ซื้อรถยนต์มือสอง
ต้องการหารถเก๋งเล็ก ๆ ไว้ใช้งานอีกสักคัน เพื่อขับเข้าเมืองส่งลูกไปรร. จะได้คล่องตัวหน่อย ตอนนี้มีอยู่ 2 คัน เก๋งฟอร์จูนเนอร์ (12 ปี) กับ กระบะฟอร์ด(19 ปี) ปลอดภาระทั้งหมดแล้ว ทุกคันใช้งานเต็มที่ ตอนเช้าส่งลูกไปรร. พ่อ+แม่+ลูกสองคน ไปสองรร. แล้วอยู่คนละที่ แล้วพ่อแม่เลยไปทำงานใช้รถกระบะ , อีกคันฟอร์จูนเนอร์ คุณตาของเด็ก ๆไปรับที่รร.ช่วงบ่าย ส่งที่เรียนพิเศษ แล้วพ่อแม่เลิกงานออกไปรับกลับมาบ้าน บอกเลยว่าเหนื่อย ยิ่งมาขับกระบะเกียร์ manual เมื่อยจังซึ่งรถมันก็เก่าแล้ว ก็เลยอยากหารถมาใช้งานอีกคัน เพราะคงต้องรับส่งลูกไปเรียนหนังสือแบบนี้อย่างน้อยก็อีก 3 ปี เดิมก็อยากได้รถ EV หาข้อมูลมาก็นานโข ตั้งแต่ EV เข้ามาใหม่ ๆ เช่น MG ZS รถไฟฟ้า SUV ที่ตอนออกมาใหม่ ๆ ก็โดนใจเรามาก แต่แบตฯวิ่งได้น้อยไปหน่อย ก็รอออออ ๆ มาเรื่อย ๆ ก็มีค่ายยักษ์ใหญ่ BYD ออกรถ EV มาหลายรุ่นจนเลือกไม่ถูก แต่ข่าวออกมาก็หลากหลาย + บ้าง - บ้าง จนเรากลัว ๆ ไม่แน่ใจไปทางไหน ก็เลยตัดสินใจไปทางรถยนต์สันดาปแบบเดิมไปก่อน ขอเอาแบบมือสองแล้วกันใช้ไม่กี่ปี จะเปลี่ยนก็ไม่เสียดาย ประกอบกับพึ่งกู้ซื้อบ้านมา 2 หลัง 2 ปี ติด ๆ กัน ใช้เงินสดไปก็เยอะ ถ้ารถใหม่เลยจะต้องดาวน์เยอะ และยอดผ่อนส่งสูงไป
ตอนแรกจะเอา Eco car คันเล็ก ๆ เช่น Toyota Yaris , Honda Jass หรือ Nissan March ขนาด 1.2 cc อะไรประมาณนี้ แต่เราได้ไปลองขับแล้วมันไม่สะดวก คับแคบ กลัวใช้ไปแล้วเบื่ออีก เลยตัดสินใจภายในไม่กี่ชั่วโมงยกระดับมาที่เก๋งระดับกลาง ขนาดสัก 1.5 cc. ก็หาอยู่ไม่นาน มาได้ Honda city ปี 2018 รถเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

 คันนี้
ชอบที่สภาพเดิม ๆ ไม่ได้ตกแต่งอะไรมา ได้ไปทดลองขับแล้ว เครื่องเงียบ สภาพทั่วไปดูแล้วไม่พบปัญหาอะไร ราคาเงินสดอยู่ที่ 305,000 บาท หากขอสินเชื่อรถยนต์ จะเป็นราคา 325,000 บาท ไม่แน่ใจนักว่าราคาตามนี้พอจะสมเหตุสมผลหรือเปล่า ตอนตัดสินใจเอาก็ใช้เวลาไม่มากนัก แค่ทดลองขับประมาณ 1 - 2 กม. แต่ก่อนหน้าได้ทดลองคันอื่น ๆ มาหลายคันแล้ว สุดท้ายตกลงเอาคันนี้ เราตัดสินใจใช้สินเชื่อ โดยจ่ายเงินดาวน์ 50,000 บาท ยอดจัดอยู่ที่ 275,000 บาท ผ่อน 5 ปี ดอกเบี้ย 3.49% และสั่งจอแอนดรอย + ติดซับบ๊อกซ์ เครื่องเสียงเพิ่ม ราคารวมกัน 7,000 บาท แล้วมีค่าออกรถอีก 5,000 บาท รวมจ่ายไป 62,000 บาท ราคาขายจะกลายเป็น 325,000 + 12,000 = 337,000 บาท

ตกลงกับทางไฟแนนซ์ไว้จะผ่อน 5 ปี แต่ต้องมีค่าเบี้ยประกันชีวิตที่คุ้มครองตลอดอายุสัญญา ซึ่งถ้าไม่ทำประกันก็ไม่ได้ดอกเบี้ยตัวนี้ (ดอกเบี้ย 5.3% ถ้าไม่ทำประกัน ) ลองคำนวณดูแล้ว ทำหรือไม่ทำยอดผ่อนชำระแทบไม่ต่างกัน (ต่างกันประมาณ 10 บาท /เดือน ) จึงตัดสินใจซื้อประกันคุ้มครองดีกว่า ซึ่งคำนวณค่าผ่อนชำระต่องวดได้ดังนี้ ยอดจัด = ราคาขาย + เบี้ยประกันชีวิต - เงินดาวน์ 337,000 + 21,600 - 62,000 = 296,600 ดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนรถทั้งหมด = 296,600 X 3.49% X 5 ปี = 51,757 บาท ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย = ยอดจัด + ดอกเบี้ยทั้งหมด = 296,600 + 51,757 = 348,357 บาท ค่างวดในแต่ละเดือน = ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย ÷ จำนวนเดือนที่ผ่อน x vat7% = 348,357 /60 = 5,806 x (7/100) = 5,806 + 406 = 6,212 บาท
จากตัวเลข 6,212 บาท / เดือน ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เราเคยผ่อนรถ และบ้านมากกว่านี้อีก ซึ่งตอนนี้เราว่าง ไม่ได้มีภาระผ่อนอะไรแล้ว ตัวตึกที่ผ่อนจ่ายอยู่ก็ได้รับคืนจากบัญชีหอพักที่ภรรยาทำทุกเดือนอยู่แล้ว
แต่ปัญหาที่จอดรถที่บ้านมีไม่เพียงพอ เพราะ 2 คันเดิมก็ยังอยู่ ต้องเอากระบะคันเก่าจอดนอกบ้าน และอีกปัญหานึงคือ ทางขึ้นหน้าบ้านสูงไปหน่อยรถเก๋งคันเล็กขึ้นลงยากอาจทำให้ใต้ท้องครูดได้ รถคันนี้อายุ 6 ปี เลขไมล์ที่มาถึงเราก็ปาเข้าไป 170,000 เข้าไปแล้ว ช่วงล่างอาจไม่หนึบเหมือนรถใหม่ เดี๋ยวใช้ไปสักพักอาจจะเปลี่ยนโช๊คใหม่ซึ่งราคาไม่น่าแพงนัก ค่อยมาวางแผนอีกที
 อันนี้เป็นตารางการตรวจเช็ครถมือสองที่ไปดูก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่ง Honda city คันที่ถูกเลือกอยู่หมายเลข 5
Create Date : 12 กรกฎาคม 2567 |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2567 10:09:01 น. |
|
1 comments
|
Counter : 602 Pageviews. |
 |
|
|
- ยอดจัด 275,000 บาท
- ดอกเบี้ย 5.25% (275,000 x 5.25% x 5 ปี = 72,188 บาท)
- ค่างวด 6,192 บาท 60 งวด เริ่มงวดแรก 15 ตค.2567
ดอกเบี้ยที่จ่ายแพงขึ้นกว่าเดิม แต่ ค่างวดลดลง