Swatch Chanel, Victoria's Secret, NYX Lip Liner Pencils and Arissa Lip Palette ช่วงหลังๆ มานี่เริ่มใช้ lip liner บ่อยขึ้น สมัยก่อนใครบอกว่าใช้ lip liner ด้วยเราจะรู้สึกว่าแก๊... แก่ นึกกันออกมั้ยคะ แบบดาราสมัยก่อนที่ขอบปากจะคมกริบแป๊ะๆ บางทีสีขอบปากเข้มกว่าสีลิปสติกอีก น่ากลัวเป็นยิ่งนัก มาได้ใช้ lip liner แท่งแรกของ Chanel ที่ BA เลือกให้สีธรรมชาติมาก (#34 Natural) เนื้อก็ดี blend ก็ง่าย ชักเริ่มติดใจเพราะมันดูธรรมชาติกว่าที่เราคิดไว้เยอะ แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้ด้วยความขี้เกียจ (อีกตามเคย) แต่ช่วงนี้กลับมาเห่อใหม่เพราะดู Youtube ของป้า Lisa สาวใต้คนนี้มากไปหน่อย เลยขุด lip liner กลับมาใช้ใหม่เพราะช่วงนี้ปากเหี่ยวๆ ทาอะไรก็ไม่สวยดั่งใจ ได้ lip liner มาช่วยมันทำให้ลิปสติกติดทนขึ้น ไม่ค่อยตกร่องเท่าไหร่ หรือจะทาเฉพาะ lip liner + lip gloss ก็ได้ค่ะ ในคลิป ป้าแกกำลังโชว์ Lip Combo สียอดฮิต MAC Victorian Lipstick ของ Spring Forecast Collection (ที่ข้าเจ้าก็ไปสอยตามป้าแกมาเหมือนกัน ) ชอบอ่ะ ป้าแกสำเนียงใต้แรงมาก สรุปว่าได้สอย lip liner มาอีก 4 แท่งด้วยกันแต่เป็นของราคาถูกกว่า Chanel (มาก) คือของ VS แท่งละ $8 ส่วน NYX ซื้อจาก cherryculture.com แท่งละ $2.50 ค่ะ เนื้อของ VS จะนิ่มสุด แต่จริงๆ แล้วยังไม่ได้ลอง NYX เลย เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ วันนี้เอง เลยยังไม่อยากโม้มาก แปะสีให้ดูเฉยๆ ก่อนแล้วกันนะคะ ถ้าว่างกว่านี้จะมารีวิวและโชว์ Lip Combo แบบป้า Lisa บ้าง ลิปสติกสีเดียวกันแท้ๆ ถ้าผสมกับ lip liner คนละสีก็ออกมาไม่เหมือนกัน ถือเป็นการผสมสีสนุกๆ บนปากเราเอง ส่วนอีก Palette นั่นก็ซื้อจาก cherryculture.com เหมือนกัน ราคา 4 เหรียญเท่านั้น แต่มีคนบอกอีกว่าดี (เชื่อคนง่ายจริงจริ๊งงงงง) lip liner swatch จากซ้ายไปขวา: Chanel Le Crayon Levres #34 Natural, Victoria's Secret Lip Liner #Ginger Spice, NYX Cosmetics Lip Liner Pencils #Nectar, #Citrine and #Rose Have a nice day นะคะ ทุกๆ คน   Create Date : 31 มีนาคม 2553     5 comment Last Update : 31 มีนาคม 2553 9:17:41 น.     Counter : 2220 Pageviews.   Share Tweet

Review Cle de Peau Beauty Cheek Color Duo #3 บลัชแสนแพง เพราะต้องซื้อตลับที่มากับแปรงแยกต่างหาก ตลับราคา $40 ส่วนบลัชก็ราคาไม่น้อยหน้ากัน $45 ถ้าใครถามว่าซื้อบลัชอันไหนมาราคาแพงที่สุด ข้าพเจ้าขอชูจั๊กกะแร้เหี่ยวๆ บอกว่าของคาเดอโปเนี่ยแหละ... สุดยอด สาเหตุที่ซื้อก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าหน้ามืด เนื่องจากเป็นลูกค้าประจำของเค้า ไปลองแต่งหน้าซื้อนู่นซื้อนี่มาก็หลายรอบยังไม่เคยซื้อบลัชกับเค้าซักที ประกอบกับช่วงนั้นเบื่อๆ ปล่อยบลัชเก่า (NARS, MAC) ไปจนเกือบหมดกรุ แถมเวลาคนขายเค้าลองปาดนู่นปาดนี่ สามนาทีดิชั้นสวยปริ๊ง ก็เลยต้องมนตราสอย Cheek Color Duo #3 มาครอบครองในที่สุด ชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็น cheek duo คือมันจะมีบลัชมาคู่กับ highlighter สีที่ complement กัน เนื้อบลัชจะค่อนข้างแข็ง ในขณะที่ด้าน highlighter จะนิ่ม ออกแนวฝุ่นๆ มากกว่า duo คู่ที่เรามี บลัชจะเป็นสีชมพูใสๆ วิ้งเล็กมากๆ คล้ายบลัชจิล shy pink ส่วน highlighter ก็จะวิ้งๆ แทบจะไม่มีสี ออกเหลือบชมพูอ่อนๆ เอามาทา cheek bone หรือ brow bone จะแจ่มมาก ตอนที่ได้บลัชตัวนี้มาแรกๆ ไม่ชอบมันเลยเพราะช่องบลัชมันเล็กมากๆ เอาแปรงอะไรไปวนก็ไม่เวิร์ค ไม่มีสีบลัชติดมาเลย สรุปคือทายังไงก็ไม่เวิร์ค แต่เนื่องจากใช้แล้วเอาไปคืนไม่ได้ (return policy ของห้างอย่าง Barneys ค่อนข้างเรื่องมากเมื่อเทียบกับ Sephora) เราเลยเอาไป list ใน MUA ก็ hot นะ มีคนมาขอแลกหลายรายอยู่ แต่ยังไม่เจอของถูกใจเลยเก็บไว้ก่อน เสียดาย สุดท้ายก็กลับไปถามคุณ BA ว่ายังไงดีล่ะ ไม่อยากซื้อแปรงใหม่ ไม่อยากขว้างบลัชทิ้ง (แหงล่ะ ของมันแพงนี่) เค้าก็บอกให้ลองใช้แปรงที่มันมากับตลับดู ปกติเราจะไม่เคยใช้แปรงที่มากับตลับเลยไง ทั้ง blush ทั้ง eye shadow ไม่ใช่อะไรหรอก กลัวมันแข็ง คุณภาพต่ำ ใช้สกปรกแล้วล้างไม่ได้ บลา บลา... แต่ขอโบกว่าแปรงที่มากับตลับคาเดอโปนี่ผิดความคาดหมายของเรามาก แปรงของเค้าจิ๋วแต่แจ๋วค่ะ pick up ปริมาณบลัชได้กำลังดีแถมยังนิ่มอีกด้วย เนื่องจากเนื้อบลัชแข็งตามที่บอกไปข้างบน เวลาใช้เราต้องเอาด้านปลายขน literally จิ้มปลายมันลงไปในถาด วนนิดนึง แล้วค่อยเอามาปัดแก้ม วันไหนอยากได้ลุดใสๆ ชมพูๆ ดูแต่งหน้าไม่มาก ก็ตลับนี้เลยค่ะ My Verdict ข้อดี สีสวย วิ้งละเอียด มี highlighter ไว้ใช้เฉพาะส่วน สีติดทนไม่หมองหรือเปลี่ยนระหว่างวัน ปัดแล้วหน้าเด็กลง อิอิ ข้อเสีย ตามที่บ่นไปข้างบนแหละค่ะ ราคาแพง หลุมถาดเล็ก ทำให้วนแปรงไม่ได้ ความชอบ ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าของเค้าก็ดีจริงๆ ค่ะ ให้ 9.5/10 หักเรื่องราคากับ package ซื้อต่อมั้ย ไม่แน่ใจ เพราะมีของดีราคาถูกกว่านี้ให้ลองใช้อีกเยอะ   Create Date : 06 กรกฎาคม 2552     9 comment Last Update : 6 กรกฎาคม 2552 6:06:38 น.     Counter : 1498 Pageviews.   Share Tweet

Review Cle de Peau Extra Silky Lipstick สืบเนื่องจากวันเกิดของข้าพเจ้าที่ได้ของขวัญมาจากเพื่อนโบเป็นบัตรกำนัล Barneys New York หลังจากได้อ่านรีวิวของหลายๆ คน และเพื่อนโบเองก็ยืนยันว่า CDP ESL ของเค้าเจ๋งจริง ก็เลยไปสอยมาซะเลยวัน Tax Holiday วันนั้นข้าพเจ้ารูดการ์ด รูดปื๊ด รูดปื๊ด จนถึงกับมึนไป ต้องกับมากินข้าวต้มที่บ้านเพราะชอปไปจนหมดตัว คุณ Danit คนขายก็จับเราทั้งสามแต่งหน้า มีเรา โบและจูดี้ (เพื่อนหมอฟันของโบ) ต้องยอมรับว่าเค้าแต่งเก่งจริง ธรรมชาติ ไม่เว่อร์ ไม่หลอก ไม่ยัดเยียด สาวๆ ได้ CDP ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันคนละ 2-3 อย่าง เพราะว่าเค้าไม่ยัดเยียดและแนะนำของที่เหมาะกับเราจริงๆ นี่แหละ ทำให้เราอยากกลับไปซื้อกับเค้าอีก เข้าเรื่องดีกว่า Cle de Peau Extra Silky Lipstick ของเค้าดีจริงค่ะ สีสวย ติดทน ไม่ตกร่อง สั้นๆ ง่ายๆ ว่าของเค้าดีจนเราอยากทิ้ง lipstick ทั้งหมดที่เรามี แล้วหันมาใช้ของเค้าอย่างเดียว ไม่ว่ายี่ห้ออื่นจะออก collection ใหม่มากี่ collection ก็ตาม ข้าพเจ้าต้องใจแข็ง ไม่ซื้อ ไม่ซื้อ (ลิปสติกเท่านั้นนะคะ) เก็บตังค์มาซื้อ CDP ดีกว่า ราคาของเจ้า CDP ESL นี่แพงหูฉี่ค่ะ แท่งละ $50 plus tax เทียบกับ MAC แท่งละ $14 แต่เราว่ามันมันก็ไม่เลวร้ายเกินไปนัก เมื่อเทียบกับลิปสติกบางแท่งที่เราซื้อมาแล้วไม่ชอบ ทาครั้งสองครั้งก็ปล่อยมันทิ้งไว้อย่างนั้น รอวันหมดอายุแล้วค่อยทิ้งจะได้ไม่รู้สึกผิด ดังที่เจ๊ Vic ว่าไว้ว่า “ของที่แพงที่สด คือของที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้” Package เป็นหลอดผอมแบบคลิ๊กๆ ค่ะ คือความที่เนื้อมันอ่อนนุ่มมาก เวลาทาก็คลิ๊กออกมาเท่าที่จะใช้ ทั่วๆ ไปเราใช้ปากละ 2 คลิ๊ก ตรงเกือบจะปลายสุดก็มีช่องเล็กๆ เอาไว้ส่องดูว่าต้องเก็บตังค์ไว้ซื้อแท่งไหม่หรือยัง เก๋ไก๋ hi-so เป็นยิ่งนัก สีของรุ่น Extra Silky มีให้เลือกไม่มากนัก แต่เราว่ามันก็ OK นะเพราะสีที่ควรจะมี ก็รวมอยู่ใน 18 สีที่เค้า offer ณ ปัจจุบัน และคงมีสีใหม่ทยอยออกมาเรื่อยๆ code ของรุ่นนี้จะมี 3 ตัวเริ่มต้นที่ 101 เราซื้อเบอร์ 116 มา สีออกชมพูน้ำตาลมีวิ้งเล็กน้อยพองาม สีสุภาพทาได้เรื่อยๆ ตอนนี้กำลังเก็บตังค์ไปสอย 111 อยู่ เนื้อนุ่มชุ่มชื่น เหมือนเป็นลิปมันที่ีสีเข้มและติดทน ที่สำคัญคือใช้ง่ายไม่จำเป็นต้องเอาพู่กันมาบี้ๆ แล้วค่อยทากับปากถึงจะสวย คลิ๊กๆ ป้ายปื้ดๆ ก็สวยแล้ว เหมาะมากสำหรับวันเร่งรีบ สุดท้าย เราขอฝากเครื่องสำอางยี่ห้อคุณนายแม่ไว้ในอ้อมใจของสาวๆ ชาวห้องแป้งทุกคนด้วยนะคะ รีวิวของน้องพลอย MakeUpGuru83 ที่นี่ รีวิวของมาดามสกูีด Scooterella ที่นี่   Create Date : 05 ตุลาคม 2551     20 comment Last Update : 24 มิถุนายน 2552 12:30:36 น.     Counter : 1358 Pageviews.   Share Tweet

Review REVLON Super Lustrous Lipgloss ลิปกลอสราคาน่าคบ เราซื้อเวลามัน buy 1 get 1 free เท่านั้นค่ะเพราะมันมี promotion นี้บ่อย เรียกได้ว่ามีทุกเดือน ถ้าซื้อราคาปกติก็หลอดละ $7.49+tax ผลิตภัณฑ์ Revlon ในอเมริกาหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป หรือจะเป็น Superstore แบบ Target, Walmart ก็มีเหมือนกัน เค้าจะแขวนไว้ ไม่มีคนขายมาช่วยเชียร์ให้รำคาญค่ะ ราคาขายปกติตาม Target หรือ Walmart จะถูกกว่า 10-15% แต่เวลาร้านขายยามี promotion ก็จะถูกกว่า Revlon Products โดยทั่วไปก็ใช้ได้นะคะ มีรองพื้นฝาดำของฮิตของห้องแป้งด้วย เสียแต่ว่าไม่มีคนมาช่วยเราเลือกสีแป้ง สีรองพื้นนี่สิ จขบ.ยิ่งเป็นโรคขาดความมั่นใจอยู่ด้วย สรุปเลยไม่ค่อยกล้าซื้อ base makeup ตามร้านขายยาเท่าไหร่ กลัวสีผิด แต่จริงๆ ก็ไม่รู้จะกลัวสีผิดไปทำไมเหมือนกันค่ะ เพราะในเมื่อของที่ซื้อมาถ้าเราเก็บใบเสร็จไว้ก็สามารถคืนได้แม้เปิดใช้แล้ว จ่ายเป็นเงินสดคืนเป็นเงินสด จ่ายเป็นเครดิตการ์ด คืนเป็นยอดในเครดิตการ์ด วันนี้เราจะมารีวิวลิปกลอสของ Revlon รุ่น Super Lustrous ค่ะ (เดาเอา) ว่ารุ่นที่ขายในเมืองไทยก็เป็นรุ่นนี้เหมือนกัน คุณภาพเหมาะสมกับราคาค่ะ ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ กินน้ำรอบเดียวก็หลุดแล้ว เราใช้แล้วไม่แพ้ปากไม่ลอก ทำหน้าที่ลิปกลอสได้ดีคือให้สีอ่อนๆ กับความแวววาว เราเคยทาแบบไม่แต่งหน้าเพื่อนบอกว่าปากเราเด่นมาก juicy มาแต่ไกลเลย เคยใช้มาทั้งหมด 4 สีค่ะ เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ 1. Toast to Shine เป็นสีที่ชอบที่สุด ใช้หมดแล้วก็จะซื้อต่ออีก สีออกน้ำตาลนู้ดๆ มีวิ้งกำลังงามค่ะ ใช้ทาทับลิปสติกก็ช่วยเบรกสีได้ดี เข้ากับการแต่งหน้าเกือบทุกแบบ แต่งอ่อนก็สวย แต่ง smokey eyes ก็สวย 2. Nude Lustre เป็นสีที่ดังที่สุด ในห้องแป้งเมื่อ 2-3 ปีก่อนฮิตมาก เราอ่านรีวิวถึงกับเกิดอยากได้ขึ้นมา ทนไม่ไหวต้องไปสอยมาซะ 555 ไม่ผิดหวังแต่ก็ไม่ได้ชอบเท่า Toast to Shine ค่ะ เพราะสีมันออกนู้ดชมพู ใช้ทาเดี่ยวๆ ได้ แต่ก็ติดไม่ทนอีกนั่นแหละ มีไว้ติดกระเป๋าเผื่อต้องสวยแบบฉุกเฉิน 3. Cherries in the Glow สีออกชมพูแดง วิ้งน้อยที่สุดในบรรดาพี่น้อง ทาแล้วปากแดงเด้งเด่นเกินหน้าเกินตา สรุปคือไม่ชอบที่ปากเด่นเกินหน้าค่ะ 4. Coral Glow สีส้มน่ารัก มีวิ้ง แต่งโชว์ how-to ไปหนึ่งครั้ง How-to ภาคสอง ปากส้มรับ Summer แปลกที่ชอบแต่ใช้ไม่ค่อยบ่อย เพราะสีมันก็เข้มเหมือนกันนะ เราเป็นสาวหน้าจืดน่ะค่ะ ให้คะแนนรวม เราไม่ให้เรื่องสีแล้วกันนะคะ ของแบบนี้นานาจิตตัง เราชอบจืดๆ คนอื่นอาจจะไม่ชอบก็ได้ คุณภาพให้ 8 เต็ม 10 ค่ะ ถ้าใช้หมดแล้วมีโปรโมชั่น BOGO อีกก็จะสอยมาอีก เย้   Create Date : 15 เมษายน 2551     20 comment Last Update : 15 เมษายน 2551 0:56:24 น.     Counter : 2549 Pageviews.   Share Tweet

Review MAC Blush My MAC Blush รีวิว ร้อนๆ มาแล้วคร้าบ... ไม่ใช่ของใหม่อะไรหรอกค่ะ สาวๆ รู้จักกันดีอยู่แล้ว MAC Powder Blush นั่นเอง คุณภาพเหมาะสมกับปริมาณและราคา $17.50, 0.21 oz. MAC Blush มีสีให้เลือกมากมาย ดูกันจนตาลายทีเดียว เราเองก็อาศัยอ่านรีวิวของคนอื่นๆ ก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกเหมือนกันค่ะ จะได้ไม่ไปตาลายกลางเคาท์เตอร์ ที่สำคัญคนขาย MAC ที่ร้าน MAC Store @ Boston ไม่ดุเหมือน... เคาท์เตอร์ที่เมืองไทยค่ะ ค่อยๆ เลือก ค่อยๆ ลองกันไป ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรไม่มีการยัดเยียด ของที่เราใช้ + สะสมอยู่ก็มีไม่มากค่ะ มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าเนอะ 1. MAC Mineralized Skin Finish (MSF) สี Northern Light คำบรรยายสีโดย MAC : Dusky pink with tan and taupe veining คำบรรยายสรรพคุณโดย จขบ. : สีเหมือนขนม น่ากิน... วิ้งเม็ดโตมากค่ะ ถ้าไปงานกลางคืนจะเหมาะมาก จะเอามาทำเป็น Highlight ก็ได้ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าเอามาปัดแทนบลัชแบบ จขบ. แล้วล่ะก็ อาจจะวนแปรงยากหน่อยเพราะเนื้อแป้งค่อนข้างแข็ง พอลงสีไปที่แก้มก็ต้องตั้งใจเบลนกันนิด แต่ผลออกมาคุ้มความพยายามนะคะ สีออกชมพู มีพีชเล็กๆ แวววาวพอสมควร สีติดทนถึงเย็นแต่ความแวววาวไม่ค่อยทนเท่าไหร่ MSF รุ่นนี้เลิกขายตามเคาท์เตอร์แล้ว ถ้าอยากได้ต้องไปหาใน Ebay เอาค่ะ อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่า MSF ของ MAC นี่ไม่รู้เป็นอะไร ราคาขึ้นเอาขึ้นเอา Edition ที่ออกมาตอนปี 2004 ซื้อขายกันตลับละ $80 จขบ. เล็งเห็นการไกล เลยซื้อมาตุนไว้หลายตลับ อิอิ ซักปีหน้าค่อยปล่อย 2. Barbie loves MAC : Don't be shy คำบรรยายสีโดย MAC : Bright clean pink คำบรรยายสรรพคุณโดย จขบ. : สีสมกับเป็น Barbie มากมาย สาวผิวขาวปัดแล้วเกิดเพราะชมพูคุณหนูมาก แก้มใสมีวิ้งเล็กๆ สรุปคือในบรรดาบลัช MAC 4 อันที่มีอยู่ เราชอบสีนี้มากสุดเลยค่ะ เราได้บลัชอันนี้มาจาก MUA ค่ะ 3. Buff คำบรรยายสีโดย MAC : Soft muted pinkish-peach (Matte) คำบรรยายสรรพคุณโดย จขบ. : อันนี้ซื้อตามคุณลิลลี่ค่ะ สีออกแนวเรียบร้อย ปัดแล้วแก้มไม่เด้งออกมาเป็นตุ๊กตา พอมี Hint ของสีชมพูนิด พีชหน่อยๆ สี warm พอสมควรค่ะ เหตุผลที่ชอบบลัชสีนี้ก็เพราะมันเรียบร้อยดีปัดได้ทุกโอกาสและเข้ากับสี eye shadow ได้ทุก shade เช่นกัน จขบ. ชอบและหยิบมาใช้บ่อยช่วงหน้าหนาวค่ะ เพราะสีแก้มธรรมชาติมันจะออกชมพูอยู่แล้ว ปัดบลัชชมพูไปจะเลยเถิดกลายเป็นแก้มลิงกันไปใหญ่ แต่ๆๆๆๆ (ยังมีแต่) ตอนนี้เจอรักใหม่ถูกใจกว่า เป็นอาม่าเบอร์ 10 ที่จะมีวิ้งผู้ดีอยู่ด้วย อืม... น่าสนแล้วใช่มั้ยล่ะคะ 4. Foolish Me คำบรรยายสีโดย MAC : หาไม่เจอ T_T เค้าเลิกผลิตไปแล้ว คำบรรยายสรรพคุณโดย จขบ. : มันเป็นสีส้มค่ะ ส้มจี๊ซซซ... bright มาก จิ้มนิดเดียวพอค่ะเดี๋ยวแก้มจะส้มเกิน ถ้าใช้ brush #187 ของเค้าจะงามมาก พอปัดแล้วแก้มที่ดูมัวหมองก็จะสดใส หน้าตาดูหายเหนื่อยขึ้นมาทันที สีสวยค่ะ แต่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยเพราะ จขบ. คิดไปเอง (อีกแล้ว) ว่าแก้มส้มต้องใส่เสื่อสีนั้นสีนี้เท่านั้น คือถ้าเสื้อชมพูแต่แก้มส้มเราว่ามันไม่เข้ากัน สรปแล้ว จขบ. คิดมากไปเองค่ะ!! รีวิวจบแล้ว เพื่อนๆ มีบลัชสีอื่นหรือยี่ห้ออื่นมาแชร์กันได้นะคะว่าชอบหรือไม่ชอบกันยังไง   Create Date : 16 พฤศจิกายน 2550     14 comment Last Update : 16 พฤศจิกายน 2550 3:36:19 น.     Counter : 2812 Pageviews.   Share Tweet