Keep Memories Alive in my Diary
[Life&Travel #31] ... ซีอาน คืนชีวิตกองทัพทหารดินเผา Xi'an & Terracotta Warriors ...(ตอนจบ)

ต่อจากตอนที่แล้ว ...

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=ilove-design&month=24-06-2013&group=6&gblog=32


หลังจากอิ่มกับเกี๊ยวซีอานแล้ว ... ยามค่ำคืนก็มีกิจกรรมให้เราได้ทำหลายอย่างครับ
ก็แนะนำไว้สองอย่างคือ ชมโชว์ราชวงศ์ถัง หรือไม่ก็ไปชมน้ำพุดนตรีซึ่งฟรีครับ






สำหรับโชว์ราชวงศ์ถังนั้นมีโรงโชว์อยู่หลายที่ครับเช่น Tang Dynasty (www.xiantangdynasty.com)
หรือ Shaanxi Grand Opera House สำหรับอันแรกนั้นจะค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองครับ
ลองเข้าไปดูตามเว็บที่ผมบอกไป ราคาเข้าชมก็มักจะมีแบบรวมอาหารหรือแค่ค่าตั๋วครับ
ราคาดูโชว์อย่างเดียวประมาณ พันต้นๆได้ครับ ถ้ารวมอาหารไปด้วยอาจจะไปแตะเกือบสองพันบาทได้

สำหรับผมนั้นแวะมาชมอีกที่นึงครับชื่อว่า Sunshine Show ครับ ค่าชมคนละ ประมาณ 200Y ใช้เวลาประมาณหนึ่งชม
ความอลังการของโชว์กลางๆ ดูเพลินๆครับ แต่เบื่อคนจีนที่มันสุบบุหรี่ในห้องแอร์มากครับ จามอยู่หลายทีเลย เซ็งจริงๆ





เก็บบรรยากาศมาให้ดูหลายใบครับ ...
ดูสนุกๆเพลินๆ ดี ถ้ามีโอกาสก้ลองมาชมกันดูครับ ...





อย่างที่บอกไว้ว่านอกจากโชว์ราชวงศ์ถังแล้ว
กิจกรรมในยามค่ำคืนที่ผู้คนทั่วไปรวมถึงนักท่องเที่ยวนิยมมาชมคือ การแสดงน้ำพุดนตรีครับ ...




สถานที่ตั้งก็จะเป็นลานน้ำพุด้านหลังของวัดฉือเอิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ต้าเยี่ยนถ่า” เจดีย์ห่านป่าใหญ่ Big Wild Goose Pagoda นั่นเอง
ป้ายเขียนไว้ว่าโชว์ราวๆสามทุ่มแต่วันที่ผมไปนี่สองทุ่มก็มีโชว์แล้วน่ะครับ แสงสีสดใสคึกคักมากเพราะผู้คนเยอะจริงๆ

โชว์น้ำพุนี่ต้องมีเล่นชั่วโมงกว่าขึ้นไปเลยละครับ ดูเพลินๆ พร้อมกับดนตรีเพราะๆ
หลายคนวางแผนทริปโดยมาเที่ยวเจดีย์ห่านป่ายักษ์ในช่วงเย็น
แล้วเดินเล่นหาข้าวกินแถวนั้นก่อนจะมาชมน้ำพุในตอนกลางคืนแล้วค่อยกลับที่พัก ซึ่งก็เป็นการจัดทริปที่โอเคมากๆ



ขาตั้งเอาไปจากไทย ... แล้วก็ตั้งไว้ในห้องพักตลอดทริป เอาไว้เฝ้าห้อง ฮ่าๆๆ
ไปยืนถ่ายมันแถวหน้าสุดของน้ำพุนี่แหละ เปียกนิดหน่อย แล้วก็ขยับไปเดินเล่นรอบๆ ลานกว้าง

พื้นที่เค้ากว้างจริงๆ จีนที่ดินเยอะจัด ทำอะไรมันก็เลยใหญ่ อลังไว้ก่อน ประชากรเค้าก็เยอะด้วยต้องเผื่อให้เพียงพอ

อ้อ แนะนำอีกอย่างเวลาไปเมืองจีน ควรจะหยิบนามบัตรโรงแรมติดกระเป๋าเอาไว้น่ะครับ หลายๆใบเผื่อหล่น
เอาไว้สำหรับบอกแท็กซี่ตอนกลับจากเดินเล่นกลางคืน และลดปัญหาการสื่อสารด้วย คนจีนร้อยละเก้าสิบเก้า พูดอังกฤษไม่ได้

....


เมื่อกี้พูดถึงเจดีย์ห่านป่าใหญ่ไป เลยเอารูปมาให้ดูครับ

วัดฉือเอิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ต้าเยี่ยนถ่า” เจดีย์ห่านป่าใหญ่ วัดนี้เคยเป็นอารามหลวงที่สร้างขึ้นโดยฮ่องเต้ถังเกาจงเพื่อตอบแทนคุณมารดาหลัง จากสร้างเสร็จได้นิมนต์พระถังซัมจั๋งมาเป็นเจ้าอาวาสและทำการแปลพระคัมภีร์พระไตรปิฎกที่นำมาจากอินเดีย

พระถังซัมจั๋งได้เป็นผู้ออกแบบและร่วมสร้างเจดีย์ห่านป่า 
ขึ้นเพื่อเก็บพระไตรปิฎก ลักษณะของเจดีย์จะคล้ายแบบอินเดีย มี 7 ชั้น สูง 64.7 เมตร ในสมัยก่อนจะสร้างเจดีย์ด้วยดินทั้งหมด แต่พอมาในสมัยราชวงศ์หมิง ได้รับการบูรณะเป็นอิฐทั้งหมด

ค่าเข้าชม 50Y เฉพาะค่าเข้าถ้าจะปีนขึ้นไปชมวิวบนหอคอยของวัดด้วยจะเป็นราคา 80Y
จะว่าไปแล้วค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆของจีนนี่ราคาก็ไม่เบาเหมือนกันน่ะครับ
ดีน่ะไม่มีเก็บค่ากล้องเหมือนอย่างอินเดีย ไม่งั้นงบเที่ยวมีบานปลายได้เลย



หากพอมีเวลาในยามค่ำคืน แนะนำให้ลองเดินเล่นดูครับ ....
ส่วนตัวแล้วถนนเส้นใหญ่ๆ เดินเล่นกลางคืนได้ครับไม่อันตรายเท่าไหร่



ผมเก็บภาพวิถีชีวิตของคนจีนยามค่ำคืนมาให้ชมกันสักสองสามมุมครับ
ในด้านบนเป็นลานกลางเมือง ตกกลางคืนก็มีคนเอาทีวีมาตั้งให้บริการร้องคาราโอเกะกัน
สุดยอดมากก ร้องเพลงไปชมดาวบนท้องฟ้า ขับขานเสียงเพลงให้ลอยละล่องไปทั่วบริเวณ มีทั้งนักร้องและกองเชียร์




ถัดออกไปไม่กี่เมตร ...


ก็มีลานเต้นรำ แบบไม่น่าเชื่อ ... อมยิ้ม11

ถ้าใครไปเที่ยวจีนบ่อยๆ ในเกือบจะทุกเมือง ก็จะเป็นแบบนี้
แม้จีนจะพัฒนาตึกรามบ้านช่องพํฒนาสาธารณูปโภคให้เจริญแบบก้าวกระโดด

แต่คนจีนท้องถิ่นเองก็ยังเลือกจะเดินอย่างช้าๆ อยู่ในสมการเวลาของตัวเองที่คุ้นเคย
มุมนี้ผมรักมากกก มีความสุขกับการได้นั่งยองๆดูคุณน้า คุณลุงคุณป้า จับมือกันเต้นรำอย่างมีความสุข ...


....



วันรุ่งขึ้นถือว่าเป็นไฮไลท์หลักของการมาเที่ยวซีอาน นั่นคือการไปชมกองทัพทหารดินเผาของจินซีฮ่องเต้



เดินทางประหยัดก็ไปรอรถตรงแถวๆ Bell Tower Hotel หรือตรง Melody Hotel
แถวๆจตุรัสหอกลอง รอรถเมล์สาย 205 ครับ ค่ารถ 2Y จะไปสุดสายที่สถานีรถไฟปู๊นๆเมืองซีอาน ใช้เวลานั่งราวๆ 20 นาที





จากนั้นเดินตรงผ่านหน้าสถานีรถไฟไปอีกฝั่งจะเป็นท่ารถบัสครับ สังเกตป้ายรถเบอร์ 306 สุดสายที่ "ปิงหมาหย่ง" เขียนภาษาอังกฤษติดตามรถว่า Terracotta นั่นแหละ อย่าเขินอายรีบขึ้นรถเดี๋ยวรถเต็ม ค่ารถ 8Y นั่งราวๆ ชม นิดๆ ก็ถึงครับ



ขากลับก็ไม่น่ายากแต่ผมใช้นั่งแท็กซี่กลับครับ 150Y ไปลงที่เจดีย์ห่านป่าใหญ่เลย
จริงๆถ้าไปเที่ยวกันสักสี่คนนี่หารแท็กซี่สะดวกสบายกว่ามากครับ

สำหรับคนที่จะเหมารถจากซีอานไปกลับสุสานทหารดินเผาเลย ผมถามมาราคาเปิดอยู่ราวๆ 5-600Y ครับ
ต่อรองมาได้คันนึงที่ 400Y ตกแล้วสองพัน ถ้าไปกันสักสี่คนก็คนละห้าร้อยบาท ประมาณนั้น ...
....




Army of Terracotta and Worriors  
กองทัพนักรบดินเผาแห่งจิ๋นซีฮ่องเต้


โลกหลังความตายดูจะเป็นสิ่งที่คนในสมัยก่อนเชื่อมั่นและเคารพเป็นอย่างมากเห็นได้จากกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกหลายๆพระองค์ ต่างตระหนักและเตรียมพร้อมเสมอ ไม่เพียงที่เราคุ้นเคยอย่างมัมมี่ฟาโรห์ ในโลกตะวันออกจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน และนั่นก็ถือเป็นจุดกำเนิดของกองทัพทหารดินเผา



กว่าสองพันสองร้อยปีที่ความลับของกองทหารดินเผาถูกซุกซ่อนและทำให้โลกต้องตกตะลึงกับความลึกลับที่อยู่ในดินลึกไปหลายเมตร Mr Yang Zhifa เป็นชาวนาในหมุ่บ้านซีหยาง หมู่บ้านเล็กๆใกล้กับเมืองซีอาน เป็นคนแรกที่ค้นพบหลุมสุสานแห่งนี้ขณะที่เขากำลังขุดบ่อน้ำในไร่นา เค้าพบถ้วยชามและอาวุธที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน



นอกจากจะเปลี่ยนมุมมองของประวัติศาสตร์หลายๆอย่าง ก็ยังถือว่าได้เปลี่ยนชีวิตของมิสเตอร์หยางด้วยเช่นกัน เพราะโทษฐานที่เป็นคนแรกที่เจอสมบัติอันล้ำค่าของแผ่นดินจีนเหมือนกับถูกหวยที่ทำให้ชีวิตของชาวนาเล็กๆคนนึงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวนับล้านทุกปี ในปัจจุบันถ้าโชคคุณไม่กุดเกินไป คุณจะเจอมิสเตอร์หยาง ชาวนาผู้ยิ่งใหญ่นั่งเซ็นลายเซ็นและขายหนังสือที่ระลึกอยู่ในมุมนึงของสุสานกองทหารดินเผาแห่งนี้





ค่าเข้าสุสานกองทัพดินเผาปัจจุบันอยู่ที่ 150Y+5Y ซึ่งเป็นค่ารถกอล์ฟขับพาเราไปส่งด้านในขาเดียว ขากลับออกมาต้องเดินออกมาเอง ทางเดินระหว่างกลับชิลดีนะครับ ใครโชคดีมาตอนใบไม้เปลี่ยนสีผมว่างามไม่เบา




สุสานกองทัพทหารดินเผาและรถม้านั้นมีทั้งหมดสี่หลุม สามหลุมมีนักรบดินเผาส่วนอีกหลุมนั้นเป็นหลุมเปล่าๆ ยังสร้างไม่เสร็จ ใช้คนงานราวกว่า 700,000 คน อ่านว่าเจ็ดแสนคนนับว่ามหาศาลมากจริงๆครับ เทียบกับเมื่อยุคสองพันปีก่อนที่ประชากรคนยังไม่เยอะขนาดนี้ เป็นการทำงานในระยะเวลาการสร้างสุสานว่า 30 ปี 





Pit 1 หลุมที่หนึ่งจะใหญ่สุด มีขนาดความกว้างราว 62 เมตร และด้านยาวมากกกว่า 200 เมตร เต็หลุมหนึ่งนี้จะเต็มไปด้วยหุ่นทหารดินเผานับหลายพันตัว มีการประมาณการกันว่ามีทหารอยู่ราว 6,000 นายที่คอยเฝ้าสุสานนี้ไว้ครับ โดยทหารเกือบทั้งหมดจะจัดทัพหันไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นทิศที่ข้าศึกสามารถเข้าตีเมืองหลวงของจีน (เซียนหยาง) ในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ได้ง่ายที่สุด

แม้เราจะเห็นว่ากองทัพดินเผาจะเป็นเพียงหุ่นดินแต่นักโบราณคดีก็พบว่าอาวุธต่างๆที่อยู่ภายในหลุมสุสานนั้นล้วนแต่เป็นอาวุธสำริดของจริงทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหน้าไม้ ดาบ ทวน ธนูและลูกศรอีกนับหมื่นชิ้น รูปแบบของการจัดทัพนั้นก็จะคล้ายกับกองทัพทำการรบในสมัยก่อนเลย โดยหุ่นทหารแถวหน้าและด้านข้างจะถืออาวุธที่ใช้จู่โจมระยะไกลเช่นหน้าไม้ ส่วนรถม้าและทหารระดับนายพลกจะอยู่ตรงกลางทัพ



หลุมที่สองนั้นจะเป็นรถม้าเยอะหน่อย รวมถึงยังมีทหารดินเผาที่ยังคงความสมบูรณ์จัดแสดงไว้ด้วย ระดับความสมบูรณ์นั้นต้องถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ เรายังสามรถมองเห็นสีที่ฉาบไว้บนตัวหุ่นในบางมุมด้วย ต้องเข้าใจก่อนว่าจริงๆแล้วทหารทุกตัวนั้นเค้าจะทาสีเอาไว้สวยงามครับถ้าลองค้นข้อมูลดูจะพบว่า จิ๋นซีฮ่องเต้เป็นผู้ที่โปรดปรานในการใช้สีสันมากๆสีทีฉาบทหารดินเผาไว้ก็จะเป็นแม่สีแรงๆทั้งสิ้นเช่นแดง ม่วงน้ำเงิน แต่เมื่อขุดออกมาเจอกับอากาศอันแห้งแล้งด้านนอก รวมถึงเทคโลโลยีการดูแลโบราณวัตถุในช่วงแรกของการขุดยังไม่ดีพอทำให้สีสันบนหุ่นดินเผาเลยหลุดร่อนออกไปจนเหลือเป็นสีดินแบบที่เห็นในปัจจุบัน



สำหรับสุสานหลวงของจักรพรรดินั้นอยู่ห่างจากสุสานทหารดินเผาไปทางตะวันตกราว 1.5 กิโลเมตรนะครับ ปัจจุบันก็ยังไม่มีการขุดสุสานขึ้นมเพราะนักโบราณคดีกำลังศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการดูแลโบราณวัตถุให้ดีมากกว่าที่เป็นอยู่ ผมเชื่อว่าขนาดสุสานกองทัพยังเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมากมายแบบนี้ ตัวหลุมของจักรพรรดิเองจะต้องมีความลับอีกหลายอย่างซุกซ่อนไว้แน่ๆครับ ก็ต้องรออยู่กันในอนาคตครับว่าทางการจีนจะทำการขุดหรือไม่ หรือจะขุดเมื่อใด



ในปี 1980 นักโบราณคดีได้ค้นพบหลุมสุสานเพิ่มอีกหลุ่มใกล้กับสุสานของจักพรรดิซึ่งลึกลงไปจากพื้นดินเกือบ 8 เมตร ภายในบรรจุหุ่นปั้นหล่อทองเหลืองรถม้าสองชุด
ซึ่งยังคงสภาพที่ดีมากๆ ในภาพนั้นถือเป็นหนึ่งในสองรถม้าที่ค้นพบครับ นักโบราณคดีเรียกว่า Comfortable Chariot มีความยาวจากตัวม้าจนจบรถด้านหลัง 3.17 เมตร หนักทั้งสิ้น 1,241 กิโลกร้ม สวยงามมากๆ





ถือเป็นบางส่วนของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ครับ
นอกจากตัวทหารและรถม้าแล้วก็ยังจัดแสดงอาวุธยุโธปกรณ์ที่ขุดพบภายในสุสานนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็น หอก ธนู ดาบต่างๆ



ใช้เวลาในการเดิน การมองแล้วก็ทึ่งกับกองทหารดินเผาอยู่ราวสามชั่วโมงได้ครับ
อันนี้ถือว่าเดินเร็วแล้วเหมือนกัน ถ้าใครอ่านประวัติศาสตร์ไปก่อน อ่านพวกข้อมุลไปก่อนเยอะๆ จะยิ่งสนุกมากครับเมื่อได้มาเห็นของจริง

หลังจากนั้นก็เดิทางกลับเข้าตัวเมืองซีอานเพื่อเที่ยวในเมืองกันต่อ



สำหรับท่านที่มีเวลาต้องการออกไปเที่ยวนอกเมืองซีอานและพื้นที่รอบๆนั้นนับว่าทำได้ง่ายมากๆครับ
เพราะตอนนี้ทางการจีนได้สร้างรถไฟความเร็วสูงหัวจรวดไว้เชื่อมแต่ละมณฑลไว้เกือบหมดแล้ว
เป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่งกลับการมาเที่ยวจีนรอบนี้หลังจากทิ้งร้างแผ่นดินนี้ไปสามสี่ปีได้



แนะนำเมืองลั่วหยางครับ เมืองลั่วหยาง เป็นอดีตราชธานีที่ยิ่งใหญ่สืบต่อกันมาถึง 10 ราชวงศ์ ยืนยาวนับเป็นที่สองรองจากซีอาน
จักรพรรดินี บูเซ็คเทียน โปรดปรานเมือง
ลั่วหยางมากตั้งให้เป็นราชธานีในสมัยที่พระองค์ประกาศตนเป็นฮ่องเต้หญิง
พระราชทานนามเมืองว่า นครเสินตู มีความหมายว่า เทพนคร



จากซีอานไปลั่วหยาง ต้องไปขึ้นรถไฟที่ North Xi'an Railway Station ซึ่งจะอยู่นอกเมืองซีอาน
คนละที่กับสถานีรถไฟที่เราไปขึ้นรถบัสไปดูกองทัพดินเผานะครับ อันนี้เป็นสถานีรถไฟความเร็วสูงอันใหม่
สร้างใหม่ อลังการมาก ยังกะสนามบินสุวรรณภูมิบ้านเรา





วิธีไป North Xi'an Railway Station นั้นง่ายสุดคือนั่ง MRT ไปครับ สุดสายเลยย
ถ้าพักแถว Bell Tower คือ สถานีจงโหลว 钟楼 Zhong Lou จริงๆ สถานีดูไม่ยากตอนซื้อก็ไม่ต้องรีบครับ ค่อยๆดูสถานีก็กดเครื่องออกตั๋วไป



ไปถึงก็ไปซื้อตั๋วที่เคาเตอร์ชั้นล่างครับ ใช้พาสสปอร์ตในการซื้อด้วย ดูรอบที่ต้องการเลือก XiAn Bei ไป Luo Yang Long Men รถไฟมีสองแบบ First Class กับ Second ก็เอาแบบสองก็พอละนั่งสบาย ค่าตั๋ว 175Y ครับ ไม่แน่ใจเฟิร์สคลาสมีอะไรเพิ่มนะครับ ไม่มีโอกาสได้ลอง ...
ผมถ่ายรูปตารางรถไฟมานะครับ แต่คิดว่าถึงปัจจุบัน น่าจะไม่อัพเดทพอ เท่าที่ดูเนี่ย มี ชม ละขบวนเลย จะเป็นขบวนที่ขึ้นนำหน้าด้วย G2000 ไล่ไปเรื่อยๆครับ จะแวะมาซื้อตั๋วก่อนเมื่อมาถึง หรือจะมาเสี่ยงเอาวันเดินทางเลยก็ได้ เพราะผมก็มาซื้อแล้วออกเดินทางไปเลยก็ยังพอมีที่นั่งว่าง



ในบัตรโดยสารก็จะแจ้งเวลาของรถไฟ เวลาที่เข้าเกทได้ รถไฟหัวจรวดจอดแต่ละสถานีไม่เกินสองนาที ดังนั้นตรงเวลาไว้ก่อนเป็นดีครับ
สำหรับสถานีรถไฟความเร็วสูงนี้ มีร้านอาหารฟาสฟู้ดพวก เคเอฟซี แมคโดนัล รวมถึงพวกร้านบะหมี่ไว้บริการครับ ใครหิวแวะมากินรองท้องกันได้



รถไฟจีนวิ่งได้ 300Km/Hr และกลัวว่าเราจะไม่เชื่อว่าวิ่งได้จริง  ในโบกี้ก็จะมีตัวเลขแสดงความเร็วขณะวิ่งไว้ด้วย
อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง ไปเที่ยวเชียงใหม่ สองชมครึ่งถึง ลงไปภูเก็ตสามชั่วโมงนิดๆ รับรองว่าการท่องเที่ยวเฟื่องฟูมากแน่ๆ ครับ




เที่ยวอะไรในลั่วหยางดี ?

สำหรับเดย์ทริปแปดชั่วโมงวันนึงแบบนี้ แนะนำ ถ้ำหลงเหมิน Longmen Caves มรดกโลกทรงคุณค่าครับ
แล้วก็บ่ายแก่ๆ ไปเดินเล่นย่านเมืองเก่า ก็เต็มอิ่มแล้วครับ ตั๋วขากลับก็จองไว้ไม่รอบทุ่มนึงก็สองทุ่มครับ  เดินทางกลับซีอานสบายๆ



จากสถานีรถไฟสามารถโบกแท็กซี่ไปได้เลยครับ ตัวถ้ำหลงเหมินนั้นจะอยู่นอกเมืองลั่วหยาง ห่างจากสถานีรภไฟไปราวๆ ห้ากิโลเมตร พอดีผมต้องการความรวดเร็วเลยใช้แท็กซี่ที่จอดรอไปส่งด้าานหน้าเลยครับ ไม่แพงมาก 40Y ส่วนถ้าใครจะประหยัดนั่งรถเมล์ก็เดินเลยตรงที่จอดแท็กซี่มาหน่อยจะเป็นป้ายรถเมล์ครับ นั่งสาย 71 ราคาเบาๆ 2Y
แต่ทั้งรถเมล์และแท็กซี่จะมาส่งทางข้างหน้านะครับ เราต้องเดินเข้าไปอีกหลายร้อยเมตรเลย ระหว่างทางก็จะเป็นบ้านเรือน ร้านค้าที่ขายขนมขายของที่ระลึกต่างๆมากมายครับ เดินสักพักใหญ่ๆ ก็จะถึงที่ซื้อตั๋ว 120Y แล้วเดินต่ออีกหลายร้อยเมตรกว่าจะถึงข้างใน มาเที่ยวจีนนี่เดินเยอะกันสนุกเลย



จัดว่าเป็น 1 ใน 3 แหล่งปฏิมากรรมโบราณที่ประกอบด้วย ถ้ำผาม่อเกา ถ้ำผาหลงเหมิน และถ้ำผาหยุนกัง ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน สถานที่นี้เป็นช่องทางสำคัญทางการคมนาคมที่มีภูเขาสีเขียว และน้ำใสอีกทั้งอากาศก็ดี จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังของนักเขียนและปัญญาชนจีน ในสมัยต่างๆ นอกจากนี้ หินในสถานที่นี้ก็มีคุณภาพดีเหมาะสำหรับการแกะสลัก ฉะนั้นคนจีนในสมัยโบราณจึงเลือกสถานที่นี้ขุดเจาะถ้ำหิน






ถ้ำหินหลงเหมิน มีอายุราว 1,500 ปี เริ่มก่อสร้างในรัชสมัยเว่ยเหนือ ค.ศ. 494 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง บูรณะ และต่อเติมยาวนานถึง 400 กว่าปีจนถึงยุคราชวงค์ถังและซ่ง มีความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันยังคงหลงเหลือถ้ำผาแกะสลักอยู่จำนวน2,100 กว่าคูหา โพรงแท่นบูชา 2,345 ช่อง ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆ อีก 3,600 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 50 กว่าแห่ง พระพุทธรูปสลักมากกว่า 100,000 องค์ องค์ใหญ่สูงสุด 17 เมตร องค์เล็กสุดเพียงแค่ 2 ซ.ม.




....
หลังจากใช้เวลาอยู่ในถ้ำหลงเมินจนอิ่มเต็มที่ ต้องบอกว่าพื้นที่ของถ้ำนั้นกว้างมากๆครับ เดินให้ครบรอบผมว่าต้องมีหลายชั่วโมงครับ ลองคำนวนเวลากันดูน่ะครับ อาจจะไปถึงแค่ตรงองค์แกะสลักพระใหญ่แล้วเดินกลับออกมาเลยก็ได้ เพราะเราต้องไปเที่ยวต่อในอีกหลายจุดครับ ....


ถัดจากถ้ำหลงเหมินอาจจะนั่งรถบัสสาย 81 ตรงปากทาง ไปวัดกวนอูต่อก็ได้ครับ อยู่ไม่ไกลมาก ผมมองดูเวลาแล้วอาจจะไม่ทันรถไฟขากลับเข้าซีอาน และรู้สึกอิ่มกับวัดแล้วเลย หันหัวเข้าเมืองเก่าครับ นั่งแท็กซี่เข้าตัวเมืองเพื่อความรวดเร็วก็ถือ่าไกลเหมือนกันถ้านับจากตรงปากทางถ้ำเข้าเมืองเก่า สิบกว่ากิโลได้เลยครับ โซนนี้มีอะไรให้เดินเล่นมากกว่าข้างนอก บ้านเรือนสวยงามดีครับ








เดินเล่นชมวิถีชีวิต เพลินตา ...

พื้นที่ตรงนี้ก็ติดกับตลาดของชุมชน ในช่วงเย็นผู้คนก็ยิ่งคึกคักมากๆ มีร้านขายอาหารข้างทาง มีร้านขายของมากมาย
แนะนำให้มาเดินช่วงเย็นๆก่อนจะกลับไปซีอานเลยครับ ชิลมากกกก

อ้อ.. เดินไปเกือบสุดทางจะมีทางแยกออกไปเจอห้างใหญ่ๆ ตรงนี้มีร้าน KFC ด้วย เผื่อใครจะฝากท้องด้วยเมนูคุ้นเคย





แสงยามเย็นทำให้การเดินนั้นผ่อนคลายมาก
ด้วยเป็นวันท้ายๆของทริปแล้ว ทำให้รู้สึกคุ้นเคยกับวิถีชีวิตคนจีน สภาพบ้านเรือน และบรรยากาศ






เดินไปช้าๆ ก็กดชัตเตอร์เก็บภาพข้างทางมาฝากกันครับ
ใช้สองเลนส์หลักที่ติดกล้องเอาไว้นั่นคือ 24L กับ 40 F2.8 STM






ขากลับไปสถานีรถไฟก็เผื่อเวลาสักชั่วโมงน่ะครับ ... แล้วก็นั่งรอฟังประกาศให้ดี ชานชลาของากลับนั้นต้องเดินข้ามไปอีกฝั่งด้วยครับ
ระวังนั่งผิดฝั่ง รถไฟมาจะวิ่งข้ามไปไม่ทันเพราะขบวนรถไฟหัวจรวดนั้นจอดที่สถานีแป้บเดียวให้คนขึ้นลงแล้วออกเลยเพื่อความตรงเวลา




ขอบคุณ Mr.Simon ที่ร่วมทริปไปด้วยกัน ตะลอนๆด้วยกันหลายวันสนุกมากมายครับ
ขอบคุณสายการบินแอร์เอเชียที่พาไปเปิดหูเปิดตาในเส้นทางสายวัฒนธรรมที่ล้ำค่า
ขอบคุณแคนนอนมาเก็ตติ้งประเทศไทย ที่ให้ยืมกล้องและเลนส์ไปทดสอบการใช้งานจริง
เซ็ทนี้ถ่ายด้วยกล้อง 1DX, 5D2, 5D3, lens 8-15,17-40 70-200 ,24, 40, 85, 135 คละเคล้ากันไป



ส่งท้ายกันด้วยเซ็ทแกเลอรี่แบบรวมๆ ครับ ...
ถือว่าพามาเที่ยวกันแบบกระชับเน้นๆ ปกติผมจะซอยเป็นหลายกระทู้ แต่ทริปนี้จัดเต็มๆจบในกระทู้เดียวเลย
ผมพูดจีน อ่านจีนไม่ได้เลยแม้แต่คำเดียว มีเพียง โลนลี่ แพลเน็ตเล่มนึงติดตัวในการมาซีอานรอบนี้  กระทู้นี้ก็พยายามใส่ข้อมูลที่น่าจะพอ
ทำให้เพื่อนๆ เอาตัวรอดกันได้ครับ มีอะไรสงสัยก็หลังไมค์มาถามกันได้



อย่างที่บอกไปว่าเมืองนี้อาจจะไม่หวือหวามากสำหรับการถ่ายภาพ แต่สำหรับผู้ที่รักการเดินทาง ซีอานถือว่าเตรียมเสิร์ฟศิลปะวัฒนธรรมและมรดกโลกอันล้ำค่าให้แขกผู้มาเยือนได้อย่างอิ่มพุงแบบมีทอนไม่มากก็น้อยเลยครับ

เมืองซีอานเป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีแม่น้ำเว่ยไหลผ่าน มีประวัติศาสตร์ยาว นานกว่า 3,000 ปี ได้ถูกสถาปนาเป็นราชธานีในนาม “นครฉางอาน” เคยเป็นนครหลวงในสมัยต่างๆ รวมทั้งสิ้น 13 ราชวงศ์ ซีอานได้เป็นศูนย์กลางการติดต่อทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างจีนกับประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมอันเลื่องชื่อ มีโบราณสถานโบราณวัตถุเก่าแก่อันล้ำค่าและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน



เอ้า ออกเดินทางไปเที่ยวกันครับ

ฝากเฟซบุคไว้แวะไปไลค์ทักทายกัน search หาชื่อ thesixthfloor gallery ได้เลยครับ

ขอบคุณที่แวะมาอ่าน แวะมาชมครับ ขอบคุณพื้นที่ดีๆ บนพันทิปด้วย
แล้วพบกันใหม่ครับ  

the Gallery :





the Gallery 02 :






....



Create Date : 24 มิถุนายน 2556
Last Update : 24 มิถุนายน 2556 22:34:47 น. 5 comments
Counter : 7505 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 25 มิถุนายน 2556 เวลา:1:46:12 น.  

 
ขอบคุณภาพสวย ๆ ค่ะ ชอบเรื่องราวของสุสานทหารดินเผา ดูยิ่งใหญ่อลังการมาก มีโอกาสก็อยากไปเห็นกับตาตัวเองสักครั้งเหมือนกันค่ะ


โดย: kor_pink วันที่: 26 มิถุนายน 2556 เวลา:10:40:14 น.  

 
รูปสวยจังค้าบ

อยากไปลองนั่งรถไฟเมืองจีนดูมั่ง ..


โดย: chalawanman วันที่: 28 มิถุนายน 2556 เวลา:0:38:08 น.  

 
อ่านสนุกมากๆ เลยค่ะ ^^
ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ


โดย: Pica IP: 171.96.146.239 วันที่: 20 สิงหาคม 2557 เวลา:0:06:17 น.  

 
กำลังจะตามไปครับ ขอบคุณสำหรับรูปสวยมากที่เป็นแรงบันดาลใจ


โดย: 22 IP: 202.29.15.62 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2557 เวลา:14:29:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the Sixth Floor
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่ theSixthfloor Studio ครับ

บทความและภาพถ่ายทั้งหมดในบล็อคนี้
สงวนลิขสิทธิ์หากถ้าต้องการนำไปใช้หรือ
เผยแพร่เพื่อการศึกษาหรือการกุศล
ก็ยินดีครับแต่ก็ขอความกรุณาติดต่อผม
เพื่อให้ทราบรายละเอียด

สำหรับท่านที่ต้องการติดต่อเรื่องบริการ
ด้านการถ่ายภาพสามารถติดต่อโดยตรง
ได้ด้วยเช่นกันครับ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านแวะมาเยี่ยมชม
บล็อคของผมครับ
q( ^o^ )p
Click to





count web site traffic
Visitor


■ L&T 01 .. รอยยิ้มปนคราบน้ำตา บนท้องนาแห่งชีวิต ..
■ L&T 02 .."เชียงคาน" เวลายังคงเท่าเดิม ที่เพิ่มเติมคือความสุข ..
■ L&T 03 .. ผืนน้ำจรดขอบฟ้า ตะวันลับตาที่ Hilton Pattaya Hotel ..
■ L&T 04 .. นอนฟังเสียงสายน้ำคลอเคลียที่ Bamboo Hut Resort@ทองผาภูมิ ..
■ L&T 06 .. สโลโมชั่นชีวิตในวันที่เร่งรีบ ณ Anantara Bangkok Sathorn ..
■ L&T 07 .. ความสุขในมุมเล็กๆที่ Mimosa Resort & Spa @ Koh Samui ..
■ L&T 08 .. ออกไปลอยคอกลางทะเล ที่ มก.สุรินทร์ และ เกาะตาชัย ..
■ L&T 09 .. ความอบอุ่นถักทอบนความทรงจำสีจางที่ Villa Nalinnadda เกาะสมุย ..
■ L&T 10 .. บรรยากาศสบายๆที่ the Baths Medi Cottage Resort @ Cha-Am ..
■ L&T 11 .. สูดหายใจพร้อมรับ"ดับเบิ้ล"ประสบการณ์ที่ W Retreat @ Koh Samui . .
■ L&T 12 .. เหยียบไปบนพื้นทรายคลอเสียงคลื่นที่ Rasananda Resort เกาะพะงัน ..
■ L&T 13 ..ปัดฝุ่นความทรงจำที่ Cape Panwa Hotel ภูเก็ต#Day 1 ..
■ L&T 14 .. เก็บรอยยิ้มจากเกาะปันหยี เติมเต็มความสุขที่ Le Meridien เขาหลัก ..
■ L&T 15 .. สะกดทุกสายตา เวลาหมุนช้าที่ Villa Maroc @ Pranburi ..
■ L&T 16 .. จินตนาการแห่งที่สุดของการสร้างสรรค์ ณ Casa de La Flora Resort ..
■ L&T 17 .. ลำปาง ปลายทางแห่งความสุข ..
■ L&T 18 .. สัมผัสมะลิงามที่เบ่งบานในวันหยุด Malisa Villa Suite @ Phuket ..
■ L&T 19 .. " เชียงใหม่ " . . . พอดีคำ กำลังดี . . . . .
■ L&T 20 .. มิอาจคลาดสายตาจากความงามของ the Baray Villa @ Phuket ..
■ L&T 21 .. Siam Kempinski Hotel เพชรเม็ดงามใจกลางมหานคร ..
■ L&T 23 .. เกาะตาชัย . . . จะไปด้วยกันรึเปล่า ?..
■ L&T 24 .. Ramada Resort Khaolak กับวันสบายริมหาดเขาหลัก ...
■ L&T 28 .. สงขลา ... เวลาใหม่ในขวดโหลใบเดิม ...
■ L&T 29 ... เนปาล Endless Journey ตอนจบ
■ L&T 31 ... ซีอาน กองทัพทหารดินเผาแห่งจิ๋นซีฮ่องเต้
■ L&T 32 ... เดินเล่นใน "สุโขทัย" เนิบช้าและทรงคุณค่า
■ L&T 33 ... ยุโรปครั้งแรก "เนเธอร์แลนด์ และอัมสเตอร์ดัม
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
24 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add the Sixth Floor's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.