Bloggang.com : TheShadow : เงินบาทจะแข็งหรืออ่อน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

เงินบาทจะแข็งหรืออ่อน ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

โดยทั่วไป ราคา (อัตราแลกเปลี่ยน) ของสินค้า (เงินตรา) ก็ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานนี่แหล่ะครับ

หากเป็นเงินบาท
อุปสงค์ก็มาจากความต้องการในเงินบาท เช่น

- เมื่อผู้ส่งออกส่งออกสินค้าได้ แล้วก็นำเงินดอลลาร์ที่ได้จากการค้า มาแลกเป็นเงินบาท ความต้องการเงินบาทก็จะสูงขึ้น ค่าเงินบาทก็จะสูงขึ้น
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า เมื่อผู้ส่งออกไทย สามารถส่งออกสินค้าและบริการ (รวมการท่องเที่ยวด้วย) ได้มากขึ้น เงินตราต่างประเทศก็จะไหลเข้ามากขึ้น ความต้องการที่จะแลกเป็นเงินบาทก็จะสูงขึ้นครับ (หรือจะมองว่าเงินดอลลาร์ในประเทศมีมากขึ้น และตามที่เรารู้กัน สิ่งใดมีปริมาณมาก ราคาก็จะถูก ซึ่งก็คือราคาดอลลาร์ในประเทศไทยก็จะถูกลง หรือค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท)

- เมื่อต่างชาตินำเงินเข้ามาในประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโดยตรง การลงทุนใน portfolio เช่น ในตราสารทุน (หุ้น) หรือตราสารหนี้ หรือแม้การเก็งกำไร ต่างชาติก็จำเป็นต้องนำเงินดอลลาร์ดังกล่าว มาแลกเป็นเงินบาทก่อน จึงจะทำธุรกรรมในประเทศได้สะดวก ความต้องการเงินบาทก็จะสูงขึ้นเช่นกัน
จะเห็นได้ว่า เหตุการณ์ใดๆก็ตามที่ต่างชาติมาลงทุนในไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลงทุนทางตรง (Foreign Direct Investment) หรือลงทุนทางอ้อม (Portfolio Investment) ซึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญๆก็คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยกับต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น หรือการที่นักลงทุนในสหรัฐย้ายฐานการลงทุนมาในเอเชีย ซึ่งก็ทำให้ไทยได้รับผลพลอยได้ส่วนนี้ด้วย เป็นต้น เหตุการณ์ดังกล่าวก็จะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

แต่ถ้าเหตุการณ์เป็นไปในทางตรงกันข้ามกับข้างบน ค่าเงินบาทก็จะอ่อนลง ตัวอย่างก็เห็นได้จากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540

ด้านอุปทานของเงินบาท ดูได้ที่เงินบาทที่หมุนเวียนในตลาดเป็นสำคัญครับ
แม้เงินบาท โดยเริ่มต้นแล้วจะมาจากธปท. (มาจากที่อื่นผิดกฎหมายนะครับ) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เงินบาทที่ธปท.พิมพ์ออกมาจะอยู่ในตลาดทั้งหมด ผู้ลงทุน ผู้ส่งออก หรือใครๆ ก็สามารถถือไว้ได้ และจะขายออกมาเมื่อไหรก็ได้ นี่ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลกระทบให้อุปทานของเงินตราในตลาดเปลี่ยนแปลงไปครับ

คล้ายๆกับตัวอย่างที่ได้ยกไปในส่วนของอุปสงค์ หากนักลงทุนในประเทศต้องการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อใช้ในการผลิต หรือต้องการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ ก็จำเป็นต้องนำเงินบาทมาแลก (ขาย) ในตลาด และนำเงินตราต่างประเทศไปใช้ซื้อสินค้าในต่างประเทศ (นำเข้า) หรือนำเงินไปลงทุนก็ตาม ก็จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงครับ

ทั้งนี้ โดยปกติ เวลาพิจารณาผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ก็ดูที่ ดุลบัญชีการชำระเงิน (Balance of Payment) เป็นหลักครับ ซึ่งก็คือดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account) และดุลบัญชีเงินทุน (Capital Account) ดังที่ยกตัวอย่างไปข้างบนครับ

Create Date : 31 พฤษภาคม 2550

Last Update : 31 พฤษภาคม 2550 11:14:36 น.

0 comments

Counter : 9771 Pageviews.