หัวใจดวงนี้ ไม่มีอะไรนอกจากความห่วงใยแก่ใครบางคน หัวใจดวงนี้ บางทีสับสน ก็เพราะใครบางคน ไม่เคยสนใจ หัวใจดวงนี้ บางทีหวั่นไหว ก็จะเป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่ใครบางคน
Group Blog
 
All blogs
 
ได้งานใหม่แล้วค่ะ

ผลของความสะเพร่าเมื่อวันก่อน เรื่องสมัครงาน


ทำให้รู้สึกเศร้าซืม และเกลียดตัวเองไป 2 วัน


รอจนถึงเช้าวันจันทร์ก็รีบโทรไปหาคนที่เค้านัดสำภาษณ์


เค้าถามถึงเหตุผลของการไม่โทรมาคอนเฟิร์มเรื่องสำภาษณ์


เราก็เลยแหลไปว่า ไปรษณีย์ส่ง จดหมายผิดบ้านเลขที่


เราเพิ่งได้รับจดหมายจากคนข้างบ้านเมื่อวันศุกร์เอง


ถ้ายังไงขอโอกาศให้เราได้สำภาษณ์งานได้ไหม


เค้าก็เลยบอกว่าเราสะดวกเมื่อไหร่ เราก็บอกว่าพรุ่งนี้ ได้ไหม


เค้าบอก เค้าต้องไปสำภาษณ์งานที่เขตอื่น งั้นเค้าจะส่งจดหมายนัดมาใหม่ละกัน


เราก็คิดว่าถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าอาจจะไม่ส่งจดหมายให้เราก็ได้


ก็เลยถามไปว่า งั้นเราไปสำภาษณ์วันนี้ได้ไหม


เค้าบอกว่างั้นขอดูตารางก่อน แล้วก็บอกว่า


เค้าสามารถเอาเราแทรกเข้าได้ตอนบ่ายโมง


เราก็เลยโอเค ตกลงไปก่อน ทั้งๆที่ตัวเองก็มีคอร์สเข้าอบรมตอนบ่ายครึ่ง


เราบอกกะซีเนียร์ว่าเราจะลาพักกลางวันตอนเที่ยงครื่งน่ะ


แล้วก็จะกลับมาเข้าอบรมเลย ซีเนียร์ก็ไม่ได้ว่าอะไร


เรารีบขับรถไปที่ที่สำภาษณ์งาน ไปถึงก่อนเวลา 10 นาที


เค้าให้นั่งรอแป็ปนึง เค้าบอกขอเตรียมเอกสารก่อน


เราเข้าไปสำภาษณ์งานทั้งๆที่ยังอยู่ในยูนิฟอร์มของที่ทำงาน


เค้าก็เริ่มสำภาษณ์ต่างๆ เรารู้สึกประหม่านิดหน่อย


ทำให้ปากแห้ง แล้วก็ลืมคำพูดที่สำคัญหลายคำ


เสร็จจากสำภาษณ์ รู้สึกผิดหวังกะตัวเองนิดหน่อย


เพราะคิดว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ หลังจากนั้นก็รู้สึกไม่ดีไปอีกทั้งคืนเลย



เราสำภาษณ์งานไปเมื่อวันจันทร์ งานหยุดวันอังคาร พุธ


เช้าวันพุธ เรายังนอนอยู่ที่เตียงอยู่เลย


กำลังคุยโทรศัพท์กะซะมีอยู่ก็มีสายแทรกเข้ามา


เห็นเบอร์โทรเป็นเบอร์ที่สำภาษณ์งานใหม่ ก็เลยรับสายก่อน


เค้าบอกว่า ยินดีด้วยน่ะ คุณได้รับการคัดเลื่อกงานนี้


เราก็เลยบอกขอบคุณ แล้วก็ถามรายละเอียดเรื่องการเข้าเวร


หลังจากนั้นก็มานั่งคิดว่า นี่เราจะออกจากงานเก่าเหรอ


โทรหาซะมี บอกเค้าเรื่องที่เราได้งานใหม่


เค้าถามเราว่า ทำไมเสียงเราไม่ตื่นเต้นเลยล่ะ


เพราะเค้าเห็นเรากังวลมาก เรื่องผิดนัดสำภาษณ์ และหลังจากการสำภาษณ์


เค้าบอกว่า เราน่าจะดีใจน่ะ เราก็คิดว่า เราก็น่าจะ น่ะ


แต่ทำไมไม่ดีใจ ไม่ตื่นเต้นก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็คิดว่า


คงออกจากงานเก่าแหละ ทำมา 3 ปีเต็มๆ


ได้ประสบการณ์ในการทำงานมากมาย


เพื่อนๆ ที่ทำงานก็น่ารักกันทุกคน


เฮ้อ..........ยากที่สุดก็คงเป็นตรงที่ต้องเขียนหนังสือลาออก


และเหตุผลของการลาออก  






Free TextEditor


Create Date : 03 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 3:17:54 น. 6 comments
Counter : 429 Pageviews.

 


โดย: maramba1 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:3:32:34 น.  

 
ก่อนไปนอนแวะมายินดีด้วยคนนะคะ
งานคือเงิน

และงานคือความสุขที่ทำให้เรามีชีวิตชีวา

จะได้ไม่เหงาในต่างแดน

เพราะการมีงานทำทำให้ชีวิตเราไม่เดียวดายได้เจอคนอื่นๆที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของเรา

เวลาจะหมุนไปพร้อมกับความสุขและผลตอบแทนถ้างานที่นี่เป็นงานที่เราชอบและทำได้


โดย: Willkommen วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:13:48 น.  

 
ขอให้โชคดีนะค่ะ
และขอแสดงความดีใจด้วยค่ะ

มีงานทำจะได้ไม่เบื่อเมื่ออยู่ต่างแดนค่ะ
มีเพื่อน มีสังคม จะได้ไม่เหงานะค่ะ



โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:7:24:47 น.  

 
ยินดีด้วยค่ะที่ได้งานใหม่ เป็นเหมือนกันเลยเวลาได้งานใหม่แล้วต้องทำหนังสือลาออกจากที่เก่า บางที่เราลำบากใจมากที่จะขอลาออก แต่มันเหมือนไม่มีอะไรให้เรียนรู้ที่นั่นอีกแล้ว เราอยากก้าวไปเผชิญโลกที่มันกว้างกว่านั้นน่ะ เข้าใจความรู้สึกของคุณเลยค่ะ


โดย: Jujastar วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:50:55 น.  

 
แวะมาเยี่ยม...ยินดีกับงานใหม่ด้วยครับ


โดย: **mp5** วันที่: 3 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:29:03 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับงานใหม่ด้วยค่ะ
เขียนเหตุผลการลาออกนี่ยากจริง ๆ แหละ


โดย: ALDI วันที่: 4 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:16:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Bopeep
Location :
กรุงเทพฯ United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เกิดวันพระ ราศีมีน เลือดกรุปบี
เป็นแม่ของลูก 2 คน เป็นย่าของหลานสาว 1 คน
อยู่สก๊อตแลนด์มาสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะอยู่อีกนานเท่าไหร่
รักเมืองไทย รักในหลวง รักพ่อแม่พี่น้องที่เมืองไทยทุกคน
คิดถึงทุกอย่างที่เกียวกับเมืองไทย ยกเว้นนักการเมืองจอมโคตรโกงและโกงทั้งโคตรทั้งหลาย
รักการท่องเที่ยว รักความยุติธรรม เกลียดคนเห็นแก่ตัว
และเห็นแก่ได้ทั้งหลาย
รักการทำอาหาร รักสวยรักงาม ยังบ้าตามแฟชั่นอยู่เลยทั้งที่ตั้งใจไว้ว่า
ถ้าอายุ 40 เมื่อไหร่ จะแต่งตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
นี่ก็ 47 แล้ว ยังอดแต่งตัวตามแฟชั่นไม่ได้ซะที
เขึยนบล๊อคนี้เพื่อเป็นเป็นไดอารี่ให้กับตัวเอง ว่าทำอะไรบ้างในชีวิตที่ผ่านมา
มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิต และคิดอย่างไรกับชีวิตในขณะนั้น
เก็บไว้ดูความเปลี่ยนแปลงกับชีวิตตัวเอง
Friends' blogs
[Add Bopeep's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.