วันแรกของการเป็น Care Assistant
ตอนแรกยอมรับว่่ากังวลมากว่าคงจะทำงานนี้ไม่ได้ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ขยะแขยง ขี้ เหยี่ยว คนอื่นมากกกกกกกกกกก พอสมควร แต่มาคิดอีกที ไม่ลองก็ไม่รู้นิ ไปลองก่อนดีกว่า ก่อนที่จะตัดสินใจ วันแรกไปถึงที่ทำงานตั้งแต่ 7 โมงครึ่งแน่ะ นั่งรอจน 8 โมง จนกระทั่งพวก day shift เริ่มเข้ามา ก็เลยได้รับการแนะนำตัวว่าเราเป็นคนใหม่ ที่จะต้องฝึกงานก่อน เราได้ร่วมงานกะ Kym ซึ่งอายุ 40 เธอน่ารัก ใจเย็นดี อธิบายเรื่องงาน และทำให้เราดูอย่างละเอียด คนไข้คนแรกที่เราเข้าไปดูแล
พอเราได้กลิ่นที่เค้าฉี่ไว้ ครั้งแรกเราก็แทบกลั้นไม่อยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องทำหน้าตาเฉยไว้ แต่กลั้นหายใจไว้ด้วย คนไข้รายนี้เป็นหญิงสาวอายุแค่ 37 เอง แต่ว่าเป็น MS เป็นมาได้ 2 ปีแล้ว ขยับเขยื้อนไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ น่าสงสารจัง มีลูกชายคนเดียวอายุ 4 ขวบ คนไข้รายนี้เราแค่ทำความสะอาดส่วนล่างให้เค้า แล้วก็เปลี่ยนผ้าอ้อม ทำความสะอาดปากให้เค้า แล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้เราได้เรียนรู้เรื่องการใช้ ฮ้อยส์ คือเครื่องที่ยกคนไข้เคลื่อนย้าย และได้เรียนรู้ที่ต้องถอดสายให้อาหารยังไง เสียบสายอาหารกลับเข้ายังไง และตั้งเซ็ทโปรแกรมความถึ่ของเครื่องให้อาหาร เสร็จแล้วก็หวีผมให้เค้าแล้วพาเค้าออกมานั่งเล่นที่ห้องรับแขก เสร็จแล้วก็เดิินเช็คว่าคนไข้อื่นๆตื่นกันบ้างรึยัง คนไข้ส่วนมากจะตื่นสายกัน นั่นก็คือเราไม่ต้องทำอะไร ที่ unit เรามี carer อยู่ 4คน แต่ว่าคนไข้แค่ 6 คน ก็เลยแบ่งคนไข้กันทำไปทีมละ 3 คน unit ที่เราทำงาน คนไข้ส่วนมากเป็น MS พวกเค้าำไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย มีอยู่แค่ 2 คนที่พอจะสื่อสารได้บ้าง เราก็ต้องพยายามที่จะเข้าใจว่าเค้าต้องการอะไรด้วย สรุปว่าวันแรกและวันที่สองก็ผ่านไปด้วยดี เราไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลย รู้สึกสนุกกะงานด้วยซ้ำ ทีแรกที่คิดว่าจะแค่ลองงานเฉยๆ ก็เลยตัดสินใจว่า จะทำงานนี้แหละ รู้สึกตัวเองมีค่า เหมือนแม่พระยังไงก็ไม่รู้ อีกอย่างถ้าเราอยู่นานขึ้น และมีผลการทำงานดี ทาง Care Center ก้จะส่งเราเข้าฝึก เรื่องการให้ยาคนไข้ด้วย นั่นก็หมายถึงว่าตำแหน่ง และเงินดีขึ้นด้วย อ้อ ได้พบกับผู้หญิงไทยอีกคนทำงานที่เดียวกันด้วย แต่ว่าน้องเค้าทำ domestic ก็ได้คุยกะเค้านิดหน่อยเท่านั้น เพราะไม่อยากรบกวนเวลางานของน้องเค้า ก็ได้แค่ถามไถ่ว่าอยู่นานรึยัง บ้านอยู่แถวไหนอะไรประมาณนั้นแค่นั้น ดูๆ น้องเค้าก็น่ารักดี อายุ 25 แต่งงานแล้ว เสาร์ อาทิตย์นี้เราต้องทำงาน คุณผู้ชายดูท่าทางไม่ค่อย happy เท่าไหร่ เพราะคุณท่านต้องอยู่บ้านคนเดียว อ้อ ต้องทำหน้าที่รับส่งเราด้วย แถมยังต้องทำอาหารเย็น ทำงานบ้านอีก ขอให้สนุกกะงานบ้านนะคะคุณผู้ชายขา แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะแจ๋วซักผ้าไว้ให้มั่งแล้วคะ แล้วยังไงจะเข้ามาเล่าเรื่องงานให้ฟังใหม่น่ะคะ แต่ว่าความจริงแล้ว เราต้องมีจรรยาบรรณคะ ไม่เอาเรื่องของคนไข้มาเล่าให้คนอื่นฟัง แต่ในกรณีนี้ถือว่าอนุโลมละกันนะคะ เพราะไม่ได้มีเจตนาในด้านร้ายคะ เพียงแต่เล่าเรื่องการทำงานเท่านั้นเองนะคะ
Free TextEditor
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2551 | | |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2551 6:06:48 น. |
Counter : 376 Pageviews. |
| |
|
|
|