Group Blog
เรื่องราวของวันไหน..วันโน้น...วันนั้น
หนังสือใหม่ในชั้น(ที่บ้าน)
เรื่อง(อยาก)เล่า โตเกียว -> นิกโก -> คามาคุระ -> โอซาก้า -> เกียวโต
พบปะ...พูดคุย
หน้าแรก...ทักทาย
...
เรื่องเล่าจากมุมห้อง
แฟนฟิค...หัวขโมยแห่งบารามอส
เรื่องสั้น...วันว่าง
แฟนฟิก ... รักแห่งสยาม
คนในฝัน กับ สิ่งสำคัญที่หล่นหาย
เรื่อง(อยาก)เล่า กุ้ยหลิน หยางซั่ว
เรื่อง(อยาก)เล่า เวียงจันทน์…วังเวียง...หลวงพระบาง...เวียงจันทน์
24 มิถุนายน 2475
<<
พฤศจิกายน 2551
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
5 พฤศจิกายน 2551
ตอนที่ 3 การเดินทางวันที่สอง ปีนสันหลังมังกร
All Blogs
ตอนที่ 3 การเดินทางวันที่สอง ปีนสันหลังมังกร
ตอนที่ 2 กว่าจะถึงกุ้ยหลิน
ตอนที่ 1 เตรียมตัว
ตอนที่ 3 การเดินทางวันที่สอง ปีนสันหลังมังกร
ตื่นเช้าด้วยอาการไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไหร่ แต่เดินทางเป็นหมู่คณะ จะมัวแต่นอนก็กระไร น้ำไม่อาบ แค่แปรงฟันล้างหน้าอย่างเดียวก็เรียบร้อย แล้วก็รีบพุ่งมาเก็บรูปวิวยามเช้าจากหน้าต่างห้องพัก มุมเดิมกับเมื่อคืน
ด้วยฝีมืออันอ่อนด๋อย...ก็ติดภาพสะท้อนของตัวเองมา อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นวิญญาณนะคะ -___-“
ถนนหน้าโรงแรมคึกคักพอสมควร การจราจรที่นี่สับสนมาก คือ ทุกคนอยากจะไปอย่างที่ไป และต้องคอยระวังกันเอาเอง ^ ^” เสียงแตรไม่ได้หมายถึงไล่ แต่เตือนให้ระวัง
ตึกในบริเวณที่เราพักอยู่ ส่วนใหญ่จะมีการปรับปรุงซ่อมแซมโดยรัฐบาล เพื่อให้เมืองดูน่าอยู่
เราออกจากโรงแรมที่พักสายกว่าที่ไกด์นัดนิดหน่อย คือประมาณ 7.45 น. จากกุ้ยหลินตรงที่เราพักถึงสันหลังมังกร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางพุทราก็ถ่ายไปเรื่อยเปื่อยจากหน้าต่างรถ ถ่ายก็ไม่เป็น แต่อยากถ่าย ^ ^” เพราะถ้าเที่ยวเอง ได้เดินเอง อาจจะมีโอกาสได้ไปเดินๆ สำรวจกับเค้าบ้าง
หน้าตลาดสด มอไซด์จอดกันแน่นเอี๊ยด ^ ^ นอกจากมอไซด์จะเป็นที่นิยมแล้ว จักรยานไฟฟ้าก็เป็นที่นิยมด้วย แต่มอไซด์ที่นี่ฮิตที่มีกะบะท้ายใส่ของด้วย
ปกติพุทราเป็นประเภทขึ้นรถปุ๊ปหลับปั๊บ ไม่ว่ารถนั้นจะเป็นรถอะไร แม้แต่รถไฟฟ้า BTS ^ ^” แต่คราวนี้พยายามดึงหนังตาไว้สุดฤทธิ์ เพราะไม่อยากพลาดบรรยากาศระหว่างที่เดินทางจาก กุ้ยหลิน ไป สันหลังมังกร สองข้างทางถ้าไม่เห็นบ้านคนให้ความรู้สึกเหมือนต่างจังหวัดบ้านเราเลย แต่ถ้าเห็นบ้าน ก็รู้ว่าคงไม่ใช่เมืองไทย ^ ^
ร้านใหญ่ๆปิดทำการ เพราะเป็นวันเสาร์
ล้อมรั้วไว้ คงเตรียมการบำรุงรักษา แต่พุทราว่า บ้านเก่าๆ มันก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบนะ ^ ^
บ้านใหม่เอี่ยม ที่โฆษณาโดยนักว่ายน้ำโอลิมปิก
บ้านในเมืองจีน เวลาซื้อไม่ได้เป็นสิทธิ์ของผู้ซื้อเลย แต่ยังเป็นของรัฐบาลอยู่ เหมือนซื้อเพื่อใช้สิทธิอยู่อาศัยที่นั่น ก็แล้วแต่ประเภทของอาคารว่า รัฐบาลจะให้อยู่กี่ปี ถ้าจำไม่ผิด ไกด์บอกว่า ประมาณ 50 -70 ปี ทำนองนั้น พอครบกำหนดบ้านหลังนั้นก็จะกลับเป็นของรัฐบาล ที่รัฐบาลจีนทำแบบนี้เพราะประชากรของจีนเยอะมาก คงกลัวว่าจะไม่มีที่ให้อยู่กันทุกคน รัฐบาลเป็นเจ้าของที่ดินเอง จะได้จัดสรรง่ายๆ
บรรยากาศคล้ายบ้านเราเหมือนกันแฮะ
ตำรวจใกล้ชิดประชาชน ^ ^
รถบรรทุกที่ใช้เครื่อง...ประมาณ คูโบต้า บ้านเรา ก็เป็นที่นิยม เห็นได้ทั่วไปในเมือง แต่พุทราถ่ายมาไม่ทัน
ร้านขายผัก ขาย(คิดว่า)หมูเล็กๆ ง่ายๆ ที่อาจจะคิดว่า หมู เพราะไม่แน่ใจว่ามันอาจจะเป็นหมาก็ได้ ^ ^”
ไกด์บอกว่า ที่กุ้ยหลินมีตลาดขายเนื้อหมาขนาดใหญ่ เป็นถนนทั้งเส้นเลย มีทั้งขายสดและปรุง มีร้านสุกี้ จะคึกคักเวลากลางคืน พุทราเกือบให้ไกด์พาไปแล้ว แต่แม่พุทราบอกว่า อย่าไปเลย รีบนอนจะได้ตื่นเช้า และไม่หลับบนรถ ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องเชื่อแม่ ไม่เชื่อแม่เดี๋ยวแม่งอน ^ ^”
พื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ ถ้าไม่มีข้าวตากอยู่พุทราคงนึกว่าเอาไว้จอดรถ
แล้วก็มาถึงสิ่งที่เค้าร่ำลือกันมานาน พุทราได้เพียงแค่ฟัง ไม่เคยเห็นด้วยตา มาคราวนี้ได้เห็นแล้ว ....
เมื่อรถขับมาได้ครึ่งทาง รถก็จอดให้ทุกคนเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน ... (ลืมถ่ายรูปปั๊มมาซะงั้น) ปั๊มใหญ่โต ท่าทางสะอาดสะอ้าน พุทราก็ได้โอกาสเข้าไปสำรวจ
ห้องน้ำมี 3 ห้องค่ะ ไม่มีซักห้องที่มีประตู และข้างในก็เป็นแบบนี้
เมื่อเข้าไปยลใกล้ๆ ก็เป็นดังรูปเนี่ยแหละค่ะ ในร่องน้ำที่ไว้ให้ทำธุระ ก็มีน้ำไหลตลอดเวลา แต่ดูท่า น้ำจะแรงไม่พอ เพราะยังมี...ของคนก่อนหน้าตกข้างอยู่เลยอ่ะ ^ ^”
พุทราไม่ได้ทำธุระในห้องน้ำ แต่มีสมาชิกทัวร์บางท่านเข้า ก็ต้องให้ญาติยืนบังให้อีกที ^ ^”
เท่าที่สังเกตหลายวัน เหมือนจะเห็นปั๊มยี่ห้อเดียว คือ SINOPEC
ที่บ้านเราในปั๊มจะมีร้านขายของ ประมาณ 7-11 ที่ SINOPEC ก็มีเหมือนกันค่ะ แต่ขายผลไม้ แม่ของพุทราขา shop พยายามจะซื้อเหมือนกัน แต่ไม่สำเร็จเพราะถามเค้าไม่รู้เรื่อง ว่าราคาเท่าไหร่ เหนือฟ้ายังไม่ฟ้าฉันใด ขา Shop เหนือแม่พุทราก็มีฉันนั้น ... คุณน้าท่านนึงซื้อกล้วยมาได้ กล้วยหอมลูกโต 5 ลูก 4 หยวน ( 1 หยวน ประมาณ 5 บาท )
หลังจากทุกคนขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางต่อ
ในที่สุดหลังจากรถเวียนไปเวียนมา ทางขึ้นเขาหวาดเสียว เราก็มาถึงทางเข้า “สันหลังมังกร”
บริเวณทางเข้ามีแผนที่สีซีดแผ่นใหญ่โชว์ไว้ ระหว่างรอไกด์ไปจัดการเรื่องค่าเข้าชม เราก็ดูป้ายไปพลางๆ
ไกด์ส่งสัญญาณว่าเรียบร้อยแล้ว เข้าได้...ลุย...
ระหว่างทาง ก็มีของขายเป็นระยะๆ ... ลูกอะไรเนี่ย...แปลกโคตร .... ถามไกด์ ไกด์ก็ไม่รู้ ไกด์ถามแม่ค้าให้ ได้ความว่า ... ประมาณ สับปะรดป่า ... คล้ายน้อยหน่ามากกว่าสับปะรดอีกนะเนี่ย ^ ^a
แม่ค้าขายคู่กับลูกเสาวรส .. เสาวรสลูกละ 1 หยวน .... พุทราไม่ค่อยได้ซื้อของ แต่พุทราว่าแพงนะ ลูกละ 5 บาทแน่ะ
เริ่มเดินขึ้นเขาแล้วคับ ^ ^” เป้าหมายของเรา คือ วงกลมนั่นแหละค่ะ T v T
สำหรับ ผู้สูงอายุ มีเกี้ยวให้บริการ ราคาหลังจากต่อรองแล้ว ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น 400 หยวน ... แต่พุทราว่านั่งเกี้ยวมันเสียวกว่าเดินเองนะ เพราะ เวลาขึ้นเขา ทางมันเอียง คนนั่งเกี้ยวจะกลายเป็นคนนอนเกี้ยวแทน ^ ^”
เมื่อกำหนดเป้าหมายได้แล้ว ... เราก็ออกเดินเท้า
เดินผ่านร้านขายของที่ระลึก ได้ซักพัก ก็ เริ่มเห็นวิวภูเขา เส้นทางเดินไม่กว้างเท่าไหร่ เดินสวนกันได้ประมาณ 2 คน นิดๆ
แล้วเราก็เดินมาถึงสะพานลมฝน คือ สะพานที่มีเก้าอี้และหลังคาแบบนี้อ่ะค่ะ เกี้ยวที่เห็นในรูปก็คือ ที่เค้าจะแบกเราขึ้นไปน่ะแหละค่ะ
ที่นั่งพักลมเย็นๆ .... คุณป้าน่าจะกำลังถักรองเท้าขะมักเขม้น รองเท้าถักก็ดูเป็นของที่ขายกันเกือบทุกร้านเหมือนกัน
นั่งไปได้ซักพัก หลังที่ชุ่มเหงื่อก็เริ่มแห้ง ไกด์บอกว่าใครเดินต่อไม่ไหวก็นั่งเล่นที่สะพานก็ได้ แม้ว่าส่วนใหญ่ในคณะทัวร์จะเป็นคุณลุงคุณป้าซะส่วนใหญ่ แต่คุณลุงคุณป้าส่วนใหญ่ก็อยากจะเดินขึ้นไปให้ถึง
หน้าตาสะพานลมฝน
เดินขึ้นไปเริ่มเห็นนาข้าว ที่เพิ่งเกี่ยวไป ... นึกถึงเพื่อนช้าง เพื่อนช้างบอกว่า จะสวยมากถ้าเป็นช่วงข้าวออกรวงตอนปลายกันยา ... แต่มาทัวร์จะให้ทำไงได้ ช่วงข้าวออกรวงพุทราหาทัวร์ไม่ได้ พอได้ทัวร์ข้าวก็ถูกเกี่ยวไปหมดแล้ว เหลือแต่ตออย่างที่เห็น
คุณป้าในรูปเอาลูกเป็ดใส่ชะลอมมา แล้วเอามาปล่อยในนา ให้หาอะไรกิน ^ ^
บ้านที่เราเดินผ่าน กลายเป็นโรงแรมไปหมดแล้ว สังเกตได้จากโคมแดงที่ห้อยอยู่หน้าบ้าน นักท่องเที่ยวพวกฝรั่งชอบมาค้างบนนี้ จากทางเข้ามีบริการรับแบกกระเป๋าใบละ 50 หยวน ผู้หญิงรับจ้างแบกกระเป๋า ผู้ชายรับจ้างหาบเกี้ยว ... พวกเค้าถามนักท่องเที่ยวว่า “เกี้ยวล่ะ เกี้ยวล่ะ” ตลอดทาง ขยันจริงๆ ... ไม่รู้ว่ารายได้หลักของที่นี่ คือ การท่องเที่ยวหรือเกษตรกรรม ... เดินขึ้นไปก็อดคิดไม่ได้ว่า ... จะเจอชาวบ้านที่นี่ใส่สายเดี่ยวกางเกงยีนส์แทนที่จะเป็นชุดประจำเผ่ารึเปล่า ^ ^”
บ้านแถวนี้หลังโต๊ โต ... ไม่รู้ว่าอยู่กับหลายครอบครัว หรือว่าอยู่กับครอบครัวเดียวก็ไม่รู้
เดินผ่านลานตากข้าว ตากพริก ... แดง ใหญ่ ดกขนาดนี้ ไม่แปลกใจว่า ของมีชื่อแถวนี้ คือ น้ำพริก ไม่ใส่กะปิแบบเรา แต่มีแต่พริกล้วนๆ ทั้งขวด ^ ^”
เรายังคงเดินไปตามทางแคบๆ ขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ไม่คิดจะนับขั้นแล้ว เพราะแค่เดินก็หอบ ^ ^”
โฮ่ย....เส้นทางบันไดยังอีกยาวไกล ท้องฟ้าแจ่มใส แดดเริ่มแรง เหงื่อเริ่มแตกพลั่กๆ ^ ^
ระหว่างทางมีสาวน้อยให้กำลังใจด้วย
เราเดินลัดเลาะผ่านข้างบ้าน หน้าบ้าน ทะลุบ้าน ของชาวบ้านไป
ข้าวโพดที่แขวนไว้ตามบ้าน เพื่อให้โชคดีอุดมสมบูรณ์
บ้านสร้างจากไม้ล้วนๆ มีอุปกรณ์เก็บไว้ใต้ถุนบ้าน มีกระเบื้องมุงหลังคาเก็บไว้เป็นตั้งๆ ด้วย ^ ^
เดินมาจนขาสั่น ก็เริ่มเห็นนาขั้นบันได แต่ยังไม่ใช่จุดมุ่งหมายที่เราตั้งไว้ ยังต้องเดินต่อ ^ ^”
นางแบบในรูปมิใช่ใครที่ไหน ท่านแม่ของพุทราเอง ที่คุณนายเธอใส่เสื้อแขนยาวไม่ใช่หนาว แต่ท่านแม่กลัวดำ ^ ^” (แซวแม่ออกอากาศเฟร้ยเฮ้ย ^ ^)
ทางแคบลง ชันขึ้น
แล้วในที่สุด เราก็ถึง ... เจ็ดเดือนล้อมดาว ...
ตอนแรกพุทราก็...ไม่เห็นมีเดือนกับดาวเลย ... ไกด์บอกว่า นาส่วนที่เป็นยอดกลมๆตามลูกศรชี้นั่น คือ เดือน ค่ะ แต่พุทราก็นับไม่ครบนะ ^ ^”
อากาศเหมือนมีหมอกบางๆตลอดเวลาทำให้เห็นวิวภูเขาที่อยู่ไกลๆ ไม่ชัดนัก และ ก็เห็นแต่สีน้ำตาลๆ แต่พุทราก็ชอบนะ บรรยากาศ ทิวทัศน์ ผู้คน เป็นประสบการณ์ที่ดี และดีใจที่เดินถึง
หลังจากถ่ายรูปๆๆๆๆ เก็บภาพประทับใจกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินลง ไกด์พยายามรักษาเวลาสุดยอด ตอนแรกพุทราก็งงว่าทำไมต้องรีบ ในเมื่อเราต้องเที่ยวแถวนี้ทั้งวัน ... ตอนหลังถึงได้รู้คำตอบ
สูงแค่ไหนก็มี...เจ้าเพื่อนซี้ 4 ขา
แรงงานหลักที่ใช้ในการขนสินค้า
จิ้งจกหรือตุ๊กแกก็ไม่รู้ เอามาตากแห้ง และเป็นของจริง ^ ^”
ลงจากสันหลังมังกรแล้ว ที่ที่เราจะไปต่อ คือ การแสดงของสาวเผ่าจ้วง..ใน Blog หน้านะคะ
Create Date : 05 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2551 10:48:11 น.
3 comments
Counter : 6437 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดีค่ะ วิวมุมสูงสวยแปลกตามากๆ
โดย:
Sweety-around-the-world
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:43:23 น.
ชอบๆ
โดย: แฟะ IP: 192.168.2.18, 119.42.110.112 วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:13:58:00 น.
สุดยอด สัปรสป่า เหมือน หน่อยหน่ามากๆ
โดย: mbxa IP: 171.4.133.35 วันที่: 9 ธันวาคม 2554 เวลา:16:03:28 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
แค่ก้อนหินที่อยากบินได้
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ขอมี Blog กับเค้าด้วยคนนะคะ ^ ^
Friends' blogs
Pixar
Duke!
กริชครับผม
kennetto
narumol_tama
Kurt Narris
A r t F u l l Y
อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า
piangdin
แมลงปิศาจ
MrMuud
สมันน้อย เบอร์ 14
Commencer
vee vee'
มณีนาคา
สุริยาอัสดง
แสนแสบ!!ทรวง!!
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
The SoVo
ลายปากกา
เซโก้4
X RoBiN
เปียร์รุส
ยาคูลท์
สิงห์อมบ๊วย
801-Club
Webmaster - BlogGang
[Add แค่ก้อนหินที่อยากบินได้'s blog to your web]
Links
เพื่อน B
chibi
steelmaker
vee vee'
เพื่อนจุ๊ก
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สวัสดีค่ะ วิวมุมสูงสวยแปลกตามากๆ