เล่ห์รัก...กลเสน่หา ตอนที่ 1 โดย Winutta
เล่ห์รัก...กลเสน่หา


ผ่านไปแล้วจ้าสำหรับงานแต่งงานของวรุต อัครเมธากุล หนุ่มไฮโซสุดหล่อที่ประกาศแต่งงานแบบสายฟ้าแลบกับเจ้าสาวแสนสวยที่ใครๆต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยหล่อสมกันมากๆเลยจ้า งานนี้ ทำเอาสาวๆทั้งแท้และไม่แท้น้ำตาหกกันเป็นแถวๆ อ่ะๆ เจ้ขอเตือนเลยนะจ๊ะคุณสาวๆทั้งหลาย ว่าต่อไปนี้คงไปแทะโลมคุณวรุตเล่นไม่ได้แล้วนะจ๊ะ เพราะเดี๋ยวภรรยามือใหม่อย่างน้อง เวณิกา สุทธิวรารัตน์จะหึงเอานะจ๊ะสาวๆจ๋า.....

เอ...ว่าแต่เจ้สงสัยนิดเดียวเอง...ว่าคู่นี้เขามาโคจรเจอกันได้ยังไง...ก็ในเมื่อฝ่ายชายนั้นมีข่าวกิ๊กกั๊กกับพี่สาวของเจ้าสาวมาก่อนนีนา....หรือไม่จริงคะคุณศศินาขาาาาา


ฟุบ!

อ่านจบหญิงสาวก็โยนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นลงกับโต๊ะทันที ความอยากอาหารเหมือนจะพาลหดหายไปดื้อๆ ศศินาถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนที่เธอจะทำท่าผละจากโต๊ะอาหารเสียงของบุคคลที่นั่งร่วมโต๊ะกันอย่างเงียบๆอย่างมานิตาแม่เลี้ยงของเธอก็เอ่ยขึ้นว่า


“อ่านข่าวน้องแล้วเธอมานั่งถอนหายใจเนี่ยนะยัยนา....เหอะ! พวกขี้อิจฉาเห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้!”


ศศินาที่กำลังจะก้าวเดินออกจากห้องอาหารไปเลยได้แต่หยุดชะงัก ร่างบางสูดลมหายใจลึกอย่างระงับอารมณ์ก่อนจะหันกลับไปมองใบหน้าของแม่เลี้ยงของตนเองทันที


“นาไม่ได้อิจฉาน้อง...” แต่นาเจ็บกับการกระทำของน้องมากกว่า “...คนอย่างนาไม่จำเป็นต้องอิจฉาใคร...ขอตัวก่อนค่ะ นายังมีงานต้องทำ” พูดจบเธอก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้แต่คนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาอย่างมานิตาได้แต่รู้สึกร้อนรนนั่งไม่ติดที่อยู่คนเดียว


“แก๊! นังศศินา...แล้วฉันจะคอยดูว่าน้ำหน้าอย่างแกจะทนได้สักแค่ไหนกัน!” ตะโกนไล่หลังอีกฝ่ายเสร็จมานิตาก็ค่อยรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาเปิดอ่านข่าวที่ทำให้คนเป็นลูกเลี้ยงหัวเสียอีกรอบ


‘ถึงจะทำท่าเฉยชาแค่ไหน...แต่แววตามันปิดไม่มิดหรอกนะ...ยัยนา!’








ศศินาที่เดินเลี่ยงหนีคนเป็นแม่เลี้ยงก็มาหลบมุมยู่บนห้องนอนของตัวเอง หญิงสาวทรุดลงนั่งกับเตียงกว้างก่อนที่ใบหน้าที่พยายามปั้นแต่งให้นิ่งเย็นและเฉยชาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาจะแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น


ใบหน้าหวานเชิดเงยขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงน้ำใสๆที่กำลังเอ่อล้นขอบตา หญิงสาวกำมือแน่นพยายามทำใจให้เข้มแข็ง...เธอต้องทำได้ เธอต้องไม่ร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้น...แค่นี้ยังถือว่าเธอยังโง่ไม่พออีกเหรอ?! หญิงสาวเฝ้าแต่ตอกย้ำกับตนเอง ก่อนที่ความคิดของเธอจะล่องลอยไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น....


...วันที่ทำให้เธอรู้สึกว่า...หัวใจของเธอ...แหลกไม่มีชิ้นดี!!!





ศศินาเดินเข้ามาภายในบ้านของวรุต....วันนี้เขากับนัดกันว่าจะออกไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันหลังจากที่หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาต่างคนต่างก็มีงานยุ่งพอๆกัน ทำให้โอกาสที่จะได้เจอกันกลับมีน้อยลง


หญิงสาวส่งยิ้มน้อยๆให้กับบรรดาสาวใช้ที่มารวมตัวกันอยู่ที่บริเวณโถงบ้าน ร่างบางรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย แต่ก็ปัดมันไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวสืบเท้าเข้าไปใกล้สาวใช้คนหนึ่งที่ยืนไม่ห่างจากหล่อนนัก ก่อนจะเอ่ยถามหาบิดามารดาของวรุตแล้วก็ตัวเขาเอง


‘สวัสดีจ๊ะ....น้อย....วันนี้คุณลุงคุณป้าอยู่มั้ยจ๊ะ?’


‘คุณท่านทั้งสองไม่อยู่ค่ะ....เห็นว่าธุระที่เชียงใหม่....อีกสองสามวันถึงกลับ’


‘แล้วคุณรุตล่ะจ๊ะ ตื่นรึยัง?’ หญิงสาวถามเสียงเรียบเรื่อย แต่กลับกลายเป็นน้อยสาวใช้กลับทำท่าอึกอัก ราวกับไม่อยากเอ่ยถึงนายหนุ่มเท่าไหร่นัก


‘คุณรุต....อยู่ข้างบนค่ะ’


‘หืม?’ ศศินาทำเสียงในลำคอ พลางเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆกับปฏิกิริยาของสาวใช้บ้านนี้ แล้วแลกวาดสายตาไปทั่วก็ได้แต่ประหลาดใจ....ทำไมทุกคนถึงได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ แถมแต่ละคนมีสีหน้าไม่สู้ดี บางคนกลับแอบมองหล่อนด้วยดวงตาสงสารด้วยซ้ำไป


แปลก....


ศศินาคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หญิงสาวเลยตัดสินใจที่จะขึ้นไปตามวรุตด้วยตัวหล่อนเอง


หญิงสาวเดินขึ้นบันไดไปก่อนจะเลี้ยวไปที่ปีกซ้ายของบ้านที่ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องนอนของชายหนุ่ม ที่หล่อนรู้จักบ้านหลังนี้ดี....เนื่องจากหญิงสาวเข้านอกออกในบ้านหลังนี้บ่อยพอๆกับที่วรุตก็ไปที่บ้านของหล่อนบ่อยพอกัน


ศศินากับวรุตรู้จักกันมานานหลายปีในฐานะเพื่อน....ก่อนที่ช่วงสองสามปีที่หล่อนและเขาจะแปรความสัมพันธ์จากเพื่อนมาสู่ฐานะ....แฟน....


เขาเป็นผู้ชายคนแรก....และอาจเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถฝ่าฝันกำแพงน้ำแข็งเข้ามาสู่จิตใจของหล่อนได้....บาดแผลของครอบครัวจากอดีตทำให้หล่อนไม่คิดจะมีใคร....แต่เขาก็สามารถที่จะเอาชนะใจหล่อนได้ด้วยความสดใสและรอยยิ้มที่เขามี


...วรุตเปรียบเสมือนแสงตะวันในชีวิตของหล่อน...หากไม่นับแม่เลี้ยงที่ไม่ค่อยถูกกันนักกับน้องสาวต่างแม่ที่ไม่ค่อยได้คุยกัน หญิงสาวก็เปรียบเสมือนตัวคนเดียวบนโลกใบนี้...


ศศินายกมือขึ้นหมายจะเคาะประตูห้อง....แต่ด้วยอะไรบางอย่างกลับดลใจให้หล่อนชักมือกลับลงแล้วลองหมุนลูกบิดประตูแทน


ไม่ได้ล๊อก


หญิงสาวคิดก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวเท้าเข้าไปในห้อง....หญิงสาวเดินย่องเข้าไปหาร่างสูงที่นอนทอดตัวหลับสนิทบนเตียงช้าๆ หมายจะแกล้งอีกฝ่ายให้ตกใจตื่น....


หากแต่คงจะกลับเป็นหล่อนเสียเองที่เจอเซอร์ไพรส์เข้าอย่างจัง เมื่อเห็นร่างสูงที่นอนทอดกายบนเตียงชัดตา....


ในอ้อมแขนเขามีผู้หญิงคนหนึ่งนอนเคียงข้างในสภาพเปลือยเปล่า!!!


ศศินาเม้มริมฝีปากแน่น หญิงสาวสูดลมหายใจลึกก่อนจะเอื้อมมือไปผลักร่างของฝ่ายชายอย่างแรงด้วยอารมณ์โมโห


เขาต้องลุกขึ้นมาพูดกับหล่อนให้รู้เรื่อง!


วรุตขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะกระพริบตาสองสามที....เริ่มแรกความแปลกใจฉายชัดในดวงตาเขาเมื่อเห็นว่าตนเองมีหญิงสาวอยู่ในอ้อมแขน....หากต่อมากลับกลายเป็นสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นทันทีว่าใครเป็นคนปลุกเขาขึ้นมาจากนิทรา


ศศินา!


มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบางของหญิงสาว แล้วรีบละล่ำละลักปฏิเสธออกมาทันที


‘นา...มันไม่ใช่อย่างที่นาคิดนะ...นาต้องฟังรุตนะ!’


‘ไม่ใช่อย่างที่คิดอะไรเหรอคะ....คุณรุต’


เสียงหวานของผู้หญิงที่นอนเคียงข้างวรุตเอ่ยขึ้น....และเหมือนกับเจอเซอร์ไพรส์รอบสองของทั้งสอง เมื่อแลเห็นกันเต็มตาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร....ศศินาหันไปมองหน้าวรุตด้วยสายตาเครียดขึง ก่อนจะสะบัดมือให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา....แล้วรีบเดินหนีออกไปจากคนทั้งสองนั้นทันที


‘เวณิกา....เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง!!!’


วรุตถามหญิงสาวเสียงดัง....แต่เวณิกากลับยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายก่อนจะตอบ


‘ก็คุณเป็นคนชวนเวมาเองเมื่อคืน....อย่ามาทำเป็นจำไม่ได้!!!’


พูดจบร่างบางก็ลุกขึ้นยืนโดยที่ตัวหล่อนนั้นพันไปด้วยผ้าห่มผืนหนา วรุตได้แต่มองตามร่างบางของเวณิกาที่ลับหายไปในห้องน้ำด้วยความงุนงง


เขาชวนเวณิกามาที่นี่ตอนไหน?


แล้ว...แล้ว...นี่เขาเผลอไปมีอะไรกับเจ้าหล่อน...ด้วยเหรอ?!


โธ่โว้ย!!!






ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา....ทั้งวรุตและเวณิกาต่างมาปรากฏกายต่อหน้าศศินาที่ได้แต่นั่งตีหน้าขรึม ภายในใจหญิงสาวกลับเจ็บปวดเกินกว่าที่จะเอ่ย ยิ่งมองหน้าคนทั้งสองหล่อนก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังจะตายด้วยน้ำมือของคนทั้งสอง


คนหนึ่ง...คือคนรัก


อีกคนหนึ่ง....คือน้องสาวของหล่อนเอง!!!


ช่างเป็นบุคคลที่หล่อนไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะได้เห็นบุคคลทั้งสองในสถานการณ์แบบนั้น!!!


แล้วก็เป็นเวณิกาที่เล่าให้ฟังว่าหล่อนไปเจอกับวรุตได้อย่างไร...หล่อนเล่าว่าเมื่อคืนนั้นตนเองไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่ในขณะที่กำลังจะกลับหล่อนก็เห็นวรุตที่นั่งดื่มคนเดียวพอดี...ด้วยความเป็นห่วงว่าเขาเองก็เป็นคนรู้จักทำให้หญิงสาวบอกให้เพื่อนๆที่มาด้วยกันก่อนกลับไป หล่อนจะแวะไปส่งแฟนของพี่สาวแล้วจะเลยกลับบ้านเองเพราะจะปล่อยให้เขากลับเองในสภาพเมามายก็ทำไม่ได้


เวณิกายังเล่าว่าในตอนที่หล่อนเจอกับวรุตนั้นชายหนุ่มก็เมาแล้ว...แล้วเขาก็เอาแต่พร่ำเพ้อแต่ว่า...ศศินาไม่รักเขาแล้ว...เพราะตลอดเวลาหลายเดือนหญิงสาวไม่สนใจเขาเลย...หล่อนเอาแต่ทำงานจนเขารู้สึกน้อยใจ คิดว่าตัวเองไม่สำคัญ...แล้วพอหญิงสาวจะพาเขากลับบ้านเขาก็ไม่ยอม จนหล่อนต้องหลอกเขาว่าหล่อนคือศศินาเขาถึงยอมกลับ


เวณิกาเล่าทั้งน้ำตา...ก่อนจะตบท้ายด้วยประโยคที่ว่า...


‘พี่นา....เวขอโทษ....เวพยายามห้ามคุณรุตแล้วแต่....แต่....’ หญิงสาวทำเสียงอึกอัก ก่อนจะชายตามองวรุตที่นั่งเคียงข้าง แล้วหลุบตามองมือของตนเองที่ประสานกันบนตัก แววตานั้นฉาบไปด้วยรอยสะใจนัก....หากแวบหนึ่งนั้น...มันกลับสะท้อนวูบถึงความเจ็บปวด ‘เวห้ามคุณรุตไม่ไหว....ตอนนั้นเขา....เมามาก....แล้วคิดว่าเว...เป็น...พี่นา’


หญิงสาวจบท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ศศินาคนฟังได้แต่รู้สึกปวดหัวกับปวดใจกับเรื่องตรงหน้า หญิงสาวพยายามกลืนก้อนสะอื้นแล้วพูดประโยคนั้นออกมา


คำพูดที่เชือดเฉือนหัวใจของหล่อนและของผู้ชายตรงหน้าให้ขาดวิ่น...เพราะการกระทำสิ้นคิดของเขาเอง!!!


‘ในเมื่อคุณและเว มีอะไรกันแล้ว’ ศศินากล้ำกลืนความเจ็บปวดลงไป พลางเอ่ยประโยคต่อมาที่ทำเอาเวณิกาแบบกระโดดตัวลอยด้วยความยินดี ‘คุณต้องแต่งงานกับเวณิกา ถือว่าเป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายจากฉัน!’


‘นา!’


วรุตเรียกชื่อหญิงสาวเสียงดัง หากแต่หญิงสาวไม่อยู่ฟังว่าเขาจะเอ่ยอะไรต่อ หล่อนลุกขึ้นเดินหนีบุคคลทั้งสองทันที



ศศินาดึงสติของตนให้กลับมาในห้วงเวลาปัจจุบัน แม้วันนั้นจะเจ็บแค่ไหน หากมันไม่เท่ากับเมื่อวานนี้ที่หล่อนรู้สึกเหมือนดวงใจทั้งดวงถูกมือลึกลับบีบคั้นตลอดเวลา


เจ็บทุกทีที่เห็นร่างสองร่างนั้นยืนเคียงกันตลอดเวลาในยามค่ำคืนนี้!


หากเจ็บยิ่งกว่ากับวาจาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ใช้นามสกุลเดียวกัน! ถึงแม้จะคนละสายเลือดก็ตาม!!!


‘คุณวรุตคิดถูกแล้วที่เลือกยัยเว....ไม่มีผู้ชายที่ไหนเค้าทนผู้หญิงที่ชอบทำท่าเฉื่อยชาเป็นน้ำยาเย็นอย่างเธอกันหรอก!’ พูดจบหล่อนก็หัวเราะออกมาคนเดียวทิ้งให้หญิงสาวยืนหน้าชาราวกับถูกตบด้วยมือที่มองไม่เห็น ‘อ้อ! อีกอย่างนะ....เธอควรจะรู้ไว้นะยัยนา....พลอยน่ะยังไงมันก็มันก็ยังเป็นพลอยต่อให้บางทีมันหลงปนไปอยู่กับพวกเพชรแต่คนตาถึงก็รู้ว่ามันคือพลอย....เพราะฉะนั้นพวกพลอยหุงอย่างเธอก็อย่าคิดว่าตัวเองเป็นเพชรล่ะ! จำเอาไว้!!!’






+++++++++++++++++++++++++++++++++++


จบตอนที่ 1

เป็นยังไงกันบ้างคะ?
อ่านแล้วอย่าลืมเม้นบอกกล่าวกันบ้างนะคะ
555+

ปล. เตือนๆเอาไว้ก่อนว่า พออัพๆถึงตอนที่ 20 เมื่อไหร่ กิ๊งจะขอล๊อกห้องนี้นะคะ แหะๆๆๆ



Create Date : 02 มิถุนายน 2551
Last Update : 2 มิถุนายน 2551 20:09:36 น.
Counter : 660 Pageviews.

6 comments
  
สวัสดีค่ะ มอลลี่นะคะ
กำลังจะมาถามเคล็ดลับการจัดหน้าให้ดูอ่านง่ายอยู่พอดี เพราะรู้สึกว่ามอลลี่ยังจัดไม่ค่อยเก่ง
แต่ตอนนี้ทราบแล้วค่ะ
อ่านแล้วน่าติดตามดีนะคะ
แวะไปอ่านของมอลลี่บ้างก้ได้นะคะ ถ้าไม่รังเกียจ
โดย: มอลลี่ (Tukta21 ) วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:20:32:58 น.
  
แหะๆๆ อีกทีค่ะ อ่านจบแล้วละ
แต่งเก่งจังเลย อ่านแล้วอิน อิอิ
โดย: มอลลี่ (Tukta21 ) วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:20:42:28 น.
  
เปิดเรื่องมาก็น่าตื่นเต้นเลยเชียว
แสดงว่าน้องสาวนางเอกนี่แอบร้ายเงียบนะคะ
จะรออ่านตอนตอไปค่ะ
โดย: ธาร นาวา วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:23:14:32 น.
  
รอตั้งนานแน่ะจ๊ะ แล้วที่บอกว่าถึงตอน 20 แล้วจะล็อค เออ แล้วพี่จะอ่านยังไงคะ อันนี้ไม่ได้แกล้ง ไม่รู้จริงๆค่ะ ประมาณว่าแก่แล้วยังเชยน่ะ
โดย: พี่น้อง IP: 124.121.189.214 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:8:43:55 น.
  
สนุกดีนะ
โดย: นา IP: 202.29.21.51 วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:9:57:23 น.
  
สนุกค่ะ เนื้อเรื่องชวนน่าสนใจและติดตาม การเขียนเข้าใจง่ายและลำดับเหตุการณ์ได้ดีค่ะ เด๊วขอไปอ่านตอนต่อไปก่อนนะค่ะ
โดย: Naritar IP: 124.121.33.203 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:14:22:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

การิ๋งกิ๋งกิ๋ง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังน้อยของธีรตี - พิรฏาค่ะ ^^
ผ่านไปผ่านมาแวะทักทายกันได้นะคะ



งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537
ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม
New Comments
Group Blog
All Blog