Case Study: Amway (Thailand)
การเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะ MBA ในวิชาการบริหารกลยุทธ หรือ การจัดการกลยุทธ ซึ่งในโลกของความเป็นจริงจะมีความแตกแต่งจากชั้นเรียนเป็นอย่างมาก การที่จะทำให้ นศ.MBA ได้เรียนรู้และสร้างคุณค่าทางปัญญาจากผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สูงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แต่การลงมือปฏิบัติในสภาพจริงของธุรกิจโดยการศึกษา และวิเคราะห์ หรือ ดูงาน ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน สำหรับ การวิเคราะห์ธุรกิจ จาก Case Study ของ นศ.ในอันดับต่อมา ครับ ลองรับฟังและรับชม (สามารถให้ความเห็นได้อย่างอิสระ) ดร.ดนัย เทียนพุฒ Dr.Danai Thieanphut Managing Director DNTConsultants ------------------------------------------------------------------------- กรณีศึกษา : บริษัทแอมเวย์(ประเทศไทย) จำกัด โดย จันจิรา กาแพร่ ************************************** Vision แอมเวย์... เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่มีคุณค่า Mission 1. เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน 2. ส่งเสริมให้ประชาชนมีรายได้จากการประกอบกิจการ 3. สร้างรากฐานอันมั่นคงให้กับสังคม 4. ส่งเสริมผลิตภัณท์ออกสุ่ตลาด 5. เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำทางธุรกิจในระดับโลก เป้าหมาย 1. ส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำนอกเหนือจากงานประจำ 2. ขจัดปัญหาการว่างงานของประชากรไทยอย่างสำเร็จ 3. พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดีขึ้น 4. พัฒนาและสร้างชื่อเสียง ปณิธาน เรามอบโอกาสแห่งความสำเร็จตามเป้าหมายของชีวิตให้แก่ผู้คน ด้วยแผนธุรกิจของแอมเวย์ ด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันระหว่างนักธุรกิจแอมเวย์ พนักงาน และครอบครัวสองผู้สถาปนา โดยการสนับสนุนด้วยสินค้าคุณภาพดีที่สุดพร้อมการให้บริการอันเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
ปณิธาน เรามอบโอกาสแห่งความสำเร็จตามเป้าหมายของชีวิตให้แก่ผู้คน ด้วยแผนธุรกิจของแอมเวย์ ด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันระหว่างนักธุรกิจแอมเวย์ พนักงาน และครอบครัวสองผู้สถาปนา โดยการสนับสนุนด้วยสินค้าคุณภาพดีที่สุดพร้อมการให้บริการอันเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ กว่าจะเป็นแอมเวย์ บริษัท แอมเวย์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959) จากผู้ก่อตั้งสองคน คือ ริช เดอโวส และ เจย์ แวน แอนเดล ซึ่งได้เริ่มทำธุรกิจด้านอาหารเสริมกับทางนิวทรีไลท์ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1958) ก่อนที่จะตั้งบริษัทแอมเวย์ขึ้นมา ในห้องใต้ดินที่บ้านของเขาทั้งสอง ณ เมืองเอด้า มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ผลิตผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์ชิ้นแรกคือ น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ ด้วยความพิเศษของสูตรย่อยสลาย ทางชีวภาพ ไม่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดโลกแห่งโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้คนทั่วไปแม้ว่าแอมเวย์ได้เติบโต และขยายสาขาทั่วโลก แต่ขณะเดียวกันก็มีปัญหาข้อขัดแย้งมากมาย เช่นปัญหาเรื่องธุรกิจขายตรงมีความคล้ายคลึงกับธุรกิจแบบพีระมิด ของแอมเวย์ในแต่เดิมเป็นลักษณะที่ตัวอักษร "Amway" อยู่ใต้ลายเส้นวงกลมของลูกโลก ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยม ส่วนโลโก้ใหม่ ถูกนำมาใช้ตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2545 โดยเริ่มจากสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก ส่วนประเทศไทยได้เริ่มใช้โลโก้ใหม่ในเดือนธันวาคมในปีเดียวกัน [2] แอมเวย์ประเทศไทย แอมเวย์ประเทศไทยได้ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 สำนักงานใหญ่แห่งแรกตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ด้วยพื้นที่ 700 ตารางเมตร มีพนักงาน 10 คน โดยช่วงแรกมีผลิตภัณฑ์แอมเวย์เข้าสู่ตลาดเมืองไทยเพียง 7 ชนิด แต่ด้วยความเติบโตขององค์กร ในปี พ.ศ. 2535 แอมเวย์จึงได้ย้ายสำนักงานใหญ่มายังถนนรามคำแหง และขยายพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ให้บริการรวมกว่า 9,440 ตารางเมตร [3] และผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันมากกว่า 400 รายการ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ก่อตั้งบริษัทเป็นประเทศอันดับที่ 19 และเป็นประเทศอันดับที่ 5 ในทวีปเอเชีย ซึ่งรองมาจาก ฮ่องกง มาเลเซีย ญี่ปุ่น และไต้หวัน [4] ผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ในแต่ละประเทศมีผลิตภัณฑ์ที่ต่างกันออกไป แต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันจะมียี่ห้อเดียวกัน ยกเว้นบางประเทศที่ไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ดังนี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับสุขภาพ เช่น อาหารเสริม เครื่องกรองน้ำ เครื่องกรองอากาศ ฯลฯ ผลิตภัณฑ์สำหรับเรือนร่าง เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลเรือนผม ดูแลช่องปาก บำรุงผิวหน้า ฯลฯ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้าน เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน เสื้อผ้า ชุดภาชนะประกอบอาหาร ฯลฯ กิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทย
แอมเวย์ประเทศไทยได้มีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทยหลายกิจกรรม เช่น การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสับภัยพิบัติสึนามิ จัดตั้งมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้แก่เยาวชน ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ "พันธบัตรเงินฝากช่วยชาติ" กับธนาคารออมสิน จำนวน 1,000,000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ประเทศไทยประสบวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540-2541 นำผลิตภัณฑ์ในประเทศมาจำหน่ายเช่น ข้าวสารหอมมะลิ 100% จากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรไทย กาแฟคั่วบดอาราบิก้า 100% กาแฟสำเร็จรูปชนิดเกล็ด ผลไม้อบแห้ง ชาเขียว และน้ำผลไม้กระป๋องดอยคำ เป็นต้น ได้มีการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ไร้โอกาส โดยให้ทุนเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี แบรนด์เอ็นดอร์สเซอร์ในประเทศไทย แอมเวย์ประเทศไทยได้มีการเปิดตัวแบรนด์เอ็นดอร์สเซอร์เมื่อ เดือน พฤศจิกายน 2549 โดยได้มีดาราทั้ง 5 คนมา ได้แก่ คุณกวาง กมลชนกและนุติ เขมมะโยธิน ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเครื่องกรองอากาศ/ คุณเกรซ มหาดำรงกุลเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเครื่องสำอางค์ /คุณพอล ภัทรพล ศิลปาจารย์เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของอาหารเสริม /อู๋-ธนากร โปษยานนท์ เป็นผู้ดำเนินรายการเกี่ยวกับแอมเวย์ ซึ่งการคัดเลือกนั้น ต้องมาจากคนที่เป็นที่รู้จักและใช้สินค้าแอมเวย์จริง อ้างอิง ↑ เกียรติรางวัลทั่วโลก ↑ logo ใหม่. นิตยสารผู้จัดการ. ฉบับเดือนมกราคม 2546 ทศวรรษที่ 1950 รากฐานอันมั่นคง ริช เดอโวส และ เจย์ แวน แอนเดล เริ่มธุรกิจของพวกเขาในทศวรรษที่ 1950 โดยเริ่มจากการทำตลาดขายตรงให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนิวทริไลท์ และสิ่งที่เขาทั้งสองค้นพบและยังคงความเป็นจริงจวบจนปัจจุบันก็คือ ผู้คน และ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ยังคงเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทใดๆต่อมาปี 1959 ในห้องใต้ดินที่บ้านของเขาทั้งสอง ณ เมืองเอด้า รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ผลิตสินค้า ของแอมเวย์ชิ้นแรก ซึ่งในปัจจุบันเรียกว่า L.O.C หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ ด้วยความพิเศษของสูตรย่อยสลาย ทางชีวภาพ ไม่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เป็นเป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จทันที และยังถือเป็นการเปิดโลก แห่งโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้คนทั่วไปอย่างกว้างขวาง ทศวรรษที่ 1960 ปีแรกเริ่มธุรกิจ แอมเวย์มียอดขายต่อปีสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรก จากนั้นบริษัทได้ขยาย พื้นที่และย้ายที่ทำการไปยังจุดที่สะดวกมากขึ้น และเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึง ผงซักฟอก SA 8 ซึ่งออกวางตลาดเมื่อ ปี 1961 ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหล่านี้กลายเป็นสินค้าหลัก สร้างรายได้ให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ และนำไปสู่การเติบโตอย่างมหัศจรรย์ของบริษัท ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีบริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 700 คน มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่พิเศษกว่า 200 ชนิด และมีนักธุรกิจแอมเวย์มากกว่า 100,000 รหัส ในปี 1963 รถที่มีชื่อเสียง Showcase Bus ได้เริ่มตระเวนไปยังเมืองต่างๆของสหรัฐอเมริกา เพื่อส่งมอบโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้คน และด้วยวิธีการนี้ผลิตภัณฑ์แอมเวย์และโอกาสทางธุรกิจที่พิเศษไม่เหมือนใครจึงถูกส่งมอบให้ผู้คนทั่วทุกพื้นที่ ในทศวรรษนี้ ความสำเร็จขององค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ได้รับการยอมรับ และกลายเป็นต้นแบบของรางวัลและแผนการตลาดซึ่งต่อมาได้พัฒนาใช้อย่างต่อเนื่องในตลาดทั่วโลก ของแอมเวย์ ท่ามกลางความสำเร็จและความก้าวหน้านี้ ช่วงกลางของทศวรรษได้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น เมื่อโรงงานผลิตกระป๋องสเปรย์ของแอมเวย์ถูกไฟไหม้จนราบคาบในปี 1969 ทศวรรษที่ 1970 เวลาแห่งการเติบโต หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ เจย์ แวน แอนเดล ให้คำมั่นว่า จะก่อสร้างโรงงานผลิตกระป๋องขึ้นมาใหม่และจะกอบกู้ธุรกิจกลับคืนมา โรงงานที่พังพินาศได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่และยอดขายยิ่งเติบโตมากขึ้นถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปลายทศวรรษนี้ รถบรรทุกของแอมเวย์ต้องเดินทางมากกว่า 5.23 ล้านกิโลเมตร เพื่อจัดส่งสินค้าให้กับนักธุรกิจแอมเวย์นับล้านคน ในขณะเดียวกันบริษัทก็ขยายกิจการออกไปยังต่างประเทศ โดยเปิดตลาดใหม่ถึง 8 ประเทศใน 3 ทวีป สำหรับจุดกำเนิดของธุรกิจแอมเวย์ เมืองเอด้า รัฐมิชิแกน แอมเวย์เติบโตอย่างรวดเร็วและเพื่อให้ทันกับการขยายตัวทางธุรกิจ โรงงานผลิตสินค้าได้ขยายไปยาวไกลมากกว่าหนึ่งไมล์ จนเป็นโรงงานที่มีแหล่งผลิตพลังงานของตัวเอง มีโรงงานบำบัดน้ำเสียพร้อมโรงงานรีไซเคิล มีรถรับส่งพนักงาน และแผนกหน่วยงานดับเพลิง ทศวรรษที่ 1980 ทศวรรษแห่งพันล้านเหรียญดอลล่าร์ นับเป็นครั้งแรกที่แอมเวย์มียอดขายมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ แอมเวย์จึงได้ขยายสำนักงานใหญ่ในเมืองเอด้า รัฐมิชิแกน และได้สร้างโรงงานผลิตเครื่องสำอางแห่งใหม่ที่ซึ่งผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรีได้รับการพัฒนาวิจัยและผลิตขึ้น แอมเวย์เป็นผู้บุกเบิกคิดค้นผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ ๆ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อาทิ เครื่องกรองน้ำแอมเวย์ ปัจจุบันพัฒนาเป็น เครื่องกรองน้ำอีสปริง ( eSpring) ซึ่งยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดลำดับต้นๆ ในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนสำหรับนักธุรกิจแอมเวย์ก็ได้รับการพัฒนาตามไปด้วย โดยมอบรางวัลให้มากยิ่งขึ้น คุ้มค่ากับความพยายามสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของพวกเขา แอมเวย์ตระหนักเรื่องความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็น ผู้นำองค์กรธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมและเป็นผู้สนับสนุนการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม และชนะได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ทศวรรษที่ 1990 สืบสานโดยรุ่นต่อไป จากการเดินตามรอยเท้าของพ่อ สตีฟ แวน แอนเดล และดิ๊ค เดอโวส ได้รับช่วงต่อจาก เจย์ และริช ในฐานะประธานกรรมการและประธานบริษัท แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น ในขณะเดียวกันผู้นำรุ่นใหม่ๆก็เกิดขึ้นในหมู่ครอบครัวของนักธุรกิจแอมเวย์ และสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องต่อจากพ่อแม่ของตนเช่นเดียวกันพร้อมๆไปกับยอดขายที่ขยายตัวถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐณ รัฐแคลิฟอร์เนีย การวิจัยของนิวทริไลท์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการลดน้ำหนักและสุขภาพ เริ่มเผยแพร่สู่สาธารณชน ในชื่อของ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเรห์นเบอร์ก( Rehnborg Center of Nutrition and Wellness ) และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ ( Nutrilite Health Institute ) แอมเวย์ในภูมิภาคเอเชียมีบทบาทมากยิ่งขึ้น เมื่อปี 1995 แอมเวย์ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นผู้สนับสนุนกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว "นากาโน วินเทอร์ โอลิมปิก เกมส์" ( Nagano Winter Olympic Games ) ในขณะที่ทั่วโลก ทั้งบริษัทแอมเวย์ ในระดับภูมิภาคและระดับประเทศยังคงให้การสนับสนุนองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ ด้วยการสร้างวิธีดำเนินธุรกิจผ่านเครือข่าย อินเทอร์เน็ต ( e-commerce site ) เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจของแอมเวย์ไปสู่โลกไซเบอร์เสปซ Cyberspace ) นี่คืออีกช่วงทศวรรษอันน่าจดจำเมื่อฉลองครบรอบ 40 ปีของแอมเวย์ในปี 1999 ทศวรรษที่ 2000 ก้าวสู่ขอบฟ้าใหม่ ในปี 2000 แอมเวย์เตรียมพร้อมก้าวสู่ศตวรรษใหม่กับยุคสมัยที่น่าตื่นเต้น เกือบ 50 ปี หลังจากแอมเวย์ก่อตั้งขึ้น ครอบครัวเดอโวส และแวน แอนเดล ได้ปรับโครงสร้างใหม่ขององค์กรเพื่อไปให้ถึงความท้าทายแห่งศตวรรษใหม่ โดยก่อตั้ง อัลติคอร์ อิงค์ ขึ้นเป็นบริษัทแม่ ประกอบด้วยบริษัทลูก ได้แก่ แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทขายตรงด้วยระบบการตลาดหลายชั้น (MLM) ควิกซ์สตาร์ อิงค์ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ในอเมริกาเหนือ และ แอ็คเซส บิสเนซ กรุ๊ป แอลแอลซี ดำเนินการผลิตและจัดส่งสินค้าคุณภาพให้กับบริษัทสาขาของอัลติคอร์และบริษัทอื่น ๆ ทั่วโลก อัลติคอร์ บริหารงานโดย สตีฟ แวน แอนเดล ( ประธานกรรมการ) และดั๊ก เดอโวส ( ประธานบริษัท) ร่วมไปกับสำนักงานคณะผู้บริหาร ทำให้แต่ละบริษัทลูก โดยเฉพาะแอมเวย์สามารถใช้จุดแข็งของตนเองในการบริหารธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แอมเวย์ยังคงเป็นบริษัทผู้นำในระบบการตลาดขายตรงหลายชั้นหลักการพื้นฐานคืออิสรภาพ ครอบครัว ความหวัง และรางวัล ยังคงเป็นความจริงจนถึงปัจจุบัน เหมือนอย่างที่เคยเริ่มต้นมาในอดีต ปัจจุบันแอมเวย์ประเทศไทยมีสาขาในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศทั้งสิ้น กว่า 40 แห่ง โดยเปิดให้บริการในรูปของร้านสะดวกซื้อแอมเวย์ ช็อป และแอมเวย์ มินิ ช็อป บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด มีสำนักงานใหญ่และคลังสินค้าส่วนกลาง ตั้งอยู่เลขที่ 52/183 ถนนรามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 Amway Call Center โทร 0-2351-8000 ปณิธานของแอมเวย์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของแอมเวย์ แอมเวย์เชื่อว่า การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นความรับผิดชอบของทุกคนไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน หรือบุคคลใด นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจในปี 2502แอมเวย์ได้สร้างและดำรงรักษาชื่อเสียง จนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีจิตสำนึกต่อการอนุรักษ์ห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด เพื่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพสารเซอร์แฟ็คแตนท์หรือสารลดแรงตึงผิวที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของแอมเวย์ทุกชนิดล้วนมีคุณสมบัติที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพโดยจะแตกตัวอย่างรวดเร็วและไม่ก่อให้เกิดปัญหาฟองอากาศที่มากเกินควรในแหล่งน้ำ เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อเนกประสงค์ แอล.โอ.ซี. ผงซักฟอก เอสเอ 8 ผลิตภัณฑ์ล้างจานดิชดรอปส์ ผลิตภัณฑ์ล้างรถ คาร์ วอช เป็นต้น - ผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้น ผลิตภัณฑ์แอมเวย์ส่วนใหญ่มีสูตรผสมเข้มข้น ประหยัด ใช้สะดวก และเป็นผลดีต่อสภาพแวดล้อมเพราะช่วยลดปริมาณการซื้อให้น้อยครั้งกว่าปกติ ช่วยลดปริมาณขยะโดยผลิตภัณฑ์แอมเวย์มีบรรจุภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดขยะน้อยกว่าถึง 50-70%ปลอดจากสารคลอโรฟลูโอโรคาร์บอน ผลิตภัณฑ์สเปรย์ทุกชนิดที่แอมเวย์ผลิตขึ้นมิได้มีส่วนผสมของสารคลอโอโรคาร์บอน ซึ่งเป็นตัวการทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศของโลก ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่ามิได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้ทำลายชั้นโอโซนของโลกให้หมดไปแต่อย่างใด - นำพลาสติกกลับมาแปรรูปใช้ใหม่ ขยะพลาสติกเป็นอันตรายคุกคามสิ่งแวดล้อมโลก เพราะทำให้เกิดขยะมหาศาลทับถมกันนานนับปีโรงงานผลิตของแอมเวย์ได้นำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้วกลับมาแปรรูปผลิตใช้ใหม่ จึงทำให้ปริมาณขยะพลาสติกลดน้อยลงและยังช่วยประหยัดทรัพยากรซึ่งนำมาทำพลาสติก - เลิกใช้สัตว์เป็นตัวอย่างทดลอง แอมเวย์ได้ยกเลิกการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์เพื่อประเมินผลความปลอดภัยต่อมนุษย์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์มานานกว่าทศวรรษแล้วโดยยังคงยึดถือความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ - ปลอดภัยต่อระบบน้ำทิ้งและน้ำเสียผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนของแอมเวย์เมื่อทำให้เจือจางตาคำแนะนำบนฉลากจะปลอดภัยต่อระบบระบายน้ำทิ้งและน้ำเสียที่เกิดขึ้นภายหลังการใช้ โดยอาจนำมาใช้รดน้ำต้นไม้และพืชผักสวนครัวได้ด้วย จึงไม่มีผลเสียหายต่อระบบนิเวศน์ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างจานดิช ดรอปส์ ผงซักฟอก เอสเอ 8 เป็นต้น
การวิเคราะห์ทัศนภาพ(Scenario Analysis) วิเคราะห์สถานการณ์ภายนอกองค์กร 1. การเมือง ในด้านสาการณ์ทางด้านการเมืองนี้ ยังไม่มีอะไรที่แน่นอนและตายตัว ซึ่งสังเกตได้จากสถานการณ์ทางภาคใต้ซึ่งยังไม่สงบ ซึ่งทำให้กระทบกับการลงทุนของประเทศต่างๆที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศน้อยลง ดังนั้นจึงขอสรุปสถานการณ์ทางการเมืองว่ายังไม่ยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและยังไม่สามารถแก้ไขได้หมด จึงต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองต่อไป ยังไม่สามารถสรุปได้ 2. เศรษฐกิจ ในปี พศ. 2548 ภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัว รวมทั้งยังกระทบกับธุรกิจขายตรงของแอมเวย์อีกด้วย แอมเวย์ยังดำเนินธุรกิจไปเรื่อยๆจนมาถึงปัจจุบันก็ยังคงมีสภาวะการตลาดที่ดีอยู่ ก็ไม่มีปัญหาที่กระทบมากมาย 3. สังคม-และวัฒนธรรม ธุรกิจของแอมเวย์จะเป็นธุรกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ประชากรส่วนใหญ่ก็รู้จักแอมเวย์ดีพอสมควร ดังนันผลิตภัณท์ที่แอมเวย์ผลิตจึงต้องคำนึงถึงมาตรฐานและคุณภาพอยู่เสมอ แอมเวย์ ประเทสไทย จึงได้มีการจัดทำกิจกรรมเพื่อสังคมในประเทศไทยหลายกิจกรรม เช่น 1. การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยพิบัติกับสึนามิ 2. จัดตั้งมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย วึ่งมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้แก่เยาวชน 3. ได้ร่วมสนับสนุนโครงการ พันธบัตรเงินฝากช่วยชาติ กับธนาคารออมสิน จำนวน 1000000 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ประเทศไทยประสบวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจในปี พศ 2540-2541 4. นำผิตภัณท์ในประเทศมาจำหน่าย เช่น ข้าวสารหอมมะลิ 100% จากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรไทย กาแฟ คั่วบดอาราบิก้า 100% 5. ได้มีการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ไร้โอกาส โดยให้ทุนเรียนฟรีจนกว่าจะจบปริญญาตรี 5. เทคโนโลยี .ในปัจจุบันเทคโนโยยีมีความสำคัญกับธุรกิจมาก เทคโนโลยีที่พูดถึงนี้ ขอรวมทั้ง ในด้านสารสนเทศ อินเตอร์เน็ต ระบบข้อมูล รวมทั้ง ระบบการผลิต มีความสำคัญด้าได้รับทราบข้อมูลข่าวสารต่าง รวมทั้งเรื่องของการผลิตจะต้องมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัยเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ผลิตภัณท์ที่ออกมาจึงจะได้คุณภาพดีเยี่ยม วิเคราะห์สถานการณ์ภายในองค์กร 1. อุปสงค์ของตลาด (Market Demand) ความต้องสินค้าของประชาชนยังมีอยู่เรื่อยๆ ตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งจากข้อมูลของการสรุปทุกๆปีก็พบว่าประชากรยังนิยมใช้ผลิตภัณท์ของแอมเวย์อยู่อย่างแพร่หลาย แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมีผลิตภัณท์ตัวใหม่มาทดแทนอยุ่บ้างแต่ประชากรยังคงภักดีต่อแอมเวย์อยู่จำนวนมาก ซึ่งความต้องการซื้อของประชากรยังยืดหยุ่มตามกาลเวลา
2. คุณภาพ จากการวิเคราะห์พบว่าผลิตภัณท์ของแอมเวย์มีคุณภาพมาโดยเสมอ เนื่องจากแอมเวย์มีการผลิตที่มีคุณภาพและใช้วัสดุในการผลิตที่มีคุณภาพจึงส่งผลให้ผลิตภัณท์ที่ออกมามีคุณภาพมาโดยตลอด 3. รายได้ จากการสำรวจพบว่าแอมเวย์มีเครือข่ายทั่วโลกทั้งในประเทศไทยและอเมริกา ส่วนรายได้ของแอมเวย์ไม่สามารถหาข้อมูลได้แน่ชัด 4. กฎระเบียบทางอุตสาหกรรม - ด้านสิ่งแวดล้อม ระเบียบโรงงานอุตสาหกรรมว่าด้วยการจัดทำรายงานผลวิเคราะห์ปริมาณมลพิษ บทสรุปของผู้จัดทำ จากการศึกษาของผู้จัดทำพบว่ามีอยู่แนวคิดหนึ่งที่เป็นหลักการพื้นฐานสำคัญของผู้สถาปนา คือ ริช เดอ โวสและเจย์แวนแอนเดล สร้างธุรกิจแอมเวย์ขึ้นจากหลักการของ อิสรภาพครอบครัว ความหวัง รางวัล ซึ่งทั้งสองท่านและครอบครัว ต่างเชื่อมั่นว่าเป็นองค์ประกอบของรากฐานที่มั่นคงสำหรับชีวิตที่มีความหมาย
Create Date : 19 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 24 สิงหาคม 2551 23:15:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 6080 Pageviews. |
|
|