โตโยต้ามุ่งตลาดไฮบริด-ส่งรถใหม่ลุยยุโรป

ข่าวต่างประเทศ - โตโยต้ายังใช้รถยนต์ไฮบริดเป็นทีเด็ดในการเจาะตลาดทั่วโลก โดยล่าสุดประกาศส่งรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่เป็นทางเลือกเพื่อแข่งขันกับรถยนต์จากค่ายเกีย และฮุนได

ออริส ไฮบริด
       รถยนต์ใหม่ที่จะเปิดตัวในตลาดจะเป็นเวอร์ชันแวกอนของออริส ที่คาดว่าจะเปิดตัวครั้งแรกในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2012 ปลายเดือนกันยายนนี้ และจะเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 2 ของออริสต่อจากตัวถังแฮทช์แบ็ก นอกจากนั้นยังมีข่าวว่าโตโยต้าจะเพิ่มทางเลือกของความประหยัดให้กับรถยนต์ไฮบริดของออริสด้วยเวอร์ชันไฮบริดดีเซลอีกด้วย
       
       เหตุผลที่โตโยต้าเลือกใช้รุ่นแวกอนของออริสเป็นตัวถังใหม่ในการวางขุมพลังไฮบริด เพราะแนวโน้มของตลาดรถยนต์ตัวถังนี้ยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อมองจากภาพรวมของตลาดรถยนต์คอมแพ็กต์ในตลาดยุโรปช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้แล้ว จะพบว่า 25% เป็นตัวถังแวกอน และการเปิดตัวออริส แวกอนทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นไฮบริดก็จะเข้ามาทำตลาดแทนที่การหายไปของโคโรลล่า แวกอนที่ทำตลาดมานานตั้งแต่ปี 2006
       
       เอียน เฟล็ตเชอร์ เจ้านหน้าที่วิเคราะห์ตลาดของ IHS Automotive กล่าวว่า การเปิดตัวออริส แวกอน ไฮบริดน่าจะได้รับความนิยมอย่างมากจากตลาด เพราะเป็นการเดินตามกระแสตลาดทั้งในเรื่องความนิยมของตัวถังที่ครองใจคนยุโรปในตลาดกลุ่มนี้ และการนำเสนอทางเลือกใหม่ด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด
       ‘แม้ว่าในยุโรปจะยังไม่ฮ็อตมากเท่ากับดีเซลในเรื่องความประหยัดน้ำมัน แต่ทว่าในช่วงหลายปีที่โตโยต้าพยายามสร้างกระแสเทคโนโลยีไฮบริดในตลาดยุโรป ถือว่าผลตอบรับจากลูกค้าเริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว’ เฟล็ตเชอร์ให้ความเห็น
       
       ในปีที่แล้ว ยอดขายของออริสลดจาก 134,206 คันในปี 2008 ลงเหลือเพียง 87,598 คันในปีที่ผ่านมา แต่การเข้ามาของออริส ไฮบริด แวกอนน่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้มากขึ้น ซึ่ง HIS เชื่อว่ายอดขายของออริสโดยรวมในปี 2013 น่าจะกลับมาอยู่ในระดับเกินแสนคัน โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 115,000 คัน

* ASTV ผู้จัดการออนไลน์ *




 

Create Date : 24 กันยายน 2555    
Last Update : 24 กันยายน 2555 21:34:34 น.
Counter : 802 Pageviews.  

"แอปเปิล"หุ้นพุ่งรับ iPhone5 จองกระฉูด

มูลค่าหุ้นแอปเปิล (Apple) พุ่งกระฉูดเกินหลัก 700 เหรียญสหรัฐหลังจากประกาศยอดสั่งจอง "ไอโฟน5 (iPhone 5)" ว่าสาวกแอปเปิลสั่งจองไอโฟนรุ่นใหม่เกิน 2 ล้านเครื่องในช่วง 24 ชั่วโมงแรกของการเปิดจอง ตอกย้ำว่าแอปเปิลเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก ทิ้งห่างยักษ์ใหญ่บริษัทน้ำมันอย่างแอ็กซ์ซอน (Exxon) และเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมไอทีอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้อีกหลายช่วงตัว
       
       สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่ามูลค่าหุ้นของแอปเปิลนั้นเพิ่มขึ้นแตะระดับ 700.44 เหรียญสหรัฐทันทีที่แอปเปิลประกาศว่าไอโฟน 5 ถูกสั่งจองมากกว่า 2 ล้านเครื่องใน 24 ชั่วโมงแรก ก่อนจะปิดตัวที่ 699.78 เหรียญที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 73% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
       
       รายงานระบุว่ายอดสั่งจองไอโฟน 5 จำนวน 2 ล้านเครื่องในวันแรกของการเปิดจองนั้นคิดเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่าเมื่อครั้งเปิดตัวไอโฟน 4S เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ครั้งนั้นแอปเปิลประกาศยอดสั่งจอง iphone 4S ทะลุหลัก 1 ล้านเครื่องในเวลา 24 ชั่วโมงแรก ขณะที่ไอโฟน 4 ที่แอปเปิลเปิดตัวไปในปี 2010 สถิติการสั่งจองวันแรกอยู่ที่ 600,000 เครื่อง
       
       หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ยอดการสั่งจองไอโฟน 5 วันแรกมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วคือจำนวนประเทศที่พร้อมวางจำหน่ายไอโฟนในกลุ่มแรก โดยครั้งนี้ แอปเปิลเปิดให้ผู้บริโภคจาก 9 ประเทศได้แก่ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น อังกฤษ ฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยเพิ่มจาก 7 ประเทศที่แอปเปิลเคยกำหนดในไอโฟน 4S (เพิ่มเกาะฮ่องกงและประเทศสิงคโปร์) และเพิ่มจาก 5 ประเทศที่แอปเปิลกำหนดในไอโฟน 4 ช่วงปี 2010
       
       ยอดสั่งจองเครื่องไอโฟน 5 มหาศาลนี้ทำให้แอปเปิลระบุในเว็บไซต์ว่า คำสั่งซื้อไอโฟนกลุ่มใหม่จะไม่สามารถจัดส่งได้จนกว่าจะถึงวันที่ 28 กันยายน 2012 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากไอโฟนพร้อมวางจำหน่ายในร้านราว 1 สัปดาห์ (กำหนดการจำหน่ายไอโฟน 5 ในร้านคือ 21 กันยายน) ทั้งหมดนี้ทำให้นักวิเคราะห์พร้อมใจกันเพิ่มคำพยากรณ์ยอดจำหน่ายไอโฟนว่าจะมีจำนวนมากถึง 26 ล้านเครื่องภายในไตรมาส 3 (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2012) จากเดิมที่เคยพยากรณ์ไว้ 23 ล้านเครื่อง
       
       ยอดสั่งจองไอโฟนที่เติบโตต่อเนื่องนั้นสะท้อนว่าแอปเปิลจะสามารถทำกำไรได้อย่างงาม บนตลาดสมาร์ทโฟนโลกที่มีมูลค่ามากกว่า 2.19 แสนล้านเหรียญสหรัฐในขณะนี้
       
       นักวิเคราะห์นั้นมั่นใจในแอปเปิลมากเพราะยอดจำหน่ายไอโฟนนั้นทำให้แอปเปิลมีรายได้มากกว่ายักษ์ใหญ่ค่ายไอทีอื่นอย่างเห็นได้ชัด เฉพาะยอดจำหน่ายไอโฟนในไตรมาส 2 ของปีนี้ แอปเปิลระบุว่ามีมูลค่าถึง 1.62 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่ารายได้รวมของกูเกิลมากกว่า 33% และยังเกือบจะเท่ากับรายรับรวมของไมโครซอฟท์ที่ทำได้ 1.81 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
       
       ความเชื่อมั่นนี้ทำให้มูลค่าหุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเกิน 700 เหรียญสหรัฐในครั้งนี้ถือเป็นสถิติใหม่ล่าสุด เพราะที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นแอปเปิลนั้นก้าวผ่านหลัก 600 เหรียญในช่วงเดือนกรกฎาคม 2012 หลังจากสามารถผ่านหลัก 500 เหรียญสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ และ 400 เหรียญเมื่อปี 2011
       
       แอปเปิลนั้นมีมูลค่าตลาดสูงกว่าแอ็กซ์ซอนโมบิล (Exxon Mobil) และกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2011 ที่ผ่านมา โดยแอปเปิลสามารถแซงหน้าไมโครซอฟท์ในฐานะบริษัทไอทีที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2010 ทั้งหมดนี้เป็นผลจากกลยุทธ์ที่สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิลตัดสินใจพาแอปเปิลออกนอกกรอบการเป็นผู้ผลิตพีซี มาหยั่งรากในอุปกรณ์เพื่อการฟังเพลงและมัลติมีเดียดิจิตอลและธุรกิจใหม่อย่างโทรศัพท์เคลื่อนที่ในที่สุด
       
       กลยุทธ์ของจ็อบส์ทำให้แอปเปิลสามารถทำรายได้มากกว่า 3.5 หมื่นล้านเหรียญในไตรมาสล่าสุด (สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2012) จากเดิมที่แอปเลเคยทำเงินเพียง 1.73 พันล้านเหรียญในช่วงก่อนที่จ็อบส์จะกลับมาบริหารแอปเปิลอีกครั้งในปี 1997
       
       สำหรับทั้งปี 2012 นักวิเคราะห์เชื่อว่ายอดจำหน่ายไอโฟน 5 จะมีจำนวนราว 58 ล้านเครื่อง ตามการสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก โดยยอดจำหน่ายไอโฟน 5 เกือบ 60 ล้านเครื่องนี้จะทำเงินให้แอปเปิลมากถึง 3.62 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
       
       นอกจากไอโฟน 5 นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่าแอปเปิลจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอีกภายในปีนี้ หนึ่งในนั้นคาดว่าจะเป็นแท็บเล็ตไอแพด (iPad) ที่มีขนาดหน้าจอเล็กลงซึ่งพร้อมวางจำหน่ายภายในเดือนตุลาคมนี้ และยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับทีวีและภาพยนตร์อื่นๆร่วมด้วย ทั้งหมดนี้อาจทำให้แอปเปิลมีมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอีก โดยคาดว่าจะทะยานไปปิดที่ 773 เหรียญสหรัฐภายในช่วง 12 เดือนนับจากนี้
       
* ASTV ผู้จัดการออนไลน์ *




 

Create Date : 19 กันยายน 2555    
Last Update : 19 กันยายน 2555 14:45:24 น.
Counter : 957 Pageviews.  

ทดสอบ “มาสด้า3” 1.6ขับหล่อและไม่อืดอย่างที่คิด

       ต้องยอมรับว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของมาสด้าทำออกมาได้เตะตาโดนใจจริงๆ โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่ทำให้หลายคนระทวยและยอมควักเงินจ่ายแบบไม่ต้องลองขับด้วยซ้ำ
       
       ...ประมาณว่า “สวยอะชอบ” เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
       
       เห็นกระแสดี-แบรนด์มีความเข้มแข็ง(มากขึ้น)อย่างนี้ มาสด้าเขาก็ไม่ยอมหยุดนิ่งนะครับ เพราะนอกจากการสร้างความมั่นใจเรื่องการขาย-บริการหลังการขายแล้ว ในส่วนของตัวโปรดักต์ค่าย“ซูม-ซูม”ยังมีแผนเสริมทัพต่อเนื่อง ซึ่งปีหน้าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราคงได้เห็นเอสยูวีไซส์เล็ก “ซีเอ็กซ์-5” (CX-5) กับ “มาสด้า6” มาโลดแล่นบนถนนเมืองไทยช่วงต้นปีและปลายปีตามลำดับ
       
       อย่างไรก็ตามโปรดักต์ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน มาสด้าเพิ่งเพิ่มทางเลือกให้ มาสด้า3 ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร หลังปล่อยให้รุ่น 2.0 ลิตร โกยยอดไปล่วงหน้าก่อนเป็นปี

       

       สำหรับ“มาสด้า3” รุ่น1.6ใหม่ จะแบ่งขาย 3 รุ่นย่อยคือ Groove ตัวถังซีดานราคา755,000 บาท Spirit ตัวถังซีดาน825,000 บาท และSpirit Sports ตัวถังแฮตช์แบ็ก 869,000 บาท (รุ่น 2.0 ลิตรขายราคาเดียวคือ 1.064 ล้านบาท)
       
       ทั้งนี้ผู้เขียนได้ลองขับรุ่นSpirit Sports ตัวถังแฮตช์แบ็ก ซึ่งดูรูปโฉมภายนอกเผินๆก็เท่เหมือนกับรุ่น 2.0 ลิตร แต่จะมีที่ต่างๆตรงการออกแบบแผงกันชนและกระจังหน้า ทั้งยังไม่มีสเกิร์ตข้าง ไฟหน้าใช้หลอดฮาโลเจน (2.0ใช้ไบซีนอน) ไฟหลังเป็นหลอดธรรมดา (2.0 เป็นLED) กระจกมองข้างไม่มีไฟเลี้ยว รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว (2.0 ใช้ขอบ17 นิ้ว)

       

       หลังจากเข้าไปนั่งภายในสักพักพบว่ารุ่น 1.6 ลิตรไม่มีซันรูฟมาให้ และขาดออปชันอย่างระบบกุญแจอัจฉริยะ-ปุ่มสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ และแพดเดิลชิฟท์เปลี่ยนเกียร์ (แต่คันเกียร์โยกแบบแมนวลได้) ส่วนการตกแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆนั้นแทบจะยกของรุ่น 2.0 ลิตรมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหนังทรงสปอร์ตบัคเกตซีท หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยก เครื่องเล่นวิทยุ CD/MP3 6 แผ่น ช่องเชื่อมต่อ AUX พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัยช่องและขับเสียงด้วยลำโพง 6 ตัว
       
       ขณะที่ความปลอดภัยรุ่น 1.6 ยังจัดดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และถุงลมนิรภัยคู่หน้า แต่ลืมใส่ระบบคุมการทรงตัว DSC กับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction control มาให้

       

       ในส่วนของระบบขับเคลื่อนยกชุดมาจากรุ่นเก่า ทั้งเครื่องยนต์ MZR ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Sequential Valve Timing (S-VT) ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
       
       อย่างไรก็ตามวิศวกรมาสด้ายืนยันว่าแม้จะเป็นขุมพลังและเกียร์ชุดเก่า แต่ด้วยโครงสร้างตัวถังใหม่ที่น้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมแอโรไดนามิกที่ดีขึ้น จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ พร้อมกับลดอัตราบริโภคน้ำมันไปในตัว
       
       ...ส่วนตัวผู้เขียนเองหลังได้ลองขับระยะทางไกลๆ มาสด้า 1.6ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่คิดครับ จังหวะออกตัวไม่อืดและยังรับรู้ถึงอาการฉุดดึงพอสมควร (อัตราทดเฟืองท้าย 4.416) อย่างช่วงเร่งแซงบี้คันเร่งลงไปให้ลึก พร้อมรอบดีดสูงเกิน 3,500 ขึ้นไป ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แม้จะดูมุมไหนก็โบราณไปหน่อยกับยุคสมัยนี้ แต่ก็ยังช่วยประคองกำลังรถให้ทะเยอทะยานไปได้สบาย ส่วนความเร็วปลาย 150-160 แอบมีอาการตื้อหมดเหมือนกัน

       

       ด้านช่วงล่างอิสระ 4 ล้อที่ใช้โครงสร้างเหมือนรุ่นเก่าและรุ่น 2.0 ลิตร คือ หน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท โช้คอัพ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง หลังมัลติลิงก์ โช้คอัพ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้นุ่มกว่ารุ่นเก่า แต่กระนั้นยังมีเสียงจากยางและพื้นถนนแอบสะท้านเข้ามาในห้องโดยสารอยู่นิดๆ ขณะเดียวกันการขับใช้ความเร็วสูงเกิน 120 กม./ชม. ช่วงล่างอาจไม่หนึบนิ่งเท่ากับรุ่น 2.0 ลิตร ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากน้ำหนักตัวที่เบากว่า
       
       ส่วนการควบคุมผ่านพวงมาลัยแรคแอนพิเนียนผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ยังตอบสนองแม่นยำพร้อมให้การขับขี่คล่องตัว ซึ่งประเด็นนี้มาสด้าใช้เทคนิคการเพิ่มตำแหน่งยึดชุดเฟืองบังคับเลี้ยว เพื่อช่วยเรื่องความกระชับสมดุล และผลที่ได้รับก็ยอดเยี่ยมสุดๆ

       ด้านอัตราบริโภคน้ำมันสำหรับการขับแบบรีบๆไปต่างจังหวัด สรุปได้ตัวเลขแสดงที่หน้าจอ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 12.6 กิโลเมตรต่อลิตร
       
       รวบรัดตัดความ...ไม่ต้องควักเงินล้าน(รุ่น 2.0 ลิตร) ก็ได้ความหล่อคมพร้อมเอกลักษณ์ที่โดดเด่นบนท้องถนน แม้การขับอาจจะไม่เนียนแน่นเท่า และถูกตัดออปชันออกไปหลายประการ แต่ในภาพรวมมาสด้า 3 รุ่น 1.6 ลิตร ใหม่ พัฒนาความประณีตในงานโครงสร้างไปมาก อันมีส่วนให้บุคลิกรถดูนุ่มนวลและลดความดิบไปพอสมควร

* ASTV ผู้จัดการออนไลน์ *




 

Create Date : 19 กันยายน 2555    
Last Update : 19 กันยายน 2555 14:43:30 น.
Counter : 2183 Pageviews.  

มาแล้วราคาเครื่องหิ้ว iPhone 5 เคาะที่ 110,000

ที่รัสเซียรับหิ้วแล้วจ้าา ได้ใช้พร้อมอเมริกาเลย แต่ราคา  110,000 นะ

iPhone 5 - ทาง Bloomberg (ข่าวที่เกี่ยวกับธุรกิจการเงิน) เผยถึงการรับหิ้วเครื่อง iPhone 5 ของประเทศรัสเซียที่ดูเหมือนจะขูดรีดขูดเนื้อกันมากไป โดยธุรกิจนี้คือจะส่งคนไปหิ้วเครื่องกลับมาในวันที่ทางฝั่งอเมริกาวาขายแล้วนำกลับมาขายในราคาที่อัปขึ้นสูงลิบ (ทั่วโลกจะวางขายหลังอเมริกา 1วีค)

iPhone 5

โดยราคาที่นำกลับมาขายนั้นสูงถึง 3,700เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 110,000 บาท) ซึ่งราคาที่แพงสุดของ iPhone 5 คือ 399 เหรียญ (64GB) ซึ่งก็มีผูที่สนใจจะจะซื้อมาใช้เพียงเพราะว่า จะได้ใช้ iPhone 5 ก่อนใครในประเทศนั่นเอง ซึ่งโดยตามตารางการวางขายของ Apple แล้ว

ทางประเทศรัสเซียมีกำหนดวางขาย iPhone 5 ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ โดยราคาก็จะเท่ากับราคาปกติเลย ซี่งไม่ทันใจเหล่าเศรษฐีอยากลองของ จึงต้องมีการทำธุรกิจหิ้วกลับมาก่อน ซึ่งทั้งนี้แล้ววัดกันจริงๆเพียงรอแค่ 3 เดือนเพื่อไม่ต้องจ่ายเพิ่มถึง 3 เท่าก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร  นอกซะจากอยากที่จะอวดร่ำอวดรวยซะมากกว่า

* sanook.com




 

Create Date : 15 กันยายน 2555    
Last Update : 15 กันยายน 2555 10:58:29 น.
Counter : 2340 Pageviews.  

Volvo V40 R-Design อีกหนึ่งตัวตนในเวอร์ชั่นแรง

เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงในหมู่ยานยนต์ที่วางจำหน่ายแล้วชื่อ  Volvo  อาจจะเป็นที่รู้จักมากในฐานค่ายรถยนต์ที่คร่ำวอดด้านนี้มานาน แต่ถึงอย่างงั้น มันก็ยังมีเวอร์ชั่นแรงที่ดูสปอร์ตยิ่งกว่า แลมันเพิ่งจะมีการแนะนำในรถ  Volvo V40

Volvo V40 R-Design

          การนำเสนอชุดแต่ง R-Design  ใน Volvo V40 เป็นการแต่งแต้มรถยนต์  Volvo V 40 ใหม่ที่วางจำหน่ายในตลาดยุโรปด้วย  การจับเรือนร่างเดิมมาปั้นให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ปรับองค์ทรงเครื่องให้ปลุกเร้าจิตวิญญาณที่อยู่ในเส้นสายการออกแบบ เริ่มจากกระจังหน้า ที่รับในความสปอร์ตกับกันชนหน้า ให้ความลงตัวกับล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ที่สามารถเลือกเป็นแบบ 18 นิ้วได้เพียงเพิ่มเงินนิดหน่อย แล้วจบด้วยสีน้ำเงินพิเศษเฉพาะรุ่น

                 ในห้องโดยสาร Volvo V40 R-Design เน้นหนักในความสปอร์ตของรถมากยิ่งขึ้นกว่า เดิมทุกอย่างพลัดจากความหรูหรามาสู่ความเป็นตัวตนสปอร์ตอย่างแท้จริง ทั้งพวงมาลัย ที่มาคู่กับแป้นเหยียบแบบสปอร์ต ที่มากับจอแสดงผลด้วยสี TFT  ให้ความลงตัวในความหรูหราเล็กน้อยกับเบาะหนัง และยังมีออพชั่นเสริมช่วยขับขี่ อาทิ ระบบ Cruise Control   Rain Sensor  หรือ Keyless Entry  ถ้าพร้อมที่จะจ่าย

Volvo V40 R-Design

                ด้านเสมรรถนะการขับขี่ Volvo V40 R Design  มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือกตามความต้องการมากมาย ตั้งแต่ขุมพลังดีเซล D2 จนถึงเครื่องยนต์สายพันธุ์แรงรหัส T5 ที่ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า ตอบโจทย์สมรรถนะ

Volvo V40 R Design  จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน  Paris Motor Show 2012 ส่วนการวางจำหน่ายจะเริ่มอย่างเป็นทางการ ในเดือนตุลาคม และจะเริ่มส่งมอบในเดือนมกราคมปีหน้า

* sanook.com *




 

Create Date : 15 กันยายน 2555    
Last Update : 15 กันยายน 2555 10:56:59 น.
Counter : 2086 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.