สงเกตุกันบ้างหรือเปล่า

เรามีชั่วโมงเทรดกันตอนเช้า 10 - 12.30
บ่าย 14.30 - 16.30

ถ้านับแท่งเทียน 60 นาที เราควรมีแท่งเทียน 5 แท่ง เช้า 3 แท่ง บ่าย 2 แท่ง

แต่ บน efinance มี 7 แท่ง............

ถ้า 120 นาที ควรมีแค่ 3 แท่ง
แต่ บน efinance มี 4 แท่ง

ทำไมหรอ............

เพราะว่า บน efinance จับเป็นช่วงเวลา 9.00 / 10.00 ไปเรื่อย ๆ

เราได้แท่งแถม จาก efinance ทุกวัน ........ เป็นแท่งแรก
กับแท่งสุดท้าย

แล้วม้นสื่ออะไร..........

สิ่งที่มันสื่อก็คือ แท่งเทียนแต่ละแท่ง ไม่ได้แทนค่าเวลาที่ถูกต้อง ............ กราฟ หรือว่า indies แต่ละตัวก็จะแปลผลออกมาไม่ถูกต้อง.........

ที่เหลือ กลับไปคิดต่อกันเอาเอง

sto""""""""""

ทำมัยแต่ละคนชอบไปเร่งสัญญาณให้มาบอกเราเร้วขึ้น
ทั้ง ๆ ที่สัญญาณแต่ละตัวถูกออกแบบมาให้ใช้ได้อย่างที่ต้องเป็น และมวลชนส่วนใหญ่ใช้มัน.....

sto มีจังหวะของตัวมันเอง
1.ขึ้นพ้น 0
2.ลงจากจุดสูงสุด ถึง 0
3. ลงจาก 0
4. ขึ้นจากจุดที่ลงต่ำสุด

แต่ละจุด ถึงนำมาคำนวณเป็นค่าที่ใช้ในสูตร

ทำไมต้อง 52 และ ทำไม ต้อง 12 และทำไมต้อง 9

Trader บางท่าน จะรวมรวมกันว่า มันต้องมี ให้ลองพิจารณา ว่า ในสิ่งที่คุณ ชนะนั้น

คุณ ชนะเพราะ Money Management หรือ ชนะ ด้วยเทคนิค

ตรงนี้ คนส่วนใหญ่ มักบอกว่า ก็รวมๆ กัน .............

คนส่วนน้อย จะบอกว่า ชนะ ด้วย MM อย่างเดียว เช่น กองทุน ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้อง พิจารณา ปัจจัย ด้านอื่น คือ สามารถชนะด้วย MM อย่างเดียวเท่านั้น ถ้า ยกตัวอย่างให้ ชัด ในคลับ อิสรภาพการเงิน เช่น Model ต่างๆ ที่ออกแบบมา ตรงนี้ คือจุดนี้

Scalper ผู้ยึดถือว่า เทรดต้องกำไร ไม่เทรด คือกำไร เงินอยู่ในกระเป๋า คือกำไร พวกนี้ สามารถนั่งรอ การ False ของกราฟ ใน 1 ปี อาจ Trade 2-3 ไม้ ใน 1 เดือน อาจมี ไม้เดียว พวกนี้ ก็ มาด้วย เทตนิค อย่างเดียวเท่านั้น

พวกนี้ จะถือคติว่า ซื้อน้ำ ขาย ตอนหน้าร้อน ใ น งานเทศกาล ตอนกลางวัน ใย ต้องกลัว ฝนตก.........

เพราะฉะนั้น สิ่ง ที่ปรมาจารย์ มักบอก ก็คือ คุณรู้หรือเปล่า ที่ คุณ ชนะ เพราะ อะไร อย่า มา บอกว่า รวมรวม กันแล้ว ชนะ ไม่งั้น จะไม่สามารถดูกราฟ ได้ขาด

trade tfex จริงๆแล้วไม่ยาก แต่สิ่งสำคัญ คือ วินัย.......ครับ

เครื่องมือของต่ละคน มักจะออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสม กับ ตัวผู้เทรด

ซึ่ง ปรมาจารย์ กล่าวว่า

1.อะไรก็ได้ ขอให้ จุด Mark นั้น เป็นจุดที่มีเหตุผล

และเข้าไป ในจุดที่มีเหตุผลนั้น

2. เมื่อแพ้ ให้ยอมแพ้ แต่ ขณะที่แพ้ แล้วนั้น ไม่ต้องไปสนใจไม้ที่แพ้ เพราะแพ้ ก็คือแพ้ ไม่ต้องพยายาม พิจารณา หา หรือ พยายามปรับเปลี่ยน จุดที่แพ้นั้น

มิฉะนั้น จุด Mark ที่มีเหตุผล ตามข้อ 1 จะเป็นการเริ่มต้นของ Stochastic Process ใหม่ทันที

3. เมื่อไร ถ้าแพ้ โดยการไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ในการ Stop Loss โดยมี Bias ในจุด Mark ของตน ให้ออกจากตลาดเพื่อพัก ทันที เพื่อปรับรอบใหม่ ปรมาจารย์ท่านกล่าวว่า อย่างน้อย 1-2 อาทิตย์ กันเลย

การจะตัดสินว่าระบบไหนดีไม่ดี ต้องทดลองใช้มันให้นานพอ

ส่วนใหญ่มักจะกระโดดไป กระโดดมา คือ ลองใช้ได้ไม่กี่ครั้ง พอขาดทุน

ไม่กี่ครั้ง ก็มองหาวิธีใหม่...สุดท้ายเสียเวลาเปล่ากับการไล่ล่าหาวิธีการเทรดที่ดี ที่สุด

ตลาดหุ้นถ้ามันไม่มี trend ก็ต้อง side way ...สิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องหาวิธี

แยกแยะให้ได้ว่ามันกำลังเป็นแบบไหน

ระบบการเทรดที่ใช้ indicator หรือ MA ใช้ได้ดีเมื่อตลาดมี trend ที่ชัดเจน

เมื่อเจอตลาด side way ยังไงระบบนี้ก็จะใช้ไม่ได้ ต้องหาวิธีอื่น

...และโชคไม่ดีที่สำหรับหุ้นแล้วจะใช้เวลา 70-80 % วิ่ง side way

จึงเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้ MA หรือ Indicator มักไม่ค่อยได้เงิน

ในการเทรดหุ้น...นอกจากคนที่รู้จักเลือกเล่นหุ้นที่มี trend ชัดเจน

...สำหรับตลาด forex tfex gold เป็นตลาดที่มีการซื้อ-ขายเยอะ

และมักแกว่งตัวสูง จึงเป็นตลาดที่พอจะใช้พวก indictor เทรดได้

แต่ต้องมีวินัยและแผนการทำกำไรและจุด stop ที่ดี ไม่งั้นระยะยาว

อาจไม่กำไรจริง

ปัญหา ที่ ยาก คือ การ ตัดสินใจ ว่าขณะที่เกิดขึ้น ใน Indicator ตัวที่บ่งชี้ เป็น Trend หรือ Sideway............

เรา จะไม่รู้ว่า Trend เราจะไม่รู้ว่า Sideway.............

ข้อนี้ เรารู้ครับ เรา รู้จาก ระบบ ของ ทุกคน เนื่องจากระบบ ของที่ทุกทุกคนใช้นั้น มีจุดควบคุม คือ จุด SL จุด TP

วิธีการพิจารณาง่ายๆ ตรงนี้เขียนยาก เ พราะ มันต้องการรูปประกอบ เดี๋ยว Sai มาคุยกันวันว่างๆ


อีกปัญหาหนึ่งนะครับ ตรงนี้ไม่ใช่ ว่าถึงระบบ ระบบ ของทุกคนในนี้ ผมว่า สุดยอดทุกทุกคน แต่แบบ ที่ คุณ มุซาชิ บอก
""""""""""""""
การจะตัดสินว่าระบบไหนดีไม่ดี ต้องทดลองใช้มันให้นานพอ

ส่วนใหญ่มักจะกระโดดไป กระโดดมา คือ ลองใช้ได้ไม่กี่ครั้ง พอขาดทุน

ไม่กี่ครั้ง ก็มองหาวิธีใหม่...สุดท้ายเสียเวลาเปล่ากับการไล่ล่าหาวิธีการเทรดที่ดี ที่สุด """"""""""""""

ตรงนี้ ง่ายๆ คือ เวลา ที่เรา TEST ระบบ อะไรสักอย่าง เรา จับ ที่ ผลลัพท์ สุดท้าย

คราวนี้เวลาเรา TRADE เรามักจะไม่ทำตามมัน เพราะ เราเชื่อว่าเราทำได้ดีกว่า ตรงนี้ ต้องบอกว่า เราทำได้ดีกว่า คนทำได้ดีกว่า ในบาง จุด

ปัญหาตรงนี้ จะเกิด สำหรับ มือใหม่...... เนื่องจาก มือใหม่ มี BIAS ในการเข้า

เขาเลยบอกว่า ให้ตัดทุกประเด็นออกไปก่อน

ให้พิจารณา แค่กราฟ และควบคุมการเล่นของ กราฟ ควบคู่ กับ MM ให้ได้

เพื่อ ควบคุม วินัย......................


เช่น ถาม น้อง CK บอกว่า วันนี้ มีแผนอะไรก่อนเข้า น้องคนนั้น บอกว่ามี แผน Short ที่ .........มี แผน Long ไหม ตอบไม่มี ถามว่า ทำไม ........

เพราะ จริงๆแล้ว แผน Short หรือ Long เกิดขึ้นก่อนตลาดเปิด

แผน เกิดก่อน ถ้า ไม่ตรงแผน ปล่อยมือ การเรียกแผนการเล่นใหม่ ในวัน เป็นเรื่อง ที่ไม่ควรทำ บ่อยนัก

ต้องขออนุญาต CK เพราะ ที่ สอน เพราะ อยากให้เก่งมากมาก

เมื่อเรา เข้าใจ BASIC ว่า เครื่องมือแต่ละชนิดนั้นมันออกแบบมา เพื่ออะไร

และ อาวุธ ประจำกาย ของคนแต่ละคน ไม่เหมือนกัน บางคน ใช้ Glock บางคนใช้ Smith.....บางคนใช้ ฉมวก บางคน ใช้ M16 บางคน ช๊อตไฟฟ้า


ทุกคน จะรู้ดีว่า ในขณะนั้น ที่ใช้ ใช้อะไร

และทุกคนจะบอกได้ทันทีว่า ที่ชนะใน เกมส์ได้ เพราะ วินัย.............

การหลุดวินัย ทุกคน จะมีประจำ ครับ รวมทั้งผมด้วย

แต่ เมื่อหลุด วินัย ผม จะ พยายาม ไม่ BIAS ถ้ามันได้กำไร ........และถ้า ผิดวินัย แ ล้วขาดทุน ผม จะ หยุดเคาะ 1 อาทิตย์

เพราะ ถือว่า ถ้า จะ ตาม เรา จะยิ่ง แพ้ เพราะมันจะกลายเป็น นักพนัน โดยไม่รู้ตัว

ก็ แลกเปลี่ยนครับ

ไม่มี วิธีไหน เหมาะสม เท่ากับ วิธี ที่เราสามารถทำเงินได้ เครื่องมือที่เหมาะสม คือ จิตใจของเรา ถ้าเรา ไม่สามารถควบคุม ความโลภ ความกลัวได้ เราแพ้ แต่เมื่อไร ที่เราสามารถควบคุม ตรงนั้นได้ อาวุธที่อยู่ในมือ จะมี คุณ แต่ถ้าเราไม่สามารถควบคุม FACTOR แรกได้ แล้ว ไปโทษ อาวุธ เพื่อหาอาวุธที่ดีที่สุด

คราวนี้ เมื่อเราสามารถ ฝึกวินัย และควบ คุม จิตใจได้

ปรมาจารย์ บอกว่า

ดูง่ายๆ ว่าเราสามารถ ผ่าน ขั้น แรกได้ หรือเปล่า

ขั้นที่ 1 เล่น แล้วไม่เสีย แต่ไม่กำไร ขาดทุน นิดหน่อยยยยยยย กำไไร ก็ ไม่มาก

ไม่ว่า จะใช้อะไร ระบบอะไร ก็ตาม ถ้าผ่านขั้นนี้ได้ คุณผ่านการทดสอบ เรียบร้อยแล้วครับ

ขั้นตอนนี้ ง่ายๆ พิจารณา คุณจะวิ่งวน หา Indicator เต็มไปหมด วิ่งหา สิ่งที่ดีที่สุด

แล้ว ก็ เอ๊ะ อันนี้ กำไรมากกว่า อันนี้ ตรงนี้ ขาดทุน แล้ว พยายามสรุป พยายาม ค้นหา..............

คุณ จะผ่าน ตรงนี้ ได้ คุณ จะสรุป ตัวเอง ได้ทันทีว่า

คุณ จะต้อง มี MM และ วินัยในการเข้า พร้อม กับมีกราฟ เป็นตัวช่วย...........

เมื่อคุณ พัฒนา มาถึง ขั้นที่ 2

คุณ จะพยายาม มอง ว่า จริงๆ แล้ว แค่ MM ก็ชนะได้ ...........

คุณ จะพยายามไม่เหนื่อย ( พิจารณา จาก คลับ อิสระภาพทางการเงิน ที่รวมกล่มกัน )

ตรงนี้ เมื่อคุณสามารถ ตอบตรงนี้ได้ คุณ จะเริ่มมีความเชื่อว่า เพราะ MM อันนี้ ..........

คุณ จะเริ่มไม่พิจารณา กราฟ คุณจะเริ่มลงทุนกับมันค่อนข้างยาว ....ได้ที ต้อง เนื้อๆ แต่ เงินที่ใช้ ลงมากจังเลย

ซื้อ TFEX 1 Contract พยายาม คุม Leverage ที่ 1:2 1:1 กันเลยทีเดียว

เมื่อคุณพัฒนามาถึงขั้นที่ 3

คุณ จะเข้าใจคำว่า ยิ่ง ขึ้นยิ่งซื้อ พร้อมที่ จะหมด Port พร้อมที่ จะ Take Profit พร้อมที่ จะ SL ได้ในทุกไม้ ที่ คุณ คาดถูก พร้อมที่จะม้วนตัวเล่น

การเล่น ของคุณ จะเปลี่ยนไป

คุณ จะกลายเป็น Speculate เต็มตัว จะเข้าตลาดต่อวัน ที่มั่นใจ ไม่มั่นใจ คุณไป Shopping รับลูก ........นั่งแชท

แต่ไม่มีอะไรที่สามารถเปลี่ยนใจคุณได้ในระหว่างวัน

เพราะ คุณจะถือเรื่อง แผน เป็นสำคัญ.........ผิดแผน เด้งหนี ออก........จบ......

อาวุธ ของคุณ จะมี กราฟ เป็นตัวหลัก และมีตัวช่วย อื่นๆ อีก นิดหน่อย

ไว้มาต่อ ขั้นที่ 4 5

ที่เขาเรียกกัน ว่า Spirit Trader Trade ตาม สัญชาตญาณ

ถ้าใครดู เจ้าพ่อตลาดหุ้น Series ฮ่องกง .................

แต่ว่า จะมีหรือไม่ คนแบบนี้............

เราคงไม่อัจฉริยะ ขนาดนั้น งั้น ขอ สุดแค่ขั้น 3 พอดีกว่า

ตลาด มีให้เล่น ไปไม่มีวันจบ สิ้น ไม่มี เป่านกหวีด .............."""""""""""


คือ ตรงนี้ คนมักจะบอกว่า เราสามารถปรับแผนในระหว่างวันได้

แผนนั้น จะต้องเป็น แผนที่ ถูกวางไว้ แล้ว อันนี้ ไม่เรียกว่าปรับแผน อันนี้ เรียกว่า เรียก แผน 2 มาใช้

แต่ มักจะไม่ทำบ่อยครับ การ ทำบ่อย สำหรับผม จะทำให้เกิดการลังเล

ประมาณ ว่า รู้ อะไร ไม่สู้ """""""""" รู้ .....งี้"""""""""

เมื่อผิดแผน ผมมักจะออกจากตลาด เพราะ เรา กำลัง สร้าง Wealth เราไม่ต้องการ เอาชนะในทุกทุกไม้ ทุกทุก Shot ครับผม

วินัย ในการเล่น.....อันนี้ยังแหกคอกบ่อยเหมือนกัน

ความยืดหยุ่น บางครั้ง ถ้าเหตุการณ์ ไม่ปกติ

วินัย กับ ความยืดหยุ่น ??????????????

เมื่อไร เกิดความยืดหยุ่น ผ่อนหนักผ่อนเบาได้ วินัย หายครับ แล้ว จะชิน

ในขณะ ที่ ยืดหยุ่น แล้ว ได้กำไร เราจะบอกว่า เรา จะ BIAS กับกรณี ที่ ยืดหยุ่น ประมาณ ว่า เอาน่า หยวนหยวน????????

ในขณะ ที่ ยืดหยุ่น แล้ว ขาดทุน เราจะบอกว่า เรา จะ เกิดการโทษ ตนเองว่าไม่มี วินัย????????

และ ถ้าผิดบ่อย มันจะละเลย การ Let Profit Run และ กลายเป็น Speculate ในบางช่วง พอละเลย การ LET RUN มันก็ลาม ไป ถึง CUT LOSS ที่ ถูกควบคุม ด้วย MM อยู่

ยกตัวอย่าง สมมติ ในระบบ ถูก 70 % ใน 70 % สามารถ ทำได้ ที่ ประมาณ 60 POINT
จุด Cutloss ที่ 10 Point ผิด 3 ครั้ง 30 POINT

ใน 10 ครั้ง แทนที่ จะ ได้ 30 POINT แต่ เนื่องจาก พบาบาม SCALP แบบ ไม่มี แผน นะครับ

เราก็จะได้น้อย ใน 7 ครั้ง เรา ก็เหลือ 30-40 POINT แต่ ผิดยังอยู่ที่เดิม คือ 30 POINT

นี่ คือปัญหา แรก ที่ต้องแก้

FM เมื่อตัดสิน ใจ ซื้อ หรือ ขาย ไม่มีเปลี่ยนในวัน มีน้อยครั้งมากมาก ที่จะเรียก Plan B Plan C ขึ้นมาใช้

แต่ที่เรา เห็นราคา วิ่ง ขึ้นหรือลง เป็นเรื่องของ Marketting Team ที่ เขา เคาะให้

เคาะ ได้ Low ก็ เอา ทิป ไป เคาะ ขายได้ High ก็ เอาทิป ไป

ที่ยากที่ สุด สำหรับ เรา เรา ก็คือ

เราเป็น ทั้ง FM และ คนเคาะ เราทำ 2 ตำแหน่ง