หัวใจดวงนี้ ไม่มีอะไรนอกจากความห่วงใยแก่ใครบางคน หัวใจดวงนี้ บางทีสับสน ก็เพราะใครบางคน ไม่เคยสนใจ หัวใจดวงนี้ บางทีหวั่นไหว ก็จะเป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่ใครบางคน
Group Blog
 
All blogs
 
ทำบุญครั้งยิ่งใหญ๋ในชีวิต ครั้งแรก

ตั้งแต่มาอยู่ที่สก๊อตแลนด์ แทบจะไม่เคยทำบุญเลย

ไม่เคยไปวัด ไม่เคยไปโบสถ์

ไม่เคยสวดมนต์ก่อนนอน

อยากทำบุญ ชาติหน้าอาจจะเกิดมาสบายกว่านี้

ทำไงดี จนวันนึงขับรถผ่าน ทาวน์ฮอลล์

เห็นรถบริจาคเลือด เลยแวะเข้าไปดู ว่าต้องทำยังไงบ้าง

ครั้งแรก เค้าให้เรากรอกแบบฟอร์มก่อน

ซักประวัติต่างๆ เรามาจากเมืองไทย ซื่งเป็นประเทศที่เข้าคลาสของมาลาเรีย

เราจึงต้องผ่านการตรวจเลือดก่อน แล้วรอฟังผลทางไปรษณีย์

ว่าเราสามารถบริจาคเลือดได้ไหม

ผ่านไปเดือนกว่าก็ได้รับจดหมายว่า เราสามารถบริจาคเลือดได้

แต่ต้องรอว่าเมื่อไหร่ทางเรดครอสจะเข้ามาในเมืองที่เราอยุ่อีกที

แล้วเค้าจะส่่งการ์ดมาให้ ปกติแล้วเค้าจะกลับมาทุก 3 เดือน



ได้รับการ์ดมา 2-3 สัปดาห์ก่อน ก็คิดว่าจะต้องไปบริจาคให้ได้

เค้าจะมารับบริจาคเลือด 3 วัน แต่เป็นวันที่เราทำงาน 2 วัน

ได้มาบริจาคเลือดครั้งแรก ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเที่ยวนี้

ไม่งั้นก็ต้องรอไปอีก 3 เดือน กว่าเค้าจะกลับมากันอีกที



รู้สึกประหม่ายังไงก็ไม่รู้ อากาศก็หนาว มือไม้เราเย็นไปหมดเลย

ในทาวน์ฮอลล์ก็หนาว เพราะฮึตเตอร์เหมือนไม่แรงพอประมาณนั้น

หลังจากเข้าคิวสักพัก ก็ถึงคิวเรา ก็ต้องตอบคำถามในแบบฟอร์มก่อนอีก

แล้วก็ต้องเจาะเลือดเอาไปนับก่อนว่า ค่าเลือดเรามากพอที่จะบริจาคไหม

ถ้าต่ำกว่า 12.5 ก็บริจาคไม่ได้ ของเรา 13.8 โอเค ใช้ได้

โดนสอบถามเรื่องโรคภัย ไข้เจ็บอีก ก่อนที่จะให้เลือดได้

หลังจากนั้นก็มารอคิว รอเตียงอีก



ยืนรอเตียงอยู่ เห็นผู้หญิงที่เค้ากำลังให้เลือดอยู่

หน้าซีดมาก แล้วพนักงานก็มาคอยดูแลเค้า ปรับเตียงที่ปลายเท้าให้สูงขั้น

แล้วก็คอยดูแลอยู่ข้างเตียงตลอด



เราโดนเรียกแล้ว นอนรออยู่ที่เตียงด้วยใจประหม่ามาก

เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต วิตกว่าตัวเองจะเป็นแบบคนนั้นรึเปล่า

แล้วเราจะขับรถกลับบ้านได้ไหม

สักพักพนักงานก็มา เอาสายรัดแขนเรา ให้เรากำมือ ดูว่าเส้นเลือดเราขึ้นไหม

จากนั้นก็เอาสายรัดออก แล้วทำความสะอาดแขนเราอีกทีก่อนที่จะทำการเจาะเลือดจริง



เราต้องเอาผ้าพันคอปิดตาตัวเองไว้ เพราะไม่ชอบเห็นเข็มฉีดยาเลย

เจ็บนิดหน่อย ตอนเข็มแทงเข้าไป อยากรู้ อยากเห็นว่าเค้าจะทำยังไงต่อไป

เห็นเค้าเอาเลือดใส่ถุงเล็กก่อน แล้วก็ถ่ายเอาไปใส่ขวดเล็กอีก 3 ขวด

เค้าบอกว่าเอาไปเป็น แซมเปิล

จากนั้นก็เอาถุงใหญ่มาต่อท่อ แล้วบอกให้เราขยับมือไว้ตลอดเวลา

ประมาณ 5 นาที เค้าก็บอกว่าได้ครึ่งนึงแล้ว

เราก็คิดว่า เอ๊ะ ทำไมเร็วจัง ก็เลยถามเค้าว่า

ทุกคนใช้เวลาเท่ากันรึเปล่า เพราะว่าผู้ชายข้างๆฉันเค้ามาก่อน

ทำไมเค้ายังไม่เสร็จเลย พยาบาลตอบว่า

แต่ละคนจะใช้เวลาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่า เส้นเลือดของเราจะใหญ่หรือเล็ก

แล้วเลือดแต่ละคนก็ไหลไม่เท่ากัน บางคนก็ไหลช้า บางคนก็ไหลเร็ว

แต่เค้าจะไม่ให้เกิน 15 นาทีต่อคน แม้ว่าจะไม่ได้เลือดตามปริมาณที่ต้องการ คือ 1 แก้วเบียร์ pint



อืม ได้ความรู้อีกเรื่อง

หลังจากให้เลือดเสร็จ เราก็กลัวว่าเราจะรู้สึกหวิว หรือเวียนหัว

แต่ว่าเราไม่เป็นอะไรเลย เค้ามีบริการ เครื่องดื่ม บิสกิต ไว้ให้

แต่เราดื่มแค่น้ำส้มแก้วเดียว ทีแรกคิดว่าจะนั่งสักพักก่อน

แต่เห็นว่าผู้ชายคนข้างๆ เค้าดื่มน้ำส้มเสร็จ เค้าก็ลุกไปเลย

เราก็คิดว่า เออ ถ้าเราไม่ได้รู้สึกอะไร เราก็คงกลับบ้านได้เลย

สรุปว่าขับรถกลับบ้านมาไม่รู้สึกอะไร ทำกับข้าวให้สามีก็ยังไม่รู้สึกอะไรอีก



คิดว่าเราคงแข็งแรงดีมาก แล้วก็ภูมิใจ ดีใจมากที่ได้ทำบุญครั้งนี้

แล้วคิดว่าจะบริจาคเลือดทุกครั้งที่มีโอกาศ




Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 30 กันยายน 2554 0:40:15 น. 4 comments
Counter : 482 Pageviews.

 
good


โดย: nangjai1 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:4:37:34 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยครับ


โดย: ฤดูกาลใต้แสงจันทร์ วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:7:24:35 น.  

 
ไอติมมาส่งค่ะ ไว้คลายร้อน
ขอบคุณเนื้อหาดีๆ ที่เอามาแบ่งปันค่ะ

Photobucket


โดย: Junenaka1 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:52:35 น.  

 
เคยไปให้กำลังใจเพื่อนตอนที่เค้าบริจาคเลือดค่ะ
สรุปเราเป็นลม เพื่อนต้องลุกจากเตียงมาดูแลเรา อายมาก
เคยคิดอยากบริจาคเหมือนกัน แต่น้ำหนักไม่ถึงซักที่ เจ้าของบ้านเก่งมากๆค่ะ


โดย: เรไรไอด้า IP: 74.195.73.138 วันที่: 18 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:31:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bopeep
Location :
กรุงเทพฯ United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เกิดวันพระ ราศีมีน เลือดกรุปบี
เป็นแม่ของลูก 2 คน เป็นย่าของหลานสาว 1 คน
อยู่สก๊อตแลนด์มาสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะอยู่อีกนานเท่าไหร่
รักเมืองไทย รักในหลวง รักพ่อแม่พี่น้องที่เมืองไทยทุกคน
คิดถึงทุกอย่างที่เกียวกับเมืองไทย ยกเว้นนักการเมืองจอมโคตรโกงและโกงทั้งโคตรทั้งหลาย
รักการท่องเที่ยว รักความยุติธรรม เกลียดคนเห็นแก่ตัว
และเห็นแก่ได้ทั้งหลาย
รักการทำอาหาร รักสวยรักงาม ยังบ้าตามแฟชั่นอยู่เลยทั้งที่ตั้งใจไว้ว่า
ถ้าอายุ 40 เมื่อไหร่ จะแต่งตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
นี่ก็ 47 แล้ว ยังอดแต่งตัวตามแฟชั่นไม่ได้ซะที
เขึยนบล๊อคนี้เพื่อเป็นเป็นไดอารี่ให้กับตัวเอง ว่าทำอะไรบ้างในชีวิตที่ผ่านมา
มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต และคิดอย่างไรกับชีวิตในขณะนั้น
เก็บไว้ดูความเปลี่ยนแปลงกับชีวิตตัวเอง
Friends' blogs
[Add Bopeep's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.