ยื่นใบลาออกล่ะ
หลังจากได้งานที่แคร์โฮมนี้เมื่อ 3 ปีก่อน เราก็คอยมองหางานอื่นอยู่ตลอดเวลา แต่ดูๆแล้วไม่มีที่ไหนที่จะดีไปกว่าที่ทำอยู่ บางที่เงืนเดือนดีกว่า แต่บวกค่าเดินทาง และเวลาแล้ว ทำให้จบลงด้วยการแย่กว่าเดิม ก็เลยทนๆทำมาเรื่อยๆ ก็สนุกกับงาน และเพื่อนร่วมงานดี จนเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เห็นที่นึงที่เค้ารับสมัครงาน เงินเดือนดีกว่าค่อนข้างมาก วันหยุดพักร้อนก็ได้มากกว่าตั้ง 13 วัน ที่ทำอยู่ได้ปีละ 20 วัน ก็ถือว่าพอสมควร แต่ที่ใหม่ได้ 33 วัน ทีทำงานก็ไกล้กว่า เดินทางสะดวกกว่าด้วย ก็เลยลองสมัครดู ปรากฏว่าส่งใบสมัครไปแค่วันเดียวก็ได้รับการตอบรับ และนัดให้ไปสำภาษณ์ สำภาษณ์ได้ 2 วันก็โทรมาบอกว่า เราได้รับการคัดเลือก เราได้งานนั่นเอง หลังจากนั้นเค้าก็ส่งรายละเอียดของการเป็นลูกจ้าง และใบสัญญาการจ้างงาน เราก็ปรึกษากะคุณผู้ชายที่บ้านว่า จะคุ้มและจะดีกว่าทีทำอยู่รึเปล่า เพราะเวลาการทำงานน้อยลง 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่รายได้จะเท่าเดิมจากการทำงาน 38 ชั่วโมง คุณชายเห็นว่าดีกว่าแน่นอน ทำงานน้อยลง แต่รายได้เท่าเดิม ก็ถึอว่าโอเคอยู่น่ะ แถมฮอล์ลิเดย์ก็ได้มากกว่าตั้ง 13 วัน ก็เลยโอเค เซ็นสัญญาแล้วก็ส่งกลับไป ตอนนี้ก็รอการเรียกตัวเพื่อเรื่มงาน เพราะว่าทางบริษัทจะต้องรอเช็คประวัติเราจากบริษัทที่เราทำอยู่ก่อน และก็ต้องจากนายจ้างเก่าด้วย และที่สำคัญคือต้องเช็คประวัติอาชญากรด้วย อันนั้ต้องเช็คกะกรมตำรวจ และอาจจะรอนานประมาณ 2 ถึง 3 สัปดาห์แน่ะ แต่ว่าเราผ่านการเช็คมาก่อนแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน เราก็เลยให้หมายเลขอันเดิมไป คิดว่าคงจะเร็วขึ้น การทำงานกะแคร์โฮม หรือการดูแลเด็ก และคนพิการที่นี่ คนดูแลจะต้องผ่านการเช็คประวัติก่อนทุกคนค่ะ งานที่ต้องทำ ก็ไม่ได้หนักเหมือนที่ทำอยู่ เพราะที่ทำอยู่ตอนนี้ เป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่วอร์ดที่ต้องเช็ดขี้ เช็ดเยี่ยวอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ต้องเป็นที่รองรับอารมย์ของคนไข้ที่งี่เง่า แต่ทีใหม่นี่ ดูแลคนไข้ที่เป็นดาว์นซินโดม หรือว่ามีปัญหาทางจิตใจนิดหน่อย คนไข้พวกนี้ต้องการอยู่อย่างอิสระ แต่ขาดความมั่นใจในการดูแลตัวเอง และการออกสังคมในชีวิตประจำวัน เราจะต้องอยู่ข้างเค้าให้ความช่วยเหลือในเรื่องชีวิตประจำวัน เค้าสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เราก็คอยดูแลอีกทีว่าเค้าจะไม่ทำอะไร ที่จะเกิดอันตรายแก่ตัวเค้าเอง และคนรอบข้าง พาเค้าออกไปข้างนอก ชอปปิ้ง หรือว่าไปเรียนการฝึกหัดฝีมือต่างๆที่เค้าชอบ หรือว่าพาเค้าไปดูหนัง ไปออกกำลังกาย หากิจกรรมให้เค้าทำในชีวิตประจำวันโดยที่เค้าจะได้ไม่เบื่อ คอยควบคุมและดูแลเรื่องยาที่เค้าจะต้องได้รับอย่างตรงเวลาด้วย สิ่งที่ยากก็คงจะเป็นเรื่องจิตวิทยา เพราะพวกนี้ถ้าเกิดบ้าขึ้นมา หรือว่าทำร้ายเราขิ้นมา เราก็อาจจะเป็นอันตรายได้เหมือนกัน แต่ว่าเค้าจะมีคอร์สอบรมให้เราเรียนรู้ในการป้องกันตัว แต่ไม่ใช่ว่าไปต่อสู้กะเค้าน่ะ แค่ว่าป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงจากการถูกทำร้ายจากเค้า ถ้าเค้าชอบเราก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าคนไข้เค้าไม่ได้ชอบเรา หรือไม่อยากให้เราดูแลเค้า เราก็ปรึกษากะซีเนียร์เราได้ ตอนนี้ก็เลยทำหนังสือยื่นใบลาออกจากที่เก่าเรียบร้อยแล้ว เพื่อนร่วมงานก็แสดงความยินดีด้วยที่ได้งานใหม่ แต่บอกว่ายังไงก็ไม่อยากให้ออกเลย พยาบาลก็บอกกะเราว่า ไม่ได้เราออกไม่ได้ ไม่ให้ออก ถ้าออกจะแกล้งทุกวันเลย อีกคนก็พูดแต่เรื่องร้ายๆ เกี่ยวกับการทำงานกะคนไข้ประเภทนี้ เราก็ฟังไป นึกในใจไป ขำไปด้วยว่า นี่จะพยายามให้ฉันเปลี่ยนใจเหรอ ไม่มีวันซะล่ะ ยังไงก็ขอออกไปลองดูด้วยตัวเองก่อนละกัน ถ้ามันแย่อย่างนั้นจนทำไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยว่ากันใหม่ แต่เค้าก็บอกว่า ยังไงเธอก็กลับมาที่เก่าได้อยู่แล้วล่ะ เลยบอกเค้าไปว่า ยังไงก็คงไม่กลับมาที่เก่าหรอกค่ะ เพราะถ้าเรามีความสุข หรือรักงานนี้จริงๆ เราก็คงไม่หางานใหม่หรอก และถ้าทำไม่ได้จริงๆ ทีนี้ล่ะ จะทำความฝันให้เป็นจริงซะที คืออยากมีร้านนวดไทยเป็นของตัวเองน่ะค่ะ แต่ว่ายังไม่ได้ไปเรียนนวดที่ไหนเลย ยังไม่ได้กลับบ้าน คิดว่าถ้าถึงวันนึงที่คิดว่าพอแล้วกับการทำงาน ก็คงไปเรียนนวดไทย แล้วกลับมาเปิดร้านนวดไทยที่นี่ดีกว่า ตอนนี้ที่ยังไม่ทำ เพราะว่า ยังไม่แน่ใจในสถานะภาพการเงินของตัวเอง เพราะว่าเรายังต้องส่งลูกเรียนมหาลัยที่นี่อยู่ ถ้าทำนวด เราจะมีรายได้ไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะดีกว่า หรือว่าจะแย่กว่า ตอนนี้ก็เลยทำงานที่มีรายได้ประจำไปก่อนดีกว่า แต่ถ้าเราไม่ชอบงานใหม่ เราก็คงกลับบ้านไปเรียนนวด แล้วกลับมาทำเป็นรายได้พิเศษที่นี่ จนกว่าลุกจะเรียนจบ แล้วค่อยทำเป็นจริงเป็นจังอีกที
Free TextEditor
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554 | | |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 21:37:43 น. |
Counter : 363 Pageviews. |
| |
|
|
|