|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
จะเกิดอะไรขึ้นกับรากหญ้าของไทยในอนาคต
ทุกคนคงทราบว่าเหรียญมีหลายด้าน แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะเลือกที่จะพูดด้านไหน บางคนมองด้านเดียว บางคนมอง 2 ด้าน บางคนอาจจะมองถึง 3 ด้าน ก็แน่นอนว่าความเห็นแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไป
แนวนโยบายด้านนึงของทักกี้ อาจจะทำให้เกิดประโยชน์แก่คนระดับชนชั้นกลางขึ้นไป ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ต้องยอมรับ เพราะทำให้เศรษฐกิจโตเพิ่มขึ้นจากคนอื่นปีละ 1% (6 หมื่นล้านบาท)
แต่ของทุกอย่างมีต้นทุนของมันเองครับ ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องเศรษฐกิจโตกับการกระจายรายได้คนละเรื่องกันนะครับ ตรงนี้ใครหาเงินเก่ง ก็แย่งกันเอาเอง
กลับมามองอีกด้านนึง ด้านนโยบายรากหญ้าที่ออกมาเพื่อหาเสียงในตอนแรก ถามว่าคนจนได้ประโยชน์ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ ในระยะสั้น แล้วในระยะยาวล่ะ เกิดอะไรขึ้น
ไม่ทราบว่ามีคนรู้จักคำว่า Moral Harzard หรือเปล่า คำๆนี้หมายถึงการที่คนเราได้รับสิ่งหนึ่งสิ่งใดประกันความแน่นอนในอนาคต แล้วทำให้พฤติกรรมเราเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง
เช่น จากเดิมค้นหาข้อมูล ความรู้ ในห้องสมุด หรือ google ตลอด แต่หลังเข้ากระทู้พันทิปแล้ว กลับไม่ยอมค้นหาด้วยตัวเอง มีปัญหาอะไรก็พึ่งพาพันทิปโดยตลอด เป็นต้น
ผลจากนโยบายประชานิยมต่อชนชั้นล่างคืออะไร จากนโยบายพักชำระหนี้ จนกระทั่งถึงการลดหนี้และดอกเบี้ยให้เกษตรกร ส่งผลให้เกิดแนวโน้มที่เหล่าเกษตรกรของไทย ต่างเริ่มมองเห็นผลประโยชน์ในจุดนี้ ปลูกข้าว ทำไร่นาไป ขายไม่ได้ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรียกร้องให้รัฐบาลลดหนี้หรือพักชำระหนี้ได้เอง ผลกระทบดังกล่าว แม้จนถึงตอนนี้อาจจะมีไม่มาก แต่ก็ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าในอดีต
ผลกระทบดังกล่าว จะค่อยๆเริ่มส่งผลในเชิงพฤติกรรมของชนชั้นล่าง ซึ่งมองแล้ว ไม่ต่างจากการให้เงินแก่ขอทาน ที่แบมือขอเงินคนที่ผ่านไปผ่านมา
ดัชนีชี้วัดความยากจน จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ปี_สัดส่วนคนยากจน (%) _จำนวนคนยากจน(ล้านคน)
2541_____ 13.0______________ 7.9 2543_____ 14.2 _____________ 8.9 2545_____ 9.8 ______________ 6.2 2547_____ 11.25 ____________ 7.08
ท่านนายกเข้ารับตำแหน่งครั้งแรกประมาณปี 2544 พร้อมด้วยนโยบายบายรากหญ้า ผลก็คือในระยะสั้น คนจนลดลงอย่างรวดเร็ว แต่พอนโยบายรากหญ้าเริ่มน้อยลง (เนื่องจากงบหมด ทำต่อไปลำบาก) เช่นนโยบายพักชำระหนี้ ส่งผลให้คนจนเริ่มมีจำนวนมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต
จะเห็นได้ว่านโยบายดังกล่าวเป้นเพียงผลที่ได้รับในระยะสั้นเท่านั้น ไม่ใช่การดำเนินนโยบายเพื่อปรับโครงสร้างคนจนในระยะยาว
ทั้งๆที่รัฐบาลสามารถมีวิธีการอื่นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ เช่น แทนที่จะยกหนี้ หรือจ่ายหนี้แทนเกษตรคืนให้ธนาคาร รัฐบาลก็สามารถที่จะรับซื้อสินค้าเกษตรในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด แล้วก็ขายแก่ผู้บริโภคในราคาตลาดได้ โดยให้ส่วนต่างที่รัฐบาลขาดทุน คือเงินที่รัฐบาลจะเอาไปยกหนี้ให้เกษตรกร
วิธีนี้จะช่วยให้เกษตรกรคิดที่จะทำการเกษตรมากขึ้น เพราะต่อให้ราคาตก ก็ยังมีรัฐบาลรับซื้อ ไม่ใช่ว่าไม่ทำการเกษตร แล้วรอให้รัฐบาลยกหนี้ให้เพียงอย่างเดียว
แล้วทำไมรัฐบาลไม่ทำ ตรงนี้ก็ขอให้ลองคิดกันดูว่า ระยะเวลาในการดำเนินนโยบายทั้ง 2 อย่าง ต่างกันอย่างไร
ตอนนี้ยกตัวอย่างให้ดูคร่าวๆเพียงแค่นี้ก่อนแล้วกัน
แน่นอนว่า มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ที่ผมอาจจะลืมมองจุดที่คนอื่นมองเห็น ก็ขอโทษด้วยครับ
ต่อมาเราก็ต้องมาดูว่าในใจเรา คิดว่าประโยชน์ต่อตัวเรา และ/หรือ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทั้งในระยะสั้น และ/หรือ ในระยะยาว อย่างไหนจะมีมากกว่ากัน
แน่นอนว่าคำตอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะต่างคนต่างก็มีพื้นฐานความรู้ ชีวิต การงาน แตกต่างกันไป ถ้าคิดละเอียดรอบคอบแล้ว ก็ทำสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าควรจะทำครับ
ปล. ของแถมบทความ รัฐธรรมนูญไทยกับการหาเสียงยุคใหม่ : กรณีศึกษาพรรคไทยรักไทย
Create Date : 31 มีนาคม 2549 |
Last Update : 5 เมษายน 2549 16:31:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1370 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
ข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศ
ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศ
ค้นคว้าข้อมูลทั่วไป
แหล่งเชื่อมโยงอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
|
|
|
|