์เหงาตามเอ๊กซ์และโดนัทจริง ๆ

“ขอใครสักคนกอดฉันให้หายเหงา!!”

โดย: lucky IP: 125.25.89.128 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:10:04:32 น.
  
ไม่เคยคาดว่าความเหงาจะเชี่ยใส่มือกีตาร์คิ้วหนาเข้าให้ด้วย

อ่านแล้วเหงาตามทันทีเลยครับ อยากกอดใครซักคนจัง แต่คงเป็นไปไม่ได้
โดย: นิรมิตร IP: 58.9.22.181 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:10:10:20 น.
  
ยังไม่ได้อ่านแต่ก็ก็อบไว้แล้วเดี๋ยวคืนนี้จะอ่านรวดเดียวจบ

ขอบคุณครับ ดีใจมากได้อ่านฟิคอีกแล้ว
โดย: โอ๊ต IP: 125.27.231.54 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:17:01:15 น.
  
แล้วต่อไปจาเป็นอย่างไรเนี่ย
โดย: Pon IP: 124.120.56.202 วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:23:05:24 น.
  
พี่เขียนช้ามาก

เสียอารมณ์สุดๆ






..
โดย: โอ IP: 58.8.40.90 วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:19:38:18 น.
  
รู้ส฿กดีจริง ๆๆ ครับ
โดย: Pon IP: 124.120.58.23 วันที่: 10 สิงหาคม 2551 เวลา:21:03:17 น.
  
แล้วตอนที่ 20 เกือบยังครับ มานั่งหน้าจอรอแล้วครับ
โดย: Pon IP: 124.121.236.5 วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:22:05:59 น.
  
รอตอนที่ 20 ด้วยคนครับ
โดย: a IP: 202.149.25.241 วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:22:29:53 น.
  
รอตอนที่20อยู่นะครับ
กำลังเหงาเลย
โดย: มาริโอ้ IP: 125.24.160.33 วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:19:12:33 น.
  
ปล่อยเขาไปเถอะครับ (คนจายร้อน)....ยังไงก็รอได้ครับ..
โดย: Pon IP: 124.120.49.72 วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:22:35:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหมอกมลชนก
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"Some dream of worthy accomplishments, while others stay awake and do them."

บางคนฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู ในขณะที่บางคนกำลังลงมือกระทำ

คำคมนี้ดูจะบ่งบอกความเป็นตัวตนของ"ออมสิน"ได้เป็นอย่างดี...


สมาชิกอยู่ในบ้านขณะนี้