Group Blog
 
All blogs
 
คำถามของคุณ Pity Mom



สวัสดีค่ะ คุณ aston

อยากขอคำแนะนำ ในการอยู่ร่วมกับสามีที่ไม่มีความกระตือรือร้น ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่มีหัวคิดก้าวหน้า หรือความเป็นหัวหน้าครอบครัวเลย

8 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ความรักระหว่างเราลุ่มๆ ดอนๆ มาก ดิฉันอดทนอยู่เพื่อลูกชายวัย 6 ขวบกว่าๆ เท่านั้น ดิฉันเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในครอบครัว (แม้ว่าเขาจะมีงานทำแต่ค่าจ้างที่ได้รับนั้น ลำพังตัวเขาคนเดียวก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว) แต่เรื่องการดูแลครอบครัวก็ยังไม่ถือว่าเป็นปัญหาเท่าไหร่ เพราะดิฉันคิดเสมอว่า เราเป็นคนเก่ง เราทำเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องได้ผู้ชายที่มีเงิน ร่ำรวย ขอให้รักเราก็พอ...

แต่มาถึงวันนี้ ดิฉันรู้แล้วว่า คำว่ารักคงยังไม่พอจริงๆ เพราะ บ้าน รถ ของใช้ และ อื่นๆ อีกมากมาย ทุกอย่างดิฉันเป็นคนหามาทั้งสิ้น มากไปกว่านั้น เขาไม่ให้ความเคารพคุณแม่ ไม่เกรงใจท่าน ทำตัวเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของทุกอย่าง ทำเหมือนกับว่า ตัวเองมีสิทธิเสรีภาพทุกอย่างในบ้านหลังนี้ อยากจะว่าใครก็ด่าว่า อยากจะบึ้งตึงใส่ใครก็ทำ อยากจะปึงปัง หาเรื่องคนนั้นคนนี้ก็ทำได้ทุกเมื่อ และเรื่องจุกจิกเล็กน้อยเหล่านี้ก็เป็นปัญหา และ เป็นภาระที่ทับถมเป็นดินพอกหางหมูมานานมาก จนวันนี้ ดิฉันเริ่มรับไม่ไหว แต่ก็คิดไม่ออกว่า ควรทำอย่างไร เพราะลูกรักเขามาก ติดเขามาก (เขามีความดีอยู่เรื่องเดียวคือ ดูแลเอาใจใส่ลูกได้ค่อนข้างดี เหมือนลูกสัมผัสได้ว่า เขารักลูกมาก แม้ว่า เวลาที่เขาอารมณ์ไม่ดี จะตะคอกและพูดเสียงดังกับลูกก็ตาม)

ลืมบอกไปค่ะว่า ดิฉันเคยมีครอบครัวมาก่อน แล้วมีอันต้องเลิกร้างกันไป แล้วเขาก็เป็นคนที่เข้ามาในจังหวะชีวิตช่วงนั้น แล้วเราก็มีลูกด้วยกัน ด้วยความเต็มใจ

อย่างไรก็ตาม ดิฉันเปิดเผยทุกอย่างให้เขารับรู้ และเราก็เคลียร์กันตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งตอนนั้นต่างก็รับรู้และเข้าใจกันดี แต่แล้ว เขาก็เป็นคนที่คอยขุดคุ้ย เปรียบเทียบกับคนเก่าๆ ของดิฉันตลอดเวลา

ดิฉันควรจะทำอย่างไร กับผู้ชายห่วยๆ คนนี้ ดีคะ ใจจริงอยากให้เขาไปเจอคนที่ใช่มากกว่าดิฉัน มีคนอื่นไปเลย แต่เขาก็ไม่ทำ อ้างแต่ว่า รักลูกมาก แต่หลายครั้งดิฉันรู้สึกว่า เขาแค่ลดศักด์ศรีความเป็นผู้ชายลงหน่อย ก็อยู่ดีกินดี อยู่สบายกินสบาย บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ เงินเดือนก็ไม่ต้องให้ อยากทำตัวยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ทำได้ แถมได้อยู่กับลูกอีกต่างหาก ก็เท่านั้น

คุณ aston คะ ช่วยบอกทางสว่างให้ด้วยเถอะค่ะ ดิฉันต้องทำอย่างไร ทำงานหาเงินเลี้ยงทุกคนในครอบครัวก็เหนื่อยมากพอแล้ว กลับมาบ้านยังต้องเหนื่อยใจกับผู้ชายเฮงซวยคนนี้อีก รู้สึกว่า ตัวเองซวยมากจริงๆ ที่เลือกคนๆ นี้มาเป็นพ่อของลูก

ช่วยดิฉันด้วยนะคะ

ขอขอบคุณล่วงหน้าไว้เลยค่ะ

โดย: A Pity Mom IP: 124.121.232.184 วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:21:52:42 น.



ต้องออกตัวไว้ ณ ที่นี้นะครับ ว่าผมไม่ใช่ Marriage Consultant
ผมเป็นแค่นักเรียนวิปัสสนาที่อยากช่วยให้คนที่สนใจใบไม้หนึ่งกำมือของพระพุทธเจ้า

เพราะตัวผมเอง ก็เคยหย่ามาเมื่อเจ็ดปีก่อน สงสัยจะเรียนช้าไปหน่อย
จะให้พ่อปูสอนเพื่อนปูเดิน เดี๋ยวก็จะพาลพาไปหาผิดกันใหญ่

ยิ่งเป็นปัญหาครอบครัว ผมยิ่งไม่ค่อยชอบเข้าไปชี้นำ
แต่ที่แนะนำได้ คือจะทำอย่างไรให้ทุกข์น้อยลง

เพราะปัญหากับทุกข์นี่ มันคนละตัวกันนะครับ
อย่างรถยนต์ กับคนขับ ไปไหนด้วยกันก็จริง
แต่รถก็ไม่ใช่คนขับ คนขับก็ไม่ใช่รถ

เคยมีน้องที่รู้จักกันยกตัวอย่างว่า มีคนทำเงินหาย
หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ที่สุดแล้วก็ทำใจได้ว่า หายแล้วก็หายไป มันช่วยไม่ได้
งั้นไว้ก็หาเอาใหม่ก็แล้วกัน

คิดได้แบบนี้แล้ว ถามว่าเงินมันยังหายไหม ก็ยังหายอยู่ ไม่ได้คืนมาซักบาท
ก็คือปัญหา ก็ยังอยู่ แต่ทุกข์หายไปแล้ว

น่าสังเกตว่า คนที่ไม่มีสตินี่ มีเงินร้อยล้านก็จ้างให้ทุกข์หายไปไม่ได้นะครับ

เรื่องคู่ ทางโหราศาสตร์เขาบอกว่า มันเป็นกรรมเก่าส่วนหนึ่ง
พูดแบบนี้ไม่ได้บอกว่าให้งอมืองอเท้า ยอมจำนนกับปัญหา

แต่เบื้องต้น ไปจัดการทุกข์ให้เสร็จก่อน
เอาให้สบายใจ แล้วค่อยๆใจเย็นๆ แก้ปัญหา คุยกันด้วยเหตุและผล

ทุกข์ส่วนหนึ่ง มาจากความห่วยของเขา อันนั้นก็จริงอยู่
แต่อีกส่วน ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยไม่รู้ล่ะ มันก็มาจากตัวเราด้วยนะครับ

คือถามว่าใครเป็นคนไม่พอใจเขา ก็เรา
ที่เราทุกข์ ส่วนหนึ่ง ก็เพราะเราคาดหวังว่า เขาจะต้องดีกว่าที่เป็น
อยากให้เขากระตือรือร้น อยากให้เขามีความรับผิดชอบ
อยากให้เขามีความเป็นผู้นำ มีหัวคิดก้าวหน้า มีความเป็นหัวหน้าครอบครัว

ใครอยากครับ ก็เรานี่แหละอยาก ความอยากของเราแท้ๆ
ฉะนั้น สามีสร้างปัญหา ให้เราจริง แต่สร้างทุกข์ให้เราไม่ได้นะครับ
อันนี้ต้องแยกส่วนเรื่องปัญหา กับทุกข์ออกจากกัน

เขาสร้างปัญหา แต่เราสร้างทุกข์เอง
ทีนี้คำถามคือ ถ้าเข้าใจตรงนี้ มีสติ รู้ทันจิตใจตัวเอง จะทำยังไงต่อไป

มันก็จะไม่มีอารมณ์ที่มองว่าเขา "ห่วย"
แต่จะเห็นว่าเขา "ไม่ดีเท่าที่เราหวัง" แย่ที่สุดก็ "น่าผิดหวัง"

ฉะนั้น ผมช่วยบอกทางให้คุณคลายทุกข์ เข้าใจทุกข์ได้
แต่ผมบอกวิธีแก้ปัญหาไม่ได้นะ ปัญหาครอบครัวคุณ คุณต้องไปแก้เอง

เพียงแต่ผมเชื่อว่า คนเราถ้ามันทุกข์น้อยลง
มันก็จะมีเหตุผล ในการคิดอ่าน ในการเจรจามากขึ้น

ยังไงเขาก็พ่อของลูก สามีของคุณ เขาก็ไม่ต่างจากคุณหรอก
ที่อยากมีความสุขน่ะ เพียงแต่วิธีที่เขาจัดการกับชีวิตตัวเอง
มันอาจจะไม่ดีเท่าที่เราอยากได้เท่านั้นเอง

เวลาแก้ปัญหา มันก็จะมีข้อดี มีข้อเสียกันทุกทาง
แต่ลองเขียนๆเรียงๆกันออกมาดูก็ได้ว่า มีกี่ทางเลือก

ทางไหนมีข้อดีอะไร ข้อเสียอะไร ไล่มันลงมา
แล้วลองเจรจาหาทางประนีประนอมกัน ด้วยความรู้สึกปรารถนาดี

อย่าเอาเรื่องเงินเป็นที่ตั้งนะครับ
เพราะบางอย่างเสียไปแล้ว เงินก็ซื้อไม่ได้

ผมขอไม่ฟันธงนะ .. ไม่ได้ชื่อลักษณ์ และไม่ได้เป็นหมอ
แต่ขอให้โชคดีครับ


Create Date : 07 ตุลาคม 2551
Last Update : 7 ตุลาคม 2551 22:01:14 น. 15 comments
Counter : 774 Pageviews.

 
เอาใจช่วยนะคะ คุณ Pity Mom

ทุกปัญหามีทางออกค่ะ


โดย: dream flyer IP: 117.47.216.83 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:8:45:53 น.  

 
"เขาก็ไม่ต่างจากคุณหรอก
ที่อยากมีความสุขน่ะ"
เมื่อวานเพิ่งมีพี่พูดประโยคนี้ให้หนูฟังเอง ^^"
แต่เห็นด้วยกับพี่เอ๊ดที่ว่าเค้ามีวิธีจัดการกับชีวิตไม่ดีเท่าที่เราอยากได้อ่ะค่ะ เราเลยเป็นทุกข์เพราะเค้าไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง


ตอนนี้หนูต้องอาศัยอุเบกขา กะแผ่เมตตาเป็นตัวหลักเลย - -" ในการผ่านพ้นโทสะ เหอๆ
ปล* พี่เอ็ดคะ ดูจิตตอนโกรธนี่ยากจัง ทำไม่ได้เลยง่ะ T-T สงสัยจะดูไม่เป็นจริงๆด้วย เง้ออ


โดย: อาริซึเมะมูน IP: 124.120.206.239 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:10:39:46 น.  

 
ฟังที่พี่เอ็ดตอบปัญหาแล้ว ทำให้ผมนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งครับ ชื่อกระจก เป็นหนังสือแปลของประเทศญี่ปุ่น ในนั้นมีผู้หญิงที่เจอปัญหาครอบครัวคล้ายๆแบบนี้เช่นกัน เค้าไม่รู้จะไปปรึกษา ใครสุดท้ายก็ได้เพื่อนของสามี เป็นคนชี้ทางสว่างให้ เค้าเปรียบเทียบปัญหาได้ดีครับ เหมือนเวลาเรามองกระจกแล้วพบว่า ผมบนศีรษะเรายุ่งเหยิง เค้าถามว่าเราจะจัดการทรงผมอย่างไร เอื้อมมือไปจัดทรงผมในกระจก หรือจัดทรงผมบนหัวตัวเอง บางครั้ง บางคราวเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา มันก็เป็นกระจกสะท้อนตัวเราเองครับ อย่างที่คุณ pity มองคุณสามีแบบนั้น อาจเพราะความคิดในหัวของคุณ pity เองที่มองแต่เรื่องที่ไม่ดีของสามีคุณ pity แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับ ว่าตัวสามีคุณ pity จะไม่มีเรื่องดีๆให้นึกถึงเลย ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำหรือช่วยแก้ปัญหาได้ไหม เพราะผมเองยังไม่เคยผ่านการแต่งงาน ( Virgin อิอิ)

แล้วมันก็จะผ่านไปครับ

ปล. พี่เอ็ดครับ เสาร์นี้ขอ Emotion ของ Samantha Sang ได้เปล่าครับ เก่าพอหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจกับ Version ของ Bee gee ใครเก่ากว่า แต่ที่แน่ๆ Destiny Child คงไม่ได้ใช่ไหมครับ เพราะใหม่เกิน เอิ๊กส์ๆ


โดย: หมีหุหุ (ขอใช้ชื่อนี่ต่อไปนะครับ อิอิ) IP: 203.209.31.24 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:15:10:32 น.  

 
ขอแก้ฟัง เป็นอ่านนะครับ - -"

เพิ่งไปหาข้อมูลเจอว่า Samatha Sang ก็ร้องเพลงนี้คู่กับ Barry Gibb แป่วววววว



โดย: หมีหุหุ IP: 203.209.31.24 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:15:15:09 น.  

 

มาอ่านข้อคิดของพ่อปูค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:22:20:45 น.  

 
-/\\- สาธุค่ะพี่

ขอให้คุณ A Pity Mom เห็นอารมณ์ เห็นจิตใจตัวเอง เห็นทางออกที่ดี เอาใจช่วยด้วยคนนะคะ


โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.222.106 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:22:36:26 น.  

 
คุณเอ็ดคะ

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ที่ให้คำแนะนำดีๆ

ขอสมัครเป็นสาวกของคุณเอ็ดเลยก็แล้วกันค่ะ

จากนี้ไป จะมีสติ รู้ทันจิตใจตัวเอง ไม่นำปัญหาใดๆ มาทำให้ใจเป็นทุกข์อีก เพราะ ปัญหา กับ ทุกข์ มันคนละส่วนกัน

ขอบคุณมากค่ะ


โดย: A Pity Mom IP: 124.121.254.123 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:23:12:10 น.  

 
ช่วงนี้คุณเอ็ดเข้าโหมดตอบคำถาม
ตามแทบไม่ทัน^^

แต่อ่านเพลินค่ะ
ขอบคุณผู้ถาม และขอบคุณที่คุณเอ็ดตอบ=/\\=


โดย: SEsai IP: 125.26.204.98 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:23:52:15 น.  

 
ได้รับหนังสือพร้อมลายเซ็นต์น่ารักๆจากพี่จอยแล้วนะคะ ขอบคุณพี่เอ็ดมากๆค่า

ปล.ขอบคุณพี่จอยที่อุปภัมถ์หนังสือด้วย แหะๆ (ไม่ลงทุนอะไรเล้ย)


โดย: MaEmAe (น้องเมย์แสนสวยและใจดี 555) (CoffeeAholic ) วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:1:23:22 น.  

 
ขอขอบคุณที่ตอบคำถามดี ๆ ค่ะ
พอมาอ่านก็รู้สึกดีขึ้น
แม้ไม่ใช่ปัญหาของเราเอง
แต่ว่ามันก็ใช้ได้กับทุก ๆ เรื่อง


โดย: หมีเท๊ดดี้ IP: 203.185.130.105 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:10:02:31 น.  

 
เปิดมุมมองใหม่ให้กับการอยู่กับปัญหาได้ดีมากเลยค่ะ
ขออนุญาตเอาไปใช้กับงานที่ทำอยู่บ้างนะคะ
จริงๆก็เอาไปพูดกับคนที่มาหาเป็นประจำอยู่แล้ว
ช่วงหลังนี่ได้ผลดีมากค่ะพี่
ทุกข์ของคนเรามันช่างเหมือนกันจริงๆ เปลี่ยนแค่ประธานกับกรรม แต่กิริยายังเหมือนเดิมเลย
ไม่ว่าจะ รัก โลภ โกรธ หลง ซ้ำๆกันมาไม่รู้นานเท่าไหร่แล้ว
ขอบคุณสำหรับมุมมองดีๆจากพี่
ดีใจกับคุณ pity mom ที่ได้รับสิ่งดีๆไปจาก blog นี้นะคะ เป็นกำลังใจให้อยู่กับปัญหาอย่างมีสติค่ะ


โดย: My Life as a Doc (อย่างไรก็ดี ) วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:21:37:16 น.  

 
อยากทราบว่าคุณ aston จะรวบรวมกระทู้เป็นธนาคารความสุขเล่ม 2 เมื่อไรค่ะ อยากให้คนที่ไม่สามารถเข้ามาอ่านใน blog ได้อ่านบ้าง เพราะมีประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ จะคอยติดตามต่อไปค่ะ


โดย: lookpad IP: 124.122.234.221 วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:13:54:34 น.  

 
เล่มสองกำลังจัดรูปเล่มอยู่ครับ อีกสองสามเดือนคงจะได้เห็น

รออีกนิดนึงนะครับ


โดย: aston27 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:19:52:49 น.  

 
พระพุทธเจ้าตรัส"นัตถิ อัตตะ สมัง เปมัง"แปลว่า"ความรักอื่นเสมอด้วยตนไม่มี"หรือแปลให้ชัดก็คือ"ไม่มีความรักใดๆจะเท่ากับความรักในตนเอง",เรามักบอกว่ารักเขาแต่จริงๆคือเรารักเขาด้วยความคาดหวังว่าเขาจะให้ความพึงพอใจแก่เราในประการที่เราต้องการ(ส่วนมากมักเล็งperfect,มักบอกว่าไม่เป็นไรหรอก...แต่โดยทั่วไปหญิงมักมีสายตาคมชัดลึกเหมือนเหยี่ยวในการมองความบกพร่องของชาย)ที่สุดก็ดังบทสวดมนต์แปลเรื่องทุกข์ทั้ง8มีข้อหนึ่งว่า"ประจวบกับสิ่งไม่พอใจ...",และอีกข้อ"หวังสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น..."ล้วนเป็นทุกข์;ทางป้องกันคือ"ความรักอย่าเริ่มเสียเลยดีกว่า",ทางแก้ไขเมื่อเริ่มไปแล้ว,ผิดหวังไปแล้วคือใช้สติแก้ปัญหา,ใจเย็นเข้าไว้,ต้องคิดชูใจตัวเองว่า"ครอบครัวอื่นก็มีปัญหาเหมือนเรานั่นแหละแต่เขาไม่แสดงออก"(ทุกข์จริงๆเรื่องครอบครัว)


โดย: สัพเพ IP: 125.26.71.99 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:57:26 น.  

 
ทาทายังยังเลิกแฟน,ภราดรยังเลิกฟ้า,มาช่ายังเลิกกฤษ,แล้วเราเป็นใคร?ความรักเป็นเรื่องธรรมชาติที่ซับซ้อนอันเอาชนะได้ยากยิ่ง,มนุษย์เป็นธาตุรู้ชอบสนใจสิ่งต่างๆ,สนใจสิ่งลึกลับ,สิ่งไหนปิดก็อยากเปิดเจอระเบิดก็บ่อยๆและชอบความตื่นเต้น,แรกรักชายหญิงก็โชว์แต่สิ่งดีต่อกัน,ดูแล้วอะไรก็ดีไปหมด,พอได้อยู่ร่วมกันนิสัยแท้จริงก็ปิดไม่มิด,บ่อยๆก็เริ่มเบื่อ,นานเข้าก็เริ่มเห็นอนิจจังของสังขาร,ความพึงพอใจก็ลดลง,ปัญหาต่างๆก็ตามมา...กระนั้นชาวโลกก็ยังบอกว่า"ความรักเป็นสิ่งสวยงาม",พ่อแม่ก็อยากให้ลูกมีคู่ครองเพราะกลัวลูกจะถูกเขาว่า"ขึ้นคาน"คำแสลงใจ,ที่สุดก็ฉุดลูกไปสู่ความทุกข์...


โดย: สัพเพ IP: 125.26.68.152 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:6:00:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.