ติดแบล็คลิสต์ ติดเครดิตบูโร กู้ซื้อบ้านได้ไหม
ติดแบล็คลิสต์ ติดเครดิตบูโร แล้วจะกู้ซื้อบ้านได้ไหม เป็นคำถามยอดฮิตติดปากของคนทั่วไป ที่มักนำมาสอบถามกันอยู่เสมอเมื่อจะกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่อง เครดิตบูโร กันอยู่ไม่น้อย
เครดิตบูโรคืออะไรเครดิตบูโร หรือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่ในการเป็นศูนย์กลางจัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อ และประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภทของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งมาจากสถาบันการเงินและบริษัทที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโร โดยที่กฎหมายกำหนดให้เก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบประมวลผลไม่เกิน 3 ปีสำหรับบุคคลธรรมดา และ 5 ปีสำหรับนิติบุคคล นับตั้งแต่วันที่สมาชิกมีการรายงานเข้ามายังบริษัท ส่วนข้อมูลที่จะมีการส่งรายงานเข้ามายังเครดิตบูโรนั้นมีทั้งบัญชีสินเชื่อ บัญชีบัตรเครดิต บัญชีสินเชื่อบ้าน บัญชีสินเชื่อรถยนต์และบัญชีสินเชื่อบุคคล โดยในแต่ละบัญชีก็จะมีข้อมูลประเภทบัญชี ประวัติการชำระเงิน ยอดเงินคงค้างและประวัติการผิดนัดชำระ (ถ้ามี) ซึ่งเป็นการรายงานตามผลจริงที่เกิดขึ้น หากเคยค้างชำระหนี้ข้อมูลก็จะแสดงขึ้นมาว่า ค้างชำระ ถ้าได้ชำระหนี้ไปแล้วข้อมูลก็จะแสดงว่าชำระหนี้เรียบร้อยแล้ว โดยที่ข้อมูลการค้างชำระจะยังไม่ได้ถูกลบออกไป จนกว่าข้อมูลนั้นจะถูกลบออกไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดข้างต้น แต่ถ้ายังมีการค้างชำระหนี้อยู่ข้อมูลการค้างชำระก็ยังคงอยู่แต่ละแบงก์ดูประวัติย้อนหลังไม่เท่ากันกลับมาที่การพิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาที่แตกต่างกัน เช่น บางแห่งอาจขอดูเครดิตบูโรย้อนหลังเพียง 6 เดือน 1 ปี หรือ 3 ปี หรือบางแห่งมีนโยบายชัดเจนว่าไม่ปล่อยกู้ให้กับผู้ติดเครดิตบูโรเลย ขณะเดียวกันก็มีบางสถาบันการเงินที่พร้อมจะปล่อยสินเชื่อให้แม้แต่กับคนที่ติดเครดิตบูโร เป็นต้นดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านหรือก่อนจะตัดสินใจขอกู้ อันดับแรกควรตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเอง เพื่อดูว่าเคยติดค้างชำระหนี้อะไรหรือไม่ ถ้ามีต้องรีบติดต่อขอชำระหนี้ให้เสร็จสิ้น หรือจะเจรจาขอปรับโครงสร้างหนี้แล้วเริ่มสร้างประวัติสินเชื่อใหม่ ชำระหนี้ให้ตรงกำหนด ไม่ผิดนัดชำระหนี้อีก อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการชำระหนี้ปิดบัญชีไปแล้ว แต่ข้อมูลที่เคยค้างชำระก็ยังโชว์ให้เห็นอยู่ ย่อมส่งผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ เรียกว่ามีความเสี่ยงจะถูกปฏิเสธสูง หากเป็นเช่นนี้ก็แนะนำให้สอบถามไปยังสถาบันการเงินที่จะขอกู้ ว่าถ้าเคยมีประวัติค้างชำระจะต้องรอนานเท่าไหร่จึงจะสามารถขอกู้ได้ หรือไม่ก็ต้องหันไปหาสถาบันการเงินที่ให้กู้สำหรับคนที่เคยติดเครดิตบูโรแทนแต่ทางที่ดีที่สุดคือเมื่อเป็นหนี้ก็ต้องจ่าย และควรจ่ายให้ตรงตามกำหนดจนครบจำนวน เพียงเท่านี้คุณก็มีประวัติทางการเงินที่ดีแล้วล่ะ